แพทย์วอนุญาติโยมงดถวายของรสจัด แก่พระสงฆ์
#1
โพสต์เมื่อ 21 February 2009 - 08:05 PM
พญ.วราภรณ์ ภูมิสวัสดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงฆ์ เป็นประธานในงานทอดผ้าป่ามหากุศล ที่โรงพยาบาลสงฆ์ เพื่อนำรายได้ไปเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อพระภิกษุ และสามเฌรอาพาธ ที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาล และถือเป็นการทำบุญครบรอบ 58 ปีในการก่อตั้งโรงพยาบาลสงฆ์ จัดสร้างเมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2494
พญ.วราภรณ์ กล่าวถึงสถานการณ์อาพาธของพระสงฆ์ในส่วนของ ร.พ.สงฆ์ ว่า จากสถิติในปีที่ผ่านมาพบว่ามีพระสงฆ์ที่เป็นผู้ป่วยนอกจำนวน 71,000 รูป กว่าครึ่งเป็นพระมาจากส่วนภูมิภาค โรคที่พระสงฆ์อาพาธมากที่สุด ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง มีถึง 4,000 รูป รองลงมาคือ เบาหวาน,และโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งปอด
สาเหตุที่พระเป็นโรคความดันโลหิต ส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมการบริโภค โดยเฉพาะการถวายภัตตาหารของพุทธศาสนิกชน ที่บางส่วนอาจจะถวายภัตตาหารที่เค็มจัด มันจัด หรือหวานจัด หากถวายอาหารที่มีรสเค็มจัดจะทำให้เป็นความดันโลหิตสูง ในส่วนของอาหารที่หวานจัดนั้น ทำให้เสี่ยงต่อโรคเบาหวาน และในส่วนของอาหารที่มันจนเกินไป จะทำให้เป็นโรคไขมันในเลือดสูง และไขมันอุดตันในเส้นเลือด จึงวอนพุทธศาสนิกชนที่ต้องการให้พระแข็งแรง ควรถวายภัตตาหารที่เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพเน้นผักผลไม้ และเนื้อปลา และพยายามลดความมัน หวาน และเค็มในอาหารลงเพื่อสุขภาพที่ดีของพระสงฆ์
ด้านพระปัญญา ปัญญาวชิโร พระภิกษุจากวัดถ้ำสลักใด จังหวัดชัยภูมิ พักรักษาอาการป่วยที่ รพ.สงฆ์ กล่าวว่า ปัญหาที่พบเมื่อเวลาต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลทั่วไปคือ ต้องนอนพักรวมกับฆราวาสดูไม่เหมาะสม จึงอยากให้โรงพยาบาลประจำจังหวัดมีตึกเฉพาะพระสงฆ์แยกออกจากฆราวาส นอกจากนี้ ต้องการให้รัฐบาลช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลของพระสงฆ์มากขึ้น เพราะพระสงฆ์ไม่ได้มีรายได้
ส่วนพระครูโสภณฐิติคุณ จากวัดบูรพา จังหวัดชัยภูมิ ที่ป่วยด้วยโรคเบาหวาน กล่าวว่า เวลาอาพาธจะไปรักษาที่โรงพยาบาลในตัวจังหวัด ต้องไปนอนรวมกับฆราวาส จึงอยากให้มีโรงพยาบาลสงฆ์กระจายไปตามจังหวัดใหญ่ๆ ทั่วประเทศ เพื่อความเหมาะสม และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายค่าเดินทางมาก
Tags : โรคความดันสูง
#2
โพสต์เมื่อ 22 February 2009 - 05:35 AM
ถวายอาหารประณีต รสอร่อย แล้วก็ต้องมีผลดีต่อสุขภาพพุทธบุตรด้วยครับ
เพื่อบริหารขันธ์ท่าน อายุพระศาสนาจะได้ยืนยาว
ยืนยันตัวจริงเสียงจริงเจ้าของกรณีศึกษากฎแห่งกรรม
http://video.dmc.tv/programs/life_in_samsara/page5.html
หนังสือเรียนธรรมะ DOU http://book.dou.us/d...ya-book-gl.html
GL 101 จักรวาลวิทยา http://book.dou.us/gl101.html
GL 102 ปรโลกวิทยา http://book.dou.us/gl102.html
GL 203 กฎแห่งกรรม http://book.dou.us/gl203.html
GL 305 ปฏิปทามหาปูชนียาจารย์ http://book.dou.us/gl305.html
#3
โพสต์เมื่อ 23 February 2009 - 11:44 PM
#4
โพสต์เมื่อ 25 February 2009 - 01:14 AM
ขอบคุณค่ะที่ตั้งกระทู้นี้ พี่แมรี่ได้ยินจากข่าวมาเหมือนกันค่ะ เรื่องนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่พวกเราต้องใส่ใจเวลาตักบาตร-ถวายภัตตาหารนะคะ และทำให้คิดถึงคุณยายอาจารย์ของเราที่ท่านตั้งปณิธานสร้างหอฉันถวายพระภิกษุ นับว่าได้บุญมากมหาศาลทีเดียว เพราะว่าอาหารที่เตรียมไว้ล้วนแล้วแต่ถูกหลักอนามัย และมีคุณประโยชน์ครบถ้วนเสมอ
ตรงนี้แมรี่ต้องขออนุโมทนาบุญกับพี่ๆเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครที่รับบุญเตรียมภัตตาหารที่หอฉันคุณยายอาจารย์ด้วยค่ะ เพราะว่าต้องใส่ใจกับสุขภาพพระภิกษุมากๆ และถือว่าหอฉันของเราเป็นต้นแบบต้นบุญการเตรียมภัตตาหารถวายพระภิกษุที่ดีเยี่ยมมาๆ
ตอนแรกก็ยังรู้สึกว่าเราจะเตรียมอาหารมาถวายเองไม่ได้หรือ ก็สั่งมาจากร้านอาหารดีๆ แต่เมื่อทำความเข้าใจแล้วถึงได้รู้ว่าส่วนประกอบอาหารทุกอย่างต้องใส่ใจอย่างถี่ถ้วนละเอียดอ่อน และต้องจัดให้เป็นระเบียบ+มีความเสมอภาคกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาได้ในภายหลังนี่เองค่ะ
ผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็งที่สุด ย่อมเป็นผู้ที่สุภาพนุ่มนวลที่สุด
#5
โพสต์เมื่อ 25 February 2009 - 10:04 PM
อยากฉันอะไร ไม่ใช่จะขับรถไปกินแบบโยมได้
เอาว่าถวายอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อร่อย สะอาด เปลี่ยนเมนูบ้างครับ พระก็เบื่อเป็นนะ ผมว่า