ผมไม่เข้าใจ
#1
โพสต์เมื่อ 17 April 2008 - 11:15 AM
#2
โพสต์เมื่อ 17 April 2008 - 12:19 PM
ผมเคยออกกฎห้ามผู้ที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่และผู้ที่ไม่ได้ทำงานในโรงงานของผมเข้าออกในโรงงานของผม แต่ก็มีเหตุเกิดขึ้นคือ มีผู้หญิงคนหนึ่งมาเยี่ยมญาติที่ทำงานอยู่ในโรงงานผม ซึ่งเจาะจงมาในช่วงเวลาดึกซะด้วย และผมก็เห็นใจเพราะเห็นว่าเป็นผู้หญิงมาตัวคนเดียว เลยอนุญาติให้เขาเข้าไปพักกับญาติได้แค่1คืน ผลที่ตามมาคือ คนงานของผมไม่พอใจต่างจะเอาคนนอกที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่หรือพนักงานเข้ามาพัก เมื่อผมห้ามเกิดอะไรขึ้นรู้ไหมครับ ผมถูกตอกกลับว่า ทีผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่เจ้าหน้าที่หรือพนักงานในโรงงานเลยยังอนุญาติให้เข้ามาได้
ผมขอถามคุณ จขกท กลับนะครับ คิดว่าหากเจ้าหน้าที่วัดอนุญาติให้คุณยายคนนั้นเข้าไป คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างของผมหรือไม่ ผมมั่นใจนะครับ 90% จะต้องเกิดเหตุการณ์เหมือนอย่างผม คือต้องมีคนไม่พอใจ และผลสุดท้ายสิ่งที่จะลงเอยคือการยกเลิกข้อห้ามและกฎระเบียบ
อีกประการ จุดที่สามารถสักการะหลวงปู่ได้ก็ไม่ได้มีแค่วิหารเท่านั้นนะครับ *-*
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#3
โพสต์เมื่อ 17 April 2008 - 01:03 PM
#4
โพสต์เมื่อ 17 April 2008 - 01:22 PM
#5
โพสต์เมื่อ 17 April 2008 - 01:53 PM
ย้อนไปสมัยสภาหลังเก่า... มีวัฒนธรรมดีๆหลายอย่าง เช่น
- ถ้านั่งในสภา ต้องแยก หญิงซ้าย-ชายขวา ไม่เช่นนั้นก็นั่งด้านนอกสภา
- เมื่อถึงเวลาปฏิบัติธรรม จนท.จะกั้นทางเดินไม่ให้เดินเข้าอีก จะให้นั้งบริเวณด้านข้างก่อน จนกว่าจะปฏิบัติธรรมแล้วเสร็จ ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่หลวงพ่อท่านมาถึง บริเวณพิธีจะสงบอย่างมาก
- เมื่อถึงเวลาอาหาร จะมี จนท. นำอาหารมาแจกยังที่นั่ง ไม่ต้องลุกเดินให้ขวักไขว่
ทุกสิ่งอย่าง เพื่อความเป็นระเบียบของหมู่คณะ.. ว่าอย่างไร ว่าตามกันนะครับ...
#6
โพสต์เมื่อ 17 April 2008 - 02:06 PM
มีป้าคนนึงแถวบ้าน แกใช้สบู่สำหรับซักผ้า ไม่รู้เหมือนกันว่าสบู่อะไร ซักเฉพาะชุดขาว ป้าแกใส่นานหลายปีแล้วก็ยังขาวสดใสยิ่งกว่าโอโม่ครับ
#7
โพสต์เมื่อ 17 April 2008 - 04:47 PM
#8
โพสต์เมื่อ 17 April 2008 - 07:05 PM
เช่น มีที่จำหน่ายชุดขาว ให้เช่า หรือยืม ในที่ไม่ไกลเกินไปนัก
คนคุมกฎก้อไม่ผิดกฎ คนมาสักการะก้อได้รับทราบระเบียบวินัย
เพราะบางคนมาใหม่ มาไกล และนานๆมาที
เพื่อเป้าหมายเดียวกัน อย่าขีดเส้นให้คนเดินทางเดียว
เหมือนคนป่วยกาย มา รพ จนท บอกว่าหมอพักเที่ยงแล้ว
ถ้าคนป่วยใจมาวัด ก้อน่าจะมีทางออกให้เขาบ้าง
#9
โพสต์เมื่อ 17 April 2008 - 08:48 PM
ก็น่าเห็นใจสาธุชนบางคนอาจไม่รู้ข้อกำหนด แต่เชื่อว่าหากเขามาครั้งต่อๆไปคงมีความเข้าใจและเตรียมตัวมาล่วงหน้า ยิ่งถ้าเขามีโอกาสเข้าไปข้างใน จะเกิดความประทับใจและเล่าต่อก็ได้
#10
โพสต์เมื่อ 17 April 2008 - 09:26 PM
ก็อย่างที่ทุกท่านว่าไว้ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
#11
โพสต์เมื่อ 17 April 2008 - 09:28 PM
แต่เมื่อมองภาพรวมและคุณประโยชน์ยั่งยืนแก่คนที่สามารถทำตามกติกาได้
และเพื่ออนุเคราะห์แก่อนุชนรุ่นหน้าุให้ได้คุณประโยชน์ยั่งยืน
ก็เห็นด้วยที่จะรักษากฎ กติกานี้สืบไปครับ
เชิญแวะไปที่กระทู้ ที่เคยสนทนาเรื่องนี้กันบ้างแล้ว ครับ
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=13404
#12
โพสต์เมื่อ 17 April 2008 - 09:28 PM
#13
โพสต์เมื่อ 17 April 2008 - 10:44 PM
สงสัยเหมือนกันค่ะ ว่ายกเลิกไปตั้งแต่เมื่อไร
#14
โพสต์เมื่อ 18 April 2008 - 07:57 AM
และถ้าคุณรู้ว่าหลวงปู่คือใคร หลวงพ่อคือใครเราจะไม่เกี่ยงหรือมีปัญหากับเรื่องนี้เลย
ว่าอย่างไรก็ต้องว่าตามกันนะคะ
ก็เอาใจช่วยคุณยายและทุกๆคนให้ใส่ชุดขาวมานะคะ
เพราะบางทีชุดที่ใส่อาจไม่ค่อยขาวหรือมีลาย หนูก็เคยเป็นค่ะ
#15
โพสต์เมื่อ 18 April 2008 - 10:15 AM
#16
โพสต์เมื่อ 18 April 2008 - 12:12 PM
ตอนนี้คุณอาจคิดว่ามันเป็นอะไรที่เข้มงวด แต่กฎระเบียบคือสิ่งที่ทำให้คนอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข
นี้ขนาดทดลองกับพระเดชพระคุณหลวงปู่ผู้มีพระคุณและอานุภาพมาก ยังโดนติติง หากต่อไป (ซึ่งผมคิดว่าต่อไปจะมีแต่ชุดขาว ๆ ในการไปวัดทั่วทั้งประเทศ) ใช้ตลอดของการมาวัดไม่พังเหรอ
และอีกอย่างได้ประชาสัมพันธ์กันมานานมากหลายเดือน ไม่ควรมีคำว่าน่าเห็นใจคนแก่ คนเฒ่า เพราะก่อนมาวัดมีนำรถได้บอกและชี้แจงไปแล้ว
และเรื่องให้มีไว้เปลี่ยน เคยมีครับ แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่ายังมีหรือเปล่า (เพราะผมไม่เคยเข้าไปในวิหารหลวงปู่เลย เคยเข้าไปครั้งเดียวตอนบวช ซึ่งผมบวชช่วงมีการอัญเชิญหลวงปู่แล้วเขาให้เข้าไปครั้งนั้นครั้งเดียวจริง ๆ เพราะผมไม่มีชุดขาว ๆ ) ก็เลยไม่เข้า
เรื่องให้มีการเช่า ก็ดีครับ แต่ใครเล่าจะมารับผิดชอบเก็บเงินค่าเช่า (แค่นี้หลวงพ่อก็โดนมามากแล้ว สงสารท่านเถอะครับ อย่าให้ท่านโดนโจมตีมากกว่านี้เลย)
และผมเห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณเคยเข้าวัดครับ
บัณฑิตย่อมรับรู้ และปฏิบัติตามกฎระเบียบวินัย
#17
โพสต์เมื่อ 18 April 2008 - 12:28 PM
#18
โพสต์เมื่อ 18 April 2008 - 02:31 PM
แตจากตัวอย่าง่ในประเด็นของคุณป้า ผมคิดว่า เราควรเตรียมชุดขาวสำรองไว้ในกรณีนี้บ้างนะครับ เพราะบางที ป้าๆ หรือ คุณยายที่มาจากต่างจังหวัด อาจจะเตรียมตัวมาไม่พร้อม บางครั้งชุดที่สวมเนื่องจากเดินทางมาไกลอาจขมุกขมอมบ้าง การเตรียมเสื้อสำรองไว้ พิจรณาไปบางกรณี ผมว่าน่าจะดีนะครับ เราไม่ได้ละเมิดกฏ และเราก็ยังประคับประคองศรัทธาของสาธุชนไว้ได้ เพราะศรัทธาก็มีค่า การเอากฏไปกดศรัทธาก็ไม่น่าจะดีนัก เอาเป็นว่า ในฐานะที่เข้าวัดนี้มากว่า ๒๐ ปี เห็นดีกับกฏทุกอย่าง แต่เห็นว่า ควรมีการอลุ้มอล่วยกับบางกรณีบ้าง โดยมีแผนสำรองไว้ แต่การจะละเมิดกฏนั้นไม่ควรแน่ครับ
#19
โพสต์เมื่อ 18 April 2008 - 04:42 PM
ผู้ที่ทำนิพพานให้แจ้งแล้ว ก็ย่อมมีจิตตั้งมั่น
ไม่หวั่นไหวในโลกธรรมทั้งหลายฉันนั้น
(พุทธพจน์)
#20
โพสต์เมื่อ 18 April 2008 - 07:29 PM
เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ของผู้คุมกฎ เพราะสภาวะธรรม
ของผู้คนที่มาวัดเป็น ไดนามิกส์ (พลวัตร) ครับ ไม่ใช่สแตติกส์
ดังนั้น ควรจะอยู่ที่ ดุลยพินิจ ครับ
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
#21
โพสต์เมื่อ 18 April 2008 - 09:42 PM
ผมเคยอาศัยอยู่ภายในเขตทหาร
บ้านหลวงที่อยู่ตอน เด็ก...เด๊ก...เด็ก เป็นบ้านที่อยู่ติดรอยต่อของเขตทหารและพลเรือน(สิทธิพิเศษเพราะพ่อเราหญ่าย...)
ทุกครั้งที่ทุกคนที่ขี่จักรยาน(มีมาก)หรือขี่จักรยานยนต์จะผ่านป้อมยาม สห.เข้าหรือออกเขตทหาร ทุกคนจะต้องลงจากรถ มาจูงรถผ่านไป (รถยนต์ใช้วิธีขับช้าๆแล้วเปิดกระจก) เพื่อรักษาความปลอดภัยใครเข้าออกจะได้ดูหน้าชัดๆและให้เกียรติสถานที่เพราะมีเสาธงชาติอยู่ด้วย
ใครที่ไม่ทำตามกฏจะต้องโดนทำโทษด้วยการกักบริเวณ คือให้นั่งอยู่ที่ป้อม สห.นั่นแหละสักพักใหญ่ๆ อายมากกก เพราะทุกคนที่ผ่านไปมาจะมองเห็นหมด แล้วรู้ด้วยเพราะเป็นที่นั่งจัดเฉพาะ
แต่ใครที่โดนแล้ว(จากสมุดรายชื่อ) น้อยมากที่จะทำซ้ำอีก เข็ดจริงๆ
ผมยังเคยโดนเลย เพราะถือว่าพ่อเราใหญ่ ก็เลยนึกว่าคนอื่นจะกลัวเราด้วย ขี่ผ่าไปซะงั้น นึกว่าจะเทห์ที่ไหนได้โดนพ่อสั่งให้ล้างห้องน้ำที่ป้อมด้วยเลย สะใจซ๊า...
แต่พอขึ้นมัธยมต้นผมก็ย้ายไปอยู่บ้านหลวงหลังใหม่ ใหญ่กว่าเดิม อยู่ใจกลางเขตพลเรือน ก็เลยไม่ได้เข้าไปแถวนั้นอีก พอช่วงมัธยมปลายก็ทราบมาว่ากฏเกณฑ์นี้ยกเลิกไปแล้ว ใครจะซิ่ง จะผ่านยังไงก็ได้ ไม่จำกัดไม่หวงห้าม
เหตุผลก็คือ ทุกๆคนที่ไปร้องเรียน(ไม่ใช่ทุกๆคนที่อาศัยอยู่ในนั้นนะครับ)กับผู้หลักผู้ใหญ่บอกว่า ไม่สะดวก ให้ยกเลิกซะ เขตทหารทนเสียงกดดัน(จากพวกมีเส้น)ไม่ไหวเลยยกเลิก
ผลที่ตามมาหรือครับ ทหารเกณท์หนีออกไปกินเหล้าข้างนอกแล้วมีเรื่องทะเลาะวิวาททุกสัปดาห์ มีขโมยเข้าไปขโมยของหลวงบ่อยๆ มีอุบัติเหตุ ณ จุดนั้นๆบ่อยๆ(แผนกยานยนต์อยู่ที่ตรงนั้น รถหลวงทุกคันทุกชนิดทุกประเภทจะเข้าออกทางนี้ตลอด) ฯลฯ ทั้งหมดทั้งปวงที่เกิดขึ้นเพื่อแลกกับคำว่าสะดวก
อีกเรื่องนะครับ
ปกติสโมสรของทหารนั้น มีกฏว่า ใครที่จะมาใช้บริการ ต้องใส่เสื้อมีแขน ต้องนุ่งกางเกงขายาว ต้องใส่รองเท้าหุ้มส้น ใครที่ไม่ทำตามนี้ เข้าได้อย่างมากก็แค่ล๊อบบี้ด้านหน้าเท่านั้น
แต่ปัจจุบันนี้(ต้นปีที่แล้วกลับไปเที่ยว)กลายเป็นเหมือนร้านเหล้าข้างถนนดีๆนี่เอง เด็กวัยรุ่นใส่เสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น รองเท้าฟองน้ำ นั่งกินเหล้ากับนายทหารหน้าตาเฉยเลย
ผมไม่รู้หรอกว่า กฏยกเลิกไปได้อย่างไร แต่ถ้าจะให้เดา ก็คงจะเป็น "ไม่สะดวก"(ที่จะลงนรก)นั่นเอง
ไม่มีความหมายอะไรหรอกครับ แค่รำพึงรำพันความหลังของคนแก่เท่านั้นเอง
จบและ
อนุโมทนาด้วยครับ
#22
โพสต์เมื่อ 19 April 2008 - 03:13 PM
#23
โพสต์เมื่อ 19 April 2008 - 05:18 PM
............
วันนั้น ผมพาน้องผู้หญิงซึ่งเพิ่งเข้าวัดวันแรกเหมือนกัน
ก็แต่งเสื้อขาวและกางเกงขาว แต่ไม่ใช่ชุดอุบาสิกา
เราก็ลองเดินไปกัน ผมรับบัตรแล้วเพราะใส่ชุดอุบาสกเรียบร้อย
แต่เจ้าหน้าที่ตรวจชุดน้องผู้หญิงบอกว่าเสื้อแขนสั้นไปนิด
ผมก็เลยคืนบัตร แล้วเราก็บอกว่าคราวหลังมาใหม่
คราวนี้ไหว้หลวงปู่นอกวิหารไปก่อน...
...............
ยอมรับในกฎข้อบังคับอย่างเคร่งครัด
สบายใจทั้งเจ้าหน้าที่ และสาธุชน
ไม่คิดเอาแต่ใจตนเองเป็นหลัก โดยอ้างว่ามาไกล
หรือนานๆมาที ถ้ามีบุญต้องได้มากราบหลวงปู่แน่ๆ เชื่อมั่น!
...............
ถือเป็นการฝึกตน เราอยู่กันหมู่มาก ต้องเคร่งครัดในกฎ กติกา มารยาท
สาธุ
#24
โพสต์เมื่อ 20 April 2008 - 02:56 AM
ได้เคยพาเพื่อนชาวอิตาลีมาวัดครั้งแรกในวันอาทิตย์ มีพระอาจารย์จากภาคจักรวาลนำชมวัดในช่วงพักเที่ยง
เมื่อชมสถานที่ต่างๆภายในวัดจนครบ รวมทั้งนั่งธรรมะช่วงสั้นที่โบสถ์แล้ว ก็อยากจะพาเข้าไปในมหาวิหารฯ ...
ทราบกฎระเบียบอย่างดีค่ะ ชุดเพื่อนไม่ขาวเท่าไหร่ จึงรีบพาไปซื้อชุดขาวขาวเปลี่ยนเรียบร้อย...
เมื่อไปถึงหน้าทางเข้ามหาวิหารฯ ปรากฎว่า...เลยเวลา...ปิดแล้วค่ะ
ด้วยความมุ่งมั่น จึงเข้าไปพบพระอาจารย์ที่ดูแลอยู่ด้านใน แจ้งท่านว่า "ชาวต่างชาติมาเป็นครั้งแรก มาไกลมาก
และ 1 ปี จะมาประเทศไทยเพียงครั้งเดียว ขออนุญาตพาเข้าไปสักการะพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ และจะรีบออกมา"
พระอาจารย์ที่ดูแลมหาวิหารฯ ท่านตอบว่า "หลวงพี่อยากให้เข้านะ แต่ถ้าอนุญาตแล้ว ในคราวหน้า เมื่อมีผู้อื่นขอร้องอีก
เกรงว่าจะทำให้เสียระเบียบ แจ้งเพื่อนชาวต่างชาติด้วย ต้องขออภัยจริงๆ เพราะเลยเวลาเข้าสักการะแล้ว...
อนุโมทนาบุญกับผู้นำบุญยอดกัลยาณมิตรนะ"..
คำตอบของพระอาจารย์ที่เป็นการปฎิเสธ.. แต่มิได้ทำให้พวกเราผิดหวังหรือใจขุ่นแม้แต่น้อย
กลับทำให้ปลื้มปิติที่เราพยายามทำหน้าที่กัลยาณมิตรอย่างดีที่สุดในการพาเพื่อนซื้อชุดขาวเปลี่ยนแล้ว
เพื่อนชาวอิตาลีก็เข้าใจ ถ่ายรูปด้านหน้าประตูทางเข้าอย่างเบิกบาน...
ขนาดชาวต่างชาติ มาไกล ใส่ชุดขาวๆ แล้ว แต่ไม่ได้เข้า ยังไม่ใจขุ่นเลยค่ะ...
ชาวไทยลูกพระธัมฯทั้งหลาย อย่าน้อยใจ หากไม่ได้เข้ามหาวิหารฯ ช่วยกันรักษากฎระเบียบกันอย่างเคร่งครัดนะคะ
กราบอนุโมทนาบุญค่ะ สาธุ....
#25
โพสต์เมื่อ 20 April 2008 - 09:04 PM
กฎ คนไทย ทำอะไรตามใจฉัน จนเคยเป็นนิสัย แล้ว คิดว่า วัดคงไม่เข้มงวด ใส่อะไร ให้ดูสุภาพ ก็คงได้เข้าแน่นอน ถ้าพวกเรา
สาธุชน คนดี ปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัดแล้ว เรากก็จะสามารถ คุยได้ว่าทำถูกต้อง ถูกขั้นตอน , ขืน อลุ้ม อล่วย กันบ่อย ๆ เข้า
อีกหน่อย ก็ จะมีคนมาขอแต่งชุด สีสรร เกาะอก เอวลอย โชว์สะดือ เดินเข้าไป นมัสการหลวงปู่ พวกคุณ สาธุชน คนดี ทั้งหลาย
อยากได้แบบนั้น หรือ ( นี่ ผมเข้าวัด ตั้งแต่ เริ่ม สร้าง หล่อหลวงปู่ ด้วยทองคำ ตั้งแต่ประมาณ ปี 2536 เคยได้เข้าไป กร
ไหว้ หลวงปู่ ที่ห้องปัญญา พอ หลวงปู่ ท่านมา อยู่ ที่ มหาวิหาร ๆ ผมก็มิได้ เคยเข้าไป นมัสการ ท่านอีกเลย เพียงเพราะว่า
ผมมิได้ใส่ชุดขาว ไม่ว่าจะเป็น วันอาทิตย์ ต้นเดือน หรือ วันปีใหม่ วันมาฆบูชา จะว่าไปแล้ว เราอยู่ที่ไหน ในโลก เราก็จะเห็น
หลวงปู่ ๆ ของเราได้ ด้วยตาธรรมกาย ผมพูด บอกเล่าไป ผมยังไม่ได้ ดวงธรรม อะไรเลย ผมว่านะ ทางวัด น่าจะทำ โปสการด์
หรือ รูปหลวงปู่ ขนาดแบบ พกพา แจกให้แก่สาธุชน (เฉพาะ ผู้ที่มิได้แต่งชุดขาว นำไปกราบไหว้ที่บ้าน) เมื่อพร้อม ค่อยกลับมา
นมัสการด้วยผ้าขาว อีกครั้งหนึ่ง ขออนุโมทนา ทุกท่าน ที่มีส่วนรวม แสดงความคิดเห็น เทอญ
#26
โพสต์เมื่อ 20 April 2008 - 09:52 PM
แต่อยากแนะนำเรื่องการดูแลเสื้อขาว ว่าจะซักอย่างไรให้เป็นเสื้อขาวตลอด ไม่หมอง
เพื่อนที่ไปอบรมสมาธิแ้ก้ว เล่าว่า ตอนไปอบรมเค้าสอนว่า การจะซักผ้าให้เป็นสีขาวๆ ไม่หมอง ให้ใช้สบู่กรดในการซักผ้า (สามารถหาซื้อได้ที่โลตัส เป็นก้อนสีเหลืองๆ มีลายริ้วๆ สีฟ้า หนึ่งเพ็คมี 4 ก้อน วางขายอยู่ในแผนกผงซักฟอก สบู่ซัลไลน์ ส่วนในตลาดสดก็มีขาย แต่ไม่มั่นใจว่าประสิทธิภาพจะเหมือนกันไม๊)
วิธีการคือให้นำผ้าไปแช่น้ำให้เปียกและเอาสบู่กรดมาถูๆ บริเวณที่มีรอยเปื้อนเป็นพิเศษ และให้แช่ผ้าประมาณ 10-15 นาที ห้ามเกินกว่านั้น (อันนี้ไม่มั่นใจนะคะว่ากี่นาทีกันแน่) หลังจากนั้นก็ซักตามปกติ
เพื่อนๆ พี่กัลฯ ก็ลองนำไปใช้ดูนะคะ ส่วนตัวดิฉันเองก็กำลังทดลองใช้อยู่เหมือนกันค่ะ
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#27
โพสต์เมื่อ 21 April 2008 - 08:15 PM
ชุดที่ใส่มา ก็ขาว แต่ไม่ ขาวๆ
เอาเงินไปซื้อชุด แล้วเข้าไป สักการะ แต่ไม่ได้ทำบุญ
กับ เอาเงินไปทำบุญ แล้วสักการะข้างนอก แต่ใจหมองนิดๆ เสียใจ ที่ไม่ได้สักการะ
เพราะ การซื้อชุด ไม่ทำให้ใจใสเท่ากับ ทำบุญ
ควรจะตัดสินใจเลือกอย่างไหนดีคะ
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ
#28
โพสต์เมื่อ 24 April 2008 - 04:09 PM
#29
โพสต์เมื่อ 24 April 2008 - 11:16 PM
หากว่าในวันนั้นคุณยายคนนี้แกเกิดเสียชีวิตหลังจากนั้นโดยที่ใจแกยังหม่น ๆ อยู่ด้วยว่ามีจิตศรัทธาในเบื้องต้นแล้วเกิดมาหมองในท่ามกลาง และเบื้องปลาย อันนี้เจ้าหน้าที่จะมีวิบากกรรมไหมคะ
#30
โพสต์เมื่อ 25 April 2008 - 09:36 AM
"มรณังธัมโมมหิ มรณังอะนะตีโต = เรามีความตายเป็นธรรมดา"
ถ้ามาตายแถววัดก็คงจะไปดีนะครับผมว่า อยู่ใกล้ๆ กระแสบุญ๐๐