สรุปกรณีศึกษากฎแห่งกรรม
วันเสาร์ที่ 15 เมษายน 2549
วันเสาร์ที่ 15 เมษายน 2549
โยมพ่อของเจ้าของเคสมีเชื้อสายจีน อาศัยอยู่ที่บุรีรัมย์ เข้ามาทำงานในกรุงเทพตั้งแต่อายุ 18 ปี และได้มาพบกับโยมแม่ของเจ้าของเคส โดยท่านทั้งสองมีลูกด้วยกันทั้งหมด 6 คน โยมพ่อของเจ้าของเคสมีอาชีพขับรถแท็กซี่ มีอุปนิสัยชอบสูบบุหรี่ และดื่มเหล้าทุกเย็นก่อนนอน และมักจะเมาหลับคาวงเหล้า จึงเป็นหน้าที่ของโยมแม่และลูกๆ ที่จะต้องพาโยมพ่อของเจ้าของเคสเข้านอนเกือบทุกครั้ง ต่อมาเมื่อเจ้าของเคสได้มาบวชเป็นพระที่วัดพระธรรมกาย ก็ได้มีโอกาสไปโปรดโยมพ่อและโยมแม่ที่บ้าน และได้ถือโอกาสแสดงธรรมเรื่องศีล 5 และอานิสงส์จากการรักษาศีลใหท่านทั้งสองฟัง ซึ่งเจ้าของเคสก็ทราบในเวลาต่อมาว่าโยมพ่อได้ตัดสินใจเลิกเหล้าและบุหรี่โดยเด็ดขาด โยมพ่อของเจ้าของเคสเสียชีวิตในขณะที่นอนพักผ่อนอยู่ในเก้าอี้ด้วยอาการสงบ
โยมแม่ของเจ้าของเคสประสบอุบัติเหตุตกจากมอเตอร์ไซจนสลบต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล อีก3-4 ปีต่อมาโยมแม่ของเจ้าของเคสก็ล้มป่วยเป็นโรคสมองฝ่อ ความจำเลอะเลือน จะจัดกระเป๋าเสื้อผ้าและบอกว่าจะไปบ้านญาติตลอดเวลา ต่อมาโยมแม่ของเจ้าของเคสก็เริ่มทานอาหารมากขึ้นจนอ้วน พักหลังอาการหลงๆ ลืมก็มากขึ้นโดยจะเอาอาหารใส่จานขยำเล่น ทุกครั้งที่เจ้าของเคสไปเยี่ยม โยมแม่ของเจ้าของเคสก็จะเดินวนรอบตัวและกล่าวว่า "พระมาๆ" โดยไม่ถูกเนื้อต้องตัวเจ้าของเคสเลย ก่อนเสียชีวิตประมาณ 6 เดือน โยมแม่ของเจ้าของเคสเริ่มเบื่ออาหารจนร่างกายซูบผอมลงไปเรื่อยๆ ทั้งยังไม่ยอมนอน ได้แต่นั่งพิง เวลาหลับคอก็จะพับไปข้างหน้า ทำให้มีเส้นยึดต้องก้มหน้าอยู่ตลอดเวลา เวลาจะมองใครก็จะต้องเหลือบตามองทั้งๆ ที่ก้มหน้าอยู่ ต่อมาโยมแม่ของเจ้าของเคสก็เสียชีวิตด้วยอาการสงบเมื่ออายุได้ 70 ปี
น้องชายของเจ้าของเคสเคยบวชพระอยู่ 1 พรรษา ต่อมาก็ประสบอุบัติเหตุจากการขับขี่รถจักรยานยนตร์จนเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 24 ปี โยมอาของเจ้าของเคสเคยบวชพระอยู่ 3 พรรษา โยมอาลาสิกขาเพื่อมาแต่งงานกับหญิงหม้าย ซึ่งมีลูกติดมา 1 คน ต่อมาก็มีลูกสาวด้วยกันอีกหนึ่งคน โยมอาชอบดื่มเหล้า เมื่อเมาก็มักจะอาละวาด ทำร้ายร้างกายภรรยาอยู่เสมอ ครั้งหนึ่งลูกเลี้ยงบันดาลโทสะจากการที่โยมอาชอบทำร้ายแม่ของตนเอง จึงใช้ด้ามจอบตีโยมอาจนเสียชีวิต
เจ้าของเคสเกิดที่กรุงเทพฯ คลอดในรถขณะเดินทางเกือบจะถึงโรงพยาบาลเวลาเพลพอดี พอไปถึงโรงพยาบาลเจ้าหน้าที่ก็ตัดสายสะดือและทำแผลห้ามเลือด ทำให้ปลอดภัยทั้งเจ้าของเคสและโยมแม่ ต่อมาเมื่อเจ้าของเคสอายุได้เกือบขวบ ก็มีอาการป่วยเป็นแผลฝีหนองที่ศีรษะ รักษาอย่างไรก็ไม่หาย โยมแม่ของเจ้าของเคสต้องคอยใช้น้ำอุ่นเช็ดทำความสะอาดอยู่ตลอด แต่อาการป่วยดังกล่าวก็หายไปเองเมื่ออายุได้ขวบครึ่ง
เจ้าของเคสเป็นลูกคนที่ 4 จากพี่น้องทั้งหมด 6 คน โยมแม่จะสอนลูกขณะทานข้าวกันพร้อมหน้า โดยจะย้ำกับลูกผู้ชายอยู่เสมอว่าจะต้องบวชก่อนที่จะมีครอบครัว ต่อมาเจ้าของเคสก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร ซึ่งในระหว่างที่เป็นทหารนั้นเอง เจ้าของเคสก็ได้รู้จักวัดพระธรรมกายจากหน้าหนังสือพิมพ์ ต่อมาเจ้าของเคสก็ได้อ่านหนังสือธรรมทายาท ซึ่งเจ้าของเคสก็อ่านโดยไม่ได้คิดอะไร แต่สุดท้ายก็อ่านไปอ่านมาถึง 50 รอบด้วยความประทับใจในเนื้อหาของหนังสือดังกล่าว เจ้าของเคสจึงตัดสินใจบวช โดยได้ขออนุญาติจากผู้บังคับบัญชา โยมพ่อและโยมแม่ ทั้งโยมพ่อและโยมแม่ของเจ้าของเคสรู้สึกปลื้มปิติกับการบวชครั้งนี้มาก จากนั้นเจ้าของเคสจึงเดินทางมาอบรมธรรมทายาทที่วัดพระธรรมกาย ซึ่งเป็นการเดินทางมาวัดเป็นครั้งแรก
หลังบวชได้ 6 เดือน เจ้าของเคสก็ได้ลาพระอาจารย์เพื่อไปปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรี แต่ก็ยังมาร่วมบุญกับหมู่คณะทุกวันอาทิตย์ เมื่อปี 2531 เจ้าของเคสก็ได้ไปช่วยงานเพื่อสหธรรมมิกที่ธุดงค์สถานล้านนา ซึ่งเป็นสาขาของวัดพระธรรมกาย ทำให้ได้มาวัดเฉพาะงานบุญใหญ่หรือวันอาทิตย์ต้นเดือนเท่านั้น
ต่อมาในปี 2537 ก็มีโยมผู้หญิงคนหนึ่งได้นิมนต์เจ้าของเคสไปช่วยงานเจ้าอาวาสซึ่งเป็นพี่ชายของโยมผู้หญิงคนดังกล่าว โดยวัดแห่งนี้เป็นวัดที่สร้างขึ้นใหม่ในจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเจ้าอาวาสรูปนี้เป็นเจ้าอาวาสองค์แรก ท่านเป็นผู้บุกเบิกสร้างวัดด้วยปัจจัยของท่านเองทั้งหมดตั้งแต่ปี 2534 ก่อนหน้าที่จะมาสร้างวัด เจ้าอาวาสรูปนี้ท่านบวชเป็นพระประจำอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ เป็นเวลาหลายสิบปีจนอายุเริ่มมาก จึงรวบรวมปัจจัยที่ญาติโยมถวาย มาสร้างวัดดังกล่าว โดยท่านมีอุปนิสัยตรงไปตรงมา ภายในวัดท่านจะห้ามไม่ให้ใครทิ้งขยะ ห้ามนำเอาสุราหรืออบายมุขเข้ามาภายในวัดโดยเด็ดขาด เจ้าของเคสจะรับผิดชอบดูแลรักษาความสะอาดและความเรียบร้อยของวัด ตกเย็นก็จะนำสาธุชนสวดมนต์ทำวัตรเย็น
ปลายปี 2539 เจ้าอาวาสรูปนี้ก็มรณภาพลงด้วยอาการหัวใจล้มเหลว จากนั้นเจ้าอาวาสรูปที่สองก็ขึ้นดำรงตำแหน่งอยู่ได้ 1ปีก็ย้ายไปเป็นเจ้าอาวาสวัดอื่น เจ้าอาวาสองค์ที่สามก็มาดำรงตำแหน่งอยู่ได้ 3 ปีก็มรณภาพด้วยโรควัณโรคเนื่องจากสูบบุหรี่จัด เจ้าอาวาสองค์ที่สี่ดำรงตำแหน่งได้ 3 ปีก็มรณภาพโดยอาการสงบ เจ้าของเคสจึงรู้สึกหวั่นไหว จึงรับนิมนต์ไปรักษาการเจ้าอาวาสอยู่ที่ธุดงค์สถานเมืองแก้ว ซึ่งไม่ไกลจากวัดเดิมและอยู่มาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้
โยมพี่เขยเป็นชาวอิตาลี ได้ประสบอุติเหตุทางรถยนต์ กรามหัก ขาหัก กระดูกหัวไหล่หัก กระดูกข้อมือหัก เส้นเอ็นที่ขาขาดจนไม่สามารถเดินได้ ต้องผ่าตัดเปลี่ยนเส้นเอ็นที่ต่างประเทศถึง 12 ครั้ง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จสักครั้งเดียว หมอที่ทำการรักษาได้นัดเพื่อทำการผ่าตัดอีกครั้ง โยมพี่เขยรู้สึกท้อแท้มากจนบอกกับทุกคนว่าถ้าผ่าตัดครั้งนี้แล้วเดินไม่ได้ ก็จะฆ่าตัวตาย เจ้าของเคสเห็นสบโอกาสพาโยมพี่เขยมาพบคุณยายอาจารย์ ทันทีที่โยมพี่เขยเห็นคุณยายอาจารย์และทราบว่าคุณยายอาจารย์มีอายุถึง 88 ปีแล้ว โยมพี่เขยรู้สึกแปลกใจถึงกับอุทานว่าคุณยายอาจารย์มีหน้าตาอ่อนกว่าวัย ไม่เหมือนคนอายุ 88 ปีเลย จากนั้นก็จับมือคุณยายอาจารย์พูดทั้งน้ำตาขอร้องให้คุณยายอาจารย์ช่วยให้หายจากอาการเจ็บป่วยด้วย คุณยายอาจารย์ก็ได้รับปากว่าจะช่วยเหลือ ทั้งปลอบโยมพี่เขยว่าจะต้องหายจากอาการป่วย ซึ่งภายหลังการผ่าตัดครั้งที่ 13 โยมพี่เขยก็หายและสามารถเดินได้เหมือนเดิมจริงๆ
QUOTE
หลับตา ฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาวหนึ่งที แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรา
Q: โยมพ่อตายแล้วไปอยู่ภพภูมิใด ตอนที่ตายใหม่โยมพ่อของเจ้าของเคสรู้สึกตัวหรือไม่ว่าตายแล้ว โยมพ่อมีข้อความใดฝากมาบอกลูกๆ บ้างหรือไม่
[attachmentid=3898]
A: โยมพ่อของเจ้าของเคสตายแล้วก็ถูกเจ้าหน้าที่มาตัวไปที่ยมโลกของมหานรกขุมห้าด้วยวิบากกรรมดื่มสุราและสูบบุหรี่ ตอนนั้นโยมพ่อของเจ้าของเคสรู้ตัวว่าตายแล้ว ขณะนี้กำลังถูกเจ้าหน้าที่กรอกน้ำทองแดงและขี้เถ้าร้อน ทุกข์ทรมานมาก ไม่มีเวลาพูดหรือฝากข้อความใดมา ถ้าไม่มีบุญบวชของเจ้าของเคนสมาช่วยไว้ โยมพ่อของเจ้าของเคสจะต้องไปรับโทษในมหานรกขุมห้า ให้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้บ่อยๆ ก็จะพ้นจากยมโลกเร็วขึ้น
Q: กรรมใดที่ทำให้โยมแม่ของเจ้าของเคสป่วย คอยแต่จะเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า หรือหลงถึงขนาดขยำอาการเก่าเล่น และเพราะบุพกรรมที่ทำให้โยมแม่ของเจ้าของเคสไม่ยอมนอน ต้องนั่งคอพับ จนเส้นยึดไม่สามารถเงยหน้าได้อีกจนเสียชีวิต โยมแม่มีคตินิมิตรก่อนตายอย่างไร ตายแล้วไปอยู่ภพภูมิใด
[attachmentid=3896][attachmentid=3899]
A: เพราะบุพกรรมสุรา มุสาและวจีกรรมอื่นๆ ทั้งในอดีตและปัจจุบันมาส่งผล โดยในอดีตโยมแม่ของเจ้าของเคสชอบดื่มสุรา เมื่อเมาแล้วก็จะด่าว่าและโกหกผู้อื่นอยู่เสมอ เช่นครั้งหนึ่งตอนหนุ่มเมื่อดื่มเหล้าก็กลับบ้านดึกดื่น ทำให้มารดาในชาตินั้นนั่งคอยจนหลับไป และเมื่อกลับมาก็ยังด่าว่ามารดาที่คอยเปิดประตูให้ด้วยความเป็นห่วง ทำให้มารดาในชาตินั้นเสียใจอยู่เสมอ เพระวิบากกรรมดังกล่าวเลยทำให้สมองเสื่อม ความจำเลอะเลือนและต้องมานั่งหลับจนเส้นยึด เงยหน้าไม่ได้
[attachmentid=3901]
ตายแล้วโยมแม่ของเจ้าของเคสไปเกิดเป็นภุมมะเทวาระดับล่าง ซึ่งก็ยังมีอาการไม่สมบูรณ์นัก คล้ายๆ ตอนเป็นมนุษย์ ให้เจ้าของเคสอุทิศบุญไปให้บ่อยๆ
Q: โยมน้องชายตอนใกล้ตายนึกถึงบุญที่เคยบวชพระได้หรือไม่ ตอนนี้อยู่ภพภูมิใด
[attachmentid=3902]
A: โยมน้องชายตายแล้วร่อนเร่อยู่พักหนึ่ง ตอนนี้ไปเกิดใหม่เป็นมนุษย์แล้ว ไม่อาจจะรับบุญได้
Q: บุพกรรมใดที่ทำให้โยมอาถูกลูกเลี้ยงใช้ด้ามจอบตีจนเสียชีวิต ตายแล้วอยู่ภพภูมิใด บุญที่โยมอาเคยบวชพระมาช่วยโยมอาอย่างไรบ้าง
[attachmentid=3903]
A: เพราะกรรมในอดีตที่ชอบดื่มสุราจนเมา เมื่อเมาแล้วก็จะชกต่อยกับผู้อื่นเป็นประจำ ครั้งหนึ่งเมื่อเมาก็ทะเลาะวิวาทเหมือนเช่นเคย แต่ครั้งนี้โยมอาทุบคู่วิวาทจนตาย ผู้ตายได้ผูกเวรไว้ก่อนตายในชาตินั้น ในชาติปัจจุบันผู้ตายได้มาเกิดเป็นลูกเลี้ยง วิบากกรรมดังกล่าวจึงทำให้มาฆ่ากันตาย
[attachmentid=3904]
ตายแล้วโยมอาก็ไปรับโทษในอุสทนรกของมหานรกขุมห้าทันทีด้วยกรรมดื่มสุรา ขณะนี้กำลังแหวกว่ายอยู่ในทะเลน้ำกรดร้อนสีดำ ได้รับความทุกข์ทรมานมาก บุญที่เคยบวชพระช่วงสั้นตามประเพณีได้ช่วยไว้ไม่ให้ไปตกมหานรกขุมห้า ให้ทำบุญอุทิศไปให้บ่อยๆ บุญดังกล่าวจะไปคอยโยมอาอยู่ที่ยมโลก
Q: เจ้าอาวาสองค์แรกที่บุกเบิกสร้างวัดเองมรณภาพแล้วไปไหน บุญที่ท่านได้สร้างวัดส่งผลให้ท่านเป็นอย่างไรบ้าง เจ้าอาวาสองค์ที่สามและสี่มรณภาพแล้วไปไหน
[attachmentid=3905]
A: ไปเกิดเป็นยักษ์ชั้นสูง มีวิมานเป็นทองใหญ่โตในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาเพราะบูญสร้างวัด แต่ที่มาเกิดเป็นยักษ์เพราะอุปนิสัยมักโกรธ ขี้หงุดหงิด ชอบดุ ถ้าไม่มีวิบากกรรมมักโกรธก็จะไปเสวยสุขในสวรรค์ชั้นที่สูงกว่านี้มากด้วยบุญเดียวกัน
[attachmentid=3906]
เจ้าอาวาสองค์ที่สามเมื่อมรณภาพแล้วก็ไปเกิดเป็นยักษ์ชั้นกลางในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา มีควันออกจากจมูกตลอดเวลาเพราะวิบากกรรมใจขุ่นอยู่เสมอ และชอบสูบบุหรี่
[attachmentid=3907]
เจ้าอาวาสองค์ที่สี่เมื่อมรณภาพแล้วก็ไปเกิดเป็นภุมมะเทวาชั้นดี ด้วยบุญที่บวชพระเพื่อรักษาวัด
Q: กรรมใดที่ทำให้โยมพี่เขยประสบอุบัติเหตุจนกระดูกหักหลายแห่ง เส้นเอ็นที่ขาขาดจนเดินไม่ได้ ต้องเข้ารับการผ่าตัดถึง 13 ครั้ง และที่กลับมาเดินได้เพราะคุณยายอาจารย์ช่วยใช่หรือไม่ ถ้าไม่ได้มากราบขอความช่วยเหลือจากคุณยายอาจารย์ โยมพี่เขยจะหายป่วยและเดินได้หรือไม่ หรือโยมพี่เขยจะฆ่าตัวตายตามที่โยมพี่เขยพูดไว้หรือไม่
[attachmentid=3909][attachmentid=3910]
A: เพราะวิบากกรรมในอดีตที่เคยเป็นนายพราน ซึ่งใช้วิธีขุดหลุมดักสัตว์ เมื่อสัตว์ตกลงไปในหลุมก็จะใช้หินทุ่มใส่จนสัตว์ตาย บางครั้งจะทำกับดักงับขาสัตว์ เมื่อสัตว์มาติดกับดัก ขาก็จะถูกงับจนเส้นเอ็นขาด และจะฆ่าภายหลังอยู่เป็นประจำ
[attachmentid=3911]
ที่เดินได้เพราะบุญในปัจจุบัน และบุญที่คุณยายอาจารย์ได้ช่วยแก้ไข ประกอบกับวิบากกรรมเจือจางลงแต่ยังไม่หมด ถ้าไม่ได้มากราบคุณยายอาจารย์ก็จะเดินไม่ได้ และอาจฆ่าตัวตายตามที่โยมพี่เขยพูดไว้
Q: กรรมใดที่ทำให้โยมพี่เขยปวดในกระดูก จนต้องฉีดมอร์ฟีนทุกสามชั่วโมง การฉีดมอร์ฟีนแก้ปวดจะมีวิบากกรรมอย่างไร เพราะมอร์ฟีนเป็นสารเสพติด
[attachmentid=3912][attachmentid=3913]
A: ที่ปวดจนต้องฉีดมอร์ฟีนเพราะวิบากกรรมดักสัตว์ ที่บางครั้งจะปล่อยไว้เป็นเวลาหลายวันเพื่อเก็บไว้เป็นอาหาร และเพราะกรรมที่ผูกขาสัตว์ไม่ให้หนี ทำให้สัตว์ได้รับความทุกข์ทรมานมากมาส่งผล การฉีดมอร์ฟีนไม่มีวิบากกรรมเพราะเป็นการรักษาอาการปวด
Q: กรรมใดที่ทำให้เจ้าของเคสมีแผลฝีหนองที่ศรีษะทั้งๆ ที่อายุไม่ถึงขวบ และเพราะเหตุใดอาการป่วยจึงหายไปเองเมื่ออายุได้ขวบเศษ
[attachmentid=3914]
A: เพราะวจีกรรมในอดีตที่ไปล้อเลียนเพื่อนในอดีตที่เป็นแผลที่ศรีษะว่าหัวเน่า ทำให้เพื่อนได้รับความอับอายมาส่งผล แต่วิบากกรรมดังกล่าวเจือจางจึงทำให้หายไปเอง จะรักษาหรือไม่รักษาก็จะหายไปเองเพราะหมดวิบากกรรม
Q: เคยมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับรถที่เจ้าของเคสใช้เดินทางมาวัดพระธรรมกายถึงสองครั้ง แต่ก็ไม่เป็นอะไรเพราะบุพกรรมใด
[attachmentid=3915]
A: เพราะเศษกรรมยิงนก ตกปลา ฆ่าสัตว์ทำอาหารทั้งในอดีตและปัจจุบันมาส่งผล แต่กรรมไม่หนักมากประกอบกับบุญที่บวชมาคุ้มครองไว้ จึงไม่เป็นอะไรมาก
Q: เจ้าของเคสเคยสร้างบารมีมากับหมู่คณะอย่างไร ในพุทธันดรที่แล้วได้ลงมาสร้างบารมีหรือไม่ มีหน้าที่อะไรในกองทัพธรรม มีผังบวชหน่าแน่นหรือไม่ ชาติที่แล้วเจ้าของเคสเคยเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดใดหรือเปล่า ชาติปัจจุบันมีบุญได้บวชตลอดชีวิตหรือไม่ และจะมีบุญได้ทำหน้าที่เจ้าอาวาสหรือไม่
[attachmentid=3916]
A: เจ้าของเคสเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมา โดยพุทธันดรที่ผ่านมาได้ทำหน้าที่เป็นกุลบุตร โดยได้ออกบวชกับพระราชาจนตลอดชีวิต แต่ช่วงแรกที่ออกบวชเป็นคนสอนยาก ในชาตินั้นทำหน้าที่เผยแผ่ มีผลการปฏิบัติธรรมได้องค์พระภายใน พอเอาตัวรอดกับดุสิตบุรีได้
[attachmentid=3917]
เจ้าของเคสมีผังบวชตลอดชีวิต ให้ตั้งใจทำผังนี้ให้หนาแน่น โดยให้ดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาท เจ้าของเคสมีบุญเพียงพอที่จะเป็นเจ้าอาวาสได้ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจว่าจะรับตำแหน่งหรือไม่
[attachmentid=3918]
ชาตินี้เมื่อมาเจอกันแล้วก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีในทุกๆ บุญอย่างเต็มที่
และอฐิษฐานจิต ตามติดไปดุสิตบุรี อย่าได้พลัดกันอีกเลย
และอฐิษฐานจิต ตามติดไปดุสิตบุรี อย่าได้พลัดกันอีกเลย