น้ำใส จึงขออนุญาต นำบทความในหนังสือ AT LAST YOU WIN ที่แต่ง
โดย ตะวันธรรม มาให้พวกเราชาว www.dmc.tv ได้อ่านทบทวน เป็นตอนที่ 2
ด้วยปรารถนาให้ทุกคนมี กำลังใจ มีความสุขในการดำเนินชีวิตค่ะ .............
โลกของคนมีกิเลส
ไม่ว่าสิ่งแวดล้อมจะ้เป็นอย่างไร ให้เราทุกคนคิดเสียว่าเป็นเรื่องปกติของโลก
ใครต่อใครในโลกนี้ก็ล้วนแต่เป็นผู้มีกิเลสทั้งนั้น มากบ้าง น้อยบ้าง
บางพวกมาไม่รู้เรื่องรู้ราว ก็ดำเนินชีวิตเรื่อยเปื่อย ส่วนมากยังไม่รู้ความจริงของชีวิต
เพราะฉะนั้นเราต้องรักษาใจให้ใส ๆ ไม่ต้องหวั่นไหวกับอะไรทั้งสิ้น
เมื่อปัญหามาถึงเราก็แก้กันไป
1 กรกฏาคม 2550
เมื่อกิเลสกล้าปัญญาก็หยาบ
โลกใบนี้ เป็นที่รวมของคนมีกิเลสจะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม
ล้วนยังมีกิเลสอยู่ เมื่อกิเลสกล้าขึ้น ปั้ญญาก็หยาบ ความเร่าร้อนก็บังเกิด
แต่ถ้าเรารักษาใจให้หยุดนิ่ง เป็นสมาธิได้ตลอดเวลา เราจะมีความเย็นจากภายใน
ทำให้จิตใจมั่นคง ไม่หวั่นไหวต่อสถานการณ์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นและไม่เร่าร้อนตามไปด้วย
4 มิถุนายน 2550
จากกันเป็นเรื่องธรรมดา
การพลัดพรากจากสิ่งที่รักเป็นเรื่องธรรมดา อย่าว่าแต่ทรัพย์สิน เงินทอง บ้านเรือน
แม้แต่ตัวเราเองก็เหมือนกัน สิ่งที่อยู่ในร่างกายของเรายังต้องพลัดพรากจากไป
ไม่ว่าเราจะปกป้องเพียงใด เช่น ฟันในปากยังต้องผุกร่อน หลุดร่วง ผมบนศีรษะ
ก็ต้องพลัดพรากไป ขนตาก็ร่วงหล่น ความหนุ่มสาวและความงดงามต้องจากเรา
ไปในที่สุด เพราะไม่ใช่ของเราอย่างแท้จริง เป็นเพียงของชั่วคราว การพลัดพราก
จากกันจึงเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าเราไม่จากมันไปก่อน มันก็ศจากเราไปก่อน
คน สัตว์ สิ่งของ ก็เป็นอย่างนี้เอง
15 กันยายน 2549
ทุกข์สากล
บางคนชอบอย่างนี้แต่กลับได้อย่างนั้น แม้แต่คู่ครองที่เราเลือกมาเอง
เพราะนึกว่าจะรักกันตลอดกาล ใหม่ ๆ ก็ดี แต่ตอนหลังกลับเปลี่ยนไป
ทุกคนล้วนต้องประสบกับสิ่งที่ไม่เป็นที่รัก ทั้งคน สัตว์ สิ่งของ ทุกคนต้อง
พลัดพรากนำมาซึ่งความทุกข์ ปรารถนาสิ่งใดไม่ได้ดังใจก็ทุกข์
เป็นทุกข์สากล เป็นพื้นฐานของชีวิต เป็นความสากลของเพื่อนมนุษย์
ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมีวิธีแก้ไขปัญหานี้ ผู้ใดก็ตามที่ปฏิบัติตาม
พระองค์จนบรรลุผลจะกลายเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานในที่สุด เพราะเมื่อรู้เรื่อง
ราวความเป็นจริงของชีวิตแล้ว ตื่นจากโลกมายาแล้ว จิตใจก็เบิกบานและเป็นสุข
22 ธันวาคม 2549
