จะทำอย่างไรจึงตัดการให้อาหารกับกิเลสได้
#1
โพสต์เมื่อ 22 April 2008 - 10:29 PM
#2
โพสต์เมื่อ 22 April 2008 - 10:35 PM
หรือฝึกตัวด้วยการรักษาศีล เจริญภาวนา
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#3
โพสต์เมื่อ 23 April 2008 - 11:55 AM
#4
โพสต์เมื่อ 24 April 2008 - 09:41 AM
ถ้าจำไม่ผิด หลวงพ่อทัตตะท่านเคยเทศน์ไว้ว่า
จะชนะกิเลสได้ ก็ต้องใช้วิธีการ "เผา" กิเลส
การ "เผากิเลส" ถ้าจำไม่ผิด คือการ "บำเพ็ญตบะ"
การ "บำเพ็ญตบะ" ขั้นต้น น่าจะเป็นการ สมาทาน ศีล ๘
และพร้อมด้วยการอยู่ทุดงฯ บ่อย ๆ
ทำทั้งสองสิ่ง บ่อย ๆ พร้อม ๆ ไปกับการนั่งสมาธิ สำรวมใจ
สักวัน ก็คงจะชินกับ "นิสัยไม่ติดสุข" ในเรื่อง
"รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และ ธรรมารมณ์" เข้าสักวัน
กิเลสจะค่อย ๆ หลุดล่อนออกจากใจไปเรื่อย ๆ ตามลำดับ
และสักวัน ก็คงจะได้พบกับความสุขอันยิ่งใหญ่นะครับ
(รู้แต่ทฤษฏีนะครับ กระผมเอง ยังกระท่อน กระแท่นอยู่)
ถ้าหากผิดพลาดประการใด รบกวน ร่วมกันแก้ไขด้วยนะครับ
ถ้าหากข้อคิดเห็นของกระผม
ทำให้ผู้หนึ่งผู้ใด
เกิดความไม่สบายกายไม่สบายใจ
ขออโหสิกรรมไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
#5
โพสต์เมื่อ 13 May 2008 - 11:18 AM
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป