คิดจะทำธุรกิจทางด้านโรงแรมม่านรูด ผิดศีลไหม บาปไหม
#1
โพสต์เมื่อ 20 August 2006 - 09:07 AM
#2
โพสต์เมื่อ 20 August 2006 - 09:41 AM
เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ของธุรกิจม่านรูดก็คือการค้าประเวณี วัยรุ่น และชู้
การค้าประเวณีก็ผิดอยู่แล้วส่วนหนึ่ง
วัยรุ่นมีอะไรกัน ผิดศีลข้อ 3อย่างแน่นอน เนื่องจากทั้งคู่ก็ยังอยู่ภายใต้การปกครองของพ่อแม่พี่น้องญาติๆทั้งนั้น
เรื่องชู้นี่ก็ตามที่ว่าเลยล่ะค่ะ
การที่เราทำธุรกิจนี้ เป็นการทำให้การผิดศีลของคนเหล่านี้สะดวกยิ่งขึ้น
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#3
โพสต์เมื่อ 20 August 2006 - 06:40 PM
สามีภรรยาทั่วไปก็คงไม่ต้องมาใช้บริการสถานที่นี้ หรือถ้าจะคิดว่าไว้ให้คนทั่วไปมาพักเหมือนโรงแรมทั่วไป ก็คงไม่น่าเป็นไปได้ เพราะขึ้นชื่อว่าม่านรูด คนปกติเค้าก็ไม่เข้าไปหรอกครับ คงมีแต่พวกที่คิดหรือทำผิดศีล โดยเฉพาะข้อ 3 แน่ๆ
เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะตั้งใจดีอย่างไร มันก็เหมือนเป็นการสนับสนุนให้คนทำบาป ซึ่งเราก็อาจจะพลอยติดร่างแหไปด้วยไม่มากก็น้อย
ต้องคิด และเลือกให้ดี
เพราะมันสัมพันธ์กับความใส และความหมองของใจ
อย่าดูแค่ว่า รวย อย่างเดียว
ต้องดูว่ารอดไหม
ถ้ารวยและรอดก็ลุย
รวยแต่ไม่รอดก็อย่าลุย ให้เลิก
หรือยับยั้งไว้ด่วยเลย
#4
โพสต์เมื่อ 20 August 2006 - 06:50 PM
#5
โพสต์เมื่อ 20 August 2006 - 08:12 PM
#6
โพสต์เมื่อ 20 August 2006 - 08:54 PM
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#7
โพสต์เมื่อ 20 August 2006 - 09:36 PM
ถ้าชอบก็ทำ ถ้ากลัวบาปกรรมก็เลิก
ถนนมีให้เลือกไปหลายสายคร้าบบ^-^
อิอิ^^
-----------------------------
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.
#8
โพสต์เมื่อ 20 August 2006 - 10:19 PM
คือจะบอกว่า การทำธุรกิจนี่ มันมีกลุ่มเป้าหมาย เป็นตัวกำหนดประเภทของธุรกิจด้วยนี่คะ ถ้าตั้งใจเปิดเป็นที่พักของคนเดินทางก็ เปิดเป็น เกสต์เฮ้าส์ หรือ โรงแรมเล็กๆให้เช่าในราคาถูก ตั้งอยู่ในที่ที่ค่อนข้างเปิดเผย ไปเลยดีกว่าค่ะ (คนเดินทางเวลาหาที่พัก ไม่ต้องมีม่านมารูดปิดบังตัวเองหรอกนะคะ มีแต่อยากเปิดเผย ต้องการพักในที่ๆ มีคนพลุกพล่านพอสมควร เพราะปลอดภัยกว่า ) ถ้ามีม่านรูดปิดนี่ แสดงว่าไม่ใช่ที่พักระหว่างเดินทางแล้วค่ะ แต่เป็นจุดหมายของการเดินทาง ถ้าเป็น พฤติกรรมของคนทั่วไปพึงกระทำก็ไม่จำเป็นต้องปกปิดด้วยม่านนี่คะ แต่เพราะคนทั่วไป มี สามัญสำนึก รู้ว่า อะไรถูก ผิด ควร ไม่ควร จึงอายที่จะกระทำ (บางที บางคน ไม่ได้อายนะคะ แต่กลัวมีคน รู้ เห็น) จึงต้องอาศัยที่แบบนี้
ถึงได้กล่าวไว้ตอนต้นน่ะค่ะว่า ถ้าเปิดโรงฆ่าสัตว์ แล้วปากบอกว่า ไม่ได้เอาไว้ฆ่าสัตว์นะ เผื่อเอาไว้ถ้าต้องชำแหละสัตว์ตาย เนี่ยเหมือนกันมั๊ยคะ หรือ
สั่งผัดปู ในร้านขายอาหารสดๆ แล้วบอกว่า เอาตัวที่ตายแล้ว นั่นแหล่ะค่ะ เหมือนๆๆๆๆๆๆ กันเลย
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ
#9
โพสต์เมื่อ 21 August 2006 - 02:28 AM
ธุรกิจโรงแรมเขาไม่รับเป็นชั่วโมง แต่รับเป็นคืน
คนส่วนใหญ่ที่ใช้ก็เพื่อพักค้าง
เพราะผู้ที่แค่จะใช้ชั่วคราวเขาก็คงไม่รอให้เช้าแล้วค่อยไปเซ็นออกหรอกค่ะ
เขาก็เอาแบบที่สะดวกที่สุด
อีกอย่างก็คือ ธุรกิจม่านรูดมีจุดประสงเพื่อเรื่องพรรคนั้นอยู่แล้ว
แต่โรงแรมเขาเพื่อให้นักท่องเที่ยวค่ะ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#10
โพสต์เมื่อ 21 August 2006 - 08:27 AM
#11
โพสต์เมื่อ 21 August 2006 - 08:42 AM
เปรียบเทียบให้ฟังนะครับ
สมมติว่าผมเปิดร้านขายอาหาร แต่มีเหล้าขายด้วย แล้วผมบอกว่า
"ผมไม่ได้เชิญชวนให้เขาดื่มเหล้า หรือให้เขาผิดศีลข้อห้านะ เราแค่จัดไว้เฉยๆเผื่อคนที่มากินข้าวเค้าอยากกินเหล้า"
โดยหลักขายอาหาร แต่มีเหล้าไว้บริการ ยังบาปเลย
กรณีม่านรูดนี่โดยหลักไม่ได้ให้คนธรรมดาเค้าพักค้าง (ใครไปท่องเที่ยวพักผ่อนแล้วพัก รร.ม่านรูดบ้าง?)
แต่ตั้งใจให้เกิดการผิดศีลขึ้นแน่นอน อย่างนี้รับเต็มๆแน่ๆครับ
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)
#12
โพสต์เมื่อ 21 August 2006 - 09:23 AM
อยู่ที่เจตนาจะครับ ถ้าเจตนาคิดจะสร้างโรงแรมเล็กๆ เอาเท่าที่เรามีทุนทรัพย์ แล้วก็ไม่มีจิตแม้แต่นิดเดียวที่คิดจะสร้างเพื่อให้โสเภณีมาใช้ค้าประเวณี แต่เจตนาเพียงแค่เป็นโรงแรมพักค้างให้กับผู้เดินทาง พักผ่อนนอนหลับแต่เพียงอย่างเดียว และการตบแต่งก็ไม่ได้ยั่วยุให้เกิดกามราคะ หรือ ตบแต่งโรงแรมแบบโรงแรมม่านรูด ซึ่งเป็นการชี้นำทางความคิด อันนี้ก็ไม่น่าจะผิด เพราะ ยึดตามหลักพุทธพจน์ที่ว่า "ภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่าเจตนาเป็นกรรม" แต่ถ้าผู้สร้างแอบหวังลึกๆ ว่าจะได้รายได้เพิ่มจากการที่หญิงโสเภณีมาใช้บริการแล้วล่ะก็ ผิดเต็มๆ ครับ
ถ้าจะทำก็สร้างโรงแรมในรูปแบบที่ไม่ใช่ม่านรูดสิครับ ตบแต่งให้ดูมีคลาสสักหน่อย แล้วก็ไม่ตบแต่งอะไรที่เป็นการชี้นำในการค้าประเวณี แต่ตบแต่งแบบสวยงามแบบศิลปะไทยๆ ก็ได้นี่ครับ
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#13
โพสต์เมื่อ 21 August 2006 - 09:58 AM
สถานที่แบบนี้..เขาไม่ได้ใช้พักค้างเฉยๆมั๊งคะ
ชื่อก็บ่งบอกอยู่แล้วเป็นที่รู้โดยทั่วกันว่า ใช้เพื่ออะไร
... ถ้านึกไม่ออกว่าจะบาปยังไง...
ก็นึกเปรียบกับกับเคสที่คนไม่ดื่มเหล้า แต่ชอบซื้อเหล้าเลี้ยงลูกน้อง
วิบากกรรมคือ.. ต้องมานั่งเลี้ยงลูกพิการปัญญาอ่อน
ในกรณีนี้..ก็แค่สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้คนผิดศีลข้อสาม
เราไม่ได้สนับสนุนเล้ย..แค่ทำธุรกิจเฉยๆ...ถ้าคิดอย่างนี้น่าจะมีวิบากนะคะ
แต่จะขนาดไหนนั้นก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน
คุณสาครนี่เป็นผู้มีปัญญามากนะคะ
คิด topic ที่ Post ในแต่ละหัวข้อ
น่าติดตาม และน่าตอบจริงๆ
เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน
#14
โพสต์เมื่อ 21 August 2006 - 10:47 AM
* ในการจดทะเบียนของราชการ ธุรกิจโรงแรมจัดเป็นธุรกิจประเภทอันน่ารังเกียจ ไม่ทราบว่าปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงแล้วหรือยัง *
#15
โพสต์เมื่อ 21 August 2006 - 11:16 AM
ถ้าเจ้าของโรงแรมไม่ได้มีวัตถุประสงค์อย่างนั้น สงสัยต้องแนะนำให้เอาม่านรูดออกดีกว่ามั้ยค่ะ
เพราะจะเป็นสัญลักษณ์ให้คนพวกนี้เข้ามาใช้บริการ
ถ้าเจ้าของโรงแรมไม่ได้มีวัตถุประสงค์อย่างนั้น สงสัยต้องแนะนำให้เอาม่านรูดออกดีกว่ามั้ยค่ะ
จะได้ไม่เป็นสัญลักษณ์ให้คนพวกนี้เข้ามาใช้บริการ
#16
โพสต์เมื่อ 21 August 2006 - 11:29 AM
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ
#17
โพสต์เมื่อ 21 August 2006 - 01:44 PM
ตอบคุณฟ้าร้าง...ดิฉันคิดว่า แตกต่างกับโรงแรมห้าดาวตรงที่...โรงแรมห้าดาวคู่ที่ไปนอนกัน จะเป็นคู่รักจริงๆค่ะ หรือสามีภรรยา เพราะคงไม่มีผู้ชายคนไหนอยากพาคู่นอนชั่วคราวไปพักโรงแรมดีขนาดนั้น
#18
โพสต์เมื่อ 21 August 2006 - 01:50 PM
#19
โพสต์เมื่อ 21 August 2006 - 03:22 PM
เพราะม่านรูดเป็นสถานที่เฉพาะกิจ เฉพาะกลุ่ม
คนที่เป็นสามีภรรยากันเนี่ย เค้าไม่ไปเข้าม่านรูดหรอกค่ะ คงไม่มีใครพิสดารขนาดนั้น ตอนจะเข้าก็น่าอาย ตอนจะออกก็น่าอาย
ถ้าคิดจะทำเป็นที่พักเฉยๆก็ไม่น่าจะทำให้เหมือนม่านรูดนะคะ ทำเป็นโรงแรมเล็กพวก Guesthouse หรือ Bed&Breakfast ไม่เห็นจะเหมือนม่านรูดตรงไหน
แล้วใครจะเข้าไปทำกิจกรรมอะไรเนี่ยไม่เกี่ยวกับเราค่ะ เพราะเราทำเป็นลักษณะที่พักจริงๆ
แต่ม่านรูดเนี่ยนะ อืม... ยังนึกไม่ออกเลยค่ะว่าคนที่ไม่ได้จะทำผิดศีลข้อ 3 จะเข้าไปทำอะไรในนั้น ลักษณะสถาปัตยกรรมก็ออกจะบ่งบอก
#20
โพสต์เมื่อ 21 August 2006 - 03:27 PM
ต่อไปก็จะมีคนอำนวยความสะดวก ให้คนอื่นมาข่มขืนคุณบ้างนะครับ คนที่มาใช้ม่านรูดก็คือ พวกที่ต้องการมี SEX
กับคนที่ไมใช่ สามี ภรรยาเท่านั้น เพราะคนอื่นคงไม่ไปใช้ เพราะ สกปรกมาก ทั้งกลิ่น เหล้า บุหรี่
คราบสิ่งปฏิกูล หลังจากกามกิจ แค่นี้ก็น่ารังเกียจมากพอแล้ว
เลิกคิดเถอะครับ เป็นมิจฉาอาชีพ 100% ครับ แต่โรงแรมสำหรับ พักค้าง ไม่ถือว่าผิดนะครับ เพราะไม่ได้มีลูกค้าที่เจาะจง ว่าจะมามี Sex
ครับ ผมเคยทำโรงแรม มา คนส่วนใหญ่ เป็นนักท่องเที่ยวครับ แล้วก็จะมากลับครอบครัว ถึงเขาจะมี Sex ในโรงแรมผม ก็ไม่ถือว่า ผิดศีล
ข้อ 3 ครับ ก็เหมือน กับ เรามีบ้านเราเป็นเจ้าของบ้าน แล้ว คนในบ้านที่เป็นสามีภรรยากัน มี Sex กัน ก็ไม่ถือว่าเจ้าของบ้านผิดครับ
ย้ำนะครับ ธุรกิจโรงแรมม่านรูด เป็นธุรกิจที่นำพาไปสู่นรกแน่นอนครับ คิดเอาเองครับ
#21
โพสต์เมื่อ 21 August 2006 - 05:06 PM
หลวงพ่อทัตตะ เคยให้ข้อคิดไว้ ในเรื่องการตัดสินใจ ว่าถูกหรือผิดนั้นควรพิจารณาที่
1.ศีล เราอาจคิดว่าตัวเราเองไม่ผิดศีลข้อ3 แล้วเราไม่ได้เชิญชวนให้เขาผิดศีล แต่....
2.ธรรม เราขาดจิตเมตตา เพราะเราทำกิจการซึ่งเปิดช่องหรือโอกาสให้กลุ่มลูกค้าที่ผิดประเวณี
3.กฎหมาย เราอาจจดทะเบียนว่าธุรกิจนี้ถูกกฎหมาย แต่....
4.ธรรมเนียม ประเพณี จริยธรรม ธุรกิจของเราไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ คือไม่ใช่ที่พักสัปปายะ แต่เป็นอโคจร นะ
อย่าทำเลย...ได้ไม่คุ้มเสีย แถมยังเสี่ยง มากๆ
#22
โพสต์เมื่อ 21 August 2006 - 06:23 PM
#23
โพสต์เมื่อ 21 August 2006 - 06:25 PM
#24
โพสต์เมื่อ 21 August 2006 - 06:49 PM
ขนาดเดินเฉียด ก็ยังไม่ดีเลย... ทั้งหญิงทั้งชาย หากเดินเฉียดๆ ก็ยังเสียชื่อได้
ถ้าใครมีกิจการแบบนี้ ก็จะเป็นฉายาต่อท้ายชื่อตัว
เหมือนบางคนที่ดังๆ แม้บอกว่าขายกิจการอ่างทิ้งหมดแล้ว เลิกแล้ว กลับเป็นคนดีแล้ว
แต่ฉายานี้ก็ติดในใจประชาชนซะแล้ว
ชื่อเสียงแบบนี้ติดตัวไปตลอดกาลนาน หรืออาจตลอดชีวิต ...แล้วจะไปสร้างทำไมกัน
คนปกติ ดีๆ ถ้าอยู่บ้านได้ หรือไปพักแรมที่สถานที่เหมาะสมได้ เขาก็ไปแล้ว
แต่นี่ เพราะไปที่บ้านไม่ได้... ไปที่ที่ดีกว่านี้ไม่ได้ จึงไปที่นี่
ผู้มาใช้บริการ สถานที่แบบนี้ ฟันธง 99.99% ก็มีแต่จิตที่อกุศลทั้งนั้น
หาคนที่ควบคุมจิตใจตนเอง(ให้ดี)ไม่ได้เลย
บางกรณีอาจมีการล่อลวง โปะยาสลบด้วย ฯลฯ น่ากลัว...
หากใครทำกิจการลักษณะนี้ ต่อไป อย่างน้อยๆ ก็จะได้ไปอยู่ในแวดวงคนไม่ดี คนที่จิตที่แอบแฝงด้วยลักษณะแบบนี้
#25
โพสต์เมื่อ 22 August 2006 - 07:33 AM
ไม่มีลุ้นเร่งจองมองที่หมาย
ก็จะพบผู้รู้อยู่กลางกาย
ธาตุอ่อนแก่มากมายถึงปลายทาง
#26
โพสต์เมื่อ 27 September 2006 - 03:12 PM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#27 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 09 August 2011 - 11:23 AM