นั่งสมาธิแล้วตึงบริเวณหัวคิ้ว
#1
โพสต์เมื่อ 21 December 2009 - 09:08 PM
จะแก้ไขอย่างไรดีคับ
(ผมใส่แว่นคับ)
#2
โพสต์เมื่อ 21 December 2009 - 11:09 PM
ส่วนเรื่องตึงบริเวณหัวคิ้ว น่าจะเครียดไปหน่อย แนะนำให้ลืมตา ทำให้ให้สบายๆ ก่อน สบายใจเมื่อไหรค่อยนั่งหลับตาครับ
#3
โพสต์เมื่อ 21 December 2009 - 11:44 PM
บทประจำวันของเราก็จะทำให้ตอนที่นั่งสมาธิไม่ผ่อนคลายกล้ามเนื้อไปด้วยซึ่งตอนแรกๆก็ต้องบังคับให้มันอยุ๋ถูกที่ถูกทางตอนแรกๆอาจจะไม่ชิน
เด๋วทำไปสักพักทุกอย่างก็จะเป็นธรรมชาติเองครับ เเละสาเหตุสำคัญที่เวลานั่งแล้วทำให้ปวดหัวคืออย่ากดลูกนัยตานะครับ บางทีเราจะเผลอกด
ตาลงไปมองอะไรที่ท้องซึ่งจะทำให้เราปวดหัวได้ครับ ยังไงก็สู้ๆนะครับ ......
#4
โพสต์เมื่อ 22 December 2009 - 12:27 AM
เผื่อจะมีประโยชน์บ้าง
คือเมื่อก่อนผมก็มีอาการคล้ายๆอย่างนี้ เป็นมากจนรู้สึกเหมือนจะน็อกไปเลยก็มี
บางครั้งต้องพึ่งยาแก้ปวดก่อนนั่งก็เคย
แต่ตอนหลังเริ่มมาจับทางได้ว่า
ถ้านึกถึงบริกรรมนิมิแล้วเครียดก็ไม่ต้องนึก
ทำความรู้สึกว่ามีก็พอ เห็นไม่เห็น ชัดไม่ชัด ไม่ใช่ประเด็นครับ
เอาอารมณ์สบายไว้ก่อนนะครับ แล้วถ้าสบายแล้ว
เรื่องเห็นเดี๋ยวก็เห็นเองครับ
ไม่ต้องห่วง
ลองดูนะครับ แล้วลองบริกรมภาวนาไปด้วยเรื่อยๆ ว่า
"สบาย...สบาย...สบาย"ไปเรื่อยครับ
ลองดูนะครับน่าจะดีขึ้น
#5
โพสต์เมื่อ 22 December 2009 - 07:37 AM
ดังที่คุณ usr29316แนะครับ
#6
โพสต์เมื่อ 22 December 2009 - 09:24 AM
ท่องสัมมา อะระหัง หรือกำหนดดวงแก้ว หรือองค์พระ ควบคู่กันไป หรืออย่างใดอย่างหนึ่ง ก็ได้ พอนั่งในรอบ(ต้องการทำสมาธิ)จะหายครับ
ถามว่าจะนานแค่ไหน ถึงหายจากอาการนี้ ขึ้นอยู่กับต้องปฎิบัตินอกรอบให้ชำนาญตลอดทั้งวันเอาใจมาไว้ที่บริกรรมนิมิต หรือบริกรรมภาวนา ครับ
(พูดน้อย)
หรือไป ปฎิบัติธรรม 7 วัน ทุกอย่างเป็นสับปายะ โดยเฉพาะอากาศเย็นสบายสม่ำเสมอต้องที่พนาวัฒน์ครับ ช่วยได้ครับ
สาธุ สาธุ สาธุ[/b]
#7
โพสต์เมื่อ 22 December 2009 - 09:52 AM
#8
โพสต์เมื่อ 22 December 2009 - 10:25 AM
ประเด็นเรื่องนี้จะคล้ายๆ เรื่อง พระปิโลติกะ ผู้บวชด้วยความยากจนน่ะครับ ท่านมีผ้าท่อนเก่าเพียงผืนเดียว ก่อนบวช หลังบวชแล้ว สีรระท่านเริ่มผ่องใสงดงามเพราะได้ฉันอาหารดีๆ ท่านก็เลยคิดจะสึก
พอคิดจะสึกเท่านั้น ท่านก็รีบไปยืนที่ต้นไม้ที่ท่านนำผ้าท่อนเ่ก่ามาแขวนไว้ พลางพิจารณาว่า หากท่านสึกไป ท่านก็จะไปมีชีวิตที่ลำบาก เพราะผู้ครองเรือนที่ยากจน ต้องลำบากหาเงินหาทอง ต้องไปใส่ผ้าท่อนเก่าที่แขวนบนต้นไม้นี้ จิตก็จะสงบไม่คิดสึกแล้ว
ต่อมา พอท่านกระสันคิดจะสึกอีก ท่านก็มายืนที่ต้นไม้นี้เอง และบอกกับตัวเองทำนองเดียวกันนี้ีอีก
เพื่อนๆ พระด้วยกันสงสัยว่า มายืนพึมพำอะไร เลยถามว่า ท่านไปทำอะไรที่ต้นไม้
ท่านก็บอกว่า ท่านไปหาอาจารย์
จนกระทั่ง ท่านตั้งใจปฏิบัติธรรมเต็มที่ บุญได้ช่องส่งผล บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ จึงไม่ให้ที่ต้นไม้อีก
เพื่อนๆ พระด้วยกัน ก็มาถามว่า ไม่ไปหาอาจารย์แล้วหรือ
ท่านก็บอกว่า สิ้นความจำเป็นแล้ว กิจที่ควรทำไม่มีแล้ว
เพื่อนๆ พระจึงไปกราบทูลพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ทรงตรัสรับรองครับ
#9
โพสต์เมื่อ 22 December 2009 - 12:59 PM
#10
โพสต์เมื่อ 22 December 2009 - 02:10 PM
อยากให้กองเสบียงมีส่วนเข้ามมาช่วยเต็มที่ งานบวชก็สำเร็จง่ายป้นอัศจรรย์(แม้ว่าจะเป็น 1 000 000 องค์)ก็ตาม และ ตนเองก้ได้ประโยชน์คือทีมสร้าง
บารมีครับ
ในเมื่อหากลาสิกขาแล้ว สะดวกสบาย ก็เป็นปััจจัยไม่บวชต่อ นั้น คงไม่ใช่ เพราะแค่ลูกจ้าง ครับ คงไม่ใช่และไม่คล้ายกับกรณี เรื่อง พระปิโลติกะ ผู้บวชด้วยความยากจน หรอกครับ (ขอบคุณนักเรียนอนุบาล หัดฝันครับผม นี่ให้มุมมองอีกมุมหนึ่ง แต่ผมก็ขอชี้แจ้งให้ชัดเจนละเอียดขึ้น ตามข้างต้น ครับ)
งานบวชครั้งนี้ เป็นอีกครั้งที่มีบุญมหาศาล ทุกคนสามารถมาช่วยได้ทุกด้าน และเอาบุญติดตัวไปตามศักยภาพของตนเอง ครับ ผมเห็นว่ามีแต่ได้บุญกันนะครับ ไม่มีวิบากบาปเลย
รู้สึกว่าจะมีเจ้าภาพ เจ้าของกิจการ เคยออกรายการสู้ต่อไป รับพนักงานใหม่เข้ามาและส่งมาบวชทันที ในโครงการ7000 รูป ทำนองนี้
#11
โพสต์เมื่อ 23 December 2009 - 11:56 AM
#12
โพสต์เมื่อ 23 December 2009 - 04:05 PM
#13
โพสต์เมื่อ 25 December 2009 - 09:30 AM