เชื่อไหม น้ำก็มีจิตใจรับรู้สภาวะแวดล้อมรอบข้างได้เช่นกัน
#1
โพสต์เมื่อ 21 September 2006 - 09:10 AM
ภายในห้องทดลองของมาซารุ
มาซารุ เกิดแรงบันดาลใจว่า น้ำธรรมดาๆ จะสามารถถ่ายทอดพลังงานเข้าไปสู่ตัวมันได้จริงหรือ? ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง แล้วจะสามารถอ่านข้อมูลที่น้ำบันทึกไว้ได้อย่างไร จากการทำงานศึกษาวิจัยอย่างหนัก เขาใช้เวลา ไปกับการเก็บตัวอย่างน้ำในที่ต่างๆ ทั่วโลก และสร้างห้องเย็นที่มีอุณหภูมิ -๕ องศาเซลเซียส ซึ่งในอุณหภูมิขนาดนี้ คนจะสามารถเข้าไปทำงานในห้องนั้นได้อย่างมาก ไม่เกินคราวละ ๓๐ นาทีเท่านั้น เขาศึกษาผลึกของน้ำ และพยายามถ่ายภาพผลึกน้ำต่างๆ เพื่ออ่านข้อมูลที่บันทึกไว้ หลังจากการลองผิดลองถูกมานับครั้งไม่ถ้วน ด้วยการนำกล้องถ่ายรูปติดเข้ากับกล้องจุลทรรศน์ เข้าไปถ่ายผลึกของน้ำในตู้แช่แข็งขนาดใหญ่ เป็นเวลานานร่วม ๒ เดือน และใช้ฟิล์มไปหลายพันม้วน ในที่สุดเขาก็สามารถถ่ายภาพผลึกของน้ำภาพแรกได้สำเร็จ
ภาพที่1 ตัวอย่างผลึกนําที่ได้มาจากน้ำพุที่เมือง Lourdes ประเทศฝรั่งเศส
ภาพที่2 ผลึกน้ำแข็งจากน้ำใต้ดินของเกาะ เหนือ ประเทศนิวซีแลนด์
ภาพที่3 ผลึกน้ำแข็ง ที่เปิดเสียงสวดมนต์ Hado ของญี่ปุ่นให้ฟัง
ภาพที่4 ผลึกน้ำแข็ง ที่เปิดเพลง Heavy Metal จังหวะกระชากกระชั้น นําฟังหลังจากนั้น เขาได้ศึกษาและเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นเวลาประมาณ ๔ ปีครึ่ง ก็ได้ภาพของผลึกน้ำประมาณหนึ่งหมื่นภาพ พร้อมๆ กับการค้นพบอันน่ามหัศจรรย์เหลือเชื่อ มาซารุพบว่า น้ำจากที่ต่างๆ มีผลึกที่ ไม่เหมือนกัน น้ำจากธรรมชาติมีผลึกที่สวยงาม ในขณะที่ น้ำที่มีการปนเปื้อนสารเคมีและสิ่งสกปรกต่างๆ จะมีผลึก ที่น่าเกลียดน่ากลัว มาซารุเก็บตัวอย่างน้ำจากที่ต่างๆ และนำมาศึกษาโดยหยดตัวอย่างน้ำลงบนจานแก้ว แล้วนำ ไปแช่แข็งในห้องทดลองที่มีอุณหภูมิ -๕ องศาเซลเซียส จากนั้นนำผลึกน้ำมาถ่ายภาพเก็บข้อมูลไว้ เขาจะทำเช่นนี้ ซ้ำๆ กันในแต่ละตัวอย่างจำนวน ๑๐๐ ครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่า สิ่งที่เขาค้นพบ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
เขาศึกษาน้ำจากน้ำประปาที่ต่างๆ และตามเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก น้ำในลำธาร น้ำจากน้ำพุธรรมชาติ น้ำในแม่น้ำลำคลอง น้ำในทะเลสาบ จนถึงน้ำแข็งขั้วโลก
วันหนึ่ง มาซารุเกิดสงสัยว่า น้ำฟังดนตรีได้หรือไม่ สิ่งที่เขาพบจากการทดลองคือคำตอบที่น่าอัศจรรย์ใจ ปฏิกิริยาของน้ำ ต่อดนตรีหรือเพลงต่างๆ รวมทั้งเสียงสวดมนต์ด้วย ทำให้น้ำเกิดผลึกที่แตกต่างกัน มาซารุพบว่า น้ำที่ผ่านเสียงสวดมนต์มีผลึกที่สวยงาม แต่น้ำที่เปิดเพลง Heavy Metal จะเกิดปฏิกิริยาในทางลบต่อผลึก
ภาพที่1 ภาพตัวอย่างน้ำ ในขวดตัวอย่าง
ภาพที่2 ผลึกน้ำแข็งที่เกิดจากการสวดมนต์หรือขอบคุณพระเจ้าให้น้ำฟัง
ภาพที่3 ผลึกน้ำแข็งที่เกิดจากการนั่งสมาธิแผ่เมตตาหรือมอบพูดคำว่ารักให้นําฝัง
ภาพที่4 ผลึกน้ำแข็งที่เกิดจากการพูดข่มขู่หรือคิดจะฆ่าใส่ขวดน้ำตัวอย่าง
แม้ที่สุด มาซารุทดลองเขียนคำพูดดีๆ ติดไว้ที่ข้างหลอดทดลอง เปรียบเทียบกับคำพูดหยาบคาย โดยหันกระดาษด้านที่เขียนแนบปิดกับหลอดทดลองไว้ ก็พบว่า ผลึกของน้ำที่เขียนคำพูดดีๆ จะมีลักษณะสวยงาม เป็นระเบียบ ตรงข้ามกับผลึกที่ได้จากหลอดทดลองที่เขียน คำหยาบคายติดไว้ ซึ่งจะมีลักษณะน่าเกลียดน่ากลัว
ภาพที่1-4 ผลึกน้ำแข็งที่เกิดจากการตะโกนด่าที่แตกต่างกันใส่นําตัวอย่าง (รวมถึงความแตกต่างของภาษาที่ใช้)
ผลการทดลองของมาซารุ ทำให้เรารู้จัก น้ำ ได้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่สิ่งใหม่ คนโบราณ รู้และเข้าใจเรื่องราวของน้ำเป็นอย่างดี มีตัวอย่างให้เห็นชัดเจนมาแล้วตั้งแต่สมัยพุทธกาล เมื่อครั้งเกิดอหิวาตกโรค ระบาดที่เมืองเวสาลี ในช่วงเวลานั้นเกิดภัยแล้ง ข้าวกล้าในไร่นาเกิดความเสียหายหนัก ผู้คนอดอยาก และล้มตายเป็นจำนวนมาก ชาวเมืองเวสาลีนำซากศพเหล่านั้นไปทิ้งไว้นอกเมือง ในพระไตรปิฎกกล่าวว่า
เพราะกลิ่นซากศพของคนที่ตายทั้งหลาย พวกอมนุษย์ทั้งหลายก็เข้าเมือง ต่อแต่นั้นคนก็ตายมากต่อมาก เพราะความปฏิกูลนั้น อหิวาตกโรคย่อมเกิดขึ้นแก่สัตว์ทั้งหลาย
ชาวเมืองเวสาลีช่วยกันค้นหาสาเหตุของทุพภิกขภัยครั้งนี้ ได้กราบทูลพระราชาว่า คงเป็นเพราะพระองค์ไม่ตั้งอยู่ในธรรมกระมัง จึงเกิดทุกข์เข็ญเช่นนี้ พระราชารับสั่งให้ช่วยตรวจสอบว่า พระองค์ไม่ตั้งอยู่ในธรรมข้อใด ประชาชนก็ช่วยกันพิจารณาตรวจสอบแต่ไม่พบข้อบกพร่องแต่อย่างใด ต่อมามีบางพวกเสนอว่า บัดนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าได้บังเกิดขึ้นแล้ว พระองค์เป็นผู้มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก ขอได้โปรดกราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระพุทธองค์มาโปรดชาวเมืองเวสาลีด้วยเถิด
ในขณะนั้นพระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่เมืองราชคฤห์ และพระเจ้าพิมพิสารทรงอุปัฏฐากพระพุทธองค์อยู่ เมื่อพระพุทธองค์ทรงทราบว่าชาวเมืองเวสาลีได้ทูลอาราธนาพระองค์เสด็จดับทุกข์ให้ จึงทรงรับด้วยทรงทราบชัดว่า
"เมื่อเราแสดงรัตนสูตรในเมืองเวสาลีแล้ว อารักขาจะแผ่ไปตลอดแสนโกฏิจักรวาล ในเวลาจบพระสูตร ธรรมาภิสมัยจักมีแก่สัตว์ ๘๔,๐๐๐"
เมื่อพระพุทธองค์เสด็จไปถึงเมืองเวสาลี เกิดฝนตกหนัก เรียกว่า "ฝนโบกขรพรรษ" เป็นฝนพิเศษ เพราะผู้ใดต้องการจะเปียกฝน ก็เปียก ผู้ใดไม่ต้องการเปียก ก็จะไม่เปียก ฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมถึงเข่า ถึงเอว ถึงคอ แล้วน้ำพัดพาเอาซากศพเหล่านั้นลงไปในแม่น้ำคงคาจนหมดสิ้น แผ่นดินก็สะอาดบริสุทธิ์ขึ้น
ต่อมาพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับยืนอยู่ที่ประตูพระนคร ตรัสเรียกพระอานนท์มาแล้วตรัสสอน "รตนสูตร" แก่พระอานนท์ แล้วโปรดให้ทำน้ำพระพุทธมนต์ประพรมไปทั่วเมือง ในพระไตรปิฎกกล่าวไว้ว่า
"เพื่อกำจัดอุปัทวะเหล่านั้น ที่ประตูพระนครเวสาลี สวดอยู่เพื่อป้องกัน ใช้บาตรของพระผู้มีพระภาคเจ้าตักน้ำ เที่ยวประพรมอยู่ทั่วพระนคร ก็เมื่อพระเถระกล่าวคำว่า "ยังกิญจิ" เท่านั้น พวกอมนุษย์ทั้งหลายที่อาศัยกองหยากเยื่อ และประเทศแห่งฝาเรือนเป็นต้น ซึ่งยังไม่หนีไปในกาลก่อน ก็พากันหนีไปทางประตูทั้ง ๔ ....เมื่อพวกอมนุษย์ไปกันแล้ว โรคของมนุษย์ทั้งหลายก็สงบ"
มหัศจรรย์แห่งน้ำ
"น้ำ" สิ่งมหัศจรรย์ใกล้ตัว ที่เราไม่อาจละเลยหรือมองข้ามได้ ว่าเป็นเพียงสสารชนิดหนึ่งในโลกเท่านั้น หากแต่น้ำเป็นเสมือนแหล่งข้อมูลใหญ่ที่สามารถบันทึกเรื่องราว บอกเล่าสภาพแวดล้อมได้อย่างชัดเจน แม่นยำ จดจำทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามา ถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก ความปรารถนาอย่างตรงไปตรงมา จากคนหนึ่งสู่คนหนึ่ง หรือสู่มหาชนก็ได้ ความมหัศจรรย์แห่งน้ำจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากขาดพลังอันยิ่งใหญ่ที่อยู่ในจิตใจของมนุษย์
เรามีสิทธิ์เลือกได้ว่า รูปร่างของผลึกน้ำ ที่เขียนชื่อเราติดไว้จะมีรูปร่างอย่างไร งดงามใสพิสุทธิ์ หรือขมุกขมัวมอมแมม เพราะทุกสิ่งเริ่มต้นที่ใจ ภาษาใจ ว่าอย่างไร ภาษาน้ำก็ว่าอย่างนั้น
เป็นยังไงบ้างครับ จากผลที่ได้จากการทดลองของนายมาซารุ อิโมโต แม้น้ำที่ไม่มีชีวิตยังรับรู้ได้ถึงสภาพจิตใจและสภาวะรอบข้างจนเกิดการเปลี่ยนแปลงในรูปลักษณ์ได้ถึงขนาดนี้ ลองคิดดูนะครับ หากเรานำเอาข้อมูลนี้มาใช้ในชีวิตประจำวันได้จะดีแค่ไหน เมื่อรู้ถึงข้อมูลนี้ผมได้ลองทดสอบดูเหมือนกัน โดยการนำน้ำมาตั้งไว้ในขณะที่สวดมนต์นั่งสมาธิ อีกขวดเอาตั้งทิ้งไว้ในห้องอีกห้องที่เปิดเพลงในยุคปัจจุบันให้นําฟังตลอดคืน แม้จะเกิดโดยการทดลองของผมแค่คนเดียวก็สามารถสังเกตุเห็นถึงความแตกต่างได้เป็นอย่างดี นั่นคือน้ำที่ได้จากการที่ตั้งไว้ในห้องพระเพียงแค่ได้รับเสียงสวดมนต์และสภาวะจิตใจจากการนั่งสมาธิเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง เมื่อนำมาดื่มกินจะให้ความรู้สึกเย็นซาบซ่านได้ดีกว่าน้ำอีกขวดอย่างเห็นได้ชัด แม้จะไม่ได้แช่เย็นก็ยังให้ความสดชื่นได้ไม่แพ้กัน กลับกัน น้ำที่ผมเปิดเพลงจำพวกร๊อคเฮฟว่เมนทอลให้ฟัง เมื่อนำมาดื่มแล้วแทบจะไม่ได้รับรู้ถึงความสดชื่นเลยแม้แต่น้อย แถมยังทำให้เข้าห้องน้ำบ่อยกว่าน้ำที่ผมวางไว้ในห้องพระเสียอีก เนื่องจากการไม่สามารถซึมซับไม่ดีพอ และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลว่าทำไมผู้ที่ชอบด่าว่าหรือนินทาชาวบ้านหรือแม้แต่ผู้ที่ชอบไปดูคอนเสิร์ตหรือฟังเพลงที่มีความรุนแรงมักจะมีอารมณ์ที่ร้อนหงุดหงิดง่ายอยู่เสมอ ทุกท่านเห็นว่าเป็นไงบ้างครับ
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#2
โพสต์เมื่อ 21 September 2006 - 03:12 PM
http://www.dmc.tv/fo...p?showtopic=870
แต่เป็นรูปใหม่ อนุโมทนาด้วยครับ
แค่นี้ยังทำไม่ได้ แล้วจะไปปราบมารได้ไง
#3
โพสต์เมื่อ 21 September 2006 - 05:45 PM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#4
โพสต์เมื่อ 21 September 2006 - 08:35 PM
เอ..เค้าเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นใช่รึเปล่า ถ้าเขียนภาษาอื่นน้ำจะอ่านออกมั้ยน้า
การ form เป็นผลึกของน้ำจะเกี่ยวข้องกับคลื่นต่างๆในอากาศหรือเปล่า การใช้ดนตรี การพูดคำว่ารัก การเปิดบทสวด คลื่นเสียงในอากาศที่กระทบหลอดทดลอง ส่งไปถึงน้ำอาจจะต่างกัน ทำให้ได้ผลึกที่ต่างกันมั้ย
ใช้ความรู้สึกของผู้วิจัยคนเดียวรึเปล่า การใช้ความรู้สึกของมนุษย์ ต้องใช้อาสาสมัครหลายๆคน โดยไม่บอกอาสาสมัครถึงที่มา แล้วมาทดสอบผลที่ได้ทางสถิติ จึงจะเชื่อถือได้
.
.
.
อ่ะ ขอโทษค่ะ อ่านเรื่องเกี่ยวกับงานวิจัยทีไร เกิดคำถามทุกที
แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากค่ะ รูปผลึกน้ำสวยมากๆ
น้ำเป็นยาวิเศษ 70% ของร่างกายคือน้ำ ในทางวิทยาศาสตร์ น้ำ คือสิ่งมหัศจรรย์ จะไม่มีงานวิจัยที่ยิ่งใหญ่ออกมาได้เลย ถ้าไม่มีน้ำ
ดื่มน้ำอย่างต่ำวันละ 8 แก้ว เพื่อสุขภาพแข็งแรง เพื่อการสร้างบารมีกันนะคะ
#5
โพสต์เมื่อ 22 September 2006 - 01:26 PM
#6
โพสต์เมื่อ 23 September 2006 - 04:18 PM
#7
โพสต์เมื่อ 24 September 2006 - 11:02 AM
ต้องถึงธรรมอย่างเสบย แน่แท้
ให้ทำอย่างที่เคย สอนสั่ง
นั่ง บ่ มีข้อแม้ จักได้ธรรมครอง
สุนทรพ่อ
มาร่วมกันสร้างสันติสุขให้กับโลกกันเถอะ
#8
โพสต์เมื่อ 26 September 2006 - 04:45 PM
ไม่น่าเชื่อถือ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#9
โพสต์เมื่อ 27 September 2006 - 08:19 PM
#10
โพสต์เมื่อ 05 October 2006 - 09:09 AM
#11
โพสต์เมื่อ 07 October 2006 - 05:11 PM
#12
โพสต์เมื่อ 14 October 2006 - 10:54 PM
รุ่นประวัติศาสตร์รุ่นแรกของโลก พระอาจารย์ท่าน นำมาให้ดู และอีกรอบ
ที่ วัดอาฮงศิลาวาส อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย ตอนแรกนึกว่า เป็นเชื้อ
จุลินทรีย์ในน้ำเขาฟร์อมตัวตามที่เขาได้ยิน จริงๆแล้วพระ อาจารย์บอกว่าไม่ใช่
นี่ แหล่ะ ท่านถึงได้ใช้ ถ้อย คำที่ลึกซึ้งว่า เด็ด ดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว
#13
โพสต์เมื่อ 31 October 2006 - 10:04 PM
ไม่น่าเชื่อจริงๆ
#14
โพสต์เมื่อ 04 November 2006 - 08:36 PM