สำเร็จวิชชาธรรมกายแล้วหรือยัง ทราบได้อย่างไรครับ?
#1
โพสต์เมื่อ 22 February 2006 - 12:04 PM
-----เป็นบุคคลที่สามารถทำปาฏิหารย์ต่าง ๆ ได้ใช้หรือไม่ครับ ? แล้วจะมีความสามารถเท่ากับ ครูไม่ใหญ่ หรือ หลวงปู่สดหรือไม่ครับ ?
-----ถ้าใช่---พวกเขาเหล่านั้นทำไม่ไม่ใช้วิชชาที่ได้ ช่วยจัดการคดีความต่าง ๆ เช่น หาตัวผู้บงการ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ครับ ถ้าช่วยได้น่าจะได้บุญมากนะครับ
-----ผมไม่ได้หลบหลู่นะครับ แต่คิดว่าน่าจะมีเหตุผลบางประการ
-----เรียนผู้รู้ช่วยตอบด้วยครับ
-----อนุโมทนาบุญล่วงหน้าครับ
#2
โพสต์เมื่อ 22 February 2006 - 12:23 PM
#3
โพสต์เมื่อ 22 February 2006 - 12:51 PM
#4
โพสต์เมื่อ 22 February 2006 - 01:50 PM
ผมว่าถามแบบนี้ไม่ควรนะครับ เพราะถ้าพาดพึงถึงเรื่องพระ เรื่องปาฏิหารย์เนี่ย จะทำให้ท่านเดือดร้อนเอาได้ อาจจะถูกข้อหาอวดอุตริมนุสธรรม อันนี้ อาบัติปาราชิก นะครับ
แล้วเรื่อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เนี่ย อันนี้เป็นเรื่องของกรรมนะครับ ต่อให้มีปาฏิหารย์จริง แต่แรงอะไร ก็ไม่เท่าแรงกรรม ต้องลองศึกษาเรื่องกฏแห่งกรรมดูแล้วจะเข้าใจเรื่องราวต่างๆ ได้มากขึ้น ปาฏิหารย์ไม่สามารถแก้ไขได้ทุกเรื่องหรอกครับ
ผมว่าคุณกำเนิดธรรม เจ้าของกระทู้ลองมาวัดมาปฏิบัติธรรมด้วยตนเอง หาสื่อธรรมะต่างๆ ไปอ่าน ไปดูก่อนดีกว่าไหมครับ การเข้าใจเรื่องวิชชาธรรมกาย เรื่องกฎแห่งกรรม เรื่องปาฏิหารย์ มันต้องค่อยๆ ศึกษา ค่อยๆ ทำความเข้าใจไป จะตอบตรงๆ ให้เข้าใจไปเลย อาจจะทำให้ยิ่งสงสัยได้นะครับ อย่างพวกคำถามหนักๆ บางคำถามอาจจะต้องค่อยๆ สั่งสมความรู้ทางพระพุทธศาสนาไปเรื่อยๆ จนถึงจุดๆ หนึ่งก็จะเข้าใจธรรมะได้ด้วยตนเองนะครับ
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#5
โพสต์เมื่อ 22 February 2006 - 02:16 PM
เรื่องการช่วยเหลือภาคใต้
พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านก็ให้พวกเราทุกคน ไม่ว่าจะสำเร็จวิชชาหรือไม่ก็ตาม
แผ่เมตตา ส่งบุญให้ตลอดค่ะ ในช่วงก่อนการสวดบูชาคุณพระรัตนตรัย
ถึงแม้จะเป็นเรื่องของวิบากกรรม แต่บุญก็ช่วยทำให้เรื่องต่างๆคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นค่ะ
ท่านก็ให้พวกเราทุกคนช่วยกันทั้งหยาบและละเอียดค่ะ
#6
โพสต์เมื่อ 22 February 2006 - 02:55 PM
ตอบ ในสมัยพุทธกาลแม้พระอรหันต์ก็ยังไม่สามารถล่วงรู้จิตหรือภูมิธรรมของพระอรหันต์ด้วยกันเลยครับ อย่างกรณีพระสารีบุตรปารถนาจะเทศโปรดพระ....??? (จำชื่อไม่ได้ครับใครทราบช่วยบอกหน่อยนะครับ 555) ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านได้ทำพระรูปนั้นให้กลายเป็นพระอรหันต์แล้ว พระพุทธเจ้าตรัสกับพระสารีบุตรว่า ดูกรสารีบุตรบัดนี้พระ...เป็นบุตรของเราแล้วกิจที่เธอจะต้องทำไม่มีอีกแล้ว เฉกเช่นเดียวกับเธอสารีบุตร
ดังนั้นถามว่าสำเร็จถึงขั้นไหนตอบ? ไม่ทราบครับ ต้องถามพระพุทธเจ้าดูแล้วหละครับ
ในคำถามเรื่องจะรู้ได้งัยว่าผู้ได้ธรรมกายจะสำเร็จวิชชา 3 วิชชา 8 หรือไม่นั้น ขอเฉลยดังนี้ครับ
ธรรมดาผู้ที่จะบรรลุวิชชา 3 วิชชา 8 จะต้องเป็นพระอรหันต์เท่านั้นครับ หมดกิเลสแล้วจึงจะบรรลุได้
ตราบใดที่ยังไม่หมดกิเลสรู้และญาณทัศนะก็ยังเชื่อถือไม่ได้ครับเพราะยังเป็นโลกียะอยู่ครับ
ตอบ ไม่เสมอไปครับ เหมือนอย่างสมัยพุทธกาลที่พระอรหันต์สาวกก็มีบารมีธรรมที่สั่งสมมาไม่เท่ากัน พระโมคคัลานะเลิศทางฤทธิ์ พระสารีบุตรเลิศทางปัญญา พระอนุรุทธะเลิศทางทิพยจักขุญาณ เป็นต้น จะเห็นได้ชัดว่า อิทธิฤทธิ์ที่พระโมคคัลานะทำได้นั้น ไม่จำเป็นที่พระสารีบุตร และพระสาวกอื่นๆ จำเป็นต้องทำได้เหมือนท่านครับ แต่สิ่งหนึ่งที่พระอรหันต์เหมือนกันหมดคือ หมดกิเลสเหมือนกันหมดครับ
ตอบ ผู้เข้าถึงคุณธรรมเบื้องสูง คือผู้ที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่นครับ พระไม่ใช่ตำรวจจะได้หยิบปืนไปฆ่าโจรครับ คุณธรรมของธรรมภาคขาว (กุศลธรรม) จะไม่ทำร้ายใครหรือฆ่าใคร หรือส่งเสริมให้ผู้อื่นฆ่าครับ การบ่งชี้ตัวคนผิด หรือส่งเสริมให้เขาได้รับกรรมเช่น บอกที่อยู่ทำให้เขาถูกจำขัง ถูกฆ่า ย่อมจะมีผลเป็นวิบากกรรม ผูกไปข้ามภพข้ามชาติ ดังนั้นพระพุทธเจ้าเราจึงสอนให้ อโหสิกรรม กันเลิกพยาบาททำร้ายกัน มีเมตตาต่อกันครับ
สรุปคือ กิจของพระหรือผู้ที่สำเร็จวิชชาคือ การไม่เบียดเบียนสัตว์อื่นไม่ว่าสัตว์นั้นจะดีหรือเลวเพียงใดครับ
#7
โพสต์เมื่อ 22 February 2006 - 03:26 PM
ป้อนอาหารคำโตๆ ถ้ากระเพาะย่อยไม่ทัน อาจจะอึดอัดถึงวาย ได้นะ
ถ้าระนาบความรู้ ความเข้าใจ ยังไม่ถ่องแท้
โดยเฉพาะยังเข้าถึงสภาวะธรรมนั้นจริงๆ ก็คงซาบซึ้งยาก
เพราะ วิชชาธรรมกาย
เห็นแจ้ง ก่อน แล้วจึง รู้แจ้ง
….
คำตอบของ คุณ xlmen แจ่มดีแท้ แม้เพียงสุตมยปัญญา ไตร่ตรองก็ยอมรับได้เต็มใจ
โดยเฉพาะเรื่อง ไม่ใช้วิชชา-ความรู้แจ้ง ไปสืบสวนคดีต่างๆ
เพราะเขามีเวรกันมา
และทุกการกระทำ ทางกาย วาจา มโน ย่อมมีผล คือวิบากผูกเวรกัน
เป็น chian re-action ที่ยังเบียดเบียนกันอยู่เพราะกระทบผลได้ ผลเสียของผู้เกี่ยวข้อง
และขออนุโมทนา กับคุณ กำเนิดธรรม
ที่ตั้งกระทู้ทำให้ได้ความรู้ความเข้าใจธรรมะเพิ่มอีกครับ สาธุ
ไฟล์แนบ
#8
โพสต์เมื่อ 22 February 2006 - 05:46 PM
ก็ลองดูที่หลวงปู่วัดปากน้ำท่านทดสอบคุณยายอาจารย์น่ะครับ ท่านทดสอบด้วยการถามครับว่า
"ลูกจันทร์ หลวงปู่ไปที่หอฉัน เห็นนกมันบินมาเกาะกิ่งไม้ แล้วมันก็เหลียวไปข้างหลัง แล้วมันก็หันกลับมาข้างหน้า มันเหลียวไปมาอย่างนี้ทำไมวะ"
เป็นคนอื่นอึ้งไปแล้ว แต่คุณยายท่านใช้วิชชาธรรมกาย หยุดในหยุด จนถึงระดับ หยุดยิ่งกว่าหยุด แล้วสักพักคุณยายก็ตอบว่า
"มันเหลียวไปข้างหลัง เพื่อดูทางที่มันมา จะได้จำทางที่มันมาไว้ และหันกลับมาข้างหน้า เพื่อจะดูทางที่มันจะไปต่อไปเจ้าค่ะ"
หลวงปู่บอกว่า "มันต้องงั้นสิวะ แล้วก็เดินจากไป"
นี่แค่เบื้องต้นนะครับ ดังนั้น จะรู้ได้คงต้องทดสอบล่ะครับ
#9
โพสต์เมื่อ 22 February 2006 - 08:10 PM
#10
โพสต์เมื่อ 23 February 2006 - 12:19 AM
จะทราบได้ก็ต่อเมื่อเรามีภูมิธรรมเสมอกันกับท่านหรือสูงกว่าเท่านั้นครับ จึงจะสามารถตรวจสอบได้
ข้อนี้ก็ไม่แน่เสมอไปนะครับ ดูพระเทวทัตเป็นตัวอย่างก็ได้ครับ ท่านสำเร็จเพียงแค่ขั้นของโลกียฌาน (ธรรมกายสูงกว่าฌานนั่นเสียอีก) ท่านเองยังสามารถแสดงปาฏิหาริย์ให้พระเจ้าอชาตศัตรูเลื่อมใสศรัทธาได้เลยครับ
ข้อนี้เป็นความคิดที่ดีนะครับ แต่ขอให้พิจารณาเทียบดูกับความเป็นจริงด้วยว่า หากเป็นกรณีที่เป็นกรรมหนักของประชาชนในละแวกนั้น ซึ่งพวกเขาทั้งหลายจะต้องได้รับผลกรรมนี้อย่างไม่มีทางแก้ไข/หลีกเลี่ยงแล้วล่ะก็ ในกรณีนี้ไม่สามารถช่วยได้นะครับ และหากจะถามผมว่า ทำไม??? แล้วล่ะก็ ขอให้พิจารณาจากกรณีบุพกรรมของพระมหาโมคคัลลานะเทียบดูเป็นตัวอย่างก็ได้ครับ
#11
โพสต์เมื่อ 23 February 2006 - 12:57 AM
#12
โพสต์เมื่อ 23 February 2006 - 02:31 AM
ยัง กัมมัง กะริสสันติ : ใครทำกรรมใดไว้
กัลยาณัง วา ปาปะกังวา : ดีหรือชั่วก็ตาม
ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ : ตนจักต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#13
โพสต์เมื่อ 24 February 2006 - 08:26 PM
#14
โพสต์เมื่อ 24 February 2006 - 11:38 PM
ตอบคำถามที่ ๑ อย่าพึ่งไปสนใจเลยนะครับ เนื่องจากว่า บุคคลดังได้สมอ้างนั้น มีทั้งที่เข้าถึงได้จริงและไม่จริงครับ เอาเป็นว่าตอนนี้ ผมขอให้คุณทำใจหยุด ใจนิ่ง ให้ได้เสียก่อน และเมื่อรู้ เห็น เป็นธรรมเมื่อใดแล้ว เราค่อยไปศึกษากันนะครับ
ตอบคำถามที่ ๒ จะทราบได้ก็ต่อเมื่อเรามีภูมิธรรมเสมอกันกับท่าน หรือสูงกว่าเท่านั้นนะครับ จึงจะสามารถตรวจสอบได้
#15
โพสต์เมื่อ 25 February 2006 - 04:27 PM
ขอมอบให้เป็นธรรมทานแด่... คุณกำเนิดธรรมนะครับ
ไฟล์แนบ
#16
โพสต์เมื่อ 26 February 2006 - 10:46 AM
#17
โพสต์เมื่อ 26 February 2006 - 03:14 PM
#18
โพสต์เมื่อ 27 February 2006 - 12:36 AM
#19
โพสต์เมื่อ 24 May 2006 - 12:07 PM
เห็นด้วยกับคำตอบนี้เป็นที่สุดคร้าฟฟ
#20
โพสต์เมื่อ 07 October 2006 - 01:33 PM
คนที่มีภูมิธรรมสูง ย่อมสามารถที่จะล่วงรู้คนที่มีภูมิธรรมเสมอกันได้ และสามารถรู้ภูมิธรรมของคนที่ต่ำกว่าได้ชัด แต่การที่จะสามารถล่วงรู้ภูมิธรรมของผู้ที่มีภูมิธรรมสูงกว่าตนนั้นมันทำได้อยาก(ไม่ได้เลย) ลองพิจารณาดูน่ะครับ นี้เป็นคำตอบที่ง่ายที่สุด
#21
โพสต์เมื่อ 04 October 2007 - 06:29 PM