84,000 พระธรรมขันธ์ นับอย่างไรครับ?
#1
โพสต์เมื่อ 07 August 2006 - 10:42 AM
#2
โพสต์เมื่อ 07 August 2006 - 10:56 AM
3 หมวดหลักๆครับ
1.วินัยปิฎก 21000
2.สุตตันตปิฎก 21000
3.อภิธัมมปิฎก 42000
#3
โพสต์เมื่อ 07 August 2006 - 12:21 PM
ช่วยแก้...เพิ่มเลข 0 ต่อท้ายที่กระทู้
เป็น 84,000 (แปดหมื่นสี่พัน) พระธรรมขันธ์
#4
โพสต์เมื่อ 07 August 2006 - 12:38 PM
2.สุตตันตปิฎก 21000
3.อภิธัมมปิฎก 42000
แล้วตัวเลขดังกล่าว เป็นการนับอะไรครับ ขอละเอียดนิดนึงครับ อยากรู้จริงๆ
#5
โพสต์เมื่อ 07 August 2006 - 12:56 PM
#6
โพสต์เมื่อ 07 August 2006 - 03:35 PM
#7
โพสต์เมื่อ 07 August 2006 - 09:13 PM
ได้ค่ะพระภิกษุในอดีตเขาก็จำกันนะคะ
พระอานนท์ท่นก็จำได้หมดค่ะ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#8
โพสต์เมื่อ 07 August 2006 - 09:38 PM
#9
โพสต์เมื่อ 07 August 2006 - 11:40 PM
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#10
โพสต์เมื่อ 08 August 2006 - 12:19 AM
สุมังคลวิลาสินี อรรถกถาทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม 11 หน้า 108-109
พระพุทธพจน์มี ๘๔,๐๐๐ ด้วยอำนาจแห่งธรรมขันธ์ นับอย่างไร ?
จริงอยู่ พระพุทธพจน์ทั้งหมดนี้ มี ๘๔,๐๐๐ ประเภท ด้วยอำนาจแห่ง
ธรรมขันธ์ ที่ท่านพระอานนท์ แสดงไว้แล้วอย่างนี้ว่า
ธรรมเหล่าใด ที่ขึ้นปากขึ้นใจข้าพเจ้า ข้าพเจ้า
เรียนธรรมเหล่านั้นจากพระพุทธเจ้า ๘๒,๐๐๐
พระธรรมขันธ์ เรียนจากภิกษุ ๒,๐๐๐ พระธรรมขันธ์
รวม ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์.
ในธรรมขันธ์ ๘๔,๐๐๐ นั้น พระสูตรที่มีหัวข้อเรื่องเดียวนับเป็น
ธรรมขันธ์ ๑. พระสูตรใดมีหัวข้อเรื่องหลายเรื่องรวมกัน ในพระสูตรนั้น
นับธรรมขันธ์ตามจำนวนหัวข้อเรื่อง.
ในคาถาประพันธ์ คำถามปัญหาเรื่อง ๑ นับเป็นธรรมขันธ์ ๑
คำวิสัชนาปัญหาเรื่อง ๑ นับเป็นธรรมขันธ์ ๑. ในพระอภิธรรม การแจก
ติกะและทุกะแต่ละอย่าง ๆ และการแจกจิตตวาระแต่ละอย่าง ๆ นับเป็น
ธรรมขันธ์ ๑ ๆ. ในพระวินัย มีวัตถุ มีมาติกา มีบทภาชนีย์ มีอันตราบัติ
มีอาบัติ มีอนาบัติ มีติกเฉทะ (การกำหนดอาบัติเป็น ๓ ส่วน) ในวัตถุ
และมาติกาเป็นต้นเหล่านั้น ส่วนหนึ่ง ๆ พึงทราบว่า ธรรมขันธ์หนึ่ง ๆ.
พระพุทธพจน์มี ๘๔,๐๐๐ ด้วยอำนาจแห่งธรรมขันธ์ นับอย่างนี้แล.
ที่มา
http://www.pariyat.c...y=pariyat&No=54
ลองค้นจากดูเต็มๆ ได้จากพระไตรปิฎกในเวบ DMC ได้เลยครับ
http://www.dmc.tv/dhamma.php
เลือกหัวข้อ "พระไตรปิฎก+อรรถกถา" จากนั้นเลือก "เล่มที่ 11 : พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ลีลขันธวรรค เล่ม 1 ภาค 1" จากนั้นเลือก "หน้า 101 - 120" แล้วดูตรงหน้า 108 - 109 ดูนะครับ จะเห็นข้อความข้างต้น
Someday I'm gonna be free.
#11
โพสต์เมื่อ 08 August 2006 - 10:13 AM
#12
โพสต์เมื่อ 09 August 2006 - 02:48 AM
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#13
โพสต์เมื่อ 09 August 2006 - 10:19 PM
#14
โพสต์เมื่อ 10 August 2006 - 07:08 PM
พระอุทิศกายใจทำไมหนอ
เพียงลำพังพระเองก็สุขพอ
ใยต้องรอผองเราเข้าถึงธรรม
สุนทรพ่อ
I Love You หลายเด้อ
#15
โพสต์เมื่อ 18 August 2006 - 11:49 AM
#16
โพสต์เมื่อ 23 August 2006 - 08:03 PM
#17
โพสต์เมื่อ 25 August 2006 - 02:34 PM
ไม่มีลุ้นเร่งจองมองที่หมาย
ก็จะพบผู้รู้อยู่กลางกาย
ธาตุอ่อนแก่มากมายถึงปลายทาง
#18
โพสต์เมื่อ 09 November 2006 - 11:28 PM
#19
โพสต์เมื่อ 24 June 2007 - 08:09 PM
#20
โพสต์เมื่อ 25 June 2007 - 08:37 AM
#21
โพสต์เมื่อ 04 July 2007 - 04:23 PM
ในสมัยพุทธกาล สงฆ์ท่านใช้วิธีท่องจำ
แล้วนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันของท่าน
อืมม์ ต้องมีสติอยู่กับตัวตลอดเลยเน๊อะ
"จงอย่าเป็นทุกข์เพราะความหยาบคายของผู้อื่น"
"สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม" "เจตนา..นั้นแหละคือ..กรรม"
"จงทำในสิ่งที่ถูกต้อง..มากกว่าถูกใจ" "ไม่มีสิ่งเลวร้ายใดที่คนพูดโกหกทำไม่ได้"