ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

พระเจ้าอชาตศัตรูอยู่ที่โลหกุมภี


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 5 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 Jengiskhan

Jengiskhan
  • Members
  • 560 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กุงเท่

โพสต์เมื่อ 03 May 2008 - 11:32 PM

มีเรื่องให้มาถกปัญหากันครับ

ยมโลกอยู่รอบ อุสทนรกใกล้ อเวจีมหานรก 40 ขุม
ยมโลกอยู่ในทิศทั้ง4ของอุสทนรกทิศละ 10 ขุม มีชื่อที่เรียกเหมื่อนกันทั้งหมด มีชื่อต่างๆดังนี้

ยมโลกประจำทิศต่างๆทิศละ 10 ขุม
ขุมที่1 โลหะกุมภีนรก ขุมนรกแห่งหม้อโลหะ
ขุมที่2 สิมพลีนรก ขุมนรกต้นงิ้ว
ขุมที่3 อสินขนรก ขุมนรกแห่งสัตว์ร้าย
ขุมที่4 ตามโพทกนรก ขุมนรกน้ำทองแดงเดือด
ขุมที่5 อะโยคุฬะนรก ขุมนรกก้อนทองแดงร้อน
ขุมที่6 ปิสสกปัพพะตนรก ขุมนรกภูเขายนต์
ขุมที่7 สุธนรก ขุมนรกแกลบไฟ
ขุมที่8 สีตะโลสิตะนรก ขุมนรกน้ำกรดเย็น
ขุมที่9 สุนขะนรก ขุมนรกพญาหมา
ขุมที่10 ยันตะปสานนรก ขุมนรกแห่งภูเขาบดโลกกันตนรก ขุมนรกที่ได้ชื่อว่าต่ำที่สุดของบรรดาขุมนรกทั้งหมด

ในเมื่อโลหกุมภี เป็นยมโลกของอเวจีมหานรก อย่างนี้พระเจ้าอชาตศัตรูซึ่งตอนนี้อยู่โลหกุมภีก็สามารถรับบุญได้ใช่ไหมครับ (มีกรรมหนักคือปิตุฆาตความจริงต้องอยู่ในอเวจีมหานรก แต่ด้วยการเป็นอุบาสกบริษัทเอกอัครศาสนูปถัมภ์ในการกระทำสังคายนาครั้งที่ 1 และทำบุญอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาจึงไปอยู่ในโลหกุมภีแทน)

เพราะจากเคสต่างๆ คุณครูไม่ใหญ่บอกว่าถ้าอยู่ยมโลกสามารถรับบุญที่อุทิศไปให้ได้ใช่ไหมครับ ถ้าอุทิศไปให้เรื่อยๆ บุญจะส่งผลให้ท่านจะพ้นจากยมโลกหรือเปล่าครับ ท่านมีพระคุณต่อพระพุทธศาสนามากๆ ถ้าไม่มีท่านอาจไม่มีพระพุทธศาสนาดำรงอยู่ก็เป็นได้ครับ มาช่วยท่านกันไหมครับ



#2 Ray

Ray
  • Members
  • 168 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 May 2008 - 07:20 AM

ไม่ดีเลยเนอะ คบมิตรชั่ว หลงทำผิดแค่นิดเดียว พอได้สติ อะไรก็สายแล้ว ทำดีแก้ตัวแค่ไหนก็ไม่สามารถชำระได้หมด

#3 ณ ๐๗๒

ณ ๐๗๒
  • Members
  • 1340 โพสต์
  • Location:Ladkrabang

โพสต์เมื่อ 04 May 2008 - 06:36 PM

หลวงพ่อจึงให้อธิษฐานว่า "เป็นผู้ที่ไม่สามารถถูกครอบงำได้โดยง่าย" และมีคำว่า "เมื่ออกุศลเข้าสิงจิต..." ไงคะ เป็นการล้อมกรอบไว้ก่อน

ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)

ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี  ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ  ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป


#4 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 04 May 2008 - 07:46 PM

เจ้าของกระทู้เข้าใจผิดหรือผมสับสนเองเนี่ย - -"

นรกที่อยู่รอบมหานรกไม่ได้เรียกยมโลกนะครับ เขาเรียกนรกบริวาร ส่วนยมโลกนั้นเป็นสถานที่ตัดสินพิจารณาคดีของพยายมราชครับ หากวิญญานยังอยู่ที่ยมโลกก็ยังสามารถรับบุญได้ แต่หากลงมหานรกหรือนรกบริวารแล้วรับไม่ได้ครับ แต่บุญที่มีผู้อุทิศให้จะไปรออยู่ที่ยมโลก เมื่อใช้กรรมในขุมนรกเสร็จจึงจะได้กลับมายังยมโลกอีกครั้ง จึงจะได้รับบุญไปครับ

เหอๆ พูดซะเหมือนเคยไปเลย ก็ลงไปเที่ยวแล้วไม่รู้กี่รอบเนอะ เกิดตายกี่ชาติแล้วไม่รู้เนี่ย - -"ล
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#5 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 05 May 2008 - 10:21 AM

พระเจ้าอชาติศัตรูนั้น แม้ชาตินี้ท่านจะผิดพลาดฆ่าบิดาบังเกิดเกล้าไปก็ตาม แต่ท่านก็ได้อบรมบ่มบารมีมาจนแก่รอบถึง 2 อสงไขยมหากัปแล้ว ซึ่งเป็นระดับบารมีที่สามารถจะเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าได้แล้วครับ

ซึ่ง พระพุทธเจ้าของเราบอกว่า อนาคตหลังจากพ้นกรรมแล้ว พระเจ้าอชาติศัตรูจะได้มาเกิดเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ผู้รู้ธรรมอันยิ่งที่อยู่ภายในตัวน่ะครับ

ผมว่า พระเจ้าอชาติศัตรูท่านไม่น่าห่วงแล้วล่ะครับ ถ้าจะห่วงล่ะก็ ห่วงตัวเราเองดีกว่าครับ ในโลกนี้ไม่มีบุคคลใดที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่าตัวเองอีกแล้ว ด้วยเหตุผลง่ายๆ 2 ประการคือ

1. หลวงพ่อทัตตะเคยตั้งคำถามถามว่า "พวกเราเองทุกคนนั้น มั่นใจได้อย่างไรว่า หากวินาทีนี้เราต้องละโลกไป เราจะมีสุคติเป็นที่ไป ไหนใครมั่นใจว่า ตัวฉันละโลกแล้ว ไปสุคติแน่นอน ยกมือขึ้น"

คุณเชื่อไหมว่า ทั้งสภาธรรมกาย ไม่มีใครยกมือเลย นั่นก็คือ ไม่มีใครมั่นใจ 100% ว่า ตัวเขาหากละโลกแล้ว ไปสุคติแน่นอน เพราะแต่ละคนล้วนเคยผิดพลาดมาแล้วทั้งนั้น ดังนั้น คนที่น่าห่วงที่สุดจึงไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นตัวเราเองต่างหาก เมื่อไหร่เล่า เราจะมั่นใจได้ว่า ละโลกแล้ว ไปสุคติแน่นอน บุญเรามีรองรับเพียงพอแล้วหรือยัง

2. ตัวเราเองได้สร้างบุญในปัจจุบันชาติคุ้มค้าแล้วหรือยัง บางคนบอกว่า ฉันสร้างบุญใหญ่ตั้งหลายบุญเชียวนะ ผมจึงอยากนำแง่คิดของหลวงพ่อมาให้พิจารณาครับว่า
วันวันหนึ่ง มี 24 ชั่วโมง เราได้ทำอะไรใน 1 วันไปบ้าง เราจะพบเลยว่า ใน 1 วันนั้น เรานอนไปแล้ว 8 ชั่วโมง (หรือ 1 ใน 3) หากตัวเรามีอายุในชาตินี้ 75 ปี เท่ากับว่า เราเสียเวลาไปกับการนอนโดยไม่ทำอะไรเลย 25 ปี (นอนเฉยๆ 25 ปี)
เอ้าหมดไปแล้วกับการนอน 8 ชั่วโมง เหลืออีก 16 ชั่วโมง เราก็ต้องเรียน หรือ ทำงาน อีก 8 ชั่วโมง ส่วนอีก 8 ชั่วโมง เราก็ใช้หมดไปกับการอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน ทานอาหาร โทรคุยกับเพื่อน เที่ยวพักผ่อน ดูทีวี ติดเกมส์อบายมุขต่างๆ

คำถามจึงถามว่า วันๆ หนึ่งมี 24 ชั่วโมง เรามีเวลาสร้างบุญกันบ้างหรือบ้าง ไม่ต้องมาก แค่ 1 ชั่วโมงก็ยังไม่ถึงเลย นี่จึงเป็นเหตุผลว่า คนที่น่าห่วงที่สุดไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นตัวเราเอง

ดังนั้น เราควรรีบสร้างบุญเพื่อตัวเราเองก่อน เป็นอันดับแรกเสียแต่วันนี้ ส่วนคนอื่นก็ช่วยเหลือตามโอกาสอำนวยครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#6 Jengiskhan

Jengiskhan
  • Members
  • 560 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กุงเท่

โพสต์เมื่อ 05 May 2008 - 02:17 PM

ขอบคุณคุณหัดฝันครับ แง่คิดล้ำลึกจริงๆ omg_smile.gif