ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * - 1 คะแนน

ขอคำปรึกษาจากทุกๆคนครับ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 37 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ดอกอุบล

ดอกอุบล
  • Members
  • 926 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 December 2008 - 10:20 PM

ตอนนี้กลุ้มใจมากครับคือพ่อแม่โจมตีผมมากคือเห็นผมทำบุญตักบาตรถวายทานต่างๆก็ว่าผมทำมากไปเห็นผมรักษาศีลห้าไม่ชอบดื่มเบียร์ก็ว่าผมเข้าสังคมยากเห็นผมสวดมนต์บูชาพระก็หัวเราะผมเห็นผมนั่งสมาธิภาวนาก็ว่าทำไปก็ไม่ได้เงินได้ทองผมก็อธิบายให้ท่านฟังทุกอย่างก็โกรธผมอีกหาว่าผมงมงายแล้วก็ไปพูดให้คนอื่นฟังเขาก็หัวเราะเยาะผมว่าผมงมงายทำให้ผมอายมากตอนนี้ท้อใจมากไม่รู้จะทำยังไงดีรู้สึกเสียใจมากที่พ่อแม่ไม่เข้าใจเศร้าครับตอนนี้

#2 Tree

Tree
  • Members
  • 2076 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 December 2008 - 10:49 PM

ใจเย็นๆครับ ตอนนี้เราต้องทำให้ได้และเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี พอเขาเห็นเราดีขึ้น ตอนนั้นเราก็สามารถปรับความคิดเห็นที่ไม่เข้ารอยของพวกเขาได้ครับ
สำคัญที่เราต้องมีความอดทน เหมือนบ้านผม ตอนแรกภรรยาก็ไม่เชื่อ

#3 Doramon

Doramon
  • Members
  • 468 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 18 December 2008 - 11:53 PM

อดทน น่ะครับ สู้สู้ น่ะครับ

#4 kawank_krab

kawank_krab
  • Members
  • 11 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 December 2008 - 12:00 AM

ยิ้มไว้นะคะ ทำต่อไปค่ะ
คิดซะว่าฝึกขันติบารมี
เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง
สู้ๆๆ นะคะ เอาใจช่วย

อนุโมทนาบุญ กับทุกบุญที่ตั้งใจทำไว้นะคะ (สาธุ)

#5 Regenbogen

Regenbogen
  • Members
  • 441 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 December 2008 - 12:16 AM

เอาใจช่วยนะ

#6 somchet

somchet
  • Members
  • 900 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 December 2008 - 12:28 AM

มันเป็นบททดสอบครับ ว่า จขกท จะเอาจริงแค่ไหน

ลองถามตัวเองนะครับว่า "จริง" แค่ไหน

เอาใจช่วยครับ

#7 เป็นหนึ่ง

เป็นหนึ่ง
  • Members
  • 354 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 December 2008 - 02:17 AM

สิ่งที่อยากจะบอกเป็นอย่างแรกก็คือ
หากเราได้ยินผู้อื่นแสดงความคิดเห็นต่อการทำความดีของเรา
แล้วเรารู้สึกหวั่นไหว
ให้เราทบทวนตัวเองก่อนเลยครับ
แสดงว่าเรายังไม่มั่นใจในสิ่งที่เราทำ

และความไม่มั่นใจมักเกิดจาก
เราไม่รู้ว่าสิ่งที่เราทำ เราทำไปเพื่ออะไร
ทำแล้วได้ประโยชน์อย่างไร
หากเรารู้ความหมายของสิ่งที่เราทำอย่างถ่องแท้
ความหวั่นไหวจะไม่เกิดขึ้นครับ

เรื่องของทาน
ถามว่าเราทำทานกันเพราะอะไร
ไม่ใช่เพราะอยากรวย
เพียงแต่ความรวยเป็นผลจากทานที่เราทำก็เท่านั้น
ซึ่งความรวยจะทำให้เราสร้างบารมีได้ง่ายขึ้น

แต่จุดประสงค์จริงๆ ของการทำทานในเบื้องต้นนั้น คือ
การกำจัดความตระหนี่ออกจากใจ
ฝึกฝนอบรมใจของตัวเองให้รู้จักการเป็นผู้ให้
รู้จักแบ่งปัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ผู้อื่น
เมื่อเรากระทำบ่อยๆเข้า จิตใจของเราก็จะอ่อนโยน
ใจของเราจะถูกยกให้สูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ฝึกฝนตัวเราให้เป็นคนที่ "ไม่แล้งน้ำใจ"

เรื่องของศีล
การที่เรารักษาศีล เป็นการละชั่ว

ความชั่ว คือ อะไร
ตอบอย่างง่ายที่สุด
ดังที่พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า
ท่านทรงแสดงให้แก่สามเณรราหุลฟัง นั่นคือ
"อะไรที่ร้อนเขาอย่าทำ ร้อนเราอย่าทำ
ร้อนทั้งเขาทั้งเราอย่าทำ
นั่นล่ะ ความชั่ว อย่าทำ"

จะเห็นได้ว่า การรักษาศีล
เป็นการฝึกฝนตนเอง ไม่ให้ไปเบียดเบียนผู้อื่น
ไม่ไปก่อความเดือดร้อนแก่ผู้อื่นนั่นเอง
หากทุกคนทำได้ เราก็จะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
ไม่มีการเบียดเบียนซึ่งกันและกัน

หากเรารักษาศีลบ่อยๆเข้า รักษาให้ยิ่งยวดขึ้นไป
เราก็จะเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อใคร
ฝึกฝนตัวเราให้เป็นคนที่ "ไม่แสบ"

เรื่องของการสวดมนต์เจริญสมาธิภาวนา
สมาธิ คือ การเอาใจมาหยุดมานิ่ง

ใจที่หยุดนิ่ง จะเป็นใจที่มีพลัง
ใจที่สงบนิ่งมีพลังนั้น
จะทำให้เราพิจารณาสิ่งต่างๆ รอบตัวได้ชัดเจนขึ้น
ละเอียดรอบครอบขึ้น
มีสติและปัญญาในการมองเห็นว่า
สิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ
สิ่งใดเป็นประโยชน์ สิ่งใดเป็นโทษ

หากเราเจริญสมาธิภาวนาบ่อยๆเข้า
จนใจเราสงบนิ่งเป็นปกติ
จะทำให้เราสามารถดำเนินชีวิตได้ถูกต้องมากขึ้น
ไม่หลงไปเดินในทางที่ผิดทางที่ไม่ถูกต้อง
นั่นคือ ฝึกฝนตัวเราให้เป็นผู้ที่ "ไม่โง่" นั่นเอง

ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว หากเราทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา อยู่เป็นนิตย์
จะทำให้เรามีคุณสมบัติ "ไม่แล้งน้ำใจ ไม่แสบ ไม่โง่" ติดตัวไป
ซึ่งคุณสมบัติทั้ง ๓ ข้อนี้ เป็นคุณสมบัติของ "คนดีที่โลกต้องการ" ครับ

ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่บรมครู พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา
ท่านทำให้ดูเป็นแบบอย่างอย่างยิ่งยวด จนกระทั่ง
ความไม่แล้งน้ำใจ กลั่นตัวเป็น พระกรุณาธิคุณ
ความไม่แสบ กลั่นตัวเป็น พระบริสุทธิคุณ
ความไม่โง่ กลั่นตัวเป็น พระปัญญาธิคุณ
และพระองค์ก็ทรงเป็น "คนดีที่สุดในโลก"

นี่เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า สิ่งที่เราทำอยู่
เป็นการเดินรอยตามองค์บรมครูของเราอย่างแท้จริง
เพราะฉะนั้น อย่าไปหวั่นไหวครับ

คุณพ่อคุณแม่ท่านยังไม่เข้าใจไม่เป็นไร
รักษาความดีของเราไว้ ทำให้ยิ่งยวด
ทำให้เห็นว่าเราเป็นคนดีจริงๆ เป็นลูกที่ดีจริงๆ
แล้วค่อยๆ อธิบายให้ท่านเข้าใจ ท่านก็จะเปิดใจยอมรับครับ

ส่วนเรื่อง การกินเหล้าเบียร์
โดยการอ้างว่า เพื่อเข้าสังคม นั้น
ถ้าไม่กินก็เข้าสังคมยาก
ความเห็นส่วนตัวผมนะครับ
สังคมคนขี้เมา อย่าเข้าไปดีกว่า
สังคมแบบนี้เข้าไปให้ได้อะไร
สังคมที่ฝึกทำลายสติปัญญาตัวเอง
สังคมที่ฝึกเป็นคนปัญญาอ่อน
สังคมแบบนี้ ไม่มียังจะดีกว่า

ก็ลองพิจารณาดูครับ


อนุโมทนาบุญซึ่งกันและกันกับทุกท่านครับ...สาธุ
I just gotta get out of this prison cell.
Someday I'm gonna be free.

#8 Vj-Mac

Vj-Mac
  • Members
  • 123 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 December 2008 - 07:07 AM

สู้ต่อไปครับ...
อย่าอายในการทำความดี
สิ่งที่จะต้องอาย คือ อายที่จะต้องกระทำความชั่วและไม่ได้ทำความดีมากกว่า
ความดีคนดีทำง่าย คนชั่วทำยาก
ความชั่คนช้่ทำง่าย คนดีทำยาก
เมือใดบาปยังไม่ให้ผล คนชั่วย่อมสำคัญผิดว่า บาปนั้หวานเหมือนำ้ผึ้ง
สู้ทำความดีต่อไปครับ...
เดี๋ยวความดีจะตามมาให้ผลเองในภายหลัง
ภาพปัจจุบันนี้ก็เป็นภาพเก่าในอดีตที่เราเคยทำมา
อาจจะไม่สมควรกับกรรมปัจจุบัน...แต่...สมควรกับกรรมในอดีต
อดทนสู้ทำความดีเรื่อยไป นะครับ
อนุโมทนาสาธุ ครับ

หยุดให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้ ง่ายนิดเดียว เดี๋ยวก็ได้

ทิ้งทุกอย่าง วางทุกสิ่ง นิ่งอย่างเดียว เดี๋ยวก็ได้ ง่ายนิดเดียว

ajvj


#9 เดือนฉายงามแสง

เดือนฉายงามแสง
  • Members
  • 214 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 December 2008 - 07:09 AM

เป็นกลำลังใจให้คุณนะคะ
มารไม่มี บารมีไม่เกิดค่ะ

สู้ๆๆๆๆ ค่ะ

#10 จอมเทพ

จอมเทพ
  • Members
  • 466 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 December 2008 - 08:22 AM

เขาไม่รู้เขาจึง คิด พูด และทำ ที่ตรงข้ามกันกับเรา มันก็เป็นธรรมดา เพราะว่าเขายังไม่คุ้นเขาเลยดูว่ามันแปลกๆ นักปราชญ์บัณฑิตไม่ควรไปใส่ใจ และอย่าไปกลัว อย่าไปกังวลกับความดีที่ตนเองทำเลยครับ สู้ปิดทองหลังพระไปเรื่อยๆ สักวันทองจะล้นออกมาหลังพระเองครับ ให้ทำต่อไป

แม้มนุษย์ยังไม่สรรเสริญ แต่เทวดาที่เขาอยู่แถวนั้นเขากำลังชื่นชมและยินดี ในการกระทำของคุณอยู่ตลอดเวลานะ เขารับรู้ทุกการกระทำของคุณนั่นแหละ จงปลื้มใจไว้เถอะครับ แล้วหันหน้าทำความดีกันต่อไปนะครับ สู้ต่อไปทาเคชิ
แนบไฟล์  ______________________________.jpg   2.95MB   71 ดาวน์โหลด
กุญแจวิเศษ

#11 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 19 December 2008 - 08:40 AM

เท่าที่อ่านดูคล้ายกับว่าครอบครัวของคุณเจ้าของกระทู้ไม่ได้เป็นชาวพุทธ ก่อนอื่นขอบอกก่อนนะครับ หลักการของศาสนาพุทธนั้นคือการเอาตัวเองให้รอดจากกองทุกข์โดยมุ่งเน้นที่กระประกอบกรรมดีละเว้นกรรมชั่ว คนอื่นไม่เกี่ยวนะครับ ใครทำใครได้ ใช่ว่าเราพ้นจากความทุกข์แล้วคนที่เกี่ยวข้องกับเราจะพ้นตามไปด้วยซะเมื่อไหร่ถูกต้องไหมครับ เรื่องของกฎแห่งกรรมเป็นเรื่องของตัวใครตัวมัน เราทำเราได้ทั้งหมด นอกเสียจากเราจะเผื่อแผ่เขาหรือแนะนำเขา ดังนั้น การที่เราจะทำความดีนั้นมันขึ้นอยู่กับตัวเรา ไม่ได้ขึ้นกับคนอื่นนะครับ

หากเป็นผม ผมจะวางอุเบกขาถือเสียว่าเป็นการฝึกอุเบกขาบารมี ไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งที่เขาว่ากล่าวเรา และปฏิบัติต่อไปเพื่อฝึกวิริยะบารมี ขันติบารมี รวมถึงสัจจะบารมีด้วย

การทำบุญตักบาตรสำหรับผมไม่มีคำว่ามากเกินไป การดื่มเหล้าไม่ได้เป็นการเข้าสังคมแต่เป็นการเตรียมตัวหาเหาใส่หัวหาเรื่องใส่ตัว แม้ผมจะไม่ดื่มผมก็มีเพื่อนมากมายเป็นแสนๆคน มาพบปะสังสรรตามแบบชาวพุทธทุกวันอาทิตย์ การสวดมนต์บูชาพระนั่งสมาธิผมไม่ได้ทำเพื่อเงิน แต่ทำเพื่อความสบายใจ

ขอให้คุณเจ้าของกระทู้อย่าท้อแท้ จงสู้ต่อไป ก้าวต่อไปนะครับ ม่ะ เราจะก้าวไปด้วยกัน ก้าวต่อไป
(ไม่ได้คิดจะโฆษณาเหล้าหรือเบียร์นะครับ แต่ชอบเนื้อเรื่องและเนื้อหาเท่านั้น)

สู้เขาทาเคชิ! ^ ^
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#12 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 19 December 2008 - 09:21 AM

อนุโมทนา ในทุกกุศลกรรมที่เจ้าของกระทู้สั่งสมแล้วด้วยครับ
แนบไฟล์  Sa_Dhu_Anumonatami.gif   22.04K   60 ดาวน์โหลด
สาธุการกับความคิดเห็นของทุกท่านโดยเฉพาะคุณ เป็นหนึ่ง และคุณ เคยเข้าวัด ด้วยครับ
แนบไฟล์  Sa_Dhu_Anumonatami.gif   22.04K   60 ดาวน์โหลด

ทบทวนวัตถุประสงค์หลักของการทำความดี ว่าทำเพื่ออะไร ? ทำไปทำไม ?
แล้ว
เลิกกังวลใจ ในสิ่งที่ไม่ควรกังวลใจ แม้ในสิ่งที่สมควรกังวลใจ เถิดครับ

เพราะความกังวลใจ จะยับยั้งและบั่นทอน ความเจริญในกุศลธรรมของตัวคุณเอง
โดยเฉพาะเมื่อจะทำความดีิ เช่น ทาน ศีล เจริญภาวนา

ไม่ควรเก็บ สะสมนิสัย กังวลใจ นะครับ
เพราะจะเป็นปัญหา ในการปฏิบัติธรรม
และแม้ตอนใกล้ตาย
ใจที่กังวล ต้านกัณหธรรม วิบากกรรม ไม่ไหวครับ

ส่วนว่าจะเลิก ตัด หรือพักความกังวลใจ , ปรับสภาวะใจที่หมอง ให้ผ่ิองใส
ด้วยกุศโลบาย หรือโยนิโสมนสิการใด ๆ
เป็นศิลปะสำคัญที่ทุกคนต้องเลือกวิธี และทดลอง ฝึกฝนให้พอเหมาะกับอัธยาศัยของตนเองครับ

ผมเองก็กำลังฝึกฝน เช่นกันครับ
ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม

#13 Wiboon Joong (wbj)

Wiboon Joong (wbj)
  • Members
  • 43 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 December 2008 - 10:08 AM

เอาใจช่วยนะครับ อย่าเอาความคิดของคนอื่น มาบงการชีวิตของตน ต้องแน่วแน่ ต้องมุ่งมั่น และ ต้องกล้าเผชิญกับสิ่งที่เกิดขึ้นครับ...

#14 นักรบเผ่าพันธุ์ตะวัน

นักรบเผ่าพันธุ์ตะวัน
  • Members
  • 380 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 19 December 2008 - 10:31 AM

ทำต่อไปเรื่อยๆครับ อย่าหยุด อย่าท้อน่ะครับ ผมก็คนนึงครับที่เจอแบบคุณ ทั้งหาว่าผมบ้าบุญ ผมนั่งสมาธิก็ว่าผมจะทรงเจ้าเข้าผีเหรอ แต่ผมก็ทำต่อไป ทำอย่างต่อเนื่อง และทุกคนที่เคยว่าผม ตอนนี้ทำตามผมหมดแล้วครับ จะเชื่อตอนเป็นหรือจะเห็นตอนตาย สู้ต่อไปน่ะครับ คูณนักเรียนอนุบาล ดอกอุบล เป็นกำลังใจให้น่ะครับ
เพราะเป้าหมายของพวกเราคือ "ที่สุดแห่งธรรม"

#15 ดอกอุบล

ดอกอุบล
  • Members
  • 926 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 December 2008 - 10:41 AM

ขอขอบคุณทุกๆคนที่ให้กำลังใจผมจะสั่งสมบุญบารมีทำความดีต่อไปไม่ลดละความเพียรพยายาม สาธุ ขอบคุณมากๆครับ

#16 homer324

homer324
  • Members
  • 522 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 December 2008 - 12:55 PM

เป็นกำลังใจให้ด้วยคนครับ..









#17 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 December 2008 - 02:32 PM

QUOTE
เขาก็หัวเราะเยาะผมว่าผมงมงายทำให้ผมอายมากตอนนี้ท้อใจมากไม่รู้จะทำยังไงดีรู้สึกเสียใจมากที่พ่อแม่ไม่เข้าใจเศร้าครับ
การจะเป็นบัณฑิตผู้มีสัมมาทิฐิ ย่อมต้องมีความอดทน สอนตนเอง แสวงหากัลยาณมิตร พัฒนาคุณงามความดี ตอนนี้เราคือต้นกล้าแห่งความดี เมื่อประกอบคุณงามความดีเป็นกิจลักษณะ บารมีจะเกิดขึ้น จนต้นกล้ากลายเป็นหนึ่งในเสาหลักของพระพุทธศาสนา ที่พึ่งสากลของสรรพสัตว์ได้ในวันหน้า ยังไงท่านก็เป็นทิศเบื้องหน้าในทิศ6 แม้ยังศรัทธาพุทธศาสน์ไม่เต็มกำลัง เราควรเร่งรีบฝึกฝนอบรมตนเองไปก่อน รอโอกาสและจังหวะที่ใจท่านเปิดรับเท่านั้น
- อาย...คงต้องเตือนตน สร้างกำลังใจตนเอง การทำความดีเป็นกิจวัตร ไม่ใช่สิ่งที่น่าละอาย ในทางกลับกันผู้ที่ไม่ละอายต่อบาป คือ ผู้ที่ขาดหิริอันเป็นธรรมะคุ้มครองโลก สักวันหนึ่งเราจะนำความสว่างมาสู่กลางใจของท่านให้จงได้
- ท้อ...ในนักสร้างบารมี จะไม่มีคำนี้ เพราะคำว่าถอย ถอนใจจะตามมาซ้ำเติมได้
- เสียใจ...ตอนนี้ท่านทั้งสองอาจไม่เข้าใจ คงต้องรอโอกาสและจังหวะ มนุษย์ทุกคนเมื่อประสบทุกข์ยาก โดดเดี่ยวเดียวดายเมื่อใด ใจของเขาเหล่านั้นก็จะพร้อมเปิดรับอริยสัจหาที่พึ่งทางใจได้เต็มกำลัง...

แวะมาถามไถ่ใน พื้นที่สีขาวได้เสมอ...เพื่อนๆหลายคนในที่นี้พร้อมเป็นกัลยาณมิตรเอาใจช่วย

ไฟล์แนบ

  • แนบไฟล์  kitkat.gif   4.95K   7 ดาวน์โหลด

ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#18 kiangjung

kiangjung
  • Members
  • 119 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 December 2008 - 03:08 PM

ขอเป็นหนึ่งกำลังใจ ให้อดทนทำดีเรื่อยไปค่ะ

#19 NuMiNtt

NuMiNtt
  • Members
  • 2 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 December 2008 - 04:26 PM

ขอเป็นอีกกำลังใจด้วยคนนะคะ
สู้สู้ค่ะ เราต้องเอาความดีเขาสู้ wink.gif

#20 ยุทธ

ยุทธ
  • Members
  • 27 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 December 2008 - 04:57 PM

ทำดีเรื่อยไป...ทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟ...เป็นภาพอดีตที่เราเคยทำมา(อดทน/ยอมรับมัน)
ผมก็โดนเหมือนกัน..ก็ทำอย่างที่แนะนำ (ตอนนี้ชนะแล้วครับ)

#21 อริย 072

อริย 072
  • Members
  • 440 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 December 2008 - 05:02 PM


ก็ เคยแปลกใจไหม..ล่ะ
ทำไม คนมีความสุข มหาเศรษฐี กษัตรย์ ประธานาธิปดี
คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต มีน้อยมาก
...
ส่วนคนมีความทุกข์ คนยากจน คนไม่ประสบความสำเร็จ
ผิดหวัง แร้นแค้น
กลับมีมากมาย..
...
คนที่ไม่เข้าใจ หน้าที่การเกิด..
มากมาย
เหมือนคนที่ลงนรก เท่ากับ ขนโค
ไปสวรรค์ เท่ากับ เขาโค
นั่นเอง
...
เราเข้าใจแล้ว..ทำดีแล้ว
ไม่ต้องหวั่นไหว กับคนไม่เข้าใจสิจ๊ะ
เปรียบเสมือนเวลา เรา นั่งฟังเด็กน้อยๆหลายคน
อวดโน่น อวดนี่ เล่าโน่น เล่านี่
อย่างโง่เขลาไร้เดียงสา ตามประสาเด็ก
เราไม่เห็นเคยถือสา..
ก็เอาอารมณ์นั้น มาใช้สิจ๊ะ
ไม่รู้ ก็เหมือนเด็กนั่นเอง
ใจจะได้ไม่ขุ่นมัว
...
ถ้าท่านเป็นบุพการี ก็ต้องหนักแน่นเข้าไว้
ยิ้มเฉยๆเสีย เอาใจไว้ที่ 072
อย่าเผลอเถียง ด่าว่า
จะมีวิบากหนัก
ทำให้เหมือนผู้มีปัญญา..ฟังคนที่ไม่รู้ พูดว่ากล่าว ล้อเลียน
..ด้วยความเข้าใจ ในความไม่รู้ของพวกเขา
และให้อภัยเสีย..
...ความจริง คือ ความจริงจ้ะ
วันนึง ทุกคน เขาจะเข้าใจได้เอง
...


#22 Sunshine

Sunshine
  • Members
  • 363 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 December 2008 - 05:48 PM



เห็นใจและเป็นกำลังใจค่ะ

ปลื้มแทนจขกท. ที่มีกัลยาณมิตรช่วยกันประคับประคอง



#23 ปฏิปทา 072

ปฏิปทา 072

    ขอชื่อ ที่ถูกต้อง ปฏิปทา 072 THANIDA KOIKE

  • Members
  • 1358 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 19 December 2008 - 06:59 PM

ขอให้กำลังด้วยคนค่ะ ส่วนตัวของดิฉันเอง ก็เป็นเหมือน คุณ.ดอกอุบล ค่ะคือได้โทรเอาบุญไปฝากมารดา แต่

ช่วงนั้น มารดายังไม่เข้าใจเรื่องบุญเท่าไร แต่ดิฉันก็ไม่ลดละ โทรไปหาท่านบ่อยๆและก็ทุกครั้ง ที่ทำบุญไปแล้ว ก็ใช้

เวลานานพอสมควร ที่เป็นกัลยาณมิตร ให้กับมารดาจนเดี๋ยวนี้ ท่านพอเข้าใจพอสมควร และก็เริ่มทำบุญตามวัดแถวข้างๆ

บ้านแล้วค่ะ เดี๋ยวนี้เวลาโทรเอาบุญไปฝาก ท่านๆดีใจมากๆ แถมยังให้พร ดิฉันกลับมาอีกด้วยค่ะ ขอให้คุณ.ดอกอุบล

อดทนหน่อยนะค่ะ ขอเอาใจช่วยด้วยนะค่ะ สู้นะค่ะ

#24 pat2001

pat2001
  • Members
  • 113 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 December 2008 - 07:05 PM

แสดงว่าท่านไม่คุ้นกับภาพที่เจ้าของกระทู้ ประพฤติ ปฏิบัตินะ
ผมคิดว่า ก็ทำให้ท่านคุ้นซิ เดี๋ยวท่านก็เลิกพูด เลิกว่า
ท่านก็เหนื่อยเป็นเหมือนกันนะ

อีกอย่าง ท่านยังไม่เข้าใจในสิ่งที่เราทำนะ
ถ้าท่านเข้าใจ ท่านก็อนุโมทนาไปนานแล้ว
เป็นกัลยาณมิตรให้ท่านด้วยนะครับ

ขอให้โชคดี เดี๋ยวก็สำเร็จ เอาใจช่วยครับ

#25 ณ ๐๗๒

ณ ๐๗๒
  • Members
  • 1340 โพสต์
  • Location:Ladkrabang

โพสต์เมื่อ 19 December 2008 - 08:11 PM

สู้ๆ นะคะ อย่างเพิ่งท้อซะกลางทาง

เห็นด้วยกับ นรอ.เป็นหนึ่่ง อย่างยิ่งค่ะ

คนเราบางครั้ง แม้เป็นคนดี แต่อยู่ในหมู่โจร ก็ให้สงสัย ว่าเรานั้นเป็นคนดีจริงๆ หรือป่าว หรือว่าเรานั้นไม่ดี ทำผิด กลับเป็นฝ่ายโจรที่เป็นคนดี และทำสิ่งที่ถูกต้อง

ถ้าแน่ใจว่าเราทำดี ทำถูก ก็จงมั่นใจ และอย่าอาย ที่จะทำดี
เมื่อเราทำดีมากพอ สักวันหนึ่ง ความดีนั้นก็จะส่งไปถึงคนรอบข้าง ให้คนรอบข้างได้สัมผัสถึงผลแห่งการกระทำดี

การจะให้คนรอบข้างเข้าใจในสิ่งที่แปลกสำหรับเค้า ...ชั่วชีวิตไม่เคยทำมาก่อน พ่อแม่ ปู่ยา ตายาย ไม่เคยสั่งสอนมาแบบนี้ ก็ย่อมยากที่จะเข้าใจ และเห็นดีด้วย ในเวลาอันสั้น เป็นธรรมดา
ตัวเราเองก็ต้องใจเย็นๆ ด้วย ค่อยเป็นค่อยไป ที่ละนิดทีละหน่อย พูด เล่า ถึงเรื่องที่เราทำ ให้กับคนที่ฟังได้ ฟังเข้าใจ ถ้าคิดว่าพูดแล้วเค้าไม่เข้าใจ ก็ไม่ต้องพูดมาก อธิบายมาก สาธยายให้เค้าเข้าใจ มันเป็นไปไม่ได้ มันต้องใช้เวลา ต้องอดทน สักวันก็ต้องเป็นวันของเราแน่ๆ

มีเพียงอย่างเดียว

อดทน สู้ ไม่ถอย ทำความดีเรื่อยไป

ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)

ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี  ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ  ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป


#26 บุญเชื่อม

บุญเชื่อม
  • Members
  • 68 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 December 2008 - 09:09 PM

เรื่องนี้ต้องเข้าใจยากค่ะ (แต่เห็นใจมาก)
คุณพ่อของบุญเชื่อมก็ปฏิบัติธรรม เมื่อไปพูดกับพูดใดเขาก็หัวเราะ คือว่าคุณพ่อนั้นเป็นบ้า
แต่ดิชั้นยังคงเข้าใจพ่อของดิชั้นเนื่องจากท่านเปลี่ยนไปมาก จากกินเหล้าท่านก็ไม่กิน
จากอารมณ์หงุดหงิดง่ายท่านก็ระงับอารมณ์เป็น ถ้างั้นเราต้องให้กำลังไจตัวเองนะค่ะ เพราะบุญเชื่อมเชื่อว่าต้องมีคนเข้าใจเราค่ะ

#27 tor

tor
  • Members
  • 356 โพสต์
  • Location:BKK
  • Interests:meditation

โพสต์เมื่อ 19 December 2008 - 10:23 PM

อายุเท่าไหร่แล้วครับ เรียนอยู่หรือทำงานแล้ว แยกตัวออกมาอยู่คนเดียวได้ไหมครับ
อัตตาหิ อัตตโนนาโถ = กายเป็นที่พึ่งแห่งกาย

#28 Dhammastory

Dhammastory
  • Members
  • 5 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 December 2008 - 12:26 AM

อย่าโกรธคนที่ไม่เข้าใจเรื่องการสร้างความดี
และ อย่าอายในการทำความดีนะคะ
เพราะความดีเป็นสิ่งที่ทำยาก
คนดีเท่านั้นจึงจะทำความดีได้
เพราะต้องมีกำลังใจที่สูงส่ง

ขอย้อนอดีตกลับไปเมื่อปี 2538
เราก็หัวอกเดียวกันค่ะ
ตอนนั้นยังไม่มีสื่อ DMC
การเดินทางมาวัดสมัยก่อนรู้สึกว่าไกลมาก
ที่บ้านยังไม่มีใครเข้าใจหรือหนับหนุน
ญาติพี่น้อง เพื่อน ๆ หัวเราะเยาะ
เหมือนเราแตกต่างและแปลกจากคนอื่น ๆ
และดูเหมือนจะเป็นคนโง่เขลาในสายตาของคนอื่น
จากวันนั้นจวบจนวันนี้
ก็ทำตามที่คุณครูไม่ใหญ่สอนสั่งค่ะ
คือ ไม่สู้ ไม่หนี ทำดีเรื่อยมา
ใครว่าอะไรก็ยิ้ม ๆ ไม่โต้ตอบ
อธิษฐานเอาบุญช่วยอย่างเดียว
ในขณะเดียวกันเราก็ยังเป็นมิตรกับทุกคนที่ว่าที่หัวเราะเยาะ

อาจใช้เวลาหลายเดือน หรือหลายปี
ก็อย่าเพิ่งท้อแท้ ท้อใจ หรือท้อถอย
แล้ววันที่เราเฝ้อรอคอยก็จะเป็นจริง
มาถึงวันนี้
ใคร ๆ ก็มองเราด้วยสายตาที่แปลกไป
จากเคยดูแคลน เป็นสายตาแห่งความขอบคุณ
อย่าเพิ่งท้อนะคะ

#29 reën

reën
  • Members
  • 5 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 December 2008 - 09:37 AM

ทำดีต่อไปนะคะ อย่างน้อยก็มีกัลยาณมิตรมากมายที่เข้าใจ และเป็นกำลังใจให้คะ
โลกต้องการคนดี โดยเฉพาะตอนนี้ขาดแคลนคนดี เพราะคนหมู่มากเข้าใจผิดเรื่องการทำดี และเป็นพุทธศาสนิกชนแต่เพียงในนามก็มาก เราทำดีถึงใครไม่รู้หรือไม่เข้าใจแต่เราก็รู้ดีและภูมิใจ อย่าบั่นทอนกำลังในการทำความดีตนเองเลยคะ happy.gif
ไม่ควรคิดถึงสื่งที่ล่วงไปแล้ว ไม่ควรหวังในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง (ภัทเทกรัตตสูตร ๑๔/๒๙๗)

#30 พจน์เอง

พจน์เอง
  • Members
  • 44 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 December 2008 - 09:50 PM

จำคำนี้ไว้น่ะครับ
"ถ้าลูกรู้ว่าหลวงปู่เป็นใคร
ลูกจะต้องเเย่งกันทำบุญจนวัดเเตก
ถ้าเมื่อไรก็ตามที่บุญส่งผล
วันนั้นลูกจะต้องมาขอบคุณหลวงพ่อ"

เรามาเจอของจริงเเล้วครับ
อย่าไปกลัวเมื่อไรก็ตามที่สิ่งที่ทำมาส่งผลจะรู้เองครับ

ศีล5 คือความเป้นปกติของครับ ใครถือได้ก็ถือเป้นคนครับ
เชื่อผมน่ะครับ ตั้งใจทำทาน ศีล ภาวนา เเล้วอธิฐานให้พ่อเเม่เข้าใจครับ
ทำเเบบนี้ เเล้วพอชีวิตคุณดีขึ้นเพราะบุญส่งผลเมื่อไร วันนั้นเเหละคือวันที่คุณจะกลับมาด้วยความสง่าครับจนทุกคนต้องมามองมา เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตคุณครับ
ตั้งใจทำดีครับ อย่าไปกลัวครับ เจอของจริงเเล้วไม่ต้องกลัวครับ

สิ่งที่พวกเราทำไม่ใช่คนทั่วไปทำครับ เลยโดนอย่างงั้น เเต่สิ่งที่คนส่วนมากเชื่อว่าคนทั่วไปทำ ทำให้เป้นเเบบสังคมทุกวันนี้ไงครับ
^ ^
สุ้น่ะครับ

"ยิ้มกันหรือยัง จ๊ะ" happy.gif