ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

หนังสือเล่มนี้ควรอ่านหรือไม่ครับ


  • กระทู้นี้ถูกล็อค กระทู้นี้ถูกล็อค
มี 27 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 worapong

worapong
  • Members
  • 79 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 August 2006 - 08:32 PM

รบกวนถามผุ้รู้นิดนึงครับ ไม่ทราบว่าใครเคยอ่านหนังสือปราบมาร ของคุณการุณย์ บุญมานุช บ้างครับ เคยอ่านแล้วดูหลายอย่างมันแปลกมากๆ เช่นว่าเค้าสามารถไปตามในจุดที่พระพุทธเจ้าถูกมารกักขังไว้ พูดถึงหลายๆอย่างที่ผมไม่ขอนำมากล่าวในที่นี้ เพราะไม่แน่ใจว่าถูกต้องหรือไม่ ถ้าท่านผุ้ใดมีความรู้ทางนี้รบกวนชี้แนะหน่อยนะครับ จะได้แนะนำท่านอื่นต่อไปว่าหนังสือเล่มนี้สมควรอ่านหรือไม่ เพราะยังไงผมก็คิดว่า ทำตามครูบาอาจารย์ดีกว่า นั่งให้เห็นพระในตัวก่อน แล้วที่เหลือ มาเรียนกับพระอาจารย์ต่อดีกว่า เพียงแต่เห็นเค้าพิมพ์ออกมามากมาย คนไม่รู้ไปอ่านจะเกิดผลเสียขึ้นได้น่ะครับ

#2 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 13 August 2006 - 09:05 PM

ควรหรือไม่ ให้ยึดหลัก กาลามสูตรนะครับ

๑. มา อนุสฺสาเวน อย่าเชื่อโดยฟังตามกันมา
๒. มา ปรมฺปราย อย่าเชื่อโดยเหตุสักว่าตามสืบๆ กันมา
๓. มา อิติ กิราย อย่าเชื่อโดยตื่นข่าว
๔. มา ปิฎกสัมฺปทาเนน อย่าเชื่อโดยอ้างปิฎก
๕. มา ตกฺกเหตุ อย่าเชื่อโดยนึกเดาเอาเอง
๖. มา นยเหตุ อย่าเชื่อโดยคาดคะเน
๗. มา อาการปริวิตกฺเกน อย่าเชื่อโดยการตรึกตรองตามอาการ
๘. มา ทิฎฐินิชฺฌานกฺขนกฺขนฺติยา อย่าเชื่อโดยเห็นว่าถูกตามลัทธิของตน
๙. มา ภพฺพรูปตาย อย่าเชื่อโดยเห็นว่า ผู้พูดควรเชื่อได้
๑๐. มา สมโฌ โน ครุ อย่าเชื่อโดยถือว่า สมณะนี้เป็นครูของเรา

แต่จงเชื่อ ก็ต่อเมื่อ เราได้ลงมือปฏิบัติ จนรู้แจ้งเห็นจริงด้วยตัวเราเองแล้วครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#3 Tanay007

Tanay007
  • Members
  • 616 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 August 2006 - 09:37 PM

ควรอ่านหรือไม่? ไม่อยากตัดสินนะ เพราะฝ่ายที่สนับสนุนทางนั้นก็เข้ามาอ่านได้เหมือนกัน แต่ขอให้ดูสิ่งที่ครูบาอาจารย์ของเราสอนมา จะพูดถึงเป้าหมายของคณะ สิ่งที่หมู่คณะได้เคยทำมา แต่จะไม่กล่าวถึงรายละเอียดของธรรมะลึกๆ เพราะรู้ไปก็เกิดอาการฟุ้งฝันซะมากกว่า เรื่องของเรื่องคือ พร้อมที่จะไปรู้หรือไม่ องค์พระ หรือดวงธรรมชัดใสสว่างขนาดไหน ? เพราะฉะนั้นครูบาอาจารย์ (ทั้งหลวงปู่ คุณยายฯ) จึงบอกว่า อื่นๆ จะว่ากันมากไปไย ไปนั่งให้เห็นธรรมะกันเสียก่อน

#4 nut33

nut33
  • Members
  • 142 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Bangkok
  • Interests:http://www.dhammakaya.tv
    http://www.dhammakaya.biz

    android Application ธรรมกาย
    https://play.google.com/store/apps/details?id=com.conduit.app_96f25c33fb1b4867b3b98cc85a26a854.app

โพสต์เมื่อ 13 August 2006 - 10:27 PM

ใช่ครับนั่งไปดูไปรู้ไปเห็นไปเข้าใจเองดีทีสุดครับ
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
http://www.dhammakaya.tv

#5 kran

kran
  • Members
  • 73 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 August 2006 - 11:01 PM

ผมไม่แนะนำให้อ่านครับ ผมเคยรู้มาว่าผู้รู้ที่เป็นนักปฏิบัติธรรมถึงกับเคยบอกมาว่าให้เผาหนังสือของเค้าคนนั้นทิ้งไปซะ อีกอย่างผมว่านะถ้าเค้า(คนแต่งหนังสือ)เห็นแจ้งจนสามารถเขียนได้อย่างที่เข้าเขียนตำราเล่มนั้นมาแล้ว ป่านนี้ผมว่าเค้าคงบวชไปนานแล้วครับ แต่นี้เค้ายังเป็นฆราวาสอยู่เลย แถมดูดบุหรี่ด้วย ลองคิดดูเองละกันครับว่าควรอ่านหนังสือคนนั้นต่อไปไหม

#6 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 14 August 2006 - 03:13 AM

QUOTE
ควรหรือไม่ ให้ยึดหลัก กาลามสูตรนะครับ

๑. มา อนุสฺสาเวน อย่าเชื่อโดยฟังตามกันมา
๒. มา ปรมฺปราย อย่าเชื่อโดยเหตุสักว่าตามสืบๆ กันมา
๓. มา อิติ กิราย อย่าเชื่อโดยตื่นข่าว
๔. มา ปิฎกสัมฺปทาเนน อย่าเชื่อโดยอ้างปิฎก
๕. มา ตกฺกเหตุ อย่าเชื่อโดยนึกเดาเอาเอง
๖. มา นยเหตุ อย่าเชื่อโดยคาดคะเน
๗. มา อาการปริวิตกฺเกน อย่าเชื่อโดยการตรึกตรองตามอาการ
๘. มา ทิฎฐินิชฺฌานกฺขนกฺขนฺติยา อย่าเชื่อโดยเห็นว่าถูกตามลัทธิของตน
๙. มา ภพฺพรูปตาย อย่าเชื่อโดยเห็นว่า ผู้พูดควรเชื่อได้
๑๐. มา สมโฌ โน ครุ อย่าเชื่อโดยถือว่า สมณะนี้เป็นครูของเรา

nerd_smile.gif nerd_smile.gif nerd_smile.gif ขอเสริมต่อจากพี่หัดฝันต่อสักนิดว่า เพียงแค่หลักของกาลามสูตรเท่านั้นยังไม่พอนะครับ ต้องเพิ่มโยนิโสมนสิการ คือ การพิจารณาใคร่ครวญอย่างแยบคายด้วยปัญญาอันชอบอีกด้วยว่า เนื้อความที่มีปรากฏอยู่ในหนังสือเล่มนั้น เมื่ออ่านแล้ว ยังกิเลสานุสัยในดวงจิตของเราให้บางเบา ยังภูมิธรรมภายในของเราให้เจริญขึ้นหรือไม่? หากการอ่านหนังสือเล่มนั้น เป็นการยังกิเลสของเราให้บางเบา ยังภูมิธรรมภายในของเราให้เจริญขึ้น ก็จงอ่านต่อไปเถิด แต่ถ้าหาเป็นเช่นนั้นไม่แล้ว ก็ขอให้ท่านผู้เจริญในธรรมทั้งหลายจงวางลงเสียเถิด เพราะ

"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาญาณอันเกิดมีในตน"

"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#7 กาแฟเย็น

กาแฟเย็น
  • Members
  • 121 โพสต์
  • Location:milan
  • Interests:วาดการ์ตูน เล่นคอมกับโปรแกรมแต่งรูปต่างๆ ชอบถ่ายรูปอยู่เหมือนกัน

โพสต์เมื่อ 14 August 2006 - 03:53 AM

ถ้าอ่านไปหน่อยๆแล้วรู้สึกว่าทำให้ใจเราหมอง ก็วางไปเลยดีกว่าค่ะ รักษาใจของเราให้ใสๆดีกว่า ถ้าอะไรที่ทำแล้วทำให้เราไม่สบายใจนั่นน่ะเป็นสัญญาณบอกให้รู้ตัวว่าอย่าทำต่อไปค่ะ

#8 worapong

worapong
  • Members
  • 79 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 August 2006 - 08:55 AM

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านเลยครับผม

#9 จักรตะวัน

จักรตะวัน
  • Members
  • 41 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 August 2006 - 10:32 AM

เคยอ่านแล้วครับ
ถ้าพระยังแพ้แล้วมนุษย์ที่ไหนจะรบชนะ-------มนุษย์มีกิเลสด้วยนะครับ
แค่นี้ก็น่าจะรู้แล้ว
ก็ปราบมารนี้แหละครับ---ทำไปทำมา--ดันมีบารมีมากกว่าหลวงพ่อวัดปากน้ำ---เก่งกว่าพระพุทธเจ้าอีก
จิตคนเขียนร้อนจะตายไป
นั่งฝันใครก็เก่งทั้งนั้นแหละ

#10 อ้วน บ่อโยก

อ้วน บ่อโยก
  • Members
  • 646 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:rayong

โพสต์เมื่อ 14 August 2006 - 12:01 PM

ง่ายนิดเดียว

ให้ปฎิบัติจนเข้าถึงพระรัตนตรัยในตัว
แล้วคุณจะทราบคำตอบเองครับ

#11 Hiyoko

Hiyoko
  • Members
  • 8 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 August 2006 - 02:02 PM

ครูบาอาจารย์ของเรา สุดยอดที่สุดแล้วครับ
ขนาดรุ่นหลวงปู่ ยังมีรุ่นที่พากันเรียกว่า บารมีสิบทัศน์
คือ มีพระ สิบรูปที่หลวงปู่ไล่ออกจาก โรงงาน พวกที่เลอะๆ
เพราะฉะนั้น เชื่อครูอาจารย์ดีที่สุด

#12 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 14 August 2006 - 02:20 PM

QUOTE
เพราะฉะนั้น เชื่อครูอาจารย์ดีที่สุด

nerd_smile.gif ขอเสริมว่า ถ้าจะให้ถูกต้องตามหลักของกาลามสูตร ท่านควรพิสูจน์ก่อนลงมือเชื่อ มิใช่เชื่อก่อนลงมือพิสูจน์ ด้วยเหตุผลเพียงเพราะว่า นั่นคือ ครูบาอาจารย์ผู้มีวาทะควรแก่การเชื่อถือนะครับ องค์สมเด็จพระบรมศาสดาทรงสอนให้พุทธสาวกของพระองค์เชื่อในปัญญาจากการตรัสรู้ชอบที่เกิดมีในตนเอง เพราะเหตุนี้ จึงเป็นที่มาของ slogan ประจำตัวของผมที่ว่า "รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาญาณอันเกิดมีในตน" ครับ
"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#13 สายลมแสงแดด

สายลมแสงแดด
  • Members
  • 25 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 August 2006 - 03:51 PM

นานมาแล้ว เคยอ่านหนังสือทำนองนี้ แต่ไม่ใช่เล่มที่คุณ Worapong ว่า
อ่านแล้วรู้สึกตัวเองฟุ้ง ไม่เป็นผลดีต่อการนั่งสมาธิเลย
ต่อมา ผู้หลักผู้ใหญ่ห้ามอ่าน ให้โยนทิ้งไปเสีย ก็เลยเอาไปซุกไว้ในลิ้นชัก (ที่ไม่กล้าทิ้งขยะ เพราะหน้าปกหนังสือมีรูปพระธรรมกาย) ตอนนี้ไม่รู้อยู่ไหน
ที่ทิ้ง เพราะเชื่อท่านผู้ใหญ่ท่านนั้น เชื่อในภูมิธรรมของท่าน
และเชื่อว่าท่านรักเรา ปรารถนาดีต่อเรา
จากนั้น ก็หันมาอ่านธรรมะในใจ ไม่มีหนังสือเล่มไหน ดีและน่าอ่านเท่าเล่มที่เราเขียนเอง
สลัดความฟุ้งฝันทั้งหมด จิตนิ่งดีแล้ว ใจจึงสงบ ได้พบความจริงตามขั้นตอนภูมิธรรมของเราเอง



#14 ขอบฟ้า

ขอบฟ้า
  • Members
  • 65 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 August 2006 - 06:07 PM

เห็นด้วยกับคุณหัดฝัน และ ขุนศึกผู้พิชิตหงสาค่ะ laugh.gif



#15 sun of peace

sun of peace
  • Members
  • 101 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 August 2006 - 06:09 PM

ครับ ผมเคยเซิร์ชคำว่าปราบมารที่เว็บกูเกิ้ล เลยได้มาเว็บหนึ่ง เป็นเว็บของ คุณการุณย์ บุญมานุช เว็บ crystalmind.com ถ้าคลิกไปที่ห้องสมุด จะมีหนังสือ ปราบมาร ตั้งแต่เล่ม 1-5 ให้อ่านฟรีหมดเลยครับ ทีแรกเมื่อก่อน ผมเห็นผมก็สนใจ อยากอ่านมากๆ เพราะผมก็เหมือนอีกหลายๆท่าน ซึ่งแม้จะรู้ว่า เรายังเรียนธรรมะแค่ชั้นอนุบาล ควรที่จะทำหยุดทำนิ่งให้เห็นดวงให้ได้เสียก่อน แต่ก็อยากที่จะรู้เรื่องละเอียดเหมือนกัน ก็ลองอ่านไปซักนิดหน่อย เท่านั้นแหละครับ มันเริ่มขัดกับความรู้สึกของผม รู้สึกว่านี่มันเริ่มเหลวไหลแล้วนะ อย่างเช่น มารจับพระพุทธเจ้าไปขัง เป็นต้น เลยไม่อ่านอีกแล้วครับ อ่านไปได้หน่อยเดียวเอง เพราะคิดว่า นอกจากมันจะไม่เกิดประโยชน์กับตัวผมแล้ว มันยังเกิดโทษอีกด้วยคือ มันจะทำให้ผมฟุ้งซ่าน และรู้เรื่องอะไรที่มันผิดๆ เพราะธรรมะภาคละเอียดนั้น ผู้รู้เขาไม่นำมาเปิดเผยเป็นตำรากันหรอก มันบอกเล่าสู่กันฟังไม่ได้ มันต้องรู้เองเห็นเอง ถ้าเป็นแบบนี้ก็แสดงว่าเลอะเทอะ ถ้าไม่งั้นหลวงปู่ท่านก็คงทำเป็นตำราแล้วนำมาเปิดเผยตั้งนานแล้วครับ ท่านถึงได้บอกว่า ภิกษุ สามาเณร อุบาสก อุบาสิกา วัดปากน้ำ นอกจากผู้ที่ทำวิชชาด้วยกันแล้ว ไม่รู้ว่าผู้เทศน์ทำอะไรอยู่ รู้ก็เล็กๆน้อยๆ รู้จริงจังลงไปไม่มี

สรุปว่าหนังสือปราบมารนั้น ไม่ควรอ่านอย่างยิ่งครับ นอกจากจะไม่เกิดประโยชน์แล้ว ยังเกิดโทษแก่ตัวเราอีก

จะครองเรือนไปสักกี่ร้อยปีก็ครองไปเถิด งานเรื่องของคนอื่นเค้าทั้งนั้น เรื่องของพญามารทั้งนั้น ไม่ใช่เรื่องของตัว ไม่ใช่งานของตัว ไปทำงานให้พญามารเค้าทั้งวันทั้งคืน เอาเรื่องอะไรไม่ได้

#16 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 15 August 2006 - 10:39 AM

คุณอัตตากล่าวได้ถูกต้องแล้ว ผมก็เคยอ่านเหมือนกัน แล้วก็คิดว่า ไม่ควรอ่านอีกต่อไปครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#17 เป็นหนึ่ง

เป็นหนึ่ง
  • Members
  • 354 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 August 2006 - 11:06 AM

หลังๆมานี้ รู้สึกจะมีคนถามถึงหนังสือที่ว่า กันเยอะเหลือเกิน จริงแล้วผมเคยพูดและเคยเตือนกันไปแล้ว เอาอย่างนี้แล้วกัน ผมเอาตัวอย่างมาให้อ่าน อ่านแล้วใช้ปัญญาพิจารณากันเอาเองนะครับ



จากหนังสือปราบมารภาค 5 ของนายการุณย์ บุญมานุช ในหัวข้อ ผลงานปราบมารในยุคของต้นปราบตรีภพ หยกชมพู มีอะไรบ้าง ?

ชีวิตของข้าพเจ้าเหมือนมีกรรมตลอดชีวิต ที่ต้องกำกับตัวเองให้อยู่ในข้อบังคับตลอดชีวิต ไปเที่ยวก็ไม่ได้ ไปงานสังคมก็ไม่ได้ ไปทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ไปทำมาหากินอะไรก็ไม่ได้ด้วย เพราะใจจะฟุ้งไปอีก ทำวิชาไม่ได้อีก เพราะเอาใจไปคิดเรื่องกำไรขาดทุน จะส่งผลให้ทำวิชาไม่ได้ เป็นอันตรายต่อการทำวิชาทั้งนั้น

ตลอดชีวิตราชการของข้าพเจ้า เราหวังอะไรจากทางราชการไม่ได้เลย เงินเดือนก็ดี ตำแหน่งหน้าที่ราชการก็ดี ความดีความชอบก็ดี ต้องปล่อยให้เป็นไปตามเรื่องของธรรมชาติ ได้ก็เอา ไม่ได้ก็แล้วไป หากไปหวังอะไรเข้า จะเกิดการกระทบทางจิตใจทันที ส่งผลให้ทำวิชาไม่ได้ งานปราบมารชะงักลงทันที ต้องตั้งต้นกันใหม่ ต้องมาฝึกวิชาเบื้องต้นกันใหม่ กว่าที่วิชาจะเลื่อนระดับสูงได้ ต้องใช้เวลายาวนาน

ทั้งยังต้องเตรียมสภาพใจ รอรับการตอบโต้ของมารด้วยเรื่องราวต่างๆ ในสารพัดรูปแบบ เพราะมารเขาก็ต้องหาเรื่องกระทบจิตใจให้แก่เรา เพื่อให้เราแพ้เขาให้จงได้ อะไรที่เราจะทุกข์ร้อนได้ มารเขาจะทำสิ่งนั้นแก่เรา อะไรที่จะทำให้เราตายได้ มารเขาจะเลือกทางนั้น เขาจะทำเช่นนั้นแก่เรา ชีวิตของข้าพเจ้าได้รับความชอกช้ำมาแล้วสารพัดรูปแบบ อดทนทำวิชาปราบมารมาได้ถึงวันนี้ นับว่ามีความอดทนมาอย่างโชกเลือดทีเดียว ที่ต้องขอบคุณอย่างมากคือลูกเมีย ที่เขาไม่ได้ไล่ข้าพเจ้าออกไปจากบ้าน วันหนึ่งเอาแต่นั่งหลับตา ไม่ไปทำมาหากินอะไรให้เกิดความร่ำรวยขึ้นมาเหมือนชาวบ้านอื่นเขา คนอื่นเขามีแต่คิดก้าวหน้า เขาคิดแต่จะให้มีเงินมีทอง แต่ข้าพเจ้าเอาแต่นั่งหลับตาสถานเดียว ต้องขอบคุณลูกเมียที่เขาไม่รังเกียจเรา มีกินมีใช้แค่นี้ ก็อยู่กันไปได้

งานทำวิชาปราบมารไม่ใช่มีความรู้วิชาธรรมกายชั้นสูงแล้วจะทำได้ ต้องประกอบด้วยปัจจัยหลายอย่าง ถ้าบวชเป็นพระแล้ว ก็ยิ่งทำไม่ได้เลยทีเดียว เพราะอะไรหรือ ? เพราะวินัยสงฆ์จะเป็นเครื่องมือสำคัญของมาร ที่มารเขาจะสอดละเอียดมาให้เราผิดวินัยด้วยวิธีง่ายๆ แล้วงานปราบมารก็จะล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า มารเขาชนะมาแล้ว แล้วเขาก็จะชนะต่อไป การเป็นฆราวาสดีอยู่อย่างหนึ่ง ที่มารจะเอาศีลหรือวินัยมาอ้างกับเรา เอาอะไรมาอ้างกับเราไม่ได้ทั้งนั้น เมื่อเขาเอาวิธีนี้ไม่ได้ เขาก็ต้องดูอย่างอื่น ว่าอะไรบ้างที่เขาจะเอามาถล่มเราได้ อะไรที่เขาจะเอามาเล่นงานเราได้ มารมันเอาทั้งนั้น เราจะตั้งรับไม่ทันทีเดียว หมดปัญหานี้ขึ้นปัญหาใหม่ จบเรื่องนี้ขึ้นเรื่องใหม่ จะให้เราถอดใจไม่สู้ไปเอง อะไรก็ได้ที่จะให้เราวินาศ มารมันจะใช้วิธีนั้น หน้าที่ของเราคือระวังไว้ ระวังได้ไหม ? ถ้าระวังได้ก็รอดตัว หากพลาดไปก็เป็นเหยื่อของมารไป อดทนได้ไหม ? ถ้าอดทนได้ ก็อดทนกันไป




ส่วนนี่คือ คำสอนของพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำ จากพระธรรมเทศนาเรื่อง "สุขที่สัตว์ปรารถนาจะพึงได้" ๑๙ กันยายน ๒๔๙๗

นี่เจอพุทธศาสนานี่เป็นเป้าหมายใจดำ อย่าไปทำเรื่องอื่น อย่าไปหลงเลอะเทอะ เอ้า...ต่างว่ามีครอบครัวแล้วได้อะไรบ้าง ได้ลูกคนหนึ่ง แล้วเอามาทำไมล่ะ เอามาเลี้ยง ลูก ๑๐ คน เอ้า เอาไปไว้เลี้ยงยังไงก็เลี้ยงไป บ่นโอ๊กแล้วได้ลูก ๑๐ คน เอ้า...ได้ ๕๐ คน เอ้า เปะปะไปซี อยากได้ลูกใช่ไหมล่ะ ไม่จริง เหลว โกงตัวเอง โกงตัวเอง พาให้เลอะเลือน

ไม่เข้าไปค้นกายของตัวให้ถึงที่สุด ไม่ให้ตรวจตัวถึงที่สุด เป็นมนุษย์ กับเขาทั้งที เพราะเชื่อกิเลสเหลวไหล เหล่านี้แหละจึงได้เลอะเลือน

จะครองเรือนไปสักกี่ ๑๐๐ ปีก็ครองไปเถิด มันงานเรื่องของคนอื่นเขา ทั้งนั้น เรื่องของพญามารทั้งนั้น ไม่ใช่เรื่องของตัว ไม่ใช่งานของตัว ไป ทำงานให้พญามารเขาทั้งวันทั้งคืน เอาเรื่องอะไรไม่ได้





พระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำท่านบอกว่า การครองเรือนเป็นเรื่องของพญามาร แต่นายการุณย์ดันบอกว่า เป็นฆราวาสครองเรือนดีกว่า อ่านแล้วใช้ปัญญาของแต่ละท่าน พิจารณาดูเองเถิด ผมเองคงจะขอพูดถึงเรื่องนี้และขอเตือนเป็นครั้งสุดท้าย
I just gotta get out of this prison cell.
Someday I'm gonna be free.

#18 worapong

worapong
  • Members
  • 79 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 August 2006 - 01:16 PM

ขอขอบคุณทุกๆท่านอีกครั้งนะครับ ที่ได้ให้คำแนะนำที่ดีมากๆ จริงๆผมเองไม่ได้อ่านมานานมากแล้วล่ะครับ เพราะรู้สึกว่ามันแปลกมากๆ ไม่เหมือนคำสอนครูบาอาจารย์ และอย่างที่ได้กล่าวไปในตอนตั้งกระทู้ว่า ต้องนั่งเองให้เข้าถึงธรรมก่อนดีกว่า ที่เหลือ ก็จะทราบเอง เพียงแต่ได้เห็นกระทุ้อื่นๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้มีรูปดวงแก้วจักรพรรดิ์ .... ถ้าจำไม่ผิดนะครับ เลยทำให้นึกถึงหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา เลยอยากได้ทราบข้อมูลที่แน่นอนว่าไม่ควรอ่าน เพื่อที่อีกหลายๆคนที่อินทรีย์ยังอ่อน อาจจะไปอ่านเจอเข้า จะทำให้หลงผิดไปได้น่ะครับ ผมเองมิได้ไหลหลงไปในหนังสือเล่มนั้นนะครับ เพราะฟังบางความเห็นเหมือนดุจังเลยครับ แต่เข้าใจครับว่าหวังดี ยังไงก็ขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับผม

#19 Jengiskhan

Jengiskhan
  • Members
  • 560 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กุงเท่

โพสต์เมื่อ 15 August 2006 - 07:13 PM

QUOTE
เค้าสามารถไปตามในจุดที่พระพุทธเจ้าถูกมารกักขังไว้

แค่นี้ก็ไม่น่าเชื่อถือแล้วครับ พระพุทธเจ้าไม่กลัวมารเลยสักนิดเดียวเป็นพระอรหันต์แล้ว ไม่หวาดหวั่น

#20 wir

wir
  • Members
  • 290 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 August 2006 - 02:33 PM

เคยมีคนจะเอามาให้อ่านเมื่อตอนสนใจเข้าวัด สนใจวิชชาธรรมกาย แล้วได้ยินคำว่าปราบมาร แต่ไม่คิดอยากอ่านเพราะไปถามพระอาจารย์ท่านบอกว่าถ้ารักจะศึกษาวิชชาธรรมกาย ศึกษาวิชาปราบมาร ไม่ต้องไปอ่านให้เสียเวลา ของแท้อยู่ในตัวเรา แล้วจะรู้ว่าเป็นอย่างไร ให้ทิ้งไปเลย อย่าไปสนใจ เลยไม่ได้อ่านถ้าอ่านคงเพี้ยนไปแล้ว

#21 ***Golf..DMC News***

***Golf..DMC News***
  • Members
  • 44 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:100/24 หมู่บ้านพฤกษา 19 ต.บางคุรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 11110
  • Interests:สนใช้ในเรื่องการใช้เทคโนโลยี เป็นสื่อ และเรื่องราวความจริงของชีวิตครับ

โพสต์เมื่อ 16 August 2006 - 03:16 PM

อย่าเอามาคิดเลยครับ ผมว่าไม่ควรหรอกครับ ถ้าไม่ใกล้เคียงหรือขัดกับ คำสอนของหลวงพ่อ ทางที่ดีเข้าถึงธรรมะองค์พระ ภายในแล้วมาช่วยพิสูจน์ดีกว่าชัวร์เลยครับ ..............
Golf...DMC News

#22 Sareochris

Sareochris
  • Members
  • 207 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:-
  • Interests:-

โพสต์เมื่อ 22 August 2006 - 10:29 AM

คงจะได้คำตอบที่ชัดเจนกันแล้วนะครับ ใช้หลักกาลามสูตร ถูกต้องแล้วครับ

#23 บารมีธรรม

บารมีธรรม
  • Members
  • 212 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 10 September 2006 - 10:05 PM

ขอฝากไว้หน่อยครับ ผมเองก็ได้รู้เรื่องหนังสือปราบมารจาก Web ที่คุณอัตตาได้กล่าวไว้
และศึกษาเพิ่มเติมตามแหล่งที่ผู้เกี่ยวข้องของทางนั้นลงไว้ ภายใต้นาม สมถะ ในweb พันทิพย์
ผมอ่านทั้งหมดครับ จริงเท็จยากที่จะแยกแยะได้
จุดน่ากลัวคืออ้างถึงหลวงปู่ และเคารพหลวงปู่จริงๆ
ดังนั้น คนใหม่ๆ หรือคนในที่ไม่เคยรู้อะไรมากๆ ไขว้เขวได้แน่ครับ

เหตุน่ากลัวก็คนใน ผู้ปฏิบัติตามแนวทางของหลวงปู่ทั้งหมด แตกแนวการสอน
ซึ่งคนนอกยากที่จะแยกจริงเท็จได้เพราะยังปฏิบัติไม่ถึง
เพราะการเข้าถึงรู้ได้เฉพาะตนครับ

ข้อแนะนำให้ตั้งสติให้หมั่นนะครับ เกาะหมู่คณะไว้ หมั่นเข้าวัด
และขอให้เพื่อนๆ ชาว DMC ช่วยดึงกันไว้นะครับ

#24 R.J.

R.J.
  • Members
  • 4 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 October 2006 - 08:57 PM

ประสบการณ์ คืออ่านแล้วรู้สึกฟุ้งซ่านมาก ทำให้นั่งสมาธิได้ลำบาก
ทางที่ดีควรนั่งสมาธิให้มาก ๆ ๆ แล้วไปรู้ไปเห็นเองดีกว่าค่ะ
และที่สำคัญให้ฟังคำสอนจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อจะดีกว่า

#25 jane_072

jane_072
  • Members
  • 539 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 June 2007 - 01:56 PM

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ สาธุๆๆ

#26 ว่างว่าง

ว่างว่าง
  • Members
  • 200 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 August 2007 - 12:02 PM

คุณคนเขียนหนังสือกลับตัวกลับใจเถิด อย่างน้อยถ้าข้อความไม่เป็นความจริงแล้ว ก็ผิดศีลข้อ4แน่ๆ อันตรายนะครับ ชีวิตหลังความตาย!!!

#27 ผ้าขี้ริ้วหัวเราะ

ผ้าขี้ริ้วหัวเราะ
  • Members
  • 20 โพสต์
  • Location:Thailand

โพสต์เมื่อ 17 September 2008 - 11:45 AM

สมัยก่อนคนที่ได้ธรรมกายบางคนยังไม่ได้เข้าไปทำวิชชาธรรมกายกับหลวงพ่อวัดปากน้ำเลย เพราะธาตุธรรมต้องแกร่งมากๆหมายถึงบุญเก่าต้องมากนั้นเอง ขนาดหนังสือวิชชามรรคผลที่ออกมาตอนหลังหลวงพ่อมรณะภาพแล้วยังเลือกแจกเฉพาะผู้ที่ได้ทดสอบภูมิธรรมหลายขั้นหลายตอน ฉะนั้นถ้ายังไม่ได้ธรรมกายที่ละเอียดมากๆและมีครูบาอาจารย์ที่เป็นพระภิกษุสงฆ์ที่ผ่านการทำวิชชาธรรมกายอย่างละเอียดและได้รับการยอมรับจริง ก็อย่าไปศึกษาเองเลยควรมีครูบาอาจารย์คอยสอนและค่อยๆชี้แนะ หากปฏิบัติจนได้ธรรมกายแล้วตายไปก็ไม่สายไปที่จะไปรู้เพราะครูบาอาจารย์ก็ยังรออยู่ที่ดุสิตบุรี แนะนำให้นั่งตามที่ครูบาอาจารย์ท่านสอนจนได้ธรรมกาย เรื่องปราบมารถ้าหลวงพ่อยังไม่บอกให้ทำอะไรก็อย่าเพิ่งทำ สะสมบารมีตามหลวงพ่อแนะนำไปก่อนเรื่อยๆ ถึงเวลาเมื่อไหร่ครูบาอาจารย์ท่านจะแนะนำเอง

หนังสือพวกนี้ผมเคยอ่านบ้างแล้วน่าจะเป็นการถอดแบบหรือต่อเติมมาจากหนังวิชชามรรคผลเล่ม1และ2บวกกับความรู้ประสบการณ์ของการนั่งสมาธิของผู้แต่ง ซึ่งไม่มีการรับรองว่าถูกต้องทั้งหมด และก็มีถูกบ้างผิดบ้าง สิ่งที่ถูกต้องก็คือถ้าเป็นหนังสือธรรมะจะต้องไม่มีผิดเลยแม้แต่น้อยยิ่งเป็นธรรมขั้นสูงต้องระวัง ถ้าจะอ่านต้องใช้สติมากๆ และอย่าเกิดความอยากได้อยากเห็นอยากเป็นธรรมกาย เพราะสิ่งเหล่านี้จะเกิดได้เองบนการหยุดนิ่งอย่างถูกส่วนและวางเฉยไม่ใช่ความอยาก
Nuttawat

#28 Madar4u

Madar4u
  • Members
  • 8 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 September 2008 - 04:09 PM

ผมว่าอ่านไว้บ้างก็ดีนะ แต่อ่านด้วยปัญญา อ่านก่อนอย่างพึ่งเชื่อ เห็นแล้วค่อยเชื่อก็ไม่เสียหาย เกิดมาเป็นมนุษย์ก็ยากแล้ว ยิ่งมาพบวิชาธรรมกายยิ่งอยากใหญ่ เมื่อเจอแล้วไม่ปฎิบัติให้ได้ ก็ไม่รู้จะเกิดมาทำไม อย่าได้คิดหวังชาติหน้าเลยถ้าชาตินี้เจอแล้วไม่ทำให้เป็น... (อย่าเสียเวลากับสิ่งที่ไม่ทำให้เกิดวิชชาเลย)