พระมาลัย บทสวดสังคหะ แปล อินทรวิเชียรฉันท์
เริ่มโดย Dd2683, Jan 13 2006 12:07 AM
มี 2 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 13 January 2006 - 12:07 AM
คัดลอกมา
พระมาลัย(บทสวดสังคหะ-แปล)
ของโบราณถ่ายทอดจากหลวงตาแสง วัดราษฎร์บำเพ็ญ อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา(9กย2510)
ตรวจสอบทานสำนวน แล้วโดย ฐีติญาโณภิกขุ ปรากฏว่าเป็นสำนวนของพระอาจารย์สิงห์ ขันธยาคโม นั่นเอง…….
ปฐโมปริเฉโท
นโมตัสสะ รหันตัสสะ ภควันตัส สสัตถุโน สัมมาสัมพุทธัส สมายัตโถ โลกะเชตทัส สตะทิโน ฯลฯ (ว่า 3 หน )
สัมมา สัมพุทธะมะตุลัง สสัทธัมมะ คณุตตะมัง อภิวาทิยภาสิสสัง อภิธัมมัตถ สังคหัง ฯลฯ
ตัตถวุตตา ภิธัมมัตถา จตุธา ปร มัตถโต จิตตังเจต สิกังรูปัง นิพพานนะมี ติ สัพพทา ฯลฯ
อัฏฐธาโล ภมูลานิ โทสะมูลา นิจทะวิทา โมหะมูลา นิจธะเวติ ทวาทสา กุสลาสิยุง
สัตตากุสะ ลาปากานิ ปุญญะปากา นิอัฏฐธา กริยาจิตตา นิตีนีติ อัฏฐารสะ อเหุกา
ปาปาเหตุ กมุตตานิ โสภนานี ติวุจจะเร ฯลฯ
เอกูนะสัฏ ฐิจิตตานิ อเภกะนะ วุติปิวา เวทนาญา ณะสังขาระ เภเทนะจะ ตุวีสะติ
สเหตุกา มาวะจระ ปุญญะปากะ กริยามตา กาเมเตวี สปากานิ ปุญญาปุญญา นิวีสติ
เอกาทสะ กริยาเจติ จตุปัญญา สสัพพถา ฯลฯ
ปัญจธาฌา นเภเทนะ รูปาวจะ รมานะสัง ปุญญะปากะ กริยาเภทา ตังปัญจทะ สทาภเว ฯลฯ
อิจจานุรุท ธระจิตเต อภิธัมมัต ถะสังคเห ปฐโม ปจริจ เฉโทยัง สมาเสเน วนิฏฐิโต ฯลฯ
อินทรวิเชียรฉันท์ปริเฉท
โอ้โอ๋อนิจจา สังขาราไม่เที่ยงตรง หนุ่มแก่ย่อมจักปลง ชีวิตม้วยอย่าสงกา……
อุบัติเกิดแล้วก็กลับ วิญญาณดับจากสรีรา ขาดสิ้นแห่งปาณา วิการกายก็เป็นไป…….
บ่เที่ยงบ่ทนทาน บ่อยู่นานสักเพียงใด ย่อมเสื่อมย่อมสิ้นไป ทุกคณานิกรชน……..
สิ่งสุขอันประเสริฐ สุขล้ำเลิศสถาผล คือจิตอย่ากังวล เป็นกามคุณา………
ดับสนิทในสังขาร ที่จิตสร้านคือตัณหา ไม่ใครในภวา วิภาวะประเสริฐแล ฯลฯ
อิจจนุรุท ธระจิตเต อภิธัมมัต ถะสังคเห ปฐโม ปจริจ เฉโทยัง สมาเสเน วนิฏฐิโต ฯลฯ
ทุติโยปริเฉโท
เอกุปปาทะ นิโรธาจะ เอกาลัมภะ ณวัตถุกา เจโตยุตตา ทวีปัญญาสะ ธัมมาเจตะ สิกามะตา
เตเรสัญญะ สมานาจะ จุททะสากุ สราตถา โสภนาปัญ จวีสาติ ทวิปัญญา สปวุจจเร
เตสังจิตตา วิยุตตานัง ยถาโยคัง ปวุจจะติ จิตตุปปาเท สุปัจเจกัง สัมปโยโค ปกิณณกา
จุททะสากุ สเรสเวระ โสภเนเสววะ โสภนา ฉสัฏฐิปัญ จปัญญาสะ เอกาทะสะ จะโสระสะ
สัตตะติวี สติเจวะ ปกิณณกะ วิวัชชิตา ปัญจะปัญญาสะ ฉสัตฐิยัต ฐสัตตะติ ติสัตตะติ
เอกะปัญญา สเจกูนะ สัตตะติงสัพ ปกิณณกา สัพพาปุญเญ สุจัตตาโร สสังขาเร พวยันตถา
วิจิกิจฉา วิจิตฉา จิตเตจาติ จตุสชะสะ ทวาทสา กุสเลสเววะ สัมปยุตชัน ติปัญจทา ฯลฯ
อิจจานุรุท ธระจิตเต อภิธัมมัต ถะสังคเห ทุติโยปจริจ เฉโทยัง สมาเสเน วนิฏฐิโต ฯลฯ
โอ้กายไม่นานหนอ บังเกิดต่อแล้วกลับกลาย ดุจฟองแห่งน้ำหมาย ย่อมแตกดับโดยฉับพลัน….
สิ้นลมแห่งหายใจ ชีพบัลลัยบ่กลับหัน ห่อนมีสิ่งสำคัญ เพื่อประโยชน์สักนิดเดียว…….
ทอดทิ้งดุจท่อนฟืน เหนือพื้นสุธาเทียว ฟองช้ำเน่าดำเขียว ส่งกลิ่นฟุ้งบ่เว้นวาย…….
ดูเถิดท่านทั้งหลาย บุรุษนายคณานาง ควรปลงปัญญาทาง ประมัตอัตถธรรม…….
พยานปรากฏแก่ จักษุแท้บ่ปิดงำ ควรวินิจหีบศพ ศพนั้นอันแลเห็น ฯลฯ
ตติโยปริเฉโท
สัมปยุตตา ยถาโยคัง เตปัญญาสะ สภาทะโต จิตตะเจตะ สิกาธัมมา เตสันทานิ ยถารหัง
เวทนาโห ตุโตกิจจะ ทวาราลัมภะ ณวัตถุโต จิตตุปปาทะ วเสเนวะ สังคโหนา มหิยเต ฯลฯ
สุขขังทุกขะ มเปกขาติ ติวิชาตัต กเวทนา โสมนัสสัง โทมนัสสัง อิติเภเท นปัญจทา
สุขะเมกัต ถทุกขัญจะ โทมนัสสัง ถวเยฐิตัง ทวาสัฏฐี สุโสนะสัง ปัญจปัญญา สเกตะรา
โลโภโทโส จะโมโหจะ เหตุอะกุ สราตโย อโรภาโท สาโมหาจะ กุสะภพยา กตาตถา
อเหตุกัจ ฐาฬะเสกะ เหตุกทเว ทวิวีสาติ ทุเหตุกา มตาสัตตะ จัตตาฬิสะ ติเหตุกา
ปฏิสันทา ทโยนามะ กิจจะเมเท นจุตธะสะ ทสะธาฐา นเภเทนะ จิตตุปปาทา ปกาสิกา
อัฏสัตฐี ตถาเทวจะ นวัฏฐเทวะ ยถากกะมัง เอกะฉวีติ จตุปัญจะ กิจจาถานา นิมิททิเส ฯลฯ
ชีวิตความเป็นอยู่ ใครหนอรู้กำหนดการ เพียงแต่จะประมาณ เร็วก็ช้าก่อนหน้าหลัง……..
ความตายบ่เลือกหน้า กษัตราพรหมะณัง มีจนชนทุพลัง และเรืองฤทธิ์อิสสะโร……..
หรือใครจะโกรธกริ้ว ชักหน้านิ่วมุโมโห หรืออ่อนหย่อนกาโย น้อมคำนับอัพภิวันท์……
หรือให้แก้วแหวนเงินทอง เป็นก่ายกองมากครามครัน
หรืออ้อนวอนจำนรรจ์ ด้วยคำหวานสมานใจ……..
มัตยุราชไป่ยำเยง แลบ่เกรงผู้ใดใด ไป่รับคำนับใคร แลบ่เอื้อบ่กรุณณัง……..
ถึงคราวแล้วเร่งรีบ เข้าคั้นบีบดวงชีวัง ดุจนายเพชฌฆาตฟัง คำบัญชาไม่รารอ……..
ลงดาบโดยทันใด ฟันลงไปที่ตรงศอ เชือดซ้ำกระหน่ำคอ แห่งนักโทษก็ปานกัน ฯลฯ……
จตุตโถปริเฉโท
ปัญจโมปริเฉโท
วิถีจิตะ วเสเนวะ ปวัตติยะ มุทีโรโต ปวัตติสัง คโหนามะสฐิยนทา นิวุจจะติ
จตัตโสกุ มิโยนามะ ยัตถะสันธิ ปวัตตะติ อปายกา มสุคตโย รูปารูโป จภปิจะ
ปถุชชะนา นรับมันติ สุทธาวาเส ตุสัพพทา โสตาปะญนา จสะกิทา คามิโนจา
ปิปุคคะลา อริยาโน ปิลัมภันติ อสันยาปา ยภูมิสุ เสสัตถาเน สุรัพพันติ อริยานะ
ริยาปิวะ จตุภูมี วิภาเคนะ ปฏิสันธิ จตุปมิทา อปายิกา สังนะนามะ สุคะติมหิ
สยาปิจะ รูโปจรา ปฏิสันธิ อรูโปจะ รสันธิจะ ชายันตาปา ยภูมิสุข ปาปะปากะ
ยสันธิยา นิปุญญะปากา เหตุเกนะ ภูมัสสิตัพ พินิปปาตา กามะเทวะ มนุสานัง
ทุเหตุกะ ติเหตุนัง ฯลฯ
อิจจานุรุท ธระจิตเต อภิธัมมัต ถสังคเห ฯลฯ
ปัญจโม ปริจ เฉโทยัง สมาเสเน วนิฏฐิโต ฯลฯ
ความที่ได้เกิดยากนักหนา และตัวของเต่าตน แอกน้อยลอยล่องชล ใช่ว่าพ้นให้เกิดไป……
ประเภทสัตว์อุบัติตน ทั้งว่ายคลานบินเวหน สุดจะร่ำพรรณาเผ่าพันธุ์ พื้นสัตวาจะนับถ้วน-
ประมวลมี ได้แคล้วคลาดจากโรคี โดยยากจะรอดมา อีกได้ฟังคำพระ สัทธัมมะเทศนา…..
พบองค์พระสัมมา สัมพุทธอรหันต์ นานนับด้วยกัปป์กัลป์ จึงจะตรัสอุบัติมี…….
นี่แหละท่านทั้งหลาย ทั้งผู้ชายและนารี ฟังแล้วเร่งยินดี จงชื่นชมสมมนา……..
ที่ได้เกิดเป็นคน และรอดพ้นจากตายมา ได้ฟังเทศนา ของพระพุทธอรหันต์……..
เป็นลาภอันประเสริฐ แสนล้ำเลิศอนันต์ครัน อย่าหลงคิดสำคัญ ว่าเกิดง่ายหมายผิดครัน ฯลฯ….
ฉัฏฐโมปริเฉโท
เอตาวตา วิภัตตานิ สัพปะเภทัพ ปิวัตติกา จิตตะเจตะ สิกาธัมมา รูปันทานิ ปะวุจจะติ
สมุทเธสา วิภาคาจะ สมุฏฐานา กลาปะโต ปวัตติตักกะ มโตเจติ ปัญจทาตัต ถสังคโห
ภูตัปปะสา ทวิสยา ภาโวหะทะ ยะมิจจะปิ ชีวิตาหา ระรูเปหิ อัตถารสะ วิธังตถา
ปริจเฉโท จะวิญญัตติ วิกาโลลัพ ขนันติจะ อนิพผันนา ทสะเจติ อัฏฐวีสะ วิทัมภเว
อิจเจวะมัต ฐวีสะติ วิธัมปิจะ วิจักขานา อัชฌัตติกา ทิเภเทนะ วิภัชชันติ ยถารหัง
อัฏฐารสะ ปัณณะระสะ เตระสังทวา ทสาปิจะ กัมมะจิตโต ตุกาหาระ ชานิโหนติ ยถากกะมัง
ชายะมานา ทิรูปานัง สภาตตา หิเกวรัง รักขนานิ นชายันติ เกหิจีติ ปกาสิตัง
กัมมะจิตโต ตุกาหาระ สมุฏฐานา ยถากกะมัง นวฉจะ ตุโลเทวติ กราปาเอ กวีสติ
กาลาปานัง ปริเฉทะ ลกขนัตตา วิจักขานา ฯลฯ
ยากมีฉันใด ชีวิตไซร้อุประมา ดุจนายโคปาลา จูงโคชักสู่หลักพลัน…….
ก้าวไปก็ใกล้ถึง ที่คำนึงจะอาสัญ นายโคคาดคอยฟัน ชีวิตม้วยด้วยอาญา…….
ด้วยเราทุกผู้คน ปฏิสนธิเกิดมา คืนวันอันชรา นำยาตรเยื้องเปลืองสิ้นไป……
มัตยุราชคือความตาย ดุจดาบร้ายคมเหลือใจ ห่อนเลือกว่าใครใคร
หนุ่มแก่เด็กและปานกลาง……. เชือดแหวะชำแหละจิต ให้ปลดปลิดชีวาวาง
ทอดทิ้งสรีร่าง ทุกถ้วนหน้าคณาชน ฯลฯ……..
สัตตโมปริเฉโท
อิจจานุรุท ธระจิตเต อภิธัมมัต ถสังคเห
ฉฏธโม ปริจเฉโทยัง สมาเสเน วนิฏฐิโต ฯลฯ
ทวาสัตติ วิธาวุตตา วุตถุธัมมา สลักขณา เตสันทานิ ยถารหัง ปวักขามิ สมุททยัง
อาสะโวคา จโยคาจะ ตโยครชา จวุตถุโต อุปาทานา ทุเวธัมมา อัฏฐนีวะ
รณาสิยุง เฉระวานุ สยาโหนติ นวะสัญญโญ ชนามตา
กิเลสาทะเส ติวุตโตยัง นวทาปา ปสังคโห ฉเหตุปัญ จชานังคา มัคคังคานะ
ววัตถุโต โสฬสสันทวี ยธัมมาจะ พระธัมมา นเวริตา
จัตตาโรธิ ปติวุตตา ตถาหารา ติสัทตะทา กุสะราธิ สมากินโน
วุตโตมิจสะ กสังคโห ฯลฯ
ชีวิตเป็นอยู่นั้น ส่วนของมันน้อยนักหนา เพราะเหตุความชรา เร่งเร้ารีบบีบคั้นกาย…….
จะร้องให้ใครช่วย ไม่ให้ม้วยชีวาวาย ญาติมิตรสิ้นทั้งหลาย อีกบิดรและมารดา…….
เมียมิ่งและบุตรรัก อยู่พร้อมพรักทั้งซ้ายขวา มรึตตะยูอาจจู่มา ปลดชีวิตให้ปลิดปลง…..
ดูก่อนท่านทั้งหลาย ที่มุ่งหมายตัดความตรง ให้เร่งคิดจิตจำนง สิ่งใดดีให้เร่งทำ……
จิตตุปปาทา นมิเจวัง กัตตะวาสัง คมุตตะรัง ภูมิปุคคะ ละเภเทนะ ปุพพาประ นิยามิตัง
ปวัตติสัง คหังนามะ ปฏิสันทิ ประวัตติยัง ปวักขามิ สมาเสนะ ยถาลัมภะ วโตกะถัง
วิถิจิตตา นิสัชเตวะ จิตตุปปาทา จตุทะสะ จตุปัญญา สวิตถารา ปัญจทวาเร ยถารหัง
วิถีจิตา นิติเนวะ จิตตุปปาทา ทเสวิตา วิตถาเรนะ ปเนตเถกะ จัตตาฬิสะ วิภาวเย
ทวัตติงสะ สุขปุญญังหา ทวาทโส เปกขกาปรัง ขกาปรัง สุขิตะกิริ ยาโตอัตฐิ
ฉสัมโพนติ อุเปกคกา ปุถุชชะนา นเสขานัง กามะปุญญะ ติเหตุโต ติเหตุกา มกิริยาโต
วีตะราคา นมังบปนา กาเมชะวะ นสัตตาลัมภ์ ภนานังนิ ยเมสติ วิภูเตติ มหันเตจะ
ตทาลัมภะ นมีริตัง สัตตะขัตตุง ประตานิ มัคคาภิญญา สกิงมตา อวเสนา นิรัพพันติ
ชวนานิ พหูนิปิ อเสขานัง จตุจัสตา ฬีสะเสขา นมุททิเส ฯลฯ
อิจจานุรุท ธระจิตเต อภิธัมมัต ถสังคเห ฯลฯ
จตุตโถปริจ เฉโทยัง สมาเสเน วนิฏฐิโต ฯลฯ
โอ้สัตว์ทั้งหลายเกิด เอากำเนิดมาเป็นคน ย่อมจะบันลุตน มลชีพทำลายราน…….
หรือสัตว์ที่ตายอยู่ อีกสัตว์ผู้ที่วายปราณ ก็ไม่ยืดไม่ยืนนาน เหมือนกันสิ้นบ่เว้นวาย….
แม้เราก็ฉันนั้น บ่ผิดผันหรือกลับกลาย เราคงจะต้องตาย ตามไปดุจพิมพ์เดียว…….
เออเราไม่สงสัย ไม่ตกใจแลหวาดเสียว เห็นแท้แน่ใจเจียว แลบ่มีที่สงกา……..
นี่แหละท่านทั้งหลาย ฟังบรรยายที่กล่าวมา จงเร่งพิจารณา เมื่อแจ้งแล้วบ่กลัวตาย…….
ความดีคือบุญนั้น จะป้องกันช่วยแนะนำ ให้สบสุขเลิศล้ำ พ้นสิ่งชั่วไม่กลัวตาย……
อย่าฟังแต่สนุก คิดว่าสุขสบาย รื่นเริงบันเทิงกาย หัวเราะร่าเฮฮาครืน…….
ควรรู้สึกสำนึกตัว อย่าเมามัวคิดฝ่าฝืน ชีวีไม่ยั่งยืน ทุกถ้วนหน้าคณาชน ฯลฯ……..
อิจจานุรุท ธระจิตเต อภิธัมมัต ถสังคโห
สัตตะโม ปริจเฉโทยัง สมาเสเน วนิฏฐิโต ฯลฯ……….
อัฏฐโมปริเฉโท
เยสังสังจะ ตธัมมานัง เยธัมมาปัจ จยายถา ตวิถาคะ มิเหพานิ ปวกุขามิ ยถารหัง
เทวะปติจจะ สมัปปาทะ ปัฏฐานนะ ยเภทิโน วตาตัตกะ นโหนติ เยปัจจะ ยสังคโห
ปฐเมหิ นเยตัตถะ เวทิยังอุ ปลักขานะ ติยัตธังทวา ทสังคานิ วิสาการัง ติสันทิจะ
จตุสังเข ปติวัตตัง เทวัมรานี ติสัตธา ติตถวิชา จสังขารา อตีคันทา ติวุจจะเร ฯลฯ
โลกคือเบญจขันธ์ ชรามันนำเข้าไป ใกล้ต่อความบัลลัย อนาถแท้บ่มั่นคง……..
โลกนะใช่ใหญ่ยิ่ง บ่มีสิ่งต้องประสงค์ จำต้องวายชีวง ของทั้งสิ้นละทิ้งไป…….
โลกนั้นมักพร่องอยู่ จึงไม่รู้เบื่อเบือนไป เพราะมันไม่เป็นไทย มันเป็นธาตุแห่งดับ……..
ควรท่านผู้เป็นปราชญ์ ผู้ฉลาดซึ่งปัญญา เร่งคิดพิจารณา ให้เห็นแท้เป็นแน่นอน…….
อย่าฟังแต่เสียงเพราะ และเสนาะด้วยคำกลอน จงฟังคำสอน แล้วตริตรึกระลึกตาม ฯลฯ…….
อิจจานุรุท ธระจิตเต อภิธัมมัต ถสังคเห
อัฏฐโม ปริจเฉโทยัง สมาเสเน วนิฏฐิโต ฯลฯ
สมากวี ปัสสะนานัง ภวนานะ มิโตปะรัง กัมมัตถานัง ปวักขามิ ทุวิธังปิ ยถากกะมัง
เยนะเยนู ปกะเลสา สมันติวู ปสมันติหิ โสตวูปะ สโมปาโย สะมะโถติ ปวุจจะติ
กสินาสุ ภานุสติ ทสทาทะ สธาฐตา จจัตโสอัป ปมันยาโย สันเยกาหา วนิสีตา
เอกันเจวะ วัตถานาปิ อารูปาจะ ตุโรอิติ สัตตะทาสะ มถะกัมมัต ถานัตสตา วสังคโห
ราโคโทโส จะโมโหจะ สัทธาอิตัก กพุทธิโย อิเมสังฉัน นังธัมมานัง วสาจาริ คสังคโห ฯลฯ
ความไม่เมาทั่วไป คือแจ้งในกองสังขาร ไม่เมาไม่ทะยาน ในรูปรสแลกลิ่นเสียง…..
เป็นทางบทจร สู่อมรนิเวศน์เวียง มัตยุราชหรืออาจเมียง และจะมองบ่แลเห็น…….
ความทั่วไปนั้น คือใฝ่ฝันทุกเช้าเย็น เมายิ่งในสิ่งเบ็ญ- จกามะคณารมณ์……..
เป็นทางจะก้าวสู่ มรึตตะยูประสบสม ความตายตามระดม ติดตามปรับชีวาวาย…….
นรชาติทั้งหลายใด ผู้มีใจเองเมามาย แม้ชีพบ่ทำลาย ประดุจม้วยซึ่งชีวี……..
นี่แหละท่านทั้งหลาย คณาชายหมู่สตรี ฟังแล้วจงได้มี กมลมุ่งกำหนดจำ……
………………..สังคหะ(สงเคราะห์)จบบริบูรณ์……………….
#2 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 13 January 2006 - 10:23 PM
สาธุ ensure
#3
โพสต์เมื่อ 17 March 2007 - 01:55 PM
กราบอนุโมทนาบุญครับ สาธุ