อัสสสตปัญหาที่ ๒ ถามเรื่องทำบาปทำบุญ
ข้าแต่พระนาคเสน คำว่าผู้ไม่ได้ทำบุญตั้ง ๑๐๐ ปี แต่ ในเวลาจะตายได้สติ นึกถึงพระพุทธเจ้าเพียงครั้งเดียว ก็ได้ไปเกิด ในหมู่เทพยเจ้า ดังนี้ คำนี้โยมไม่เชื่อ อีกคำหนึ่งว่า ทำปาณาติบาต เพียงครั้งเดียว ก็ไปเกิดในนรกได้ คำนี้ โยมก็ไม่เชื่อ ฯ
ขอถวาย พระพร ก้อนหินเล็ก ๆ ทิ้งลงไปในน้ำ จะลอยขึ้นบนน้ำได้ไหม ? ไม่ได้พระผู้เป็นเจ้า ฯ ก้อนหินตั้ง ๑๐๐ เล่มเกวียน เขาขนลงบรรทุก เรือ เรือจะลอยอยู่บนน้ำได้ไหม ? ได้ พระผู้เป็นเจ้า ฯ ขอถวาย พระพร กุศลกรรมเปรียบเหมือนเรือ ฯ ธรรมดาเรือของพวกพ่อค้าย่อม มีภาระหนักหาประมาณมิได้ บรรทุกของหนักเกินไป ก็จมลงในน้ำ ฉันใด นรชนทำบาปทีละน้อย ๆ จนบาปมากขึ้น ก็จมลงไปในนรกได้ ฉันนั้น เพราะฉะนั้น ผู้ที่วิดน้ำเรือทำให้เรือเบา ก็จะข้ามฟากไปถึง ท่า คือ นิพพานได้ฉันนั้น ขอถวายพระพร ฯ ถูกดีแท้ พระผู้เป็นเจ้า. อธิบายแทนฎีกา ข้อว่า ไม่ได้ทำบุญเลยตั้ง ๑๐๐ ปี แต่เวลาจะตาย ได้สติ นึกถึงพระพุทธเจ้าเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ก็ไปเกิดในสวรรค์ได้นั้น
ท่านเปรียบบุญเหมือนของเบา และแสดงให้เห็นว่า สิ่งที่ทำเวลาใกล้ จะตาย จะเป็นบาปหรือบุญอย่างไรก็ตาม ก็ให้ผลก่อนอย่างอื่น เปรียบเหมือนโคตัวที่อยู่ริมประตูคอก ย่อมออกได้ก่อนตัวอื่น ฉะนั้น ข้อที่ว่าทำปาณาติบาตเพียงครั้งเดียว ก็ไปตกนรกได้นั้น ท่านเปรียบ บาปเหมือนของหนัก เช่นก้อนหินเล็ก ๆ ทิ้งลงไปในน้ำก็ต้องจม ทั้ง ข้อนี้ชี้ให้เห็นว่า ได้แก่ ปาณาติบาตที่ทำในเวลาจะใกล้ตาย เช่น บี้ เลือดตบยุง หรือเวลาจะใกล้ตาย นึกถึงปาณาติบาตที่ตัวทำไว้เพียง ครั้งเดียวขึ้นมาได้ ก็ต้องไปตกนรก ดังพระนางมัลลิกา ทรงทำบุญ เลี้ยงพระวันละ ๑๐๐ องค์ อยู่จนตลอดพระชนมายุ แต่เวลาใกล้จะ สิ้นพระชนม์ ได้นึกถึงการกล่าวตู่พระราชสามีด้วยคำเท็จ เพียงครั้ง เดียวเท่านั้น ก็ไปตกอเวจีนรก ดังนี้.
การทำบาป-บุญ
เริ่มโดย usr21591, Feb 18 2008 12:38 PM
มี 6 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 18 February 2008 - 12:38 PM
#2
โพสต์เมื่อ 18 February 2008 - 02:51 PM
อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ...สาธุ
#3
โพสต์เมื่อ 18 February 2008 - 11:32 PM
สาธุ
พระพุทธเจ้ารู้
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์
#4
โพสต์เมื่อ 19 February 2008 - 03:52 PM
สาธุค่ะ
#5
โพสต์เมื่อ 20 February 2008 - 02:45 PM
แจ่มเลย อนุโมทนาด้วยครับ สา...ธุ...
#6 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 30 September 2011 - 07:07 PM
สาธุ ด้วยคับ
#7 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 30 September 2011 - 07:12 PM
อยากฟังธรรมจังคับ