สื่อประกาศขอขมาต่อวัดพระธรรมกาย
ประกาศขอขมาจาก หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
ปีที่ 14 ฉบับที่ 4655 วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2544
สื่อประกาศขอขมาต่อวัดพระธรรมกาย โดยมีเนื้อความประกาศ ดังนี้ ตามที่รายการสาระขันได้ทำการแพร่ภาพ เกี่ยวกับพระราชภาวนาวิสุทธิ์และวัดพระธรรมกาย เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ.2542, 1 พฤศจิกายน พ.ศ.2542 และวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ.2542 อันภาพที่ปรากฏต่อสาธารณชนใน 3 วันดังกล่าว ทำให้พระราชภาวนาวิสุทธิ์ และวัดพระธรรมกายได้รับความเสียหาย
ซึ่งรายการดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ทางคณะผู้บริหาร บริษัทเนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด และนายกฤษณะ ไชยรัตน์ ผู้จัดทำรายการ รู้สึกเสียใจและขออภัยต่อวัดพระธรรมกาย และพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ในสิ่งที่เกิดขึ้น และขอขอบพระคุณวัดพระธรรมกายและพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ที่ไม่ได้ติดใจดำเนินคดีใดๆ กับบริษัทเนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด คณะผู้บริหารบริษัท นายกฤษณะ ไชยรัตน์ ทั้งทางอาญาและทางแพ่งอีกต่อไป
.........................................................................................................
สื่อประกาศขอขมาต่อวัดพระธรรมกาย
สื่อประกาศขอขมาต่อวัดพระธรรมกาย โดยมีเนื้อความประกาศ ดังนี้ ตามที่รายการสาระขันได้ทำการแพร่ภาพ เกี่ยวกับพระราชภาวนาวิสุทธิ์และวัดพระธรรมกาย เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ.2542, 1 พฤศจิกายน พ.ศ.2542 และวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ.2542 อันภาพที่ปรากฏต่อสาธารณชนใน 3 วันดังกล่าว ทำให้พระราชภาวนาวิสุทธิ์ และวัดพระธรรมกายได้รับความเสียหาย
ซึ่งรายการดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ทางคณะผู้บริหาร บริษัทเนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด และนายกฤษณะ ไชยรัตน์ ผู้จัดทำรายการ รู้สึกเสียใจและขออภัยต่อวัดพระธรรมกาย และพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ในสิ่งที่เกิดขึ้น และขอขอบพระคุณวัดพระธรรมกายและพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ที่ไม่ได้ติดใจดำเนินคดีใดๆ กับบริษัทเนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด คณะผู้บริหารบริษัท นายกฤษณะ ไชยรัตน์ ทั้งทางอาญาและทางแพ่งอีกต่อไป
..........................................................................................................................................
สื่อประกาศขอขมาต่อวัดพระธรรมกาย
สื่อประกาศขอขมาต่อวัดพระธรรมกาย
โดยมีเนื้อความประกาศ ดังนี้ ตามที่หนังสือพิมพ์สยามรัฐได้ลงข่าวเกี่ยวกับกรณีของพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) และนายถาวร พรหมถาวร กรณีที่ถูกฟ้องเป็นคดีอาญาที่ศาลอาญา ระหว่าง พนักงานอัยการ โจทก์ พระราชภาวนาวิสุทธิ์ กับพวกรวม 2 คน จำเลย โดยได้ลงข่าว เมื่อวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ.2543 แสดงเหตุการณ์ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลอาญา เป็นเหตุให้พระราชภาวนาวิสุทธิ์ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลลงโทษฐานละเมิดอำนาจศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 32(2) และมาตรา 33 นั้น
หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ขอกราบขออภัยต่อพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ต่อการกระทำดังกล่าว และยอมรับว่าข้อความที่ลงตีพิมพ์มีข้อความส่วนไม่ตรงกับความเป็นจริง ทำให้ประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้ฟังการพิจารณาของศาลอาจเข้าใจผิดได้ หนังสือพิมพ์สยามรัฐจึงขออภัยมายัง ณ ที่นี้ และขอประกาศว่าข้อความที่ลงพิมพ์ในวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ.2543 เป็นข้อความที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง
และหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ขอกราบขอบพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ที่อภัยทาน ให้มา ณ ที่นี่ จึงประกาศให้ทราบทั่วกัน
......................................................................................................................
สื่อประกาศขอขมาต่อวัดพระธรรมกาย
ประกาศขอขมาจาก หนังสือพิมพ์สยามรัฐ
สื่อประกาศขอขมาต่อวัดพระธรรมกาย โดยมีเนื้อความประกาศ ดังนี้ ตามที่หนังสือพิมพ์สายมรัฐได้ลงข่าวเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายและพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) กรณีเรื่องการถือครองที่ดินที่ได้รับบริจาค เรื่องราวนิคหกรรม เรื่องราวคำสอนว่าบิดเบือนลบล้างคำสอนของพระพุทธเจ้า การอวดอุตริมนุสธรรม ทำความผิดฐานลักทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ ฉ้อโกง หลอกลวงประชาชน กระทำการในตำแหน่งเจ้าอาวาสเป็นเจ้าพนักงานที่ไม่เหมาะสม ต้องอาบัติปาราชิก เรียกวัดพระธรรมกายว่าวัดฉาว นำเงินบริจาคไปดำเนินการนอกวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค หลอกขายพระดูดทรัพย์ หลอกขายบุญ เป็นวัดที่มีอิทธิพลเหนือองค์กรและเจ้าพนักงานของรัฐ เรียกพระราชภาวนาวิสุทธิ์ว่าเป็นอลัชชี เดียรถีย์ พระปลอมจอมมาร นายไชยบูลย์ พระฉาว ศาสดาลูกแก้ว พระนอกรีด ภิกษุมหาโจร เจ้าอาวาสวัดฉาว มีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับหญิงสาว โดยลงข้อความและข่าวในช่วงเดือนสิงหาคม พ.ศ.2542 ถึงเดือนมกราคม พ.ศ.2543 โดยการดังกล่าวไม่เป็นความจริงและเป็นความเห็นของหนังสือพิมพ์สยามรัฐเอง เป็นเหตุให้วัดพระธรรมกาย และพระราชภาวนาวิสุทธิ์ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญาขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 84, 91, 326, 328, และ332
บริษัท สยามรัฐ จำกัด ในฐานะเจ้าของหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ขอกราบขอขมาต่อวัดพระธรรมกาย และพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ต่อการกระทำดังกล่าว และยอมรับว่าข้อความที่ลงตีพิมพ์ไม่ตรงกับความจริง ทำให้ประชาชนทั่วไป ที่ไม่ทราบความจริงอาจเข้าใจผิดได้ ข้อความที่ลงตีพิมพ์ในช่วงเดือน สิงหาคม พ.ศ.2542 ถึงเดือนมกราคม พงศ.2543 เป็นข้อความที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง
และหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ขอกราบขอบพระคุณวัดพระธรรมกายและพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ที่อภัยทานให้มา ณ ที่นี้ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
........................................................................................................
สื่อประกาศขอขมาต่อวัดพระธรรมกาย
ประกาศขอขมาจาก หนังสือพิมพ์สยามรัฐ
ปีที่ 52 ฉบับที่ 17691 วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ.2544 หน้า 13
สื่อประกาศขอขมาต่อวัดพระธรรมกาย
โดยมีเนื้อความประกาศ ดังนี้ ตามที่นิตยสารสยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ ฉบับปีที่ 46 ฉบับที่ 13 ประจำวันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม ถึงวันเสาร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ.2542 ในภาพหน้าปกได้นำภาพใบหน้าของพระราชภาวนาวิสุทธิ์ มาตัดต่อกับภาพบุรุษเปลือยกายนั่งขัดสมาธิ(Meditation)บนตะปู อยู่ในอาการของการทรมานตน และมีข้อความว่า "ทณฑํ สรณํ คจฉามิ" เพื่อให้ผู้พบเห็นเชื่อว่าเป็นภาพพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ซึ่งไม่เป็นความจริง พระราชภาวนาวิสุทธิ์ไม่เคยถ่ายภาพหรือกระทำลักษณะอาการดังกล่าว เป็นเหตุให้พระราชภาวนาวิสุทธิ์ได้รับความเสียหาย
บริษัท สยามรัฐ จำกัด ในฐานะเจ้าของนิตยสารสยามรัฐ สัปดาห์วิจารณ์ และนายศักดา นพเกตุ ขอกราบขอขมาต่อพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ในการกระทำดังกล่าว และขอกราบขอบพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ที่อภัยทานให้มา ณ ที่นี้ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
และในบทนำของนิตยสารฉบับดังกล่าวในคอลัมน์ เปิดขบวนที่เขียนโดยนายศักดา นพเกตุ ได้ตีพิมพ์ข้อความจาบจ้วงล่วงเกินพระราชภาวนาวิสุทธิ์ว่า "ชาวธรรมกายและเหล่าพระปลอมจอมมาร คงลิงโลดลำพองหัวใจเป็นอย่างยิ่งที่พระปลอมจอมมารได้รับประกันตัว" ซึ่งความจริงแล้วพระราชภาวนาวิสุทธิ์เป็นพระที่แท้จริง ปฏิบัติตนอยู่ในพระธรรมวินัย ด้วยดี และได้ทำคุณประโยชน์ให้แก่พระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก
.......................................................................................................................
สื่อประกาศขอขมาต่อวัดพระธรรมกาย
ประกาศขอขมาจาก หนังสือพิมพ์สยามรัฐ
ปีที่ 52 ฉบับที่ 17691 วันพุธที่ 3 ตุลาคม พ.ศ.2544
สื่อประกาศขอขมาต่อวัดพระธรรมกาย
โดยมีเนื้อความประกาศ ดังนี้ ตาม ที่นิตยสารสยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ ฉบับปีที่ 46 ฉบับที่ 13 ประจำวันอาทิตย์ที่ 29 สิงหาคม ถึงวันเสาร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ.2542 ในภาพหน้าปกได้นำภาพใบหน้าของพระราชภาวนาวิสุทธิ์ มาตัดต่อกับภาพบุรุษเปลือยกายนั่งขัดสมาธิบนตะปู อยู่ในอาการของการทรมานตน และมีข้อความว่า "ทณฑํ สรณํ คจฉามิ" เพื่อให้ผู้พบเห็นเชื่อว่าเป็นภาพพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ซึ่งไม่เป็นความจริง พระราชภาวนาวิสุทธิ์ไม่เคยถ่ายภาพหรือกระทำลักษณะอาการดังกล่าว เป็นเหตุให้พระราชภาวนาวิสุทธิ์ได้รับความเสียหาย
บริษัท สยามรัฐ จำกัด ในฐานะเจ้าของนิตยสารสยามรัฐ สัปดาห์วิจารณ์ และนายศักดา นพเกตุ ขอกราบขอขมาต่อพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ในการกระทำดังกล่าว และขอกราบขอบพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ที่อภัยทานให้มา ณ ที่นี้ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
และในบทนำของนิตยสารฉบับดังกล่าวในคอลัมน์ เปิดขบวนที่เขียนโดยนายศักดา นพเกตุ ได้ตีพิมพ์ข้อความจาบจ้วงล่วงเกินพระราชภาวนาวิสุทธิ์ว่า "ชาวธรรมกายและเหล่าพระปลอมจอมมาร คงลิงโลดลำพองหัวใจเป็นอย่างยิ่งที่พระปลอมจอมมารได้รับประกันตัว" ซึ่งความจริงแล้วพระราชภาวนาวิสุทธิ์เป็นพระที่แท้จริง ปฏิบัติตนอยู่ในพระธรรมวินัย ด้วยดี และได้ทำคุณประโยชน์ให้แก่พระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก
............................................................................................................................
สื่อประกาศขอขมาต่อวัดพระธรรมกาย
ประกาศขอขมาจาก หนังสือพิมพ์สยามรัฐ
ปีที่ 52 ฉบับที่ 17710 วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ.2544 หน้า 13
สื่อประกาศขอขมาต่อวัดพระธรรมกาย
โดยมีเนื้อความประกาศ ดังนี้ ตามที่หนังสือพิมพ์สายมรัฐได้ลงข่าวเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายและพระราชภาวนา วิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) กรณีเรื่องการถือครองที่ดินที่ได้รับบริจาค เรื่องราวนิคหกรรม เรื่องราวคำสอนว่าบิดเบือนลบล้างคำสอนของพระพุทธเจ้า การอวดอุตริมนุสธรรม ทำความผิดฐานลักทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ ฉ้อโกง หลอกลวงประชาชน กระทำการในตำแหน่งเจ้าอาวาสเป็นเจ้าพนักงานที่ไม่เหมาะสม ต้องอาบัติปาราชิก เรียกวัดพระธรรมกายว่าวัดฉาว นำเงินบริจาคไปดำเนินการนอกวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค หลอกขายพระดูดทรัพย์ หลอกขายบุญ เป็นวัดที่มีอิทธิพลเหนือองค์กรและเจ้าพนักงานของรัฐ เรียกพระราชภาวนาวิสุทธิ์ว่าเป็นอลัชชี เดียรถีย์ พระปลอมจอมมาร นายไชยบูลย์ พระฉาว ศาสดาลูกแก้ว พระนอกรีด ภิกษุมหาโจร เจ้าอาวาสวัดฉาว มีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับหญิงสาว โดยลงข้อความและข่าวในช่วงเดือนสิงหาคม พ.ศ.2542 ถึงเดือนมกราคม พ.ศ.2543 โดยการดังกล่าวไม่เป็นความจริงและเป็นความเห็นของหนังสือพิมพ์สยามรัฐเอง เป็นเหตุให้วัดพระธรรมกาย และพระราชภาวนาวิสุทธิ์ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญาขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมาย อาญามาตรา 83, 84, 91, 326, 328, และ 332
บริษัท สยามรัฐ จำกัด ในฐานะเจ้าของหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ขอกราบขอขมาต่อวัดพระธรรมกาย และพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ต่อการกระทำดังกล่าว และยอมรับว่าข้อความที่ลงตีพิมพ์ไม่ตรงกับความจริง ทำให้ประชาชนทั่วไป ที่ไม่ทราบความจริงอาจเข้าใจผิดได้ ข้อความที่ลงตีพิมพ์ในช่วงเดือน สิงหาคม พ.ศ.2542 ถึงเดือนมกราคม พงศ.2543 เป็นข้อความที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง
และหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ขอกราบขอบพระคุณวัดพระธรรมกายและพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ที่อภัยทานให้มา ณ ที่นี้ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
..........................................................................................................................
สื่อประกาศขอขมาต่อวัดพระธรรมกาย
ประกาศขอขมาจาก หนังสือพิมพ์มติชน
ปีที่ 25 ฉบับที่ 8888 วันพุธที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ.2545
สื่อประกาศขอขมาต่อวัดพระธรรมกาย
โดยมีเนื้อความประกาศ ดังนี้ ตามที่หนังสือพิมพ์มติชนฉบับวันที่ 23 กันยายน พ.ศ.2542 ได้ลงข่าวว่า ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ตำบลเกาะยาวน้อย อำเภอเกาะยาวน้อย จังหวัดพังงา ได้รู้เห็นเป็นใจกับวัดธรรมกายในการกว้านซื้อที่ดินในเขตป่าสงวนจำนวน 700 ไร่ ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติควนจุก มีการออกเอกสารสิทธิ น.ส.3ก. อย่างไม่โปร่งใสให้แก่วัดธรรมกาย ข่มขู่ให้ชาวบ้านขายที่ดินแก่วัดธรรมกายเพื่อสร้างรีสอร์ทใกล้มัสยิด ขุดดินปะการังโดยใช้แมคโครนำมาตกแต่งรีสอร์ท ทำเขื่อนกั้นน้ำทะเลและขุดสระกักเก็บน้ำ ทำให้ชาวบ้านขาดแคลนน้ำนั้น ข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง เป็นการเข้าใจผิดของนายโชติ ทองย้อย ที่ให้ข่าวผิดพลาดกับหนังสือพิมพ์ดังกล่าว
บัดนี้้ทั้งสองฝ่ายได้ทำความเข้าใจกันได้ หนังสือพิมพ์มติชนขอแก้ข่าวให้ประชาชนทั่วไปทราบว่า ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 และวัดธรรมกาย ไม่ได้กระทำการดังกล่าวแต่อย่างใด
.............................................................................................................................
สื่อประกาศขอขมาต่อวัดพระธรรมกาย
ประกาศขอขมาจาก หนังสือพิมพ์มติชน
ปีที่ 26 ฉบับที่ 9262 วันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ.2546
สื่อประกาศขอขมาต่อวัดพระธรรมกาย
โดยมีเนื้อความประกาศ ดังนี้ ตามที่หนังสือพิมพ์มติชนได้ตีพิมพ์ข้อความเกี่ยวกับวัพระธรรมกายฯ และพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) กรณีเรื่องราวใช้ถ้อยคำล่วงเกินโดยเรียกวัดพระธรรมกายว่า วัดฉาว สำนักฉาว เรียกพระราชภาวนาวิสุทธิ์ว่า นายไชยบูลย์ เจ้าสำนักฉาว กล่าวหาว่าเล่นหุ้น โอนเงินของวัดให้สีกา โดยตีพิมพ์ข้อความในช่วงเดือนสิงหาคม พ.ศ.2542 ถึงเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2542 ทั้งๆที่โจทย์ยังอยู่ในสมณศักดิ์
หนังสือพิมพ์มติชน และนายสุชาติ ศรีสุวรรณ ในฐานะบรรณาธิการ ขอยอมรับว่าข้อความที่ตีพิมพ์คลาดเคลื่อน ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดวัดพระธรรมกาย และพระราชภาวนาวิสุทธิ์ จนได้รับความเสียหาย จึงขออภัยต่อวัดพระธรรมกาย พระราชภาวนาวิสุทธิ์ และขอขอบพระคุณที่อภัยทานมา ณ โอกาสนี้
.....................................................................................................................................
สื่อประกาศขอขมาต่อวัดพระธรรมกาย
ประกาศขอขมาจาก หนังสือพิมพ์มติชน
ปีที่ 26 ฉบับที่ 9263 วันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ.2546
สื่อประกาศขอขมาต่อวัดพระธรรมกาย
โดยมีเนื้อความประกาศ ดังนี้ ตามที่หนังสือพิมพ์มติชนได้ตีพิมพ์ข้อความเกี่ยวกับวัพระธรรมกายฯ และพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) กรณีเรื่องราวใช้ถ้อยคำล่วงเกินโดยเรียกวัดพระธรรมกายว่า วัดฉาว สำนักฉาว เรียกพระราชภาวนาวิสุทธิ์ว่า นายไชยบูลย์ เจ้าสำนักฉาว กล่าวหาว่าเล่นหุ้น โอนเงินของวัดให้สีกา โดยตีพิมพ์ข้อความในช่วงเดือนสิงหาคม พ.ศ.2542 ถึงเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2542 ทั้งๆที่โจทย์ยังอยู่ในสมณศักดิ์
หนังสือพิมพ์มติชน และนายสุชาติ ศรีสุวรรณ ในฐานะบรรณาธิการ ขอยอมรับว่าข้อความที่ตีพิมพ์คลาดเคลื่อน ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดวัดพระธรรมกาย และพระราชภาวนาวิสุทธิ์ จนได้รับความเสียหาย จึงขออภัยต่อวัดพระธรรมกาย พระราชภาวนาวิสุทธิ์ และขอขอบพระคุณที่อภัยทานมา ณ โอกาสนี้