มี 13 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[cheterkk]

คาถาบูชา พระศรีอริยเมตไตรย์  กล่าวว่าอย่างไรครับ

 

และ พระศรีอริยเมตไตรย์ จะลงมาเกิดในปี พศ.5000 ใช่จริงหรือไม่ครับ

 

(เพราะศาสนาจะหมดไปหลังปี 5000 ในฎีกามาลัยสูตร คัมภีร์ปรมัตถโชติกา แสดงไว้ว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสแก่พระอานนท์และภิกษุทั้งหลายว่า ตถาคตทรงอนุญาตศาสนาไว้ห้าพันปี เมื่อพระพุทธศาสนาล่วงไปห้าร้อยปี ก็จะไม่มีนางภิกษุณี ครั้นล่วงได้หนึ่งพันปี ก็จะไม่มีพระอรหันต์ที่เหาะเหินเดินอากาศได้ เมื่อล่วงได้สองพันปี ก็จะไม่มีนักปราชญ์ ที่เรียนพระไตรปิฎกจบ ครั้นล่วงได้สามพันปี จะไม่มีพระสงฆ์ครบคณะมาประชุมกันทำอุโบสถกรรม ครั้นล่วงได้สี่พันปี จะหาพระสงฆ์ที่ครองไตรจีวรครบก็มิได้มี เมื่อล่วงได้ห้าพันปี ก็จะมีแต่ผ้าเหลืองห้อยหูและผูกคอเรียกว่า พระสงฆ์ 

ต่อมาเมื่อมหาปฐพีนี้สูงขึ้นได้โยชน์หนึ่ง คือ แปดพันวาแล้ว ลำดับนั้น จึงมีพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งทรงพระนามว่า พระศรีอริยเมตไตรย เสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดุสิต มาบังเกิดในเมืองเกตุวดีศรีมหานคร พระบิดาทรงพระนามว่า สุพรหมพราหมณ์ พระมารดาทรงพระนามว่า พรหมวดีพราหมณี พระพุทธเจ้าศรีอริยเมตไตรย ทรงพระชนมายุยืนนานถึงแปดหมื่นปี 

อนึ่ง พระวรกายของพระศรีอริยเมตไตรยพุทธเจ้า สูง 80 ศอก เสด็จออกไปตรัสรู้ ยังควงไม้กากะทิง อันสูงจากพื้นดินขึ้นไปได้ 128 ศอก มีใบละดุมละดอกเท่ากงจักร เกษรหล่นเดียรดาษวันละ 5 ทะนาน มีกลิ่นรสหอมหวานมิรู้วาย ด้วยเดชะบารมีของพระบรมโพธิสัตว์ )

[ทัพพีในหม้อ]

ศึกษาได้ตามนี้ครับ

 

http://www.dmc.tv/pa...ord-Buddha.html

มาลัยสูตร อันเป็นพระสูตรนอกพระไตรปิฎก สันนิษฐานว่าแต่งขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศพม่าเมื่อราวพุทธศตวรรษที่ ๑๖ - ๑๘

มีเรื่องราวกล่าวถึงพระมาลัยเทวเถระ ชาวลังกาทวีป เป็นผู้ทรงฤทธิ์ มักไปโปรดสัตว์ในนรกและสวรรค์ ครั้งหนึ่งเหาะไปไหว้พระเจดีย์จุฬามณีในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ได้พบสนทนาธรรมกับพระอินทร์และพระศรีอริยเมตไตรยบรมโพธิสัตว์ จากนั้นได้นำเทวโองการจากพระศรีอาริยเมตไตรยมาแจ้งแก่มนุษย์ ถึงวิธีจะบังเกิดในศาสนกาลของพระองค์ อันเป็นยุคที่เต็มไปด้วยความสุขสมบูรณ์ต่างๆ

ด้วยเหตุที่พระมาลัยเป็นผู้ปลดเปลื้องสัตว์ให้พ้นจากนรกไปสู่สวรรค์และนำทางไปสู่โลกอุดมคติในภายภาคหน้า พระมาลัยจึงได้รับความนิยมนับถืออย่างมากมายแต่โบราณกาล

ลักษณะพระมาลัยโปรดสวรรค์ สร้างขึ้นเป็นรูปพระภิกษุ (ไม่มีเกตุมาลาและรัศมี) นั่งขัดสมาธิราบ ครองจีวรห่มเฉียง เปิดบ่าขวา ปิดบ่าซ้าย มีแถบสังฆาฏิพาดเหนือบ่าซ้าย คาดผ้ารัดอก มือข้างหนึ่งวางคว่ำบนตัก ข้างหนีงชี้ไปยังด้านข้างเบื้องบน มีลีลาอ่อนหวานแบบนาฏลักษณ์ตามแบบศิลปะไทยประเพณี

โดยคติการสร้างหมายถึงพระมาลัยเหาะไปบูชาพระเกศธาตุเจดีย์ ได้พบและสนทนาธรรมกับพระอินทร์ ถึงกุศลกรรมของเหล่าเทพยาดาผู้เหาะมายังเบื้องบนอากาศ เพื่อเสด็จมาสักการะพระจุฬามณี อันแสดงถึงแก่นปรัชญาของเรื่องของเรื่องพระมาลัยสูตร ที่มุ่งหมายแสดงกรรมดีและผลของกรรมดีเป็นสำคัญ

[ทัพพีในหม้อ]

เนื้อเรื่องของมาลัยสูตร หรือเรื่องพระมาลัยมีแกนของเรื่องจากนิทานเรื่อง จูลคัลละ ในคัมภีร์สหัสสวัตถุปกรณ์ และคัมภีร์รสวาหินีของลังกา

และเพิ่มเติมรายละเอียดจากคัมภีร์มหาวงส์ และคัมภีร์พระไตรปิฎก คือ

 

๑.คัมภีร์สหัสสวัตถุปกรณ์ และคัมภีร์รสวาหินีให้ความคิดเรื่องพระมาลัยขึ้นไปบูชาพระจุฬามณีบนดาวดึงส์สวรรค์ และได้พบปะสนทนากับพระอินทร์ และพระศรีอารียเมตไตรย

๒.คัมภีร์มหาวงส์ ให้ความคิดเรื่อง พระเจ้าทุฏฐคามินีอภัย

๓.พระสุตตันตปิฏก ขุทกนิกาย วิมานวัตถุ

- ภัททิตถกาวิมาน ปัพพ์ ๒๒ องค์ ๓๓

- ปภัสสรวิมาน ปัพพ์ ๔๐ องค์ ๖๙

- มัลลิกาวิมาน ปัพพ์ ๔๕ องค์ ๗๘

- ปิตวิมาน ปัพพ์ ๔๗ องค์ ๘๑

- จิตตลตาวิมาน ปัพพ์ ๗๕ องค์ ๑๒๖

ให้ความคิดเรื่องท าความดีของเทพผูมีบริวารจ านวนต่างๆ กัน

 

๔.พระสุตตันตปิฏก ทีฆะนิกาย ปาฏิกวรรค จักกวัตติสุตต

- ปาณาติปาตาหโย อายุปริหานิ องค์ ๗๔

- ทสอกุสลกัมมปถกลา อายุปริหานิ องค์ ๗๗

- สัตถันตรกัปปกา มิคสัญญาปฏิกาโภ องค์ ๗๙

- อกสลกัมมปถวิรติ อายุอาทิวัฑฒน์ องค์ ๘๐

- เมตเตนยภควโต คุณกถา องค์ ๘๓

 

และ อัคคัญญสุตต วาเสฎฐภารทวารวัตถุ ภูมิปปฏิกาทิกถา องค์ ๙๖-๙๗ ให้ความคิดเรื่องอายุมนุษย์ในชมพูทวีป กาลบังเกิดแห่งพระอาริยเมตไตรย ความเสื่อมของศาสนาพระสมณโคดม และข้าวสาลีที่เกิดเองมนุษย์พากันไปเก็บมากินโดนไม่ได้ปลูก

 

มาลัยสูตร เดิมเขียนขึ้นเป็นภาษาบาลีแพร่หลายเข้ามาในประเทศทางลานนาไทยประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๗ – ๑๘ ทางสุโขทัยประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๙-๒๐ และมีคัมภีร์ฎีกาที่เขียนขึ้นเพื่ออธิบาย เรียกว่า ฎีกามาลัยสูตร โดยพุทธวิลาสเถร พระภิกษุชาวสุโขทัย

 

ด้วยเหตุที่เรื่องราวของคัมภีร์พระมาลัยกล่าวถึง ผลแห่งการทำบุญให้ทาน ท าให้คนได้ไปเกิดเป็นเทวดามีบริวารมากมายประกอบด้วยทิพยสมบัติต่างๆ ค าพยากรณ์ของพระศรีอาริยเมตไตรยถึงความสุขสบายในศาสนกาลของพระองค์และความทุกข์ยากของสัตว์นรก ที่ประกอบกรรมชั่วต่างๆเรื่องราวเหล่านี้มีอิทธิพลโน้มใจให้บุคคลกระท าความดี เกรงกลัวต่อบาป เป็นเครื่องมือในการสั่งสอนพุทธศาสนิกชนได้เป็นอย่างดี

 

มาลัยสูตรจึงได้รับการแปลจากภาษาบาลีออกสู่ภาษาไทย เพื่อใช้ในการเทศนาสั่งสอนบุคคลให้มุ่งกระท าแต่ความดี ละเว้นความชั่ว เพื่อชีวิตที่สุขสบายในโลกหน้า และรอคอยที่จะเกิดในศาสนกาลของพระศรีอาริยเมตไตร

 

มาลัยสูตรมีอิทธิพลต่อพุทธศาสนิกชนมากมายเป็นบ่อเกิดของความเชื่อ และประเพณีเกี่ยวกับศาสนาหลายข้อ

 

อ่านต่อ   http://www.culture-n.../malaibook6.pdf

[cheterkk]

สาธครับ 

[cheterkk]

คุณทีพพีครับ 

ทำไมในใต้ลิงค์นี้

 

http://www.dmc.tv/pa...ord-Buddha.html  

 

มีคนมากล่าวค้านโพสไว้ใต้กระทู้ว่า พระศรีอริยเมตไตร ไม่มีอยู่ในคัมภีร์  ชี้แจงด้วยครับ และถ้าไม่ใช่เรื่องจริงให้ admin ลบออกไปจะดีกว่านะครับ ผมเกรงคนจะสบสนในความจริงครับ 

แปลว่าเราไม่ต้องท่องกล่าวคาถาบูชาพระศรีฯ หรอครับ  เพราะผมไม่เห็นคุณทัพพี ได้ลงบทคาถาไว้เลย

[ทัพพีในหม้อ]

1.  การแสดงความคิดเห็นโดยมีบทอ้างอิง  เรามักจะไม่ลบออกครับ   เพราะคนอ่านสามารถนำไปศึกษาต่อยอดได้  ที่เรามักจะลบออกก็คือ การแสดงความคิดเห็นโดยขาดการอ้างอิง  และการแสดงความคิดเห็นในเชิงอคติครับ

 

2. ไม่เคยปรากฏคาถาบูชาพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ครับ  ถ้ามีก็มักจะเป็นการประพันธ์ขึ้นในภายหลังโดยผู้รู้ต่างๆ  จะนำมาท่อง หรือไม่นำมาท่องก็แล้วแต่จริตของแต่ละท่าน  แต่ในภาพรวมของวัดพระธรรมกาย  จะสรรเสริญคุณของพระรัตนตรัยมากกว่าที่จะแยกออกเป็นภาคส่วน  ครับ  

[ทัพพีในหม้อ]

ส่วนเรื่องที่เขาแย้งไว้นั้น  ลองศึกษาที่นี่ครับ

 

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๓ ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค

๓. จักกวัตติสูตร (๒๖)

 

http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=11&A=1189&Z=1702

 

(...ขออภัย เนื้อหายาวมาก ลองศึกษาดูนะครับ ที่ยกมาให้ขอคัดย่อมาเฉพาะแล้วกัน-ทัพพีในหม้อ...)

 

(...บทคัดย่อ...)

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปี เมืองพาราณสีนี้ จัก

เป็นราชธานีมีนามว่า เกตุมดี เป็นเมืองที่มั่งคั่งและรุ่งเรืองมีพลเมืองมาก มีผู้คน
คับคั่ง และมีอาหารสมบูรณ์ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปี
ในชมพูทวีปนี้จักมีเมือง ๘๔,๐๐๐ เมือง มีเกตุมดีราชธานีเป็นประมุข ฯ
             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปี จักมีพระเจ้าจักร-
*พรรดิ์ทรงพระนามว่า พระเจ้าสังขะ ทรงอุบัติขึ้น ณ เกตุมดีราชธานี เป็นผู้ทรง
ธรรม เป็นพระราชาโดยธรรม เป็นใหญ่ในแผ่นดิน มีมหาสมุทร ๔ เป็นขอบเขต
ทรงชนะแล้ว มีราชอาณาจักรมั่นคงสมบูรณ์ด้วยแก้ว ๗ ประการ คือจักรแก้ว ๑
ช้างแก้ว ๑ ม้าแก้ว ๑ แก้วมณี ๑ นางแก้ว ๑ คฤหบดีแก้ว ๑ ปริณายกแก้วเป็น
ที่ ๗ พระราชบุตรของพระองค์มีกว่าพัน ล้วนกล้าหาญ มีรูปทรงสมเป็นวีรกษัตริย์
สามารถย่ำยีเสนาของข้าศึกได้ พระองค์ทรงชำนะโดยธรรมมิต้องใช้อาชญา มิต้อง
ใช้ศัสตรา ครอบครองแผ่นดินมีสาครเป็นขอบเขต ฯ
             ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปี พระผู้มีพระภาคทรง
พระนามว่าเมตไตรย์ จักเสด็จอุบัติขึ้นในโลก พระองค์เป็นอรหันต์ ตรัสรู้เอง
โดยชอบ ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้งโลก เป็นสารถี
ฝึกบุรุษที่ควรฝึกไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้
เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกพระธรรม เหมือนตถาคตอุบัติขึ้นแล้วในโลกในบัดนี้
เป็นอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ ไปดีแล้ว รู้แจ้ง
โลก เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึกไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์
ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกพระธรรม พระผู้มีพระภาคพระนามว่า
เมตไตรย์พระองค์นั้น จักทรงทำโลกนี้พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ให้
แจ้งชัดด้วยพระปัญญาอันยิ่งด้วยพระองค์เองแล้ว ทรงสอนหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณ-
*พราหมณ์เทวดาและมนุษย์ให้รู้ตาม เหมือนตถาคตในบัดนี้ ทำโลกนี้พร้อมทั้งเทวโลก
มารโลก พรหมโลก ให้แจ้งชัดด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตถาคตเองแล้ว สอนหมู่สัตว์
พร้อมทั้งสมณพราหมณ์เทวดาและมนุษย์ให้รู้ตามอยู่ พระผู้มีพระภาคพระนามว่า
เมตไตรย์พระองค์นั้นจักทรงแสดงธรรม งามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งาม
ในที่สุด ทรงประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์
บริบูรณ์สิ้นเชิงเหมือนตถาคตในบัดนี้ แสดงธรรมงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง
งามในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์
บริบูรณ์สิ้นเชิง พระผู้มีพระภาคพระนามว่าเมตไตรย์พระองค์นั้น จักทรงบริหาร
ภิกษุสงฆ์หลายพัน เหมือนตถาคตบริหารภิกษุสงฆ์หลายร้อย ในบัดนี้ฉะนั้น ฯ (...บทคัดย่อ...)

[cheterkk]

แล้วถ้าเราต้องการอธิฐานจิตให้เกิดในยุคท่านละครับ ต้องกล่าวคำอธิฐานจิตว่าอย่างไรบ้าง 

[ทัพพีในหม้อ]

ขออภัยจริงๆ  ไม่แน่ใจว่าเข้าใจคำถามถูกต้องหรือเปล่า  แต่ขอตอบว่า  ก็กล่าวคำอธิษฐานจิตว่า  ขอให้ได้เกิดในยุคของพระศรีอริยะเมตไตรย  ไงครับ  (หรือยังไง  ผม งง)

 

การอธิษฐานจิต  คือ  การตั้งผังสำเร็จในชีวิต   เราอยากให้ชีวิตเราเป็นไปยังไงเราก็อธิษฐานตามนั้นไปเลย  ไม่ต้องใช้คำอะไรให้ซับซ้อนยุ่งยากครับ  เพียงแค่ให้รอบคอบในการตั้งผังสำเร็จเท่านั้นเอง  อย่าให้เกิดช่องว่าง  เช่น  อธิษฐานจิตขอให้รวย  ถ้าเราไม่รอบคอบ  เราก็อาจจะไปรวยด้วยเหตุแห่งอวิชาก็ได้  เราควรล้อมกรอบด้วย  ขอให้รวยด้วยสัมมาอาชีวะ  ให้ได้แต่กัลยาณมิตรดีๆ   อะไรแบบนี้ครับ

[cheterkk]

สาธุครับ อาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่จะกลับไปค้นๆ ในพระไตรปิฏกออนไลน์เพื่อความชัดเจนอีกครั้งครับ 

[ทัพพีในหม้อ]

ขออนุญาติ  เสียมารยาทแนะนำนะครับ

 

ปกติตัวผมเองจะเรียน อ่าน  รู้พระไตรปิฎกเพื่อเอาตัวรอดเท่านั้น  การนำไปเพื่อแสวงหาความจริง  คัดค้านการเข้าใจผิด  ผมมักจะพยายามหลีกเลี่ยง  เพราะเหตุผลข้อเดียวเท่านั้น  คือ  "ยังไม่รู้จริง"  

 

ธรรมแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า   แม้จะดูเรียบง่าย  แต่มีความลึกซึ้งในความหมายมาก   " ตามความหยุดนิ่งของใจของผู้ศึกษา"   ใจยิ่งหยุด  ยิ่งนิ่งมากเท่าไหร่  เราจะเข้าใจในธรรมเหล่านั้นได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้นไปตามลำดับ    

 

แต่ตัวผมเอง  การทำใจหยุด  ใจนิ่ง  ยังไม่ถึงระดับที่พระอาจารย์ท่านจะเอ่ยปากชมให้พอชื่นใจได้  ผมก็เลยมักที่จะไม่พยายามตามไปอธิบายตามกระทู้ต่างๆ นอกเขตความรู้ ความเข้าใจแบบเดียวกันมากนัก   อยู่คุยเฉพาะในพื้นที่ของเรา  ที่คนส่วนใหญ่พูดในเรื่องเดียวกันก่อนดีกว่า  อินทรีย์แก่กล้ากว่านี้  ผมค่อยออกไปสู้รบปรบมือกับเขา

 

ถ้าจะสังเกตุ  การตอบคำถาม  ผมมักจะใช้วิธี  ปฎิเสธ  ถ้าหาอ้างอิงไม่เจอ    และ  ถ้ามีอ้างอิง  ก็จะยกมาทั้งบทความ  เพื่อให้ผู้ถาม  ศึกษาหาคำตอบเอาอย่างที่ใจต้องการ  ไม่พยายามที่จะชี้ชัดอะไรลงไป  ซึ่งทำให้ผู้ถามหลายๆ ท่าน  รู้สึกไม่ได้อย่างใจ  ตำหนิมา   แต่จะให้ทำยังไงหล่ะครับ   ผมเป็นใครที่จะกล้ามาฟันธงในเรื่องพระพุทธศาสนา  เข้าใจตามนี้  จากนี้ไปก็ห้ามต่อว่ากันอีกนะครับ

 

ขออนุโมทนาบุญกับท่าน  cheterkk  ด้วยครับที่พยายามเป็นทนายแก้ต่างให้กับพระศาสนา  เดี๋ยวถ้าผมมั่นใจในความรู้ตัวเองมากกว่านี้  ก็จะตามไปช่วยครับ

[kotchapornda]

สาธุ สาธุ สาธุ ขอขอบคุณทั้ง 2 ท่านมาก  

เป็นกระทู้ที่ได้ประโยชน์แก่ผู้ไม่รู้เป็นอย่างยิ่ง

[cheterkk]

ขออนุญาติ  เสียมารยาทแนะนำนะครับ

 

ปกติตัวผมเองจะเรียน อ่าน  รู้พระไตรปิฎกเพื่อเอาตัวรอดเท่านั้น  การนำไปเพื่อแสวงหาความจริง  คัดค้านการเข้าใจผิด  ผมมักจะพยายามหลีกเลี่ยง  เพราะเหตุผลข้อเดียวเท่านั้น  คือ  "ยังไม่รู้จริง"  

 

ธรรมแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า   แม้จะดูเรียบง่าย  แต่มีความลึกซึ้งในความหมายมาก   " ตามความหยุดนิ่งของใจของผู้ศึกษา"   ใจยิ่งหยุด  ยิ่งนิ่งมากเท่าไหร่  เราจะเข้าใจในธรรมเหล่านั้นได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้นไปตามลำดับ    

 

แต่ตัวผมเอง  การทำใจหยุด  ใจนิ่ง  ยังไม่ถึงระดับที่พระอาจารย์ท่านจะเอ่ยปากชมให้พอชื่นใจได้  ผมก็เลยมักที่จะไม่พยายามตามไปอธิบายตามกระทู้ต่างๆ นอกเขตความรู้ ความเข้าใจแบบเดียวกันมากนัก   อยู่คุยเฉพาะในพื้นที่ของเรา  ที่คนส่วนใหญ่พูดในเรื่องเดียวกันก่อนดีกว่า  อินทรีย์แก่กล้ากว่านี้  ผมค่อยออกไปสู้รบปรบมือกับเขา

 

ถ้าจะสังเกตุ  การตอบคำถาม  ผมมักจะใช้วิธี  ปฎิเสธ  ถ้าหาอ้างอิงไม่เจอ    และ  ถ้ามีอ้างอิง  ก็จะยกมาทั้งบทความ  เพื่อให้ผู้ถาม  ศึกษาหาคำตอบเอาอย่างที่ใจต้องการ  ไม่พยายามที่จะชี้ชัดอะไรลงไป  ซึ่งทำให้ผู้ถามหลายๆ ท่าน  รู้สึกไม่ได้อย่างใจ  ตำหนิมา   แต่จะให้ทำยังไงหล่ะครับ   ผมเป็นใครที่จะกล้ามาฟันธงในเรื่องพระพุทธศาสนา  เข้าใจตามนี้  จากนี้ไปก็ห้ามต่อว่ากันอีกนะครับ

 

ขออนุโมทนาบุญกับท่าน  cheterkk  ด้วยครับที่พยายามเป็นทนายแก้ต่างให้กับพระศาสนา  เดี๋ยวถ้าผมมั่นใจในความรู้ตัวเองมากกว่านี้  ก็จะตามไปช่วยครับ

 

ไม่ได้ค้านนะครับ ผมตั้งใจเขียนว่า ค้น พระไตรปิฏกเพิ่มครับ แต่ดันพิมพ์ผิดเป็นค้าน  ที่ถูกคือคำว่า ค้น

[ทัพพีในหม้อ]

กราบขออภัยครับ

 

หาไม่เจอยังไง  บอกมาได้นะครับ  จะได้ช่วยกันหา  ช่วยกันศึกษา  เพราะบางครั้งผมอ่านคนเดียว  ก็อาจละเลยอะไรสำคัญไปได้  แต่ถ้ามีหลายๆ ท่านมาช่วยชี้  ผมจะได้ช้าลง  แล้วใส่ใจมากขึ้นในรายละเอียดครับ

 

จริงๆ  เวลามีพระไตรปิฎกออนไลน์นี่ก็ดีนะครับ  เมื่อก่อนจะหาอะไรที  ต้องเปิดหนังสือกัน 2-3 เล่มจาก 45 เล่ม  กว่าจะเจอบทที่ต้องการ  เดี๋ยวนี้สบายเลย  ดึงขึ้นมา 10 อันดับแรก  แล้วก็พิจารณาว่าจะใช้ตรงไหนดี  ช่วยให้การศึกษาพระไตรปิฎกเป็นไปได้ง่ายครับ

 

ตอนนี้ส่วนตัวกำลังจะเริ่มศึกษาชาดกครับ  อยากรู้ที่มา ที่ไปของทั้งชาดกแท้  และชาดกเทียม  เอาไว้ศึกษาแนวคิดของพุทธศาสนิกชนในสมัยก่อนครับ  เพราะความคิดแยบคายของผู้รู้ในสมัยก่อนในเรื่องพระพุทธศาสนาไม่ใช่เรื่องที่จะดูเบาได้เลย  มาศึกษาด้วยกันนะครับ