- จากความทรงจำ เรื่อง กำเนิดวัดพระธรรมกาย โดย อุบาสิกา ถวิล (บุญทรง) วัติรางกูล
สถานที่เกิดเหตุ
- บ้านธรรมประสิทธ์ สมัยที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย และ หมู่คณะยุคบุกเบิกยังเป็นนักศึกษา
ผู้เล่าเรื่อง
- อุบาสิกา ถวิล (บุญทรง) วัติรางกูล
QUOTE
ที่ยังประทับใจมิรู้ลืม ป้าจะเล่าให้ฟัง มีอยู่เย็นวันหนึ่งขณะที่ทุกคนกำลังนั่งสมาธิกันเงียบกริบ ป้ายังกำหนดใจไม่ได้ พอหูได้ยินเสียงเคลื่อนไหวที่พื้นกระดาน ใจของป้าก็คิดเป็นห่วงกระเป๋าสตางค์ของบรรดาฝ่ายชาย เกรงจะมีใครแอบขึ้นบันไดมาหยิบเอาไปหมด เวลานั้นป้าไม่เข้าใจว่า ทำไมเวลานั่งสมาธิ ผู้ชายทุกคนจะต้องหยิบกระเป๋าสตางค์ ออกมาจากกางเกงวางไว้ข้างตัว ป้าคิดเองว่า "เค้าคงปล่อยวาง ไม่ยึดติดในสมบัติอะไรกระมัง เลยเอาทรัพย์สินเงินทองออกมาวางทิ้งซะ" ภายหลังจึงทราบว่า เหตุที่พากันทำดังนั้น เพราะถ้ามีกระเป๋าสตาค์อยู่ในกางเกง กระเป๋าจะค้ำตัว นั่งไม่สบาย แต่การนั่งสบายของฝ่ายชาย ทำให้ป้ารู้สึกไม่สบาย เป็นห่วงเป็นใยกระเป๋าพวกนั้นยิ่งนัก
พอนึกห่วงหนักเข้า ก็เลยต้องหรี่ตา ดูว่าอะไรมาทำเสียงเหมือนคนเคลื่อนไหว ป้าเห็นหลวงพ่อรองเจ้าอาวาสของเรา ท่านกำลังคลานมาทางด้านหลังของคนอื่นๆ ที่นั่งสมาธิล้อมกันเกือบเป็นรูปวงกลม ป้าก็นึกในใจ "เอ คุณเด็จเนี่ย ทำอะไรกัน ทำไมไม่นั่งสมาธิ มาคลานเล่นซะนี่ เราต้องดูหน่อยเถอะว่า คลานไปไหน"
ในที่สุด ป้าก็เห็นคลานไปที่กระเป๋าสตางค์ของหลวงพ่อเจ้าอาวาส หยิบขึ้นมาเปิด ป้าหรี่ตาจ้องมองเป๋ง เปิดกระเป๋าคนอื่นทำไม ป้าเห็นเปิดแล้วทำท่าเหมือนนับเงินดู ขณะเดียวกัน ก็ดึงกระเป๋าสตางค์ตนเองออกมาจากกางเกง หยิบธนบัตรออกมานับปึกหนึ่ง ใส่ลงไปในกระเป๋าของอีกฝ่าย ป้าถอนใจอย่างโล่งอก รู้สึกตื้นตันน้ำตาซึม นึกไป "โธ่เอ๋ย ไปสงสัยซะใหญ่โต ที่แท้คุณเด็ดก็ห่วงน้องจะไม่มีเงินใช้ กำลังเรียนปีสุดท้าย ต้องใช้จ่ายมาก ส่วนคุณเด็ดเรียนจบแล้ว มีงานทำรายได้ดี จึงเอามาแอบแบ่งให้ใช้ ถ้าให้ซึ่งๆ หน้า ฝ่ายน้องก็คงไม่รับ คงบอกคอเป็นเอ็นว่า มีแล้ว มีแล้ว ทั้งที่มีบาทเดียวก็บอกได้ว่ามีแล้วนั่นแหละ คุณเด็ดเลยต้องใช้วิธีแอบให้ยังงี้ ไอ้เราก็คิดมาก สงสัยวุ่นวายไปได้"
นับแต่วันนั้นมา ป้าจะได้ยินคนคลานเคลื่อนไหว ขณะนั่งสมาธิกี่ครั้ง ก็ไม่กังวลห่วงใยจนต้องลืมตาดูอีกเลย
พอนึกห่วงหนักเข้า ก็เลยต้องหรี่ตา ดูว่าอะไรมาทำเสียงเหมือนคนเคลื่อนไหว ป้าเห็นหลวงพ่อรองเจ้าอาวาสของเรา ท่านกำลังคลานมาทางด้านหลังของคนอื่นๆ ที่นั่งสมาธิล้อมกันเกือบเป็นรูปวงกลม ป้าก็นึกในใจ "เอ คุณเด็จเนี่ย ทำอะไรกัน ทำไมไม่นั่งสมาธิ มาคลานเล่นซะนี่ เราต้องดูหน่อยเถอะว่า คลานไปไหน"
ในที่สุด ป้าก็เห็นคลานไปที่กระเป๋าสตางค์ของหลวงพ่อเจ้าอาวาส หยิบขึ้นมาเปิด ป้าหรี่ตาจ้องมองเป๋ง เปิดกระเป๋าคนอื่นทำไม ป้าเห็นเปิดแล้วทำท่าเหมือนนับเงินดู ขณะเดียวกัน ก็ดึงกระเป๋าสตางค์ตนเองออกมาจากกางเกง หยิบธนบัตรออกมานับปึกหนึ่ง ใส่ลงไปในกระเป๋าของอีกฝ่าย ป้าถอนใจอย่างโล่งอก รู้สึกตื้นตันน้ำตาซึม นึกไป "โธ่เอ๋ย ไปสงสัยซะใหญ่โต ที่แท้คุณเด็ดก็ห่วงน้องจะไม่มีเงินใช้ กำลังเรียนปีสุดท้าย ต้องใช้จ่ายมาก ส่วนคุณเด็ดเรียนจบแล้ว มีงานทำรายได้ดี จึงเอามาแอบแบ่งให้ใช้ ถ้าให้ซึ่งๆ หน้า ฝ่ายน้องก็คงไม่รับ คงบอกคอเป็นเอ็นว่า มีแล้ว มีแล้ว ทั้งที่มีบาทเดียวก็บอกได้ว่ามีแล้วนั่นแหละ คุณเด็ดเลยต้องใช้วิธีแอบให้ยังงี้ ไอ้เราก็คิดมาก สงสัยวุ่นวายไปได้"
นับแต่วันนั้นมา ป้าจะได้ยินคนคลานเคลื่อนไหว ขณะนั่งสมาธิกี่ครั้ง ก็ไม่กังวลห่วงใยจนต้องลืมตาดูอีกเลย
ครูบาอาจารย์ของเรา สุดยอดไหมครับ