ขอคำแน่ะนำด้วยครับ
#1
โพสต์เมื่อ 06 May 2010 - 11:19 AM
ท่านบอกว่า พระไม่ยอมทำงาน จะเอาเงินไปให้ทำไม อยากทราบว่าควรจะอธิบายท่านอย่างไร ให้เข้าใจเรื่องการทำบุญ
จำได้ว่าเคยเห็นหลายท่านมีปัญหานี้ เลยอยากขอคำแน่ะนำครับ
ผมยังมีผู้ใหญ่อีกท่าน นับถือต่างศาสนา ท่านเคยถามผมว่าที่พระสวดให้พร แปลว่าอะไร ผมก็ตอบไม่ได้ ผมเข้าใจว่าศาสนาที่ท่านนับถืออยู่ เอาคำพูดมาทำเป็นบทสวดท่านก็เลยเข้าใจ ก็เลยไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร
#2
โพสต์เมื่อ 06 May 2010 - 02:28 PM
...การตักบาตรพระ เพราะพระมิได้ทำกับข้าว ไม่ได้ปรุงอาหาร ไม่ได้ทำมาหากินนี่แหละ จึงต้องออกไปขอรับอาหารเป็นมื้อๆ เป็นวันๆ เพื่อประทังชีวิต เพื่อให้มีเรี่ยวแรงในการทำนุบำรุงสิ่งก่อสร้าง และฟื้นฟูพระพุทธศาสนา เพราะโยมๆทั้งหลายไม่ว่างไง ไม่มีเวลาทำบุญ เมื่อใครให้อาหาร ให้กำลังแด่ภิกษุท่าน ผู้นั้นย่อมได้บุญเสมือนไปดูแลวัด ทำนุบำรุงพระศาสนาด้วยตนเอง และการบิณฑบาตรก็เป็นการเอาบุญไปให้ญาติโยมนั่นแหละ เพราะญาติโยมมาวัดเองไม่ค่อยได้ ไม่อยากมาบ้าง ไกลบ้าง ฯลฯ ท่านก็เดินไปหาถึงที่ แบบนี้ไม่ดีหรือ?
...ส่วนเงินที่ถวายพระนั้น ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน เพื่อให้ดูไม่น่ารังเกียจ คือ เป็นอุปกรณ์ในการชำระล้างสิ่งสกปรกของร่างกาย ด้วยเป็นสบู่บ้าง แปรงสีฟัน ยาสีฟัน เข็ม ด้าย หลอดไฟ ฯลฯ ที่สุดท้ายก็เพื่อเอาไปใช้ในวัดเป็นส่วนใหญ่ หากวัดไม่มีทุน ไม่มีเงิน ถึงเวลาของเสียขึ้นมาจะมาเดินเรี่ยไรได้อย่างไร? กว่าจะบอกบุญได้บางทีก็ไม่ทันใช้งาน ส่วนพระที่นำเงินสาธุชนไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตนมากกว่าพระศาสนา ผู้นั้นย่อมได้วิบากกรรมอย่างสาสม เราทำบุญ ก็ไม่ต้องไปคิดถึงตรงนั้น คิดเพียงว่าทรัพย์นี้ขอถวายแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถวายแด่พระพุทธศาสนา ผ่านพระภิกษุสงฆ์รูปนี้ เท่านั้นจิตใจเราก็สะอาดแล้ว
...ส่วนพระให้พร ก็เป็นภาษาบาลี ศาสนาไหนก็แปลได้ ถ้าแปลภาษาบาลีออก หลักๆของคำให้พร ก็มีให้อายุ วรรณะ สุขะ พละ คือให้มีอายุมั่นขวัญยืน มีเกียรติมียศฐาบรรดาศักดิ์ ไม่ตกต่ำ มีความสุข และมีกำลัง มีร่างกายที่แข็งแรง ฯลฯ เป็นหลักจ้า ส่วนพรอื่นๆ ก็จะเป็นการอาราธนะบารมีของ พุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ หรือ อานุภาพนั่นแหละ ตั้งใจฟังไม่ต้องคิดอะไร รับพรก็ได้บุญไปเต็มๆจ้า ส่วนคำแปลให้คนสงสัยไปลองหาอ่านดูก็ได้ ในอินเตอร์เน็ตแปลให้ทุกบทเลยนะ จะว่าไปแล้ว..
#3
โพสต์เมื่อ 06 May 2010 - 05:38 PM
#4
โพสต์เมื่อ 06 May 2010 - 06:25 PM
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#5
โพสต์เมื่อ 07 May 2010 - 07:59 AM
แต่ที่ควรจะทำให้ท่านเข้าใจมากขึ้นคือ "เนื้อนาบุญ" ครับผม
#6
โพสต์เมื่อ 07 May 2010 - 03:42 PM
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=23101
#7
โพสต์เมื่อ 08 May 2010 - 03:46 PM
เขา: ผมชอบช่วยโรงเรียนโรงพยาบาลคนยากจนมากกว่า
เรา: สมัยก่อนกับสมัยนี้,สมัยไหนมี รร.รพ.คนจน มากกว่ากัน ?
เขา: สมัยนี้
เรา: แล้วสมัยไหนมีเรื่องไม่ดีมากกว่ากัน
เขา: สมัยนี้
เรา: แสดงว่า รร.รพ.ถึงมีมากก็แก้ปัญหาสังคมไม่ได้,จะต้องมีพระ""""""""""ทำงาน""""""""""เป็นครูสอนศีลธรรมและเป็นต้นบุญต้นแบบของการเป็นคนดีให้เห็นกันชัดๆไปเลย,จึงจะแก้ปัญหาได้.,พระ""""""""""ทำงานหนักกว่า""""""""""โยมด้วยซ้ำไป.,การเผยแผ่สอนศีลธรรมแก้ปัญหาสังคมนั้นต้องใช้เงินนะท่านผู้ใหญ่.
ส่วนการให้เงินคนจนที่ไม่มีคุณธรรม,ก็สู้ขอให้พระ(ที่วัดพระธรรมกายก็ได้)สอนให้เขาเป็นคนดีก่อนแล้วค่อยให้เงินเขา,จะดีกว่าไหม?.
(๒).ให้บอกผู้ใหญ่ว่า,ก่อนพระให้พรเป็นบาลี,จะให้พรเป็นภาษาไทยก่อน,นำอธิษฐานจิตก็ภาษาไทย,แผ่เมตตาจิตก็ภาษาไทย,ปล่อยสัตว์ปล่อยปลาก็ภาษาไทย,แสดงตนปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะก็ภาษาไทย,ฯลฯ,เทศน์ก็ภาษาไทย,จะให้เทศน์แปลบาลีที่สวดเป็นภาษาไทยก็ได้,พระไตรปิฎกทั้งตู้ก็ภาษาไทยก็มี,(ช่วงนี้มีกองทุนเรียนบาลี,แปลบาลีเป็นไทยด้วย) สรุปคือ ของเรามีสองภาษา,ของเขามีแค่ภาษาเดียว.