อยากทราบความเป็นมาของเจ้าแม่กวนอิม มีจริงหรือไม่?
#1
โพสต์เมื่อ 24 October 2006 - 02:19 PM
#2
โพสต์เมื่อ 24 October 2006 - 02:27 PM
#3
โพสต์เมื่อ 24 October 2006 - 02:45 PM
สมมติว่ามีก่อนสมัยราชวงศ์โจวตะวันตก และโจวตะวันออก นั่นก็แปลว่าเป็นสมัยพันปีก่อนค.ศ. แต่ทำไมถึงไม่มีซากรูปปั้น หรือบันทึกลงพงศาวดารเลยเหนอ ...
แค่นี้ยังทำไม่ได้ แล้วจะไปปราบมารได้ไง
#4
โพสต์เมื่อ 24 October 2006 - 02:45 PM
คุณพ่อ ผมบ้างนะคับ รบกวนหน่อย พี่ บุญโต , พี่สายธารทิพย์
พอมีข้อมูลไหมคับ
#5
โพสต์เมื่อ 24 October 2006 - 03:02 PM
ถึงแม้จะเป็นสัตว์เดรัจฉาน ก็จะเป็นสัตว์เพศชาย ครับ
#6
โพสต์เมื่อ 24 October 2006 - 03:05 PM
เคยฟังหลวงพ่อท่านใน โรงเรียนอนุบาลครับ ...
หลวงพ่อท่านบอกว่า ไม่มี จริง ...
ถ้าใครนับถืออยู่ก็ให้เอารูปปั้น ไปลอยน้ำ ครับ
เคยมีเคส แล้วถามเกี่ยวกับเรื่อง เจ้าแม่กวนอิมนะครับ
แต่ผมจำไม่ได้ว่า เคส ไหน ต้องขอโทษจริง ๆ
แต่ยืน ยัน 100 % ว่า ไม่มีจริงครับ
หลวงพ่อท่านบอกว่าเป็นการแต่งขึ้นมาในกลุ่มคนเท่านั้นครับ
โดยส่วนตัวแล้ว ... ผมก็เคยเชื่อนะว่าท่านเป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง
อาจเป็นเพราะ ดูหนังจีน กับการได้รับสื่อ ทางด้านนี้ โดยไม่ได้พิจารณา
แต่พอมาศึกษาในโรงเรียนอนุบาล ก็ตาสว่างครับ ...
อย่างเช่น ถ้าท่านเป็นพระโพธิสัตว์จริง ๆ ท่านจะมาเข้าทรง ร่างคนธรรมดา ๆ ได้อย่างไร
จริงมั้ยครับ ก็ไม่ต้องคิดมากเลยนะครับ สายวิทยาธร 100%
แล้วอีกอย่าง ศาสนาพุทธเรา ไม่มีการเข้าทรง ทรงเจ้าครับ ^^~*
ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยนะครับ
สาธุ .....................
...........................................................
เ มื่ อ เ ร า ส ว่ า ง * * * โ ล ก * * * ก็ ส ว่ า ง ด้ ว ย ^^~*
ส า ธุ . . . ค รั บ ^^~*
#7
โพสต์เมื่อ 24 October 2006 - 03:22 PM
จำได้ว่ามีเคสถามเรื่องนี้ว่าเวลาเซ่นไหว้รูปปั้นเทพเจ้านั้นๆ เทพนั้นๆได้รับหรือไม่ คำตอบก็คือเทพเหล่านั้นไม่มีจริง ผู้ที่กินโอชะอาหารเป็นผีตีนโรงตีนศาล
การปรับตัวของศาสนาในศตวรรษบวกกับความย่อย่นทางวินัย ทำให้เกิดความเชื่อที่ไม่ใช่ความรู้ดั่งเดิมปนมาเยอะเลย
เวลาอธิษฐาน ถึงต้องกล่าวว่าให้เกิดในร่มเงาพระพุทธศาสนาอันเที่ยงแท้ตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
#8
โพสต์เมื่อ 24 October 2006 - 03:27 PM
แนวคิดของเจ้าแม่กวนอิม หรือพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร จีนได้รับมาจากพุทธศาสนาที่อินเดียในสมัยหลัง เพราะในช่วงหลังพุทธศาสนาที่อินเดีย จะกลายไปเนื่องจากได้รับอิทธิพลจากศาสนาพราหมณ์
ศาสนาพราหมณ์จะนับถือเทพเจ้าหลายองค์ พุทธศาสนาในสมัยหลังจึงรับแนวคิดนี้เข้ามา จึงได้มีการสร้างพระโพธิสัตว์องค์ต่าง ๆขึ้นมา ในพุทธศาสนาเพื่อแข่งกับศาสนาพราหมณ์
ต่อมาเมื่อพุทธศาสนาเข้าสู่จีน ชาวจีนแต่เดิมก็มีการไหว้เทพเจ้าต่างๆ อยู่แล้ว เมื่อมีแนวคิดเกี่ยวกับเทพเจ้าในพุทธศาสนา จึงได้ยอมรับแนวคิดนี้มาด้วย
แต่ในช่วงแรกที่พุทธศาสนเข้าไปสู่จีน พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรยังเป็นเพศชาย แต่ต่อมาเนื่องจากได้รับอิทธพลของคัมภีร์ "กวนซืออิน พูซ่าผู่เหมินพิ่น" (เป็นคัมภีร์ที่แต่งในยุคหลัง) กล่าวว่าพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรสามารถแปลงกายไปช่วยทุกข์มนุษย์ได้ และกายที่ได้รับความนิยมจากประชาชนมากที่สุดก็เป็นกายผู้หญิง หลังจากสมัยถัง ประชาชนจึงนิยมปั้นรูปปั้น พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรในเพศหญิงและกลายเป็นเจ้าแม่กวนอิมไปในที่สุด
เพื่อให้เรื่องราวของเจ้าแม่อวนอิมขลังยิ่งขึ้น ในยุคนั้นจึงมีการได้นำนินานชาวบ้าน เรื่องเจ้าหญิงเมี่ยวซ่าน มารวมกับเรื่องของเจ้าแม่กวนอิม
หลังจากยุคถัง เจ้าแม่กวนอิมจะได้รับความนับถือจากประชาชนมาก จนถึงมีการแต่งนินาน และนำเรื่องราวของเจ้าแม่กวนอิมไปผูกกับเรื่องราวต่างๆ เช่น ในเรื่องซีโหยวจี้ หรือไซอิ๋ว ก็มีการนำเรื่องราวของเจ้าแม่กวนอิม ไปรวมกับเรื่องของพระถังซัมจั๋ง ฯลฯ
สรุปว่า เจ้าแม่กวนอิมไม่มีจริงตั้งแต่ต้นจนจบครับ คนเราแต่งขึ้นมาเองทั้งนั้นครับ จึงไม่แปลกที่คุณครูไม่ใหญ่ท่านเรียกเจ้าแม่กวนอิมว่า เจ้าแม่ "กวนเอง" ครับ
#9
โพสต์เมื่อ 24 October 2006 - 03:46 PM
ไม่ใช่ฝึกมาฆ่าคนครับ ความคิดเรื่องฝึกกังฟูเพื่อมาใช้ในการต่อสู้ฆ่าคนนี่มันมาจากจินตนาการของนักเขียนนิยายกำลังภายในจีนครับ เป็นคนละเรื่องกันนะครับ เพราะมันเป็นเรื่องแต่งครับไม่ใช่เรื่องจริง
การฝึกสมาธิในลักษณะแบบนี้ผมก็เคยฝึกครับ
ผมเคยฝึกคาราเต้โดอยู่หลายปี เค้าฝึกสมาธิโดยการควบคุมจังหวะการหายใจ การเดิน ความสมดุลต่างๆในร่างกาย กระแสลม-เลือดที่หมุนในร่างกาย และการควบคุมจิต
วิธีการขั้นพื้นฐานง่ายๆ ก็อย่างเช่น การต่อย เตะ เป็นต้น
เชื่อมั้ยว่าการปล่อยหมัดที่ถูกต้องตามหลักการนั้น มีเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับ 'ทางสายกลาง' อยู่ด้วย หมัดที่ถูกต้องเป็นหมัดที่หนักแน่น ไม่เบาเกินไปจนเหมือนกับหมัดเหยาะแหยะซึ่งแทบจะไม่ได้ใช้กำลังกายเลย และไม่หนักแน่นจนเกินไปจนเกิดผลเสียกับร่างกาย เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อตึงเครียดมากเกินไป
ส่วนการแสดงต่างๆที่เราเห็นกันนั้นเป็นเรื่องของการฝิกจิตล้วนๆ
อย่างเรื่องการต่อยอิฐร่างกายของคนทั่วๆไปก็ต่อยอิฐแตกได้ แต่ที่ทำไม่ได้ก็เพราะจิตไม่เข้มแข็ง คนที่ทำได้จะต้องฝึกอำนาวจิตให้แข็งแกร่ง เมื่อจิตใจแข็งแกร่งแล้วการต่อยอิฐก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะการต่อยอิฐมันแค่วิธีการเท่านั้นซึ่งมันสามารถเปลี่ยนเป็นวิธีอื่นได้ แต่สิ่งที่ทำให้อิฐแตกได้คือพลังของจิต โชว์ที่เห็นจึงไม่ใช่การต่อยอิฐแต่เป็นการปล่อยพลังอำนาจของจิตใจเข้าทำลายก้อนอิฐ
วิชาพวกนี้จึงไม่ได้มีไว้ฆ่าคน เขาเอาไว้ฝึกสมาธิ ออกกำลังและใช้ป้องกันตัว เชื่อมั้ยว่ากระบวนท่าต่างๆเหล่านี้ได้รับการวิจัยศึกษามาเป็นพันๆปีว่า ก่อให้เกิดสมดุลที่ดีของร่างกายอย่างไรบ้าง
ส่วนเรื่องของคำสอน ถ้าเราไม่ได้อ่านมาจากหนังสือต้นตำรับแล้วก็ไม่อาจจะรู้ได้หรอกครับว่าเป็นคำสอนของเค้าจริงๆหรือเปล่า เพราะในหลายๆครั้งมันก็มาจากนิยายกำลังภายในจีนที่นักเขียนแต่งขึ้นซึ่งบางทีนักเขียนก็ไม่ใช่ชาวจีนด้วย แต่เป็นชาวต่างชาติหรือแม้กระทั่งชาวไทยเองก็มี
เจ้าแม่กวนอิมนั้นบอกได้แต่เพียงว่าท่านเป็นตัวละครในนิยายเรื่องไซอิ๋วที่มีคนเขียนไว้เมื่อหลายพันปีก่อน ที่ผมไม่อาจบอกได้ว่ามีจริงหรือไม่ เพราะลักษณะของการบันทึกในสมัยก่อน(ยกเว้นหนังสือพงศาวดาร) นิยมแต่งเป็นนวนิยายที่ผสมเรื่องจริงเข้ากับจินตนาการของผู้เขียน ผู้ที่เกิดในรุ่นหลังจึงต้องมาแยกแยะศึกษาว่าอันไหนเป็นเรื่องจริงอันไหนเป็นเรื่องแต่ง แต่หลวงพ่อเคยพูดเรื่องเจ้าแม่กวนอิม เฮ้งเจีย ตือโป๊ยก่าย กับซัวเจ๋ง และปิศาจต่างๆในไซอิ๋ว ไว้แล้วว่ามีจริงหรือไม่ลองติดตามดูนะครับ
เรื่องของพงศาวดารและวัฒนธรรมความเชื่อของจีนนั้น ในสมัยนี้นี่ถ้าไม่ได้อ่านจากหนังสือพงศาวดารจีนจริงๆ ก็เชื่อได้น้อยหรือเชื่อไม่ได้เลยครับ
ยกตัวอย่างเช่นเรื่องเปาบุ้นจิ้น มีบันทึกไว้แต่เพียงว่าเขาเป็นผู้พิพากษาที่ยุติธรรมในสมัย4000ปีก่อน ไม่ได้มีบันทึกเรื่องคดีต่างๆที่ถูกแต่งเติมขึ้นมาแบบที่เราเห็นในโทรทัศน์หรอกครับ
#10
โพสต์เมื่อ 24 October 2006 - 04:16 PM
รักบุญ เชื่อในบุญ
mata072 windowslive.com
#11
โพสต์เมื่อ 24 October 2006 - 04:52 PM
ขอแก้ไขข้อมูลนิดนึง ไม่ใช่นะครับ แม้หลังจากชาติแรกที่อธิษฐานพุทธภูมิ เมื่อทำกรรมกาเมก็สามารถเกิดเป็นผู้หญิงได้ครับ อย่างพระพุทธเจ้าของเราหลังจากชาติที่เป็นมาณพช่างทองทำผิดศีลข้อ 3 แล้วไปตกนรกอยู่ยาวนาน จนกรรมเบาบางจนมาเกิดเป็นมนุษย์เป็นผู้หญิง ชาติหนึ่งถ้าผมจำไม่ผิดเกิดเป็นเจ้าหญิงชื่อว่า เจ้าหญิงสุมิตตาเทวี
#12
โพสต์เมื่อ 24 October 2006 - 04:54 PM
ในนวนิยายอิงพงศาวดารจีนได้ให้รายละเอียดไว้พอจะสรุปมาได้เป็นดังนี้ครับ เป็นเรื่องราวสตรีผู้หนึ่งมีนามว่า เมี่ยวซ่าน เป็นธิดาของฮ่องเต้ในราชวงศ์ถังไท่จงพระองค์หนึ่งซึ่งมีใจคอที่อำมหิตและโหดเหี้ยม แต่ธิดาเมี่ยวซ่านนี้กลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง คือมีความเมตตา และกรุณา และมีความเป็นกุลสตรีอย่างสูง ประกอบทั้งมีสิริโฉมที่งดงาม จึงเป็นที่อิจฉาริษยาต่อบรรดาพี่น้องต่างมารดา จังโดนกลั่นแกล้งสารพัดรูปแบบ(คล้ายๆซินเดอร์รินล่า) และเนื่องจากที่ธิดาเมี่ยวซ่านมีความเมตตากรุณา จึงไม่โปรดที่จะทานเนื้อสัตว์ เพราะสงสารสัตว์ที่ถูกฆ่า(จึงเป็นที่มาของการกินเจจนถึงปัจจุบัน) ครั้งเมื่อโตเป็นสาว ใจจึงมีความมุ่งมั่นอยากจะบวชเป็นภิกษุณีในพุทธศาสนา แล้วก็ได้บวชตามความประสงค์ หากผมจำไม่ผิดจะได้ฉายาว่ากวนอิม เมื่อครั้งบวชเนื่องจากเคยเป็นองค์หญิงในวังมาก่อน จึงทำให้มีกริยาวาจาที่เรียบร้อย แต่ดูงามสง่าเหมือนเจ้าหญิง จึงทำให้ประชาชนต่างคิดว่าได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ (ในสมัยนั้นหรือแม้แต่ยุคปัจจุบันชาวจีนมีความเข้าใจกันว่าพระอรหันต์คือพระโพธิสัตว์ และผู้หมดกิเลสคือพระโสดาบัน ซึ่งจะตรงข้ามกับของเรา) จึงทำให้ประชาชนต่างเรียกองค์หญิงเมี่ยวซ่านว่าพระโพธิสัตว์
สรุปคือเรื่องของเจ้าแม่กวนอิมเป็นนวนิยายอิงพงศาวดารที่แต่งขึ้นเพื่อยกย่องความดีขององค์หญิงเมี่ยวซ่าน เหมือนพระถังซัมจั๋งในไซอิ๋วน่ะครับ
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#13
โพสต์เมื่อ 24 October 2006 - 04:56 PM
โดยปกตินิยตโพธิสัตว์จะเป็นบุรุษเพศ
เรื่องกวนอิมน่าจะมาจากทางมหายาน บางท่านสันนิษฐานที่มาว่าเกิดในช่วงที่จักรวรรดินิยมขยายเข้าสู่ประเทศจีน ได้เผยแผ่ศาสนาเรื่องเทพเจ้าที่เป็นสตรี ทางจีนจึงต้องอุปโลกเทพเจ้าสตรีขึ้นมาเพื่อให้ทางจักรวรรดินิยมทราบว่าทางนี้ก็มีเจ้าแม่เหมือนกัน
ตำนานเล่าต่อๆกันมาหลายชั่วคน จนมีอภินิหารเกิดขึ้นมากมาย
#14
โพสต์เมื่อ 24 October 2006 - 05:16 PM
คุณจะใช้คำว่า'นวนิยายพงศาวดาร' ไม่ได้นะครับ เพราะจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดเพี้ยนไปกันใหญ่
นวนิยายคืองานเขียนประเภทหนึ่งของ'วรรณกรรม'
พงศาวดารคืองานเขียนที่เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์
คุณเคยเข้าวัดนำคำสองคำนี้มาใช้รวมกันทำให้เกิดความโกลาหลความหมายเพี้ยนไปกันใหญ่ เพราะสองคำนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกันเลย
น่าจะใช้คำว่า'นวนิยาย' หรือ 'พงศาวดาร' คำใดคำหนึ่งจะเหมาะสมกว่า
#15
โพสต์เมื่อ 24 October 2006 - 05:31 PM
ขอบคุณ คุณ มาดอนเข้มากครับ สาธุ
ขอเปลี่ยนใหม่ ผู้ที่เป็นพระโพธิสัตว์ ผู้เที่ยงแท้จะเป็นพระพุทธเจ้า ในพระชาติท้ายๆ ที่มีบารมีมาก จะเกิดเป็นมนุษย์ผู้ชายตลอด
#16
โพสต์เมื่อ 24 October 2006 - 06:49 PM
ยุคที่จักรพรรดินีนามว่า "บูเช็กเทียน" ปกครองประเทศจีน
กล่าวกันว่าพระนางแม้จะปกครองบ้านเมืองด้วยความเฉียบขาด
แต่ก็มีความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอยู่ไม่น้อย
วัดวาอารามที่พระนางสร้างไว้ในพระพุทธศาสนาก็มีมาก
จึงเป็นไปได้ไหม ที่เรื่องราวของพระโพธิสัตว์สตรี น่าจะถูกอุปโลก
ขึ้นมาในยุคนี้เพื่อเป็นการสรรเสริญเอาใจ บวกกับเกรงกลัวด้วย
จึงอยากจะสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นเหตุเกิดเรื่องราวของเจ้าแม่กวนอิมขึ้นมา
#17
โพสต์เมื่อ 24 October 2006 - 07:13 PM
ถ้าไปผูกพันนานกว่านี้ คงออกมาลำบาก
ขอเล่า..
เรื่องมีอยู่ว่า...
สมัยเป็นเด็กยังไม่รู้เรื่องอะไร
ไม่รู้ว่าเกิดแล้วต้องตาย แต่มีคำถามในใจว่า ทำไมคนไม่ล้นโลก
พอได้ไปงานศพครั้งแรก ก็รู้ว่า เกิดแล้วต้องมีตายด้วย
กลัวมากเลยตอนแรก ที่กลัวเพราะว่า..
นึกว่าตายคือการไปนอนในลังไม้อยู่บนกองไฟ ที่กลัวคือกลัวหายใจไม่ออก
ต่อมาพ่อพาไปเข้าเจ้าแม่กวนอิม ไปทำพิธีอะไรไม่รู้ยังเด็กมากจำไม่ได้
แล้วกลับมาบ้านก็ถามว่า "นับถือนี้แล้วยังต้องตายไหม?" (คำตอบก็ รู้ๆกันนะ)
ต่อจากนั้นก็ไปนับถือความเชื่อใหม่ เกี่ยวกับ แสงทิพย์ (ออกเคสไปแล้ว วันที่ ๑๒ กันยายน 'นึกว่าง้วนดิน...เลยกินเข้าไป' )
อยู่นี้นานมาก หมดเนื้อหมดตัวไปมาก พ่อก็ออกจากงานไป
ผมก็ถามคำถามเดิม "นับถือนี้แล้วยังต้องตายไหม?" คำตอบเดิม
ตามที่ในเคสดังกล่าวบอกเลย มีวิญญาณเข้าๆออกๆร่าง
จนใช้คำว่า คุ้นเคยกันดี เป็นเรื่องปกติไปแล้ว
เคยส่งเคสถามเรื่องนี้ไปแล้วแต่ยังไม่ได้ออกอากาศ
หลังจากนั้นก็ออกมานับถือเทพเจ้า สิงๆทรงๆ
พ่อโดนทาบทามให้ไปรับขัน เพื่อมาเปิดสำนักที่บ้าน
แล้วก็มีคนที่อ้างว่าเป็นร่างเจ้าแม่กวนอิมมาบ้านบ่อยๆ
มาทุกทีเข้าร่างทุกที
ด้วยกรรมที่เบาบางลง เลยมาเจอวัด เย้!
และได้หักดิบเลิกไปเรียบร้อยแล้ว และชวนคนที่เคยไปสำนักต่างๆออก ดึงออกมา
แต่ก็มีบางคน
ผม : นี่ดูเคสนี้สิหลวงพ่อเฉยแล้วนะว่า แสงทิพย์ คืออะไร
คนนั้น : พี่ไม่เชื่อหรอก หลวงพ่อเปิดหนังสือตอบ ไม่ได้รู้จริงๆ
ผม : ก็แล้วแต่เด้อ จะเชื่อตอนเป็นหรือว่าจะไปเห็นจริงตอนตาย
ใครที่หลุดเข้าไป ขอร้องให้ชวนมาเข้าวัด ฟังความจริงของชีวิต ก่อนจะหลงไป มันออกยากนะจ๊ะ
#18
โพสต์เมื่อ 24 October 2006 - 09:35 PM
ผู้ที่ได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว จะไม่เกิดเป็นหญิงอีกครับ
ชาติที่เป็นเจ้าหญิงนั้นจำได้ว่าเป็นน้องสาวต่างพระมารดาของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ได้ถวายน้ำมันจามเมล็ดผักกาด
และได้ตั้งความปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าที่มีนามคล้ายเม็ดผักกาดนั้น
พระพุทธเจ้าผู้เป็นพี่ชาย ได้ให้พุทธพยากรณ์ว่าจะได้เป็นพระพุธทฌจ้าในอนาคต นับแต่นั้นพระโพธิสัตย์ก็ไม่เกิดเป็นหญิงอีกเลย
#19
โพสต์เมื่อ 24 October 2006 - 09:49 PM
จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ พระเจ้าถังไท่จงเป็นฮ่องเต้ที่ทรงคุณธรรมยิ่งกว่าฮ่องเต้องค์ใด แม้พระองค์ขึ้นครองราชย์ด้วยการฆ่าพี่น้องก็ตาม
แต่เหตุการขณะนั้นบ้านเมืองเป็นโกลาหล มีการรบพุ่งกันระหว่างพี่น้องเพื่อชิงราชบัลลังค์ แต่ประชาชนเห็นว่า เจ้าชายหลี่ซื่อหมิ่นเป็นผู้มีคุณธรรม ความสามารถ จึงไปเข้าด้วยเป็นอันมาก สนับสนุนให้พระองค์ข้นครองราชย์ ซึ่งแน่นอนเจ้าชายองค์อื่น และขุนพลทั้งหลายที่คุมกำลังอยู่เวลานั้น ก็ไม่ยอมพยายามโค่นล้มกองทัพของหลี่ซื่อหมิ่นแต่ไม่สำเร็จ เมื่อได้ขึ้นครองราชย์แล้วเพื่อรักษาความสงบของบ้านเมือง
จึงจำเป็นต้องปราบปรามผู้มีอำนาจทั้งหลาย จนอาจทำให้พระองค์ดู####มโหด แต่ตลอดชีวิตของพระองค์นั้น ได้ปกครองแผ่นดินโดยทศพิธราชธรรม พระองค์ได้ส่งเสริมพระพุทธศาสนา กล่าวกันว่าพระพุทธศาสนาในจีน เจริญที่สุดก็ในสมัยของพระองค์นี่เอง
#20
โพสต์เมื่อ 24 October 2006 - 09:59 PM
ขอบพระคุณมากนะครับที่ช่วยแก้ต่างให้ผม ขออนุโมทนาด้วยนะครับ
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#21
โพสต์เมื่อ 24 October 2006 - 10:13 PM
พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร เป็นพระโพธิสัตว์ที่มีเมตตามาก มีปณิธานที่จะช่วยเหลือสัตว์โลกทุกตนให้พ้นจากความทุกข์ และที่สำคัญท่านเป็นผู้ชาย ส่วนเรื่องเจ้าแม่กวนอิมนัยว่าเป็นเรื่องแต่งขึ้นเพิ่มเติมจากเรื่องของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ด้วยสาเหตุหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการเผยแพร่คำสอนของศาสนาอื่นที่ยกประเด็นสิทธิสตรีขึ้นมาเรียกร้องคะแนนนิยม การที่ชาวบ้านนิยมเรื่องแต่ง นิยาย นิทาน เรื่องเล่า หรือการที่ชาวบ้านนิยมรูปเคารพ เพื่อให้ชาวบ้านทั่วไปยอมรับคำสอนจึงมีการใช้กุศโลบายต่าง ๆ ทำให้ชาวบ้านหันมาศึกษาพุทธศาสนาในที่สุด แต่พอกาลเวลาผ่านไป ใจความสำคัญของพระศาสนาก็เลือนหายไป เหลือไว้แต่เปลือกหรือกระพี้ซึ่งเป็นอย่างนี้ในทุกที่ทุกยุคทุกสมัย เหมือนพฤติกรรมความเชื่อบางอย่างของไทยนั่นเอง
#22
โพสต์เมื่อ 24 October 2006 - 10:56 PM
คือว่าที่บ้านเคยนับถือ อยู่พักนึง
ตอนนับถือนี่ไม่สนเลย พระพุทธเจ้าผู้เป็นศาสดา เเท้ๆ
เเล้วก็มาลองใจในฝันมากมายเรื่องกินเนื้อวัว
เเล้วเราตอนั้นก็เจอเทพในตำนานเเขกด้วย
เเล้วเราก็โอ้ว เรานี่นะ ช่างมีบุญอะไรเช่นนี้
เเต่ตอนนั้นนั่บถือพระพุทธเจ้าเหนือเศียรเกล้า
เเล้วค่ะ ขอโทษ เค้าเข้ามาผิดที่ดันมาขอให้เลิกนับถือพระพุทธเจ้า
ชิชะ เลยอดเลยมั้ยละ
พอเข้าวัดมาตาก็สว่างเลยค่ะ
เหอๆ สงสัยจะหมดกรรมพรรค์นั้นเเล้วจริงๆ
ใครมีญาติมิตรติดพวกนั้น ให้เลิกซะนะคะ เพราะเป็นเเล้ว
จะไม่สนใจพระศาสดาเลย เฉไฉอย่างยิ่ง อันตราย
เอ้อ อีกนิดค่ะ มีเเต่คนนับถือเจ้าเเม่กวนอิมที่เมืองไทยเท่านั้น
ที่ไม่กินเนื้อวัว นอกนั้นเค้ากินกันหมด เลย
#23
โพสต์เมื่อ 24 October 2006 - 11:29 PM
#24
โพสต์เมื่อ 25 October 2006 - 12:09 AM
#25
โพสต์เมื่อ 25 October 2006 - 06:42 AM
ถึงแม้จะเป็นสัตว์เดรัจฉาน ก็จะเป็นสัตว์เพศชาย ครับ
เมื่อวาน 15:02
ไม่ถูกนะคะ
แก้ตรงที่ว่า "ตั้งแต่ชาติที่อธิษฐาน" เป็น "ตั้งแต่ชาติที่ได้รับพุทธพยากรณ์ครั้งแรก" ค่ะ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#26
โพสต์เมื่อ 25 October 2006 - 09:04 AM
และที่ว่าเจ้าแม่กวนอิมอาจได้รับอิทธิพลจากการพระนางบูเช็คเทียนหรือเปล่า ผมว่าไม่น่าจะใช่นะครับ เพราะพระนางบูเช็คเทียนเชื่อว่าตนเป็นอวตานของพระศรีอาริยเมตไตรครับ ไม่ได้เป็นอวตานของเจ้าแม่กวนอิม
ส่วนในหนัง ที่หลวงจีนสามารถฆ่าคนได้ เพราะในศีลพระโพธิสัตว์ (คัมภร์ที่แต่งทีหลัง) มีอยู่ข้อหนึ่งที่กล่าวประมาณว่า พระโพธิสัตว์สามารถฆ่าคนชั่วได้ เพื่อไม่ให้คนชั่วต้องไปทำบาป คือประมาณว่า พระโพธิสัตว์ยอมฆ่าเขาแล้วตกนรกแทน ดีกว่าที่จะปล่อยเขาไปทำชั่วแล้วเขาต้องตกนรกน่ะครับ เลยไม่แปลกที่ในหนังจีน จะเห็นหลวงจีนฆ่าฝ่ายพรรคมาร ซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามน่ะครับ
จะเห็นว่าพุทธศาสนาในยุคหลังเพี้ยนไปเยอะ เลยครับ เลยทำให้คิดได้ว่า พวกเราโชคดีจังที่ได้มาเจอกับพุทธศาสนแบบดั้งเดิม ได้มาเป็นลูกหลวงพ่อ หลานคุณยาย
#27
โพสต์เมื่อ 25 October 2006 - 09:47 AM
เหอๆ กลายเป็นตำไทย ใส่ปู ปลาร้าเลยอ่ะสิครับเนี่ย เล่นเอาผมขำกลิ้งเลยอ่ะ อนุโมทนานะครับคุณเราคือใคร ทำให้ผมอารมณ์ดีไปอีกวัน
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#28
โพสต์เมื่อ 25 October 2006 - 12:27 PM
แม้ว่าเรื่องของพระอรหันต์จี้กง ก็ลองดูเถิดว่าอ่านแล้วท่านรู้สึกอย่างไร
#29
โพสต์เมื่อ 25 October 2006 - 01:28 PM
ขอขมาที่จำไม่ได้ว่าเป็น case ประจำเดือน อะไร แต่จำชื่อเรื่องได้ค่ะ
สรุป case นี้มีอยู่ว่า (ตามทัศนะของนักเรียนอนุบาลนะคะ)
1. เจ้าแม่..ไม่มีจริง มนุษย์เป็นผู้สร้างขึ้นมา
2. ชวนคนทำบุญ แต่ไม่ทำเอง จะมีทรัพย์ แต่ไม่ได้ใช่ชื่อของตนเอง
3. แอบดูหญิงอาบน้ำ ทำให้เป็นตากุ้งยิงจริง
4. เอาลูกไปให้คนอื่นเลี้ยง จะต้องถูกเอาไปให้คนอื่นเลี้ยงบ้าง
5. วิบากกรรมสุรา จะบีบคั้นให้เป็นเศร้าซึม
#30
โพสต์เมื่อ 25 October 2006 - 07:47 PM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี