ทำพรุ่งนี้ สำเร็จ พรุ่งนี้
ตอน เทคนิคการขจัดนิสัยผิดวันประกันพุ่ง
ไม่ว่าจะทำงานอะไร เรามักจะได้ยินคำว่า เดี๋ยวก่อน อยู่เสมอ ทำให้เลื่อนการทำงานออกไปอีก พอใกล้ถึงเวลาส่งงานค่อยกลับมาทำ เป็นไฟลนก้น แล้วจึงเกิดความเครียดขึ้นมา
เทคนิคการขจัดนิสัย ผัดวันประกันพรุ่ง
สาเหตุที่คนเราชอบผัดวันประกันพรุ่ง
การผัดวันประกันพรุ่งนั้น บางครั้งสำหรับบางคนเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวตามสถานการณ์ แต่สำหรับบางคนเกิดขึ้นเป็นประจำจนกลายเป็นนิสัย ซึ่งมีสาเหตุหลัก 4 สาเหตุ ด้วยกัน
สาเหตุที่ 1 ไม่มีวินัยในการทำงาน คนลักษณะนี้มักจะขอเลื่อนกำหนดเส้นตายออกไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้จักจัดลำดับงานก่อนหลัง เช่น บางคนตอนเรียนหนังสือ ในระหว่างภาคการศึกษายังไม่อยากอ่านหนังสือ ขอผัดวันไปอ่านหนังสือตอนใกล้สอบ อ้างว่าทำให้จดจำทุกอย่างได้ แต่กลับกลายเป็นว่า พอถึงเวลาใกล้สอบ ก็อ่านหนังสือไม่ทันเพราะไฟลนก้น รู้สึกกระวนกระวายไม่รู้จะทำอะไรก่อนหลัง ในที่สุดก็อ่านหนังสือไม่ทัน หรืออ่านได้ไม่เท่าที่ตนเองเคยตั้งใจไว้ ปรากฏว่าผลสอบออกมาไม่ดี พอเข้าสู่เทอมใหม่ก็ซ้ำรอยเดิมอีก
สาเหตุที่ 2 มัวแต่ศึกษาค้นคว้า มีคนประเภทหนึ่งชอบนึกว่าตนเองจะทำงานได้ไม่สำเร็จ จึงขอผลัดการทำงานออกไปก่อนเพื่อศึกษาดูรายละเอียดของงาน พอถึงเวลาไม่ได้ลงมือทำสักทีเพราะมัวแต่ศึกษา เลื่อนการทำงานนั้นออกไปเรื่อยๆ ไม่มีกำหนดที่ชัดเจนงานจึงเสร็จไม่ทันเวลา
สาเหตุที่ 3 ไม่ชอบงานที่ทำ บางคนไม่ชอบงานที่ได้รับมอบหมาย แต่ว่าต้องจำใจทำ เช่น บางคนอาจจะชอบเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แต่บางครั้งถูกมอบหมายให้ทำงานเอกสารพอตนเองไม่ชอบงานนั้น จึงไม่อยากทำ เกิดอาการผัดวันประกันพรุ่งงานก็ยิ่งคั่งค้างกลายเป็นดินพอกหางหมูไปใหญ่
สาเหตุที่ 4 รอคอยความพร้อม หลายคนอยากให้งานออกมาสมบูรณ์แบบ แต่สำหรับบางคนกว่างงานจะออกมาสมบูรณ์แบบที่สุดได้นั้น เขามักจะรอให้ความพร้อมทุก ๆ ด้านเกิดขึ้นก่อนจึงลงมือทำ ซึ่งถือว่าเป็นการผัดวันประกันพรุ่งอีกรูปแบบหนึ่ง
จริงๆ แล้วถ้างานยังไม่สมบูรณ์ เราก็ต้องค่อยๆ ลงมือทำไปเรื่อยๆ แล้วแก้ไขไปตามขั้นตอน แต่ถ้ามัวแต่รอความพร้อมทุกๆ ด้าน งานนั้นก็จะไม่เสร็จ ความจริงการรอคอยความพร้อมนี้คือข้ออ้างเพื่อยืดเวลาให้กับสิ่งที่เขาไม่อยากทำ
จากหนังสือ 24 ชั่วโมงที่ฉันหายใจ
โดย พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ
(สมชาย ฐานวุฑโฒ)