เด็กอภิญญา อายุ 13 แรงบุญแรงกรรม...ใครว่าไม่มีจริง
#1
โพสต์เมื่อ 14 November 2008 - 09:16 AM
วันนี้ได้มีโอกาสแวะเวียนมาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงให้ทุกท่านได้อ่านกันอีกครั้ง เป็นเรื่องเกี่ยวกับกรรม ซึ่งเป็นเรื่องจริง มีตัวบุคคลจริงทุกเรื่องราว ซึ่งผู้เขียนต้องขออนุญาตบุคคลที่เกี่ยวข้องในเรื่องผ่านบทความนี้เพื่อขอนำมาเผยแพร่เป็นอุทาหรณ์ให้กับท่านผู้อ่านทุกท่าน
เรื่องของกรรมในอดีตชาติ ปัจจุบันชาติ หลาย ๆ ท่านอาจคิดว่าไม่น่าส่งผลอะไรมากมายกับชีวิต ที่ทุกวันนี้คนเราต้องประสพชะตากรรมปัญหาหลากหลาย อาจมาจากสาเหตุสิ่งแวดล้อมของชีวิต ณ ขณะนั้น ก็อาจเป็นได้ แต่วันนี้ผู้เขียนเชื่อว่าหลังจากที่ทุกท่านอ่านบทความนี้ อาจต้องเปลี่ยนมุมมองของชีวิตใหม่ดังเช่นผู้เขียนในวันนี้เช่นกัน
ผู้เขียนมีลูกสาวหนึ่งคนปัจจุบัน อายุ 13 ปี ลูกสาวคนนี้แหละที่ทำให้มุมมองของชีวิตผู้เขียนต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะเธอเป็นเด็กที่มีอภิญญา สามารถล่วงรู้ทุกสิ่งทุกอย่างได้ตั้งแต่อายุ 7 ปี ไม่ว่าเรื่องราวในอดีตชาติ ปัจจุบัน และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเธอยังไม่เคยพูดอะไรในสิ่งที่ผ่านมาหรือล่วงหน้าผิดแม้แต่ครั้งเดียว จนเป็นที่ยอมรับในหมู่นักปฏิบัติมากหน้าหลายตาและบุคคลอื่น ๆ ที่มีโอกาสได้รู้จักเธอ ไม่ว่าเรื่องราวของชีวิตของแต่ละคน เรื่องการเมืองทั้ง ๆ ที่ไม่เคยรู้เรื่องราวข่าวสาร แม้เรื่องภัยพิบัติก็ยังไม่เคยพลาดจนเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักปฏิบัติ ที่สำคัญเธอสามารถรู้ต้นเหตุแห่งกรรมของคนที่กำลังทุกข์ในเรื่องราวนั้น ๆ ว่าเกิดจากกรรมในอดีตชาติใดส่งผล และสามารถบอกวิธีแก้ไขเพื่อขออโหสิแห่งกรรมนั้นสำเร็จมาอย่างงดงามมากหน้าหลายตา ผู้เขียนขอยกบางเรื่องราวของบางท่านที่ลูกสาวผู้เขียนได้มีโอกาสช่วยเหลือมาเล่าสู่กันฟังเพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจ เพราะถ้าทุกเรื่องราวคงไม่ไหว
ผู้เขียนได้มีโอกาสรู้จักกับครอบครัวๆหนึ่ง ซึ่งเขารู้จักผ่านคนที่รู้จักผู้เขียนมาอีกที เขาไปได้ยินเรื่องราวของลูกสาวผู้เขียนเข้าจึงอยากขอพบ เพราะกำลังมีเรื่องเดือดร้อน เมื่อมีโอกาสเจอกัน ลูกสาวของผู้เขียนก็ได้เห็นกรรมที่กำลังส่งผลให้ชายคนนี้และครอบครัวกำลังเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัย ซึ่งเขาก็ยอมรับว่าใช่ เธอเห็นอดีตชาติของชายท่านนี้กำลังจุดไฟเผาบ้านของคน ๆ หนึ่งอยู่ ซึ่งเขาจองกรรมส่งผลมา ณ ปัจจุบันชาติ ทำให้ครอบครัวต้องมีอันเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัย ธนาคารกำลังฟ้องจะยึดและต้องการให้ชำระทั้งต้นและดอกเบี้ย ซึ่งเขาไม่สามารถและยื้อกันมาเป็นปี ๆ แล้ว สุดท้ายเขาบอกว่าเขาเชื่อว่าสิ่งที่ลูกสาวผู้เขียนพูดนั้นต้องจริงแน่นอน เพราะชาตินี้เขาก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าทำไมเวลาเจอรังมดรังผึ้งอะไรก็แล้วแต่ เขาจะชอบจุดไฟเผาทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีเจตนาร้ายกับสัตว์เลย วันนั้นเลยทำให้เขาเข้าใจคำว่าจิตดวงเดิม ที่ชอบทำในสิ่งที่เคยกระทำมาในอดีตภพได้อย่างกระจ่าง ลูกสาวของผู้เขียนเองก็ถามเจ้ากรรมนายเวรของชายท่านนี้ว่าต้องการให้เขาชดใช้อย่างไรจึงจะยอมอโหสิกรรมซึ่งกัน เพราะบัดนี้เขาสำนึกในกรรมนั้น ๆ แล้ว เมื่อได้รับทราบวิธีมา ชายท่านนั้นก็ตั้งใจไปทำตามที่ลูกสาวผู้เขียนบอก หลังจากทำเสร็จตามวันเวลาที่กำหนด สิ่งเหลือเชื่อก็บังเกิดขึ้น ชายท่านนั้นเล่าให้ฟังว่าก่อนไปทำตามที่บอกธนาคารยังตามจะยึดให้ได้ พอหลังจากครบวันที่ไปทำ เขาตัดสินใจไปศาล และเซ็นชื่อยกบ้านให้ธนาคารยึด เพราะนึกถึงคำพูดที่ลูกสาวผู้เขียนได้พูดกับเขา แต่แล้วแรงบุญที่ทำการขออโหสิส่งผลให้เขาอย่างเหลือเชื่อ เพราะวันรุ่งขึ้น ธนาคารตามไปที่บ้านบอกขอยกบ้านคืนให้ ไม่ขอยึดอีกแล้ว เงินต้นมีเท่าไหร่ จะจ่ายเท่าไหร่ก็ได้ไม่ว่า ดอกเบี้ยยังไม่ต้องจ่ายแล้ว เขาบอกกับทุกคนว่า เขาเชื่อแล้วว่าแรงกรรมและแรงบุญมีจริง จะขอปฏิบัติแต่ในสิ่งที่ดีต่อไป สาธุ
มนุษย์เรามักจะคิดเสมอว่าสร้างกรรมแล้ว ตายไปก็สูญ จากเรื่องราวนี้คงแสดงให้เห็นแล้วว่า แรงกรรมมีจริง ไม่ว่าเราท่านทำกรรมอะไรไว้ก็ต้องได้รับการชดใช้ในกรรมนั้น ๆ ไม่ขาดไม่เกิน เพียงแต่จะชาติใดภพใดเท่านั้น หากยังไม่สามารถรู้และทราบวิธีขออโหสิซึ่งกันและกัน ก็ยังคงต้องเวียนว่ายตายเกิดชดใช้กรรมกันไปเรื่อย ๆ แล้วก็คิดว่าเป็นเหตุบังเอิญโชคไม่ดีของชีวิตแค่นั้น วันนี้ผู้เขียนเองได้ทราบกรรมของหลาย ๆ ท่าน ได้เห็นผลด้วยตัวเองแล้วคงต้องใช้ชีวิตอย่างสำรวมมากขึ้น เพราะเราไม่อาจรู้ได้เลยว่าวันใดกรรมตัวใดที่เราสร้างจะส่งผลทุกข์เวทนาให้กับชีวิต
อีกรายที่อยากจะนำมาเป็นบทเรียนกฎแห่งกรรม เป็นคุณแม่ของคนที่ผู้เขียนเองก็ไม่เคยรู้จักอีกนั่นแล ลูกสาวเขานำภาพคุณแม่ของเขามาให้ลูกสาวผู้เขียนดูบอกกำลังป่วยอยู่เพียงแค่นั้น เธอเห็นอดีตกรรมของคนในรูปทันทีว่าเคยเกิดเป็นนักเลงระดับหัวหน้าเชียว เขาเห็นภาพกำลังนำลูกน้องหกเจ็ดคนเอาไม้ท่อนใหญ่กำลังกระหน่ำฟาดไปที่ขาบริเวณใกล้หัวเข่าของชายคนหนึ่งอยู่ ทำร้ายจนชายคนนั้นหมดสติขาดใจตาย ทันทีที่เธอทำมือจับบริเวณขาที่ไปตีเจ้ากรรมนายเวร ลูกสาวเธอก็บอกว่าเธอเชื่อแล้วว่าแม่เธอต้องเคยเป็นและทำอย่างที่ลูกสาวผู้เขียนพูด เพราะขณะนี้คุณแม่ของเธอบาดเจ็บที่บริเวณที่บอกอย่างไม่มีสาเหตุ อยู่ ๆ เนื้อถูกกินลึกลงๆเรื่อย ๆ และรอบบริเวณก็ปวดบวม แพทย์หาสาเหตุไม่พบว่าเพราะเชื้ออะไรเนื้อจึงถูกกินลึกลงไปเรื่อย ๆ และอยู่ ๆ ไม่ได้เป็นอัมพฤกอัมพาต เส้นเลือดไม่แตกไม่ตีบ แต่อยู่ ๆ นิ่งไปเฉย ๆ ขยับเขยื้อนตัวช่วยตัวเองไม่ได้ต้องนอนให้คนดูแลเหมือนคนอัมพาตมาปีกว่าแล้ว แพทย์ก็ไม่สามารถรักษาให้ดีขึ้นได้ เขาบอกด้วยจิตสำนึกที่ดีว่าเมื่อคุณแม่เขาเคยทำกรรมในอดีตมาแบบนี้ก็สาสมแล้วกับความทุกข์ทรมานในชาตินี้ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรมากเกินกว่าที่ชายคนนั้นได้รับในอดีตชาติเลย ตอนแรกที่ลูกสาวผู้เขียนคุยอยู่เขาว่าเจ้ากรรมนายเวรจะไม่ยอมอโหสิไม่ยอมให้แก้ไขกรรมชดใช้ ต้องอ้อนวอนกันอยู่พอสมควรจนเจ้ากรรมนายเวรยอมบอกวิธีแก้ไขกรรมมา คงเห็นลูกสาวเขาก็สำนึกด้วยจิตที่ดีด้วยกระมัง รายนี้กรรมหนักหน่อย เขาให้ไปทำตามที่บอกสามเดือน เขาเล่าให้ผู้เขียนฟังว่าเมื่อเขากลับไปเล่าให้คุณแม่เขาฟังทั้งคู่มีจิตสำนึกที่ดีรีบทำตาม บอกยอมชดใช้ทุกอย่างขอเพียงให้จบกรรมกันในชาตินี้ก็พอใจแล้ว ผลเมื่อเขาตั้งใจปฏิบัติตามในสิ่งที่เจ้ากรรมนายเวรขอได้เพียงสองอาทิตย์ อยู่ ๆ คุณแม่ของเขาลุกขึ้นมานั่งได้เองโดยไม่ต้องมีคนช่วยจับ เขาบอกทุกคนในครอบครัวตื่นเต้นดีใจมากร้องไห้กันทั้งบ้านเพราะไม่คิดว่าจะมีโอกาสนี้แล้ว แค่ให้คุณแม่เขาดีขึ้นไม่นอนเจ็บปวดทรมานอีกก็พอใจแล้ว เมื่อผลปาฏิหาริย์เกิดขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ เขาว่าทุกคนก็ยิ่งพากเพียรปฏิบัติตามคำบอกของลูกสาวผู้เขียนต่อ ผลพอพาคุณแม่ไปล้างแผลเปิดแผลออกมา เนื้อที่เมื่อก่อนเจอลูกสาวผู้เขียนยังไม่มีวี่แววจะหายจากการถูกกัดลึกลงด้วยซ้ำ กลับเติมเต็มขึ้นมาอย่างเหลือเชื่อจนแพทย์ก็ยังงุนงง ครบเดือน เขาโทรมาขอบคุณลูกสาวผู้เขียนด้วยเสียงดีใจจนพูดไม่ถูก เขาบอกอยู่ ๆ คุณแม่เขาลุกขึ้นมายืนเองได้แล้ว เขาบอกเขาจะโทรมาบอกน้องว่าสิ่งที่น้องบอกให้ทำสามเดือน เขาไม่ทำแล้วสามเดือน แต่คุณแม่ของเขาจะตั้งใจปฏิบัติต่อไปตลอดชีวิต สาธุ
เพราะรู้แล้วว่าเวรกรรมมีจริง บาปบุญก็มีจริง ทำกรรมใดไว้ก็ได้รับแบบนั้นไม่มีขาดไม่มีเกิน และเรื่องสุดท้ายที่ผู้เขียนจะขอหยิบยกมาให้ได้ทราบกันเป็นคนในครอบครัวของผู้เขียนเอง เป็นคุณป้าของลูกสาวผู้เขียนเอง อยู่ ๆ เกิดปวดท้องลำไส้ทะลุ ต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วนที่โรงพยาบาลเอกชนมีชื่อแห่งหนึ่งหัวถนนคอนแวนต์ สุดท้ายกลายเป็นเนื้อร้ายหรือเรียกมะเร็งนั่นเอง ต้องตัดลำไส้ทิ้งถึงสามเมตร ชิ้นเนื้อร้ายใหญ่พอ ๆ กับลูกมะพร้าวย่อม ๆ ทีเดียว หลังจากออกจากโรงพยาบาลผ่านไปสามเดือนแผลที่ผ่าต้องไปโรงพยาบาลล้างแผลทุกวันไม่มีทีท่าว่าจะสมานปิด ซึ่งยาวจากใต้หน้าอกไปจนถึงสะดือ สุดท้ายคุณป้าบอกหลานว่ายังไม่อยากตายจะทำไงดี หลานเลยบอกเขาเห็นเจ้ากรรมนายเวรคุณป้าเป็นไก่ตัวหนึ่งนะ เห็นภพนั้นป้าเป็นผู้ชายยืนอยู่หน้าโต๊ะตัวหนึ่งมีไก่ตัวหนึ่งวางอยู่ มีชามเลือดเล็ก ๆ ไม่รู้ว่าคุณป้าทำอะไรอาชีพอะไร แต่ภาพที่เห็นคือกำลังควักไส้ของมันออกมาตัดทิ้ง แล้วยัดอะไรไม่รู้กลับไปในท้องไก่เย็บปิดเหมือนเดิม โอ้อนิจจา บาดแผลที่คุณป้าโดนผ่าและลำไส้ที่ถูกตัดทิ้งไปไม่ได้ต่างกับการผ่าท้องไก่เลย ทั้ง ๆ ที่ลูกสาวผู้เขียนไม่เคยเปิดดูแผลคุณป้าเธอด้วยซ้ำ ไม่ทราบด้วยว่าถูกตัดไส้ออกไปสามเมตร เธอบอกเขาจะยอมอโหสิให้นะแต่ต้องทำในสิ่งที่เขาต้องการชดใช้ แล้วครบวันเขาจะยอมอโหสิให้ ป้าจะหายนะ แต่ถ้าไม่ทำ เขาจะทำให้เป็นหนักขึ้นด้วยแรงกรรมให้ถึงกับชีวิต วันที่เริ่มปฏิบัติตามคำบอกของหลานเขาให้ใส่เสื้อผ้าขาวด้วย แพทย์ที่โรงพยาบาลก็เกิดความสงสัยว่าทำไมต้องใส่เสื้อผ้าสีขาวทุกวัน พี่สาวผู้เขียนจึงเล่าให้คุณหมอฟัง ด้วยท่าทีทีแรกเริ่มคงไม่ค่อยเชื่อเรื่องราวแบบนี้เนื่องจากแพทย์ก็ต้องเป็นวิทยาศาสตร์อันดับแรก คุณหมอก็หัวเราะแบบคนอารมณ์ดี แล้วบอกเอ๊า เรามาร่วมพิสูจน์กัน และแล้ววันเวลาผ่านไปสามอาทิตย์แห่งการปฏิบัติชดใช้กรรม อยู่ ๆ แผลที่ไม่มีแววสมานกันมากว่าสามเดือนกลับค่อย ๆ สมานขึ้น คุณหมอเริ่มแปลกใจ และอดทนรอดูผล สุดท้ายคุณหมอบอกว่า คาดตามหลักวิทยาศาสตร์การแพทย์คิดว่าน่าจะปิดสนิทต้นหรือกลางเดือนหรือภายในเดือนเมษานะ พร้อมถามวันที่ครบกำหนดตามที่พี่สาวผู้เขียนเล่าให้ฟังแต่แรก ว่าเมื่อไหร่พี่สาวผู้เขียนก็บอกครบพอดีก็วันที่ 18 มีนา สรุปคุณหมอบอกมารอดูกันว่าจะเป็นอย่างไร สุดท้ายวันที่ 17 มีนา แผลยังเปิดไม่สมานกันอยู่ยาวพอควร ซึ่งอาจต้องใช้เวลาตามที่คุณหมอคาดคะเน แต่พอวันที่ 18 มีนาซึ่งเป็นวันที่ครบกำหนดตามที่ลูกสาวผู้เขียนบอกพอดี เช้าคุณหมอเปิดแผลออกมา ปาฏิหาริย์เกิด แผลปิดสนิททุกอนู อย่างไม่น่าเป็นไปได้ จนคุณหมอบอกผมไม่รู้จะใช้คำว่าอะไรนอกจากอัศจรรย์เหลือเกิน ผมอยากเจอหลานคุณคนนี้เหลือเกิน ไม่เพียงแค่นั้น ปกติ ทุกรายหลังตัดมะเร็งเดือนสองเดือนอาจเกิดเชื้อขึ้น ต้องเคโม ซึ่งก็ไม่ได้รองรับว่าจะหายจากมะเร็ง แต่วันนั้นก่อนเริ่มปฏิบัติตามคำขอจากเจ้ากรรมนายเวร คุณป้าเธอก็กลัวตายกลัวซีทีสแกนแล้วเจอเชื้อร้ายอีก เลยถามหลานจะทำอย่างไรดี เธอว่าพญานาคราชผู้เป็นใหญ่ที่เมืองบาดาลแห่งหนึ่งส่งกระแสบอกเธอมาว่าให้คุณป้ารีบทำตามที่ไก่ตัวนั้นขอ แล้วกินยาอะไรเป็นน้ำสีเหลือง ๆ ที่ป้ากินอยู่ให้เพิ่มเป็นสี่เท่าต่อวันแล้วป้าจะหายจะไม่ตาย ซึ่งขณะที่เธอพูดเธอก็ไม่เคยรู้เลยว่าคุณป้าทานยาอะไรเพราะไปโรงเรียนทุกวัน พอคุณป้าได้ยินถึงกับสะดุ้งเพราะผู้เขียนให้เขาทานยาสมุนไพรตัวหนึ่งที่ทราบมาจากครูบาอาจารย์ชนิดหนึ่งซึ่งเขานำไปผสมน้ำมีสีเหลืองจริง ๆ แต่ผู้เขียนให้เขาทานคงน้อยเกินไป ลูกสาวจึงบอกท่านให้เพิ่มเป็นสี่เท่า ตอนแรกเท่าเดียวก็แทบไม่อยากทานเพราะกลิ่นสมุนไพรตัวนั้นคงไม่ถูกรสชาติ กว่าจะทานได้เป็นชั่วโมง พอหลานพูดถูกความกลัวตายถึงกับรีบซดอย่างง่ายดาย พร้อมบอกคุณหมอที่โรงพยาบาลด้วยว่าขอยังไม่เคโม ขอทดลองตัวนี้ก่อนตามที่หลานบอก คุณหมอก็ขอร่วมท้าพิสูจน์ สองเดือนถัดมา เข้ารับการซีทีสแกน ผล คุณหมอจับมือดีใจแสดงความยินดีกับพี่สาวผู้เขียนเป็นการใหญ่ด้วยความตื่นเต้นดีใจ เพราะตรวจหาเชื้อมะเร็งไม่เจอแม้เซลล์เดียว หายจากโรคมะเร็งได้ด้วยปาฏิหาริย์แห่งบุญ ปาฏิหาริย์แห่งการหลุดพ้นจากพันธนาการกรรม วันนี้วิทยาศาสตร์ระดับนายแพทย์โรงพยาบาลมีชื่อยอมรับแล้วว่า กรรมมีจริง !
เรื่องราวเหล่านี้มีบุคคลจริงทุกเรื่องที่สามารถยืนยันได้ ผู้เขียนมิได้มีเจตนาอวดอ้าง แต่ต้องการเพียงให้ทุกท่านได้ทราบเท่านั้นว่า แรงกรรมมีจริง การชดใช้ก็มีจริงตราบยังไม่หลุดพ้นพันธนาการแห่งกรรมนั้น ๆ วิธีสร้างกุศลแก้ไขกรรมที่ผู้เขียนได้มีโอกาสสัมผัสกับลูกสาวในแต่ละรายก็ไม่เหมือนกันสักราย ทำให้ผู้เขียนได้สติคิด ได้ความรู้อีกมาก เมื่อก่อนคิดแค่ทำบุญสร้างกุศลนั่งสมาธิแผ่กุศลให้เจ้ากรรมนายเวรก็น่าจะพอเพียง แต่วันนี้ได้รับทราบแล้ว คนเราเป็นหนี้เงินเขา 100 บาท แต่ไปซื้อข้าวปลาอาหารอย่างดีชดใช้เขา เขาก็ไม่อภัยไม่ละหนี้ให้ เพราะชดใช้ให้เขาไม่ตรงเป้าหมายนั่นเอง กุศลที่ทำก็ไปเก็บไว้ กรรมก็แก้ไม่ตก เพราะชดใช้ให้เขาไม่ถูกนั่นเอง เมื่อเรารู้ว่ากฎแห่งกรรมก็มีจริง พลังแห่งแรงบุญก็มีจริง วันนี้คงต้องดำเนินชีวิตอย่างมีสติ ละซึ่งความประมาทในกรรม หมั่นสร้างกุศลกรรมกันให้มาก ๆ เพราะไม่ว่าเราสร้างกรรมกับคน หรือสัตว์ สิ่งที่จะตามเรามาเหมือนเงาตามตัวทุกชาติทุกภพ ก็คือ การชดใช้ ที่หนีไม่พ้นนั่นเอง สาธุ
ศศิริยะ
#2
โพสต์เมื่อ 15 November 2008 - 09:04 AM
#3
โพสต์เมื่อ 15 November 2008 - 12:00 PM
#4
โพสต์เมื่อ 16 November 2008 - 08:17 PM
#5
โพสต์เมื่อ 16 November 2008 - 08:31 PM
#6
โพสต์เมื่อ 17 November 2008 - 09:08 PM
#7
โพสต์เมื่อ 17 November 2008 - 09:26 PM
อยากสนทนากับ เด็กคนนี้มากๆเลย
ติดต่อได้ไงครับ
#8
โพสต์เมื่อ 18 November 2008 - 09:56 AM
#9
โพสต์เมื่อ 19 November 2008 - 11:34 PM
สาธุ
อยากสนทนาจัง ติดต่อได้ไงคะ
#10
โพสต์เมื่อ 20 November 2008 - 08:07 AM
สาธุ
#11
โพสต์เมื่อ 20 November 2008 - 05:32 PM
ขอบคุณมากค่ะ
#12
โพสต์เมื่อ 20 November 2008 - 08:01 PM
ถ้าไม่เป็นการรบกวน เพราะตอนนี้ดิฉันอยู่ต่างประเทศจะกลับบ้านอีกก็ปีหน้า และที่ประเทศที่อยู่ก็ไม่มีวัดไทยอยู่เลย(ประเทศไอร์แลนด์) ดิฉันจึงได้ทำบุญปีละครั้ง จึงอยากขอรบกวนให้น้องเค้าช่วยดูกรรมที่มีในอดีตของตัวดิฉันเอง
#13
โพสต์เมื่อ 21 November 2008 - 12:16 AM
อ่านแล้วรู้สึกอเมซซิ่งมากค่ะ คิดว่าใครๆก้ออยากได้คุยได้เจอกับน้องคนนี้แน่ๆ ขออนุโมทนาบุญกับเจ้าของข้อความและลูกสาวด้วยนะคะที่ทำให้หลายๆคนได้ตระหนักถึงผลกรรม onair เองจะพยายามสำรวมทั้งความคิด คำพูด และการกระทำให้มากขึ้นๆไปค่ะ
#14
โพสต์เมื่อ 21 November 2008 - 08:14 AM
#15
โพสต์เมื่อ 22 November 2008 - 07:44 PM
ติดต่อ : [email protected]
ไฟล์แนบ
#16
โพสต์เมื่อ 24 November 2008 - 07:51 AM
เด็กอภิญญา อายุ 13 แรงบุญแรงกรรม ใครว่าไม่มีจริง
ส่วน email ของเจ้าของกระทู้ก็เปิดไปดูหน้า 35 หน้านี้ค่ะ หน้า 35
#17
โพสต์เมื่อ 24 November 2008 - 10:14 AM
#18
โพสต์เมื่อ 24 November 2008 - 04:07 PM
ถ้าไม่รบกวนเกินไปขอเบอร์โทรน้องด้วยนะคะ
#19
โพสต์เมื่อ 26 November 2008 - 10:53 AM
#20
โพสต์เมื่อ 29 November 2008 - 11:42 PM
#21
โพสต์เมื่อ 03 December 2008 - 09:27 PM
#22
โพสต์เมื่อ 05 December 2008 - 02:09 PM
#23
โพสต์เมื่อ 08 December 2008 - 12:14 AM
#24
โพสต์เมื่อ 01 January 2009 - 01:00 PM
แล้วน้องอภิญญาไม่งานหนักหรือค่ะ เพราะขนาดนี้ก็มีคนมีปัญหาถามกันพอควรแล้ว แล้วน้องเขาเรียนหนังสือเป็นไงคะ่ มีเวลาให้ตัวเองพอไหม๊ และหากว่ามีคำถามต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรหรือเปล่า เพราะตัวเองก็อยากจะถามแต่ก็เกรงใจ และเกรงว่า ไปใช้ผู้มีบุญจะบาปหรือเปล่าค่ะ
#25
โพสต์เมื่อ 06 January 2009 - 08:56 PM
http://board.palungj...ad.php?t=129821
ซึ้งผู้แต่งได้เขียนเรื่องเอาไว้ที่เวปพลังจิตดอมคอมครับ
----------------------------
ขอให้ทุกท่านเข้าถึงพระนิพพาน อันเป็นแดนบรมสุขเถิด
#26
โพสต์เมื่อ 12 March 2009 - 10:45 AM
#27
โพสต์เมื่อ 12 March 2009 - 10:54 AM
#28
โพสต์เมื่อ 08 June 2009 - 04:21 PM
#29 *apmalee*
โพสต์เมื่อ 23 February 2011 - 01:27 PM
#30
โพสต์เมื่อ 30 August 2013 - 07:16 AM
ไม่ไดลบหลู่หรืไม่เชื่อนะคะ...แต่เพื่อแสดงความจริงใจและให้ไม่ใช่เรื่องหลอกลวงงมงาย ควรจะระบุชื่อจริงนามสกุลจริงให้ชัดเจน เพราะคงมีผู้ตกทุกข์ได้ยากในเรื่องของเวรกรรมที่ต้องการช่วยเหลืออยู่มาก เขาเหล่านั้นจะได้ขอความช่วยเหลือได้บ้าง