มาร
#1
โพสต์เมื่อ 12 October 2010 - 03:02 AM
มาร ไม่ใช่เป็นเพียงคำสมมุติที่ใช้เรียกความไม่ดี หรือสิ่งขัดขวางการกระทำความดี
แต่มารมีตัวตนจริง ๆ เป็นกายที่ละเอียดมาก มันเข้ามาเอิบอาบ ซึมซาบ หมักดอง อยู่
ในใจของเราหลายซับหลายซ้อน ทำให้เราคิดผิด พูดผิด ทำผิด ไปตามกระแสที่มัน
ส่งให้
ใจ ของผู้ที่ไม่ได้ตั้งมั่นแน่วแน่อยู่ในสมาธิ จึงถูกมารเข้ายึดครองได้ง่าย มันบังคับ
บัญชา ใช้ให้เราเป็นหุ่นเพื่อสร้างกรรมชั่วในโลกมนุษย์ได้แล้ว มารก็จะขังเราไว้
ในนรกขุมต่าง ๆ ให้ได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัสต่อไป
หลวงพ่อทัตตชีโว(พระภาวนาวิริยกุล) รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้เทศนาเรื่อง
ของมาร และแยกแยะให้เป็นตระกูล ๆแล้ว รวมทั้งบอกถึงเล่ห์เหลี่ยมของมารพร้อมวิธีแก้ไข
เมื่ออ่านแล้วอย่าเพียงแต่อ่านผ่านไป ขอให้นำไปพิจารณาและปฏิบัติจะได้ไม่ไปเสียทีแก่มาร
อีก พวกเราโดนมารหลอกกันมานับภพนับชาติไม่ถ้วนแล้ว สมควรจะได้รู้เท่าทันมาร
จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของมารได้ง่าย ๆ อีกต่อไป
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=16453
..........................
หมายเหตุขอโทษด้วย ลบลิงค์ทิ้งไปเพราะมิสามารถติดต่อได้อีก กำลังค้นคว้าค่ะ
.................................................
เพิ่มเติมข้อมูล ( ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๓)
สรุปว่ามารมี ๕ ฝูง (กทม ขอ) :
กิเลสมาร มีสามตระกูล คือ โลภะ โทษะ และโมหะ
เทวบุตรมาร ผู้ขัดขวางการทำดี
มัจจุราช
ขันธมาร.............VIP***(กาย และใจ)...รูปหนึ่ง + นามสี่ = ขันธ์ห้า >> เกิด > คน >ทุกข์
อภิสังขารมาร
......ถ้าเรียงตามลำดับจะเป็น ก ข อ ม ท แต่เพิ่อสะดวกในการจำจึงใช้ กทม ขอ
.........................ทางเดียวที่มารไม่อาจมาทำอะไรเราได้คือใจต้องอยู่ ณ ๐๗๒.................
อยู่กับพระรัตนตรัย หรือ อยู่กับหลวงปู่ "พระปราบมาร" ตลอดเวลา นั่นเอง
#2
โพสต์เมื่อ 12 October 2010 - 05:00 AM
อยู่ในรูปแบบอื่น หากใครรู้ช่วยตอบด้วยค่ะ
#3
โพสต์เมื่อ 12 October 2010 - 09:51 AM
#4
โพสต์เมื่อ 12 October 2010 - 07:20 PM
#5
โพสต์เมื่อ 12 October 2010 - 08:37 PM
โปรดอย่าเข้าใจผิด ในฐานะที่ดิฉันเป็นเจ้าของกระทู้นี้ ขอยืนยันว่าเคารพในสิทธิมติในที่ประชุมของคณะกรรมการของทีมงานค่ะ
เราว่าอย่างไรก็ว่าตามกันอยู่แล้ว และการนำเสนอกระทู้นี้ตอนแรกไม่ทราบเลยว่า เรื่อง"ล่าพญามาร" ที่คุณครูไม่เล็กเคยแสดง
ธรรมไว้นั้นเป็นความรู้ที่ดีมาก ๆ (ดิฉันยังพิมพ์เก็บไว้อ่านทบทวนค่ะ) โดยไม่รู้ว่าขณะที่เรากำลังอินกับ"พระปราบมาร"มาก ๆๆๆๆ
และอยากรู้อยากศึกษาเรื่องมารให้มากขึ้น ลึกลงไป แต่กลับพบกับความว่างเปล่าในตอนที่อ้างอิงและตรวจสอบว่าจิ้มถูกหรือเปล่า
เมื่อพิมพ์ไม่ผิดก็ไม่แนใจว่า ล่าพญามารยังอยู่หรือไม่ ? จึงเกิด คคห#2 ขึ้น และตามมาเป็นลำดับ
ถ้าคืดว่านี่คือปัญหาจะลบกระทู้นี้ทิ้งไปเลยก็โอเคค่ะ
#6
โพสต์เมื่อ 12 October 2010 - 10:24 PM
ไหนๆก็เข้ามาแล้ว ขอแชร์อะไรบ้างดีกว่า
การที่มีบางกระทู้ บางข้อความหายไปจากการพูดคุยในบอร์ดนั้น หนึ่งในเหตุก็คือ
เป็นกระทู้ที่มีการพูดคุยเรื่องที่ "คนภายนอกไม่เข้าใจ" ทำให้อาจจะเกิดการเข้าใจผิดได้ง่าย
เช่นเรื่องที่เจ้าของกระทู้ตั้งมานี้ ถ้าพูดคุยกันแค่เรื่องที่มีปรากฏในพระไตรปิฏกเท่านั้นก็ไม่เป็นไรครับ เพราะเมื่อใครสงสัยก็สามารถหาหลักฐานมาอ้างอิงได้
แต่บางครั้ง ท่านผู้รู้หลายๆท่าน อยากจะเปิดเผยข้อมูลอะไรที่มากกว่านี้ ละเอียดกว่านี้ โดยเฉพาะเรื่องราวที่เป็น "การรู้เฉพาะตน" เมื่อเวลานำมาพูดคุย ทำให้คนที่ไม่เคย ไม่เคยได้ยินเกิดคำถามได้ง่าย
คนที่เปิดใจก็ดีไป บางคนใจไม่เปิดรับด้วยความไม่รู้ก็จะเกิดข้อครหาตามมาอีกมากมาย บางครั้งก็เลยเถิดไปเป็นประเด็นใหญ่โต
เพราะฉะนั้น ในบ้างครั้งถ้าเกิดมีการที่กระทู้หายไป หรือโพสต์บางโพสต์หายไปก็อยากให้ทุกท่านทำความเข้าใจด้วยว่า ทางทีมงานได้ทำการพิจารณาอย่างละเอียดเรียบร้อยแล้วว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะคุยเรื่องพวกนี้แบบทั่วไป
ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก เพียงแต่บางครั้งทุกเรื่องราวก็มีเวลามีโอกาศของตัวมันเองครับ
ตั้งกระทู้มาก่อน โพสต์กันไปก่อน เดี๋ยวทีมงานเขาก็จะจัดกรอบเองครับ ขอเพียงให้เข้าใจด้วยเวลามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
อนุโมทนาบุญด้วยครับ
#7
โพสต์เมื่อ 13 October 2010 - 01:06 AM
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#8
โพสต์เมื่อ 13 October 2010 - 01:57 AM
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#9
โพสต์เมื่อ 14 October 2010 - 09:54 AM
#10
โพสต์เมื่อ 06 July 2013 - 07:56 PM
มารไม่ตกนรก อยู่สวรรค์ตลอด มารโกงกฎแห่งกรรม
#11
โพสต์เมื่อ 06 July 2013 - 08:35 PM
#12
โพสต์เมื่อ 06 July 2013 - 09:13 PM
กระทู้นี้ได้เขียนนานแล้ว จนลืมไปแล้ว ดีจังได้ทบทวนอีก
อย่างนี้เรียกว่าระลึกถึงบุญ หลังทำแล้ว สาธุ ๆ ๆ ดีจัง
""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
"มารไม่ตกนรก อยู่สวรรค์ตลอด มารโกงกฎแห่งกรรม" โพสต์จาก กัลฯ GAZEBOON.COM
จึงมีคำถามต่อมาคือ
คำถาม : เป็นเพราะเขาเป็นเจ้าของกฎ เขาจึงยกเว้นได้อย่างนั้นหรือ ?
#13
โพสต์เมื่อ 07 July 2013 - 04:48 PM
กระทู้นี้ได้เขียนนานแล้ว จนลืมไปแล้ว ดีจังได้ทบทวนอีก
อย่างนี้เรียกว่าระลึกถึงบุญ หลังทำแล้ว สาธุ ๆ ๆ ดีจัง
""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
"มารไม่ตกนรก อยู่สวรรค์ตลอด มารโกงกฎแห่งกรรม" โพสต์จาก กัลฯ GAZEBOON.COM
จึงมีคำถามต่อมาคือ
คำถาม : เป็นเพราะเขาเป็นเจ้าของกฎ เขาจึงยกเว้นได้อย่างนั้นหรือ ?
ใครเป็นเจ้าของ "กฎแห่งกรรม" ผมไม่รู้ครับ
ผมก็สงสัยว่า "มารสร้างแต่สิ่งชั่วร้าย ทำไมมารไม่ตรกนรกให้หมดน่ะ แต่กลับได้อยู่ดี อยู่สร้างความชั่วอย่างมีความสุขต่อไป"
เพราะอะไรกันใครตอบให้หายข้องใจหน่อยครับ?
#14
โพสต์เมื่อ 08 July 2013 - 04:55 PM
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัติ
“กฎแห่งกรรม”
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้เป็นผู้บัญญัติ
แต่มีผู้ที่เขาตั้งกฎนี้ขึ้นมา
เป็นผู้ที่มีฤทธิ์ มีอานุภาพมาก
เรามองไม่เห็นเขา เขาอยู่ในที่ลึกลับมาก ๆ
เป็นผู้อยู่ฉากหลังในทุก ๆ ชีวิต
ตลอดแสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล
ไม่มีเว้นเลยสักรายเดียว
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปรู้ไปเห็นมาด้วยพุทธญาณอันบริสุทธิ์
เพราะความสงสารจึงได้นำมาสั่งสอนสัตวโลก
ให้รู้ให้เห็นเรื่องราวเหล่านี้
๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๖
คำสอนพ่อ(หลวงพ่อธมฺมชโย)
#15
โพสต์เมื่อ 08 July 2013 - 06:58 PM
ใครเป็นเจ้าของ "กฎแห่งกรรม" ผมไม่รู้ครับ
ผมก็สงสัยว่า "มารสร้างแต่สิ่งชั่วร้าย ทำไมมารไม่ตรกนรกให้หมดน่ะ แต่กลับได้อยู่ดี อยู่สร้างความชั่วอย่างมีความสุขต่อไป"
เพราะอะไรกันใครตอบให้หายข้องใจหน่อยครับ?
เข้าใจคลาดเคลื่อนแล้วครับ
1. ฝ่ายโน้นจริงๆ แล้วไม่ได้ทำชั่วอะไรมากมายนะครับ ลองพิจารณาดีๆ เพราะเขารู้เรื่องกฏแห่งกรรมดี ทำให้เขาไม่ได้ "ลงมือ" ทำชั่วเลย เพื่อหลีกเลี่ยงผลแห่งกรรมที่จะมาส่งผลตัดรอน เพียงแค่หลอกล่อ หลอกลวงให้พวกเราทำกันเองทั้งนั้น วิบากกรรมของเขาจึงไม่ได้มากมายอะไรเลย
2. และอย่าสับสนกับการอยู่สวรรค์หรือตกนรก ไม่ว่าฝ่ายไหน ถ้าผลบุญยังส่งผลอยู่ก็ขึ้นสวรรค์ทั้งนั้นครับ การทำสิ่งชั่วร้ายไม่ได้ทำให้กลายเป็นฝ่ายโน้น มิจฉาทิฏฐิต่างหากที่ทำให้กลายเป็นฝ่ายโน้น
ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น ในทางธรรมการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตเป็นบาป แต่ถ้ามีใครสักคนมาพูดกับคุณว่า "...อย่าคิดมากเลย สัตว์พวกนี้เกิดมาเพื่อเป็นอาหารให้คนเรา ถ้าเราไม่ทำ เราจะกินอะไร..." ถ้าคุณไม่เคยรู้จักพระพุทธศาสนามาก่อน คุณก็จะเห็นว่าสิ่งที่คนๆ นั้นพูด เหมาะสมด้วยเหตุและผล แล้วคุณก็ลงมือฆ่าสัตว์เพื่อเป็นอาหารต่อไปโดยไม่รู้สึกผิดอะไร
ถามว่าคนที่มาพูดให้คุณหลงไปนั้นผิดตรงไหน บาปตรงไหน ถ้าจะมีก็เพียงการพูดล่อลวงให้เราเกิดความสับสนเท่านั้น ไม่ได้จัดเป็นกรรมหนักแต่อย่างใด ถ้าช่วงนั้นผลบุญอันมากประมาณยังส่งผลอยู่ วิบากกรรมแค่เล็กน้อยนี้ก็ไม่มีโอก่าศได้ส่งผลจนต้องตกนรกหรอกครับ
และจากการได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ทำให้ได้ข้อคิดที่ว่า พญามารที่เราได้เรีนยรู้ ได้เคยได้ยินนั้น ถ้าเทียบกันแล้วก็แค่นายกอง หัวหมู่เท่านั้น ผู้ที่ออกกฏแห่งกรรมทั้งหลายนั้น ต้องปฏิบัติธรรมให้ยิ่งๆ ขึ้นไป ถึงจะได้รู้ ได้เห็น ได้เข้าใจ
ผมว่านะ ในขั้นต้นนี้ พวกเราเอาแค่ระดับ เกาะกลุ่มกัลยาณมิตรสั่งสมบารมีเอาตัวรอดเป็นช่วงๆ ไปก่อนดีกว่าครับ เดี๋ยวธาตุธรรมแก่กล้ากว่านี้ค่อยมาว่าเรื่องอื่นๆ กัน
#16
โพสต์เมื่อ 09 July 2013 - 11:49 AM
อ่อครับ ขอบคุณครับผม งั้นผมไม่ถามต่อแระว่า "มารทำความดีอะไรถึงได้อยู่สวรรค์ได้ตลอด" ผมไม่ถามต่อแล้วน่ะครับ
ขอบคุณครับผม
#17
โพสต์เมื่อ 09 July 2013 - 12:39 PM
ก็บุญมากระดับได้เป็นผู้ครองสวรรค์ชั้นที่ 6 นั่นแหละครับ
และด้วยความคิดที่ว่า เรายิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว กามคุณ 5 เราสุขที่สุดแล้ว ทิพยสมบัติเราเหนือกว่าผู้ใดใน 3 โลก แค่นี้ก็โดนฝ่ายโน้นเข้าแทรก กลายไปเป็นแขนขาให้เขาซะแล้ว
เพราะฉะนั้นอย่าประมาทกันในทุกๆ ขณะชีวิตกันนะครับทุกท่าน หมั่นทำทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนาเอาไว้เป็นทุนติดตัว แม้จะสู้รบปรบมือกับใครเขาไม่ได้ อย่างน้อยเราก็หนีเอาตัวรอดไม่ต้องเป็นภาระให้ใครก็ถือว่าสุดยอดแล้วครับ
#18
โพสต์เมื่อ 09 July 2013 - 02:01 PM
มารทำบุญ
#19
โพสต์เมื่อ 09 July 2013 - 02:21 PM
มารทำบุญ
แล้วไงครับ
#20
โพสต์เมื่อ 09 July 2013 - 02:23 PM
อยากรู้ว่ามารทำบุญยังไงถึงได้บุญเยอะขนาดนั้นครับ
#21
โพสต์เมื่อ 09 July 2013 - 04:13 PM
ใบไม้ในกำมือ หลังอิงต้นโพธิ์..."มาร"มี 5ฝูง ก ท ม ข อ ก็พอนะ
ใบไม้ในป่า หลังอิงพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ.."มาร" อึ๋ยส์...
#22
โพสต์เมื่อ 09 July 2013 - 07:17 PM
#23
โพสต์เมื่อ 13 June 2015 - 11:13 AM
มาร