การพลัดพรากจากคนที่รัก
#1
โพสต์เมื่อ 17 November 2006 - 07:08 PM
#2
โพสต์เมื่อ 17 November 2006 - 07:35 PM
ไปวัด แล้ว หาเพื่อนสิครับ
เป็นอาสาสมัครช่วยงานสิครับ
ขอเป็นกำลังใจนะครับ
#3
โพสต์เมื่อ 17 November 2006 - 07:42 PM
พอคิดถึงทีไรมันวูบๆหวิวๆที่หัวใจใช่มั้ยครับ ยิ่งรักมากก็ยิ่งเป็นมากนะครับ บางคนมือไม้สั่นหน้าชาก็มี ขอแนะนำดังนี้ครับ
1 อย่าอยู่คนเดียว ช่วงนี้ให้อยู่กับเพื่อนฝูงไปก่อน
2 อย่าฟังเพลงที่"โดน" (แต่แปลกที่มีแต่เพลงประเภทนี้)
3 หาอะไรทำฆ่าเวลา ไม่ให้ใจหันกลับไปคิดถึงอีก เช่น ทำงาน หรือเล่นกีฬา
4 ถ้าคิดจะเลิกเด็ดขาด อย่าโทรไปหาเป็นอันขาด ถ้าโทรไปคุณก็จะหวิวๆวูบๆอีก
5 รักพ่อกับแม่ให้มากๆ
6 อย่ากินเหล้าเพราะยิ่งเมามันจะเฮิร์ทหนักกว่า (อ้อ..เรื่องตายอย่าได้คิด)
7 อะไรที่เป็นที่เก่าๆ สิ่งเก่าๆ สำหรับเราสอง ถ้าทำได้พยามเครียออกให้หมด หรืออย่าไปดูมันอีก
ทำคร่าวๆแค่นี้ อาจจะใช้เวลาสัก1เดือน เดี๋ยวความเศร้าเสียใจก็หายไปเองครับ หลังจากนั้นหูตาเราก็จะสว่าง ที่เหลือเราก็จะคิดถึงเขาด้วยความบริสุทธิ์ใจ ถึงตอนนั้นเราอาจจะโทรหาเขาได้แล้ว แต่โทรในฐานะเพื่อนสนิท ที่เคยมีสิ่งดีๆต่อกันครับ
ผมขอมอบเพลงดีๆมีสาระฟังแล้วได้ข้อคิด มอบไห้เป็นกำลังใจครับ สู้ต่อไปนะครับ
ไฟล์แนบ
#4
โพสต์เมื่อ 17 November 2006 - 09:28 PM
#5
โพสต์เมื่อ 17 November 2006 - 09:37 PM
ไม่เป็นไร ฟ้าร้างขอเพิ่มเติมสักเล็กน้อยนะคะ
หันไปมองดูต้นไม้ใบหญ้า ก็ดีนะคะ
ต้นไม้หนึ่งต้น มีใบเกิดใหม่ มีใบแก่ มีใบอ่อน มีใบที่แห้งร่วงหล่นลงมากองที่พื้น บางส่วนก็กลายเป็นปุ๋ย มีแมงหวี่มาตอมเต็มใต้ต้น
ดอกไม้ก็เช่นเดียวกัน ลองมองไปดูที่พุ่มไม้หน้าบ้านสิคะ บางส่วนมีดอกบาน แล้วก็มีพวกที่กลีบเหี่ยว ร่วงหล่น บ้างก็มีหนอนเจาะซะพรุน บางก็ร่วงลงไปกองกับพื้น บางส่วนมีดอกตูมที่กำลังรอวันเบ่งบาน
อืม การเปลี่ยนแปลงมันเกิดขึ้นอยู่ทุกวินาทีเลยนะ
มันก็เหมือนกับชีวิตของเราแหล่ะค่ะ เรามักจะคิดว่า ดอกไม้ มันจะสวยสด งดงามอยู่กับเราได้ตลอดไป แต่เราลืมไปว่า อืม ดอกไม้ มันก็ต้องมีวันที่มันเคยเป็นเมล็ดมาก่อน แล้วเราก็ลืมไปว่าดอกไม้ มันก็ต้องมีวันเหี่ยวเฉา ร่วงโรย แล้วก็จากเราไปในท้ายที่สุด
แต่เราก็มักจะยึดไว้ว่า ... มันต้องสวยสด งดงามอยู่กับเราตลอดไป....
จริงไหมคะ
ทำไมเราไม่มองมันให้เป็นเรื่องธรรมดา เหมือนเรามองกิ่งไม้ ใบไม้ ที่มันเกิดใหม่ แล้วก็ต้องมีวันแห้งเหี่ยวตายไป แล้วเราก็เข้าใจอยู่แล้วว่า เดี๋ยววันพรุ่งนี้มันก็จะมีใบใหม่เกิดขึ้นมาให้เราได้ชมความเขียวสด ยลความสดชื่น ตื่นตา บานใจกับมันได้อีก แล้วใหม่ไม้ใบที่จะเกิดใหม่นั้น เดี๋ยวอีกสองสามวันมันก็จะกลายเป็นปุ๋ยอีกนั่นแหล่ะ
ลองเอากลับไปคิดทบทวนดู ถึงทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่อย่างเสมอ และตลอดเวลา มีวันเบ่งบาน ก็ย่อมมีวันหนอนเจาะ แต่ว่าใบไม้ที่ให้หนอนตัวนั้นเจาะ ก็เป็นอาหารที่ทำให้หนอนตัวนั้นกลายเป็นผีเสื้อที่แสนสวยงามในอีกหนึ่งหรือสองสัปดาห์่ต่อไป
ทำใจให้เป็นกลางๆ ไม่ติดไปตามสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แล้วเราจะพบว่า จิตใจของเรา มันเป็นของเราค่ะ
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#6
โพสต์เมื่อ 17 November 2006 - 09:55 PM
ขอบพระคุณค่ะพี่เอ็กซ์ สำหรับเพลง
#7
โพสต์เมื่อ 17 November 2006 - 10:22 PM
#8
โพสต์เมื่อ 17 November 2006 - 10:36 PM
ผู้ที่ทำนิพพานให้แจ้งแล้ว ก็ย่อมมีจิตตั้งมั่น
ไม่หวั่นไหวในโลกธรรมทั้งหลายฉันนั้น
(พุทธพจน์)
#9
โพสต์เมื่อ 17 November 2006 - 11:18 PM
รักต้องสู้ (คาราบาว)
เก็บเอาไว้เธอเก็บเอาไว้ ยังมีคนต้องการ
ผ่านวันนี้มาจากเมื่อวาน ยังมีวันต่อไป
แอบเอาไว้ เธอแอบเอาไว้ ดูใจให้นานๆ
จำเอาไว้คารม ไอ้ที่หวานๆ ปากและใจต่างกัน
ซักวันหนึ่ง คงต้องมา อีกครั้ง
ซักวันหนึ่ง คงต้องไป
ซักวันหนึ่ง ถึงแม้บอกว่ารัก
อาจจำต้องแยกย้าย
วันนี้เราเจ็บอย่างไร วันต่อไปอาจเจ็บกว่านี้
รักเป็นสิ่งที่ดูว่าดี หากว่ามีแต่ความจริงใจ
เผื่อเอาไว้ บ้างเผื่อเอาไว้
เตรียมใจไว้ซักหน่อย
อันความรักเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อยในชีวิตคนเรา
เจ็บมาแล้วก็เจ็บไปแล้ว เจ็บมาจนเข้มแข็ง
หลับซักตื่น พักฟื้นเอาเรี่ยวเอาแรงต่อสู้ชีวิตกันใหม่
ซักวันหนึ่ง คงต้องมาอีกครั้ง
ซักวันหนึ่ง คงต้องไป
ซักวันหนึ่งถึงแม้ บอก ว่ารัก
อาจจำต้อง แยกย้าย
วันนี้เราเจ็บอย่างไง วันต่อไปอาจเจ็บกว่านี้
รักเป็นสิ่งที่ดูว่าดี หากว่ามีแต่ความจริงใจ
เผื่อเอาไว้บ้างเผื่อเอาไว้
เตรียมใจไว้ซักหน่อย
อันความรักเป็นเพียง แค่เรื่องเล็กน้อยในชีวิต คนเรา
เจ็บมาแล้วก็เจ็บไปแล้วเจ็บ มาจนเข้มแข็ง
หลับซักตื่น พักฟื้นเอาเรี่ยวเอาแรง
ต่อสู้ชีวิต กันใหม่
หลับซักตื่น พักฟื้นเอาเรี่ยวเอาแรง ต่อสู้ชีวิตกันใหม่
หรือลองหาเพลงอื่นๆในdmc music corner ให้กำลังใจตัวเอง
เป็นกำลังใจให้ค่ะ อย่าลืมดูdmc นะคะ หรือลองอ่าน หรือฟังเคสstudy หลายๆเคส อาจช่วยให้ทำใจได้เร็วขึ้นค่ะ
#10
โพสต์เมื่อ 18 November 2006 - 09:11 AM
#11
โพสต์เมื่อ 18 November 2006 - 10:46 AM
ตอนนั้นก็รู้สึกไม่อยากทำอะไร อยากนอนให้ลืมอารมณ์นั้นไป หรือลืมความคิดที่เคยผ่านมาให้หมดเลย
ก็ทำหลายวิธีน่ะครับ ทั้ง
-หาเพื่อน หรือคนที่ไว้ใจคุยระบายอารมณ์
-ให้เวลากับตัวเอง ตอบตัวเองให้รับกับสภาพปัจจุบัน
-หางานอดิเรกทำ อย่างผมก็ออกกำลังกายครับ จะแค้นจะเศร้าอะไรก็ให้หมดไปกับแรงที่ออกเสีย
-มาวัดบ่อย คุยกับพี่ หรือหลวงพี่ก็ได้ครับ ท่านจะได้แนะนำเราได้
-นั่งธรรมะ แผ่เมตตาบ่อยๆๆครับผม
อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ผมทำมานะครับ คนเคยเป็นหัวอกเดียวกันน่ะครับ
เป็นกำลังใจให้นะครับ
#12
โพสต์เมื่อ 18 November 2006 - 11:54 AM
สัพเพปิเยหิ นานาภาโว วินาภาโว(แบบเดิม)
#13
โพสต์เมื่อ 18 November 2006 - 12:03 PM
ดู dmc เยอะ ๆ
โหลดพระธรรมเทศนาของหลวงพ่อทัตตะไปฟังเยอะ ๆ
นั่งสมาธิตามหลวงพ่อ เยอะ ๆ
ไปวัดบ่อย ๆ
หันมาตักบาตรให้ได้มาก ๆ
อย่าให้มีเวลาว่างเว้นไปจากธรรมค่ะ ห่างจากธรรมทีไร นำ้ตาไหลออกตา
ธรรมโอสถ เป็นยาที่วิเศษที่สุด
จากคนอกหักเหมือนกัน
(กำลังบอกตัวเองอยู่ด้วยเหมือนกัน)
#14
โพสต์เมื่อ 18 November 2006 - 12:45 PM
เมื่อได้พบกัน แล้วมาคิดว่าจะยึดเป็นของเรา ต้องอยู่กับเราตลอดไป นั้นไม่ได้หรอก ต้องระลึกถึงโลกธรรม8 เอาไว้
จะได้ไม่เจ็บอะไรมาก
ใจที่มัวไปยึดสิ่งต่างๆ เป็นของตัวนั้น เหมือนคนที่ไขว่คว้าอากาศเป็นของตัว ซึ่งความเป็นจริงทำไม่ได้ ทำได้แต่คิด
พ่อแม่ มีลูก สักวันก็ต้องจากกัน สามีภรรยา สักวันก็ต้องจากกัน เพื่อนก็มีจากกัน
ในโลกนี้ แม้แต่ชีวิตของแต่ละคนก็ต้องตายตามสังขาร ไม่มีใครยั้งยุดไว้ได้
อย่าทำให้ใจต้องปวดอีกต่อไปเลย ในเมื่อจากกันไปแล้ว ก็จงปล่อยวางให้เหมือนปล่อยว่าวออกจากมือไป
เมื่อสรรพสิ่งดำเนินต่อไปตามครรลองของมัน ทำใจให้เฉยๆ ทำตัวสบายๆ หยุดเรื่องราวผูกมัดจิตใจทั้งหลาย มองทุกสิ่งอย่างผู้เฝ้ามอง
ใจก็จะเป็นสุขขึ้น
#15
โพสต์เมื่อ 18 November 2006 - 01:23 PM
#16
โพสต์เมื่อ 18 November 2006 - 02:07 PM
#17
โพสต์เมื่อ 18 November 2006 - 02:15 PM
เพราะพลัดพรากนี้และ ทำให้ได้รู้จักวัดพระธรรมกาย และได้รู้ความจริงของชีวิต และได้สร้างบารมี
เจอหมู่คณะที่จริงใจ
ต้องเข้มแข็งนะค่ะ
รอเวลาเท่านั้นค่ะ ให้เวลาผ่านไปแล้วเราจะเข้มแข็ง
แล้วจะเห็นสัจธรรมค่ะ
สู้ สู้ นะค่ะ คุณเป็นคนที่โชคดีแล้วค่ะ
[email protected]
#18
โพสต์เมื่อ 18 November 2006 - 02:59 PM
#19
โพสต์เมื่อ 18 November 2006 - 05:54 PM
หลายคนคิดว่าการมีความรักนั้นมีความสุขมาก บางคนถึงขนาดหลงไหลที่จะอยากมีความรัก ถึงขนาดหน้ามืดตามัวเห็นนรกเป็นสวรรค์ก็มี แต่พอได้เข้าไปสัมผัสนรกในคราบสวรรค์แล้ว ยากนักที่จะเดินกลับขึ้นมา และจะหลงมัวเมาอยู่อย่างนั้นเรื่อยไป บางรายต้องอยู่ในนรกนี้ทั้งชีวิต ตามืดบอดทั้งชีวิต บางรายถึงขนาดโดนความรักหลอกให้โง่งมไปทั้งชีวิต ไม่รู้ตัวว่าตกสู่ความทุกข์ของนรกบนดิน บางทีถูกความรักดลใจให้คิดว่าความทุกข์ที่ได้รับเป็นความสุขของชีวิต ความรักนี้ร้ายกาจนัก แม้บัญฑิตนักปราชญ์ที่ว่าฉลาดยังต้องพลาดพลั้งยําแย่ให้กับเรื่องความรัก แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังต้องพลาดพลั้งให้กับเจ้าสิ่งนี้เมื่อสมัยที่ท่านยังเป็นเจ้าชายสิทธัตทะ แต่ทั้งบัญพิตนักปราชญ์และเจ้าชายสิทธัตทะเมื่อก้าวออกมาจากนรกบนดินนี้ได้ท่านก็ไม่ยอมเดินลงไปอีก ดังนั้น คุณเจ้าของกระทู้ เมื่อได้ก้าวออกจากนรกที่ชื่อว่าความรักแล้ว ขอให้คิดแบบบัญฑิตนักปราชญ์ทั้งหลาย และคิดแบบเจ้าชายสิทธัตทะ อย่าได้เดินลงไปหามันอีก ไม่งั้นชาตินี้ทั้งชาติ ก็หนีไม่พ้นนรกบนดินขุมนี้ได้เลยครับ
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#20
โพสต์เมื่อ 18 November 2006 - 07:24 PM
ขอบคุณค่ะที่ทำให้ดิฉันตาสว่างขี้นอีกครั้งหนึ่ง
(และมั่นใจยิ่งขึ้นว่าการอกหักที่แท้แล้วน่าจะเป็นเพราะบุญส่งผล)
ขอให้กำลังใจเจ้าของกระทู้อีกครั้งค่ะ
#21
โพสต์เมื่อ 18 November 2006 - 07:36 PM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#22
โพสต์เมื่อ 20 November 2006 - 02:18 PM