ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

สอบถามเรื่อง "พระไหว้พระ"


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 15 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 วุฒิ

วุฒิ
  • Members
  • 20 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 September 2007 - 07:38 PM

ผมมีข้อสงสัยในใจมานานแล้วครับว่าเมื่อพระมาเจอพระจะไหว้กันอย่างไร ดังนี้ครับ
1. พระที่อายุน้อยกว่าแต่บวชมานานกว่าเมื่อมาเจอพระที่อายุมากกว่าแต่เพิ่งบวชใหม่หรือบวชมาน้อยพรรษากว่า ไม่ทราบว่าใครจะต้องเป็นฝ่ายไหว้ก่อนครับ
2. เณรที่บวชมานานแล้วเมื่อมาเจอพระที่บวชใหม่ ไม่ทราบว่าใครควรจะเป็นฝายไหว้ก่อนครับ
3. เราจะทราบได้อย่างไรครับว่าท่านไหนคือพระ ท่านไหนคือเณร โดยเฉพาะเณรที่อายุ 18 - 19 ปี
ท่านใดมีความรู้เรื่องนี้ช่วยตอบหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ

#2 bboon6214

bboon6214
  • Members
  • 124 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 September 2007 - 09:38 PM

ตอบคุณวุฒิ เท่าที่เคยบวชพระมาพอจะอธิบายได้ว่า
1. การลำดับพระนั้นไม่ได้สำคัญว่า ผู้บวชจะมีอายุมากกว่าหรือน้อยกว่า แต่จะนับถือกันที่ว่าใครบวชก่อนหรือบวชหลัง
ผู้บวชก่อน จะเรียกว่าภันเต ส่วนผู้ที่บวชทีหลังก็จะเรียกว่าอาวุโส ดังนั้น เมื่ออาวุโส (ผู้ที่อายุน้อยกว่าในการสร้างบารมี เมื่อมาเจอ ภันเต ก็ต้องคาราวะหรือไหว้ก่อน ส่วนภันเต ก็จะเป็นผู้รับไหว้ เป็นวินัยข้อหนึ่ง
2. ส่วนสามเณร กับพระบวชใหม่ นั้นจะนับถือกันที่ วินัย หรือศีล สามเณร มีศีล 10 ส่วนพระ จะมีศีล 227 ข้อ สามเณร ก็ต้องนับถือหรือไหว้พระ ก่อน หรือแม้แต่ ภิกษุณ๊ แม้บวชเป็นสิบพรรษา เมื่อเจอภิกษุผู้บวชใหม่แม้เพียงวันเดียว ก็ต้องไหว้พระภิกษุ ด้วย เป็นวินัยอีกข้อหนึ่ง
3.การจะดูว่า รุปไหนเป็นพระ หรือเป็นสามเณร ให้ดูจากการครองผ้า ถ้าเป็นการห่มดอง หรือ แบบที่วัดพระธรรมกายห่มกันนั้น จะมีผ้าอีกผืนหนึ่งเรียกว่า สังฆาฏิ ลองสังเกตุคุณครูไม่ใหญ่ครองผ้าดูนะ จะดูหนากว่า ไม่ทราบอธิบายเข้าใจหรือไม่ การเป็นพระ จะมีผ้าสามผืน คือ จีวร สบง และสังฆาฏิ ส่วนสามเณร มีสามสองผืน คือ จีวร กับ สบง นั่นเอง
หากผู้รู้ที่ จะแถลงแจ้งกว่านี้ก้อดีนะ

#3 n00m

n00m
  • Moderators
  • 637 โพสต์
  • Location:Patumthanee

โพสต์เมื่อ 08 September 2007 - 11:59 PM

ข้อมูลถูกต้องหมดเลยครับ แต่ขอเสริมนิดนึงเรื่องพระกับสามเณร เพราะว่าบางครั้งเราอาจจะแยกไม่ออกจริงๆ ถึงพระจะมีผ้าผืนที่สามก็จริง แต่บางครั้งท่านก็อาจจะไม่ได้ห่มสังฆาฏิเสมอไป ยกเว้นวันงานพิธีใหญ่ พิธีที่เป็นทางการ หรือวันพระใหญ่ที่ต้องลงปาฏิโมกข์ครับ

แยกไม่ออกไม่เป็นไรเพราะยังไงทั้งสามเณรและพระภิกษุก็ควรค่าแก่การกราบไหว้โดยไม่มีข้อยกเว้นสำหรับพวกเรา ถูกต้องเปล่าครับผม

#4 suppy001

suppy001
  • Members
  • 2210 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 September 2007 - 08:16 AM

เรื่องนี้ ถ้าใครได้บรรพชา (บวชเณร) หรือ อุปสมบท (บวชพระ) ก็จะมีการสอนธรรมเนียมปฏิบัติตามพระธรรมวินัย อย่างที่ได้กล่าวกันมาแล้วครับ สำหรับพระภิกษุท่านก็ยังมีการแบ่งตามอายุพรรษาอีก คือพระนวกะ พระเถระ พระมหาเถระ โดยใช้อายุพรรษามาเป็นตัวกำหนด เช่นพระนวกะ คือพระบวชใหม่ ผมไม่แน่ใจว่าอายุพรรษาระหว่าง ๑-๗ พรรษาหรือเปล่านะครับ ซึ่งพระนวกะจะเป็นพระที่ยังต้องอยู่ใกล้ชิดครูบาอาจารย์ จึงมักจะไม่ไปที่ไกลๆ หรือไปโดยลำพังเพราะจะเสี่ยงต่อการทำผิดพลาดหรือเป็นอันตรายต่อเพศพรหมจรรย์ได้ง่าย สำหรับพระเถระก็ ๑๐ พรรษาขึ้นไป พระมหาเถระตั้งแต่ ๒๐ พรรษา ขึ้นไป (ผู้ใดมีข้อมูลที่ถูกต้องก็ช่วยกรุณาชี้แนะด้วยนะครับ) สำหรับในกรณีที่มีพระมาประชุมกันมากๆ อย่างเช่นที่วัดของเรา สำหรับพระภิกษุที่เป็นประธานสงฆ์ เช่นพระเดชพระคุณหลวงพ่อ จะเห็นว่าท่านจะยกมือพนมแล้วกล่าวว่า "นมัสการพระเถรานุเถระที่มีอายุพรรษามากกว่าข้าพเจ้า" ซึ่งก็ถือว่าเป็นการพูดโดยรวม แต่ในกรณีที่ท่านทราบว่าองค์ใดที่มีอายุพรรษามากกว่าท่านเราจะเห็นพระเดชพระคุณหลวงพ่อเข้าไปกราบนมัสการด้วยความเคารพอ่อนน้อมอยู่เสมอ ซึ่งเราจะเห็นภาพที่น่าประทับใจเช่นนี้เป็นประจำครับ ก็ขอแสดงความเห็นเพิ่มเติมเพียงเท่านี้นะครับ...สาธุ

#5 อหิงสา อโหสิ

อหิงสา อโหสิ
  • Members
  • 18 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 September 2007 - 03:37 PM

*---แล้วพระจะห่มผ้าเหลืองแบบไหน ราคาใด หรือชนิดใดก็ได้ใช่หรือไม่ ขึ้นอยู่กับผู้นำมาถวายให้ใช่หรือไม่...
Without body.What trouble could I have?

#6 n00m

n00m
  • Moderators
  • 637 โพสต์
  • Location:Patumthanee

โพสต์เมื่อ 09 September 2007 - 04:32 PM

พระนวกะ พรรษา 1-5 พระเถระ 10 พรรษาขึ้นไป พระมหาเถระ 20 พรรษาขึ้นไปครับ

#7 suppy001

suppy001
  • Members
  • 2210 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 September 2007 - 05:33 PM

ขอบคุณครับ... สาธุ

#8 นักรบกองทัพธรรม

นักรบกองทัพธรรม
  • Members
  • 54 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 September 2007 - 09:46 PM

พระอาจารย์ของผมดูแลผมตอนบวชเณรดีมาก ท่านเป็นพระเทศน์ธรรมมะรู้เรื่อง เข้าใจง่าย สนุก ขำ มีนิทานมาเล่าให้ฟังเป็นนิจ
ตอนผมบวชเณรมีตอนหนึ่ง ตอนเช้าก่อนทำวัตร ท่านบอกว่าตื่นแล้วเก็บข้าวของให้เรียบร้อยไม่งั้นพระอาจารย์จะเก็บให้
พอทำวัตรนั่งสมาธิเสร็จ ก็ไปฉัน พอกับมาเป็ฯช่วงพักผ่อน ผมเห็นพระอาจารย์เก็บข้าวของอยู่ของใครไม่รู้คงวางไม่เรียบร้อย
ผมและเพื่อนเณรไปช่วยและถามว่าทำไมพระอาจารย์ถึงทำอย่างงี้ พระอาจารย์บอกว่าเราทำเพื่อพระสงฆ์ซึ่งเป็นพระรัตนตรัย
ถึงเป็นเณรบวชเเล้วก็ถือเป็นหนึ่งในพระรัตนตรัย คือพระสงฆ์ เราทำเพื่อบูชาพระสงฆ์ คือพระรัตนตรัย แล้วยังเล่าอีกว่ามีอยู๋ตอนหนึ่งพระอาจารย์ เห็นพระบวชใหม่มา จึงไหว้แล้วอนุโมธนาบุญสาธุ แล้วใจคิดว่า ตอนนี้เราทำการสักการะพระสงฆ์ ในพระรัตนตรัย และอนุโมธนาบุญที่พระองค์บวชมาพระอาจารย์บอกว่าพระอาจารย์ไม่ได้ไหว้พระองค์นั้น แต่ไหว้พระรัตนตรัย คือพระสงฆ์
และอนุโมธนาบุญด้วย ทำให้ผมอึ้งและศรัทธาในพระอาจารย์มากขึ้นครับ



ปล.พระอาจารย์ผมมีเมลอยู่ใครอยากคุยกับท่านทางMSNเชิญได้ ตอนนี้พระอาจารย์บอกว่ามีเมลลูกศิทย์กว่า400เมล
ใครอยากสนธนาธรรมและกับพระอาจารย์เชิญได้ [email protected] ท่านบอกว่าให้ผมมาแจกเพื่อนผมเลยมาแจกเพื่อนร่วมวัฏฏสงสารทุกคนครับ ตอบปัญหาธรรม ท่านใดเชิญผมเอาบุญมาไห้เเล้ว ขอไห้โชคดี (ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนหลอกเพราะเว็บนี้มีแต่นักสร้างบารมี) ช่วงเวลาไม่แน่นอนแล้วแต่บุญและกรรมจ้า

#9 วุฒิ

วุฒิ
  • Members
  • 20 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 September 2007 - 09:06 AM

ขอบคุณทุกๆท่านที่เข้ามาให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ครับ สาธุ

#10 Poti

Poti
  • Members
  • 254 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 September 2007 - 07:51 PM

สาธุกับทุกท่านครับ
เพิ่มเติมครับ คุณวุฒิ - bboon
บางครั้งพระท่านห่มแบบไม่ใช้สังฆาฏิ แต่ก็สังเกตได้ครับ คือ
แนวจีวรตรงไหล่ซ้ายจะมีตะเข็บ 2 รอย เป็นพระครับ
ถ้าไมีมี เป็นสามเณรครับ
ลองสังเกตดูนะครับ จะได้เรียกท่านถูก และท่านจะได้ไม่เขิน
และที่วัดเราสังเกตได้อีกหลายอย่าง เช่น สีจีวร เนื้อผ้า อังสะ

#11 เด็กใจใส

เด็กใจใส
  • NoWebboard
  • 22 โพสต์
  • Interests:ที่สุดของที่สุดของการได้รู้แจ้ง เห็นแจ้ง

โพสต์เมื่อ 10 September 2007 - 08:56 PM

คำตอบ ของปัญหาโลกแตก คือ

1.ผู้ที่ยังไม่เข้าถึงธรรมกาย ต้องใหว้ก่อน
2.ผู้ที่ยังไม่เข้าถึงธรรมกาย ต้องใหว้ก่อน
3.ผู้ที่ยังไม่เข้าถึงธรรมกาย ต้องใหว้ก่อน

ผู้ใด ให้ผู้เข้าถึงพระธรรมกายไหว้ก่อน ผู้นั้นย่อมไม่เห็น พระธรรมกาย

ถ้าตอบกวน ก็อโหสิ ให้ด้วยนะ

#12 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 11 September 2007 - 04:29 PM

ต้องขอแก้ข้อมูลของคุณ เด็กใจใส หน่อยนะครับ
ที่กล่าวว่า ผู้ยังเข้าไม่ถึงพระธรรมกาย ต้องไหว้ ผู้เข้าถึงพระธรรมกายก่อน เสมอ

แนวความเห็นนี้ ยังมีข้อยกเว้นน่ะครับ
คือ ในกรณีของผู้ครองเรือน แม้ได้เข้าถึงพระธรรมกายโสดาบัน สกทาคามี อนาคามีแล้วก็ตาม ต้องกราบไหว้แม้สามเณรที่พึ่งบวชในวันนั้นครับ แม้ท่านจะยังไม่บรรลุธรรมใดๆ ก็ตาม ทั้งนี้เพราะสามเณรมีศีลสูงกว่า ผู้ครองเรือน

ดังเช่น ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ที่บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน หรือ ลูกสาวท่าน ที่บรรลุธรรมเป็นพระอนาคามี ท่านกราบไหว้พระเณรเสมอครับ แม้พระเณรท่านนั้น จะยังเป็นปุถุชน (ชนที่ยังหนาไปด้วยกิเลส) ก็ตาม
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#13 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 11 September 2007 - 07:56 PM

QUOTE
หรือ ลูกสาวท่าน ที่บรรลุธรรมเป็นพระอนาคามี

nerd_smile.gif ลูกสาวของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีเป็นพระสกทาคามี/สกิทาคามีนะครับ ไม่ใช่อนาคามีบุคคล
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#14 kiangjung

kiangjung
  • Members
  • 119 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 September 2007 - 01:22 PM

อนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ให้ความรู้ ช่วงที่พิมพ์พระเคยเรียกสามเณรที่วัดเราเป็นหลวงพี่ ท่านบอกว่ายังเป็นสามเณรอยู่ ต้องกราบขอโทษท่าน เพราะดูไม่เป็น ได้ความรู้มากขึ้น ส่วนที่คุณ Poti บอกว่าที่วัดเราสังเกตุได้จาก สีจีวร เนื้อผ้า อังสะ ช่วยอธิบายเพิ่มเติมหน่อยค่ะ จะได้เป็นความรู้ คราวหน้าจะได้ไม่ผิดอีก

#15 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 12 September 2007 - 04:40 PM

ขอบคุณ น้องไชยานุภาพ ครับ ที่ช่วยแก้ข้อมูลให้
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#16 ว่างว่าง

ว่างว่าง
  • Members
  • 200 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 October 2007 - 11:53 AM

อนุโมทนาบุญครับ สาธุhappy.gif