หลาย ๆ คนเมื่อได้สิ่งที่ตนต้องการมาแล้ว ก็ มักจะคิดว่า มีความสุขที่ได้มา แต่ สิ่งที่ได้มานั้น ย่อมจะมีความสุข และ ความทุกข์ เพียงแต่
จะสุขมากกว่า หรือ ทุกข์มากกว่า
เช่น เราได้งานทำ สมหวังกับที่ตั้งใจและอยากได้งานนี้ทำ มีความสุขที่ได้งานทำ แต่ อาจจะมีความทุกข์ รอยู่ข้างหน้า เมื่อเข้าไปแล้ว
งานทำก็หนักไม่มีเวลาพักผ่อน และ อาจจะต้องอดทนกับหัวหน้างาน เป็นต้น แต่ ก็อาจจะมีสิ่งดี ๆ รออยู่เช่น มีเพื่อน ๆ ดี ๆ
ที่ช่วยเหลือเราอยู่
เพราะฉะนั้น ไม่ว่าสิ่งที่ได้มา หรือ ไม่ได้มา ล้วนแต่มีความสุขหรือทุกข์ รอเราอยู่ อย่าคาดหวัง แล้วจะผิดหวัง แต่ให้อยู่กับปัจจุบัน
อย่างมีสติ ไม่หวั่นไหว พอใจกับสิ่งที่ได้มา หรือ มีอยู่ แล้วเราก็จะสุขได้ สุขเพียงเพราะรู้จักพอใจกับสิ่งที่มีปัจจุบัน แล้วจะมีชีวิตที่เป็นสุข
สุขที่แท้จริง คือ การได้พระในตัว ไม่โกหก ไม่หลอกลวง ไม่ทอดทิ้ง และ ไม่จากหาย จากเราไป นี่สิ สุขจริงแท้
- ธรรมะสร้างกำลังใจ ทำให้คุณเป็นสุขใจได้ตลอดเวลา
- → ดูโปรไฟล์: กระทู้: usr23182
สถิติเว็บบอร์ด
- กลุ่ม Members
- โพสต์ 114
- ดูโปรไฟล์ 16818
- อายุ ไม่เปิดเผย
- วันเกิด ไม่เปิดเผย
-
Gender
ไม่เปิดเผย
0
Neutral
เครื่องมือผู้ใช้งาน
เพื่อน
usr23182 ยังไม่มีเพื่อนในตอนนี้
ผู้เยี่ยมชมล่าสุด
กระทู้ที่ฉันเริ่ม
สุขและทุกข์ กับ สิ่งที่ได้มา และ สิ่งที่ไม่ได้มา
31 July 2010 - 09:42 PM
12 วัน ร้อยเอ็ด อุดร เลย สระบุรี วัดพระธรรมกาย
28 July 2010 - 02:26 PM
12 วัน ที่เดินทาง เก็บ บุญ งานปลงผม แห่นาค กราบขอขมา ที่จังหวัด ร้อยเอ็ด อุดร เลย
เป็นช่วงเวลาที่ประทับใจ ที่ต้องเก็บความทรงจำไว้ กับ การเดินทางในครั้งนี้ ที่เริ่มต้นเดินทาง เพียง คนเดียว โดยที่ไม่ร้จักใครเลย
ไม่ร้จักพระอาจารย์ หรือ ผ้นำบุญ มาก่อนเลย เรียกว่า ทุกคนต่างแปลกใจกันว่า มาได้ยังไงเนี่ยะ มาทำไมเนี่ยะ
จุดเริ่มต้น ที่แรกคือ จังหวัด ร้อยเอ็ด ไปร้จัก พระอาจารย์ ผ้นำบุญที่นั่น และ ขอติดรถน้องไปต่อที่อุดร เลย สระบุรี
ด้วยความที่ อยากเก็บบุญ อยากได้ช่วงเวลาเก็บเกี่ยวความปลื้มปิติในบุญ อยากช่วยงานบุญ ไม่ร้ว่าจะไปกับใคร และ
ไม่มีเพื่อนเดินทางไปด้วย จึงตัดสินใจว่า ทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไรก็ช่างแต่จะขอเดินทางไปให้ถึงฝันที่อยากจะไป
และ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เดินทางตามลำพัง ไม่มีโปรแกรม ไม่ร้จักใคร 55555 ช่างกล้าอะไรขนาดนี้ ผ้หญิงคนเดียวนิ
วันที่ 14 กรกฏาคม ออกเดินทางถึงร้อยเอ็ด แหมเกือบไม่ถึง ระหว่างทางจะไปต่อรถที่ขอนแก่น ยางรถแตก เกือบไม่ทันแล้วหล่ะ
วันที่ 16 กรกฏาคม เสร็จงานพิธีปลงผมที่ร้อยเอ็ด ขอน้องชมรมพุทธ ติดรถไปช่วยงานที่จังหวัด อุดร และ จังหวัดเลย ต่อ
วันที่ 17 กรกฏาคม พิธีกราบขอขมาที่จังหวัด อุดร
วันที่ 18 กรกฏาคม พิธีกราบขอขมาที่จังหวัด เลย
วันที่ 19 กรกฏาคม เดินทางถึงวัดพระธรรมกาย ตอนตี 4 ช่วยงานที่วัด หาข้าว น้ำ ให้นาคที่มาวัด
วันที่ 20 กรกฏาคม ช่วยงานแจกน้ำ ดื่มให้ นาคธรรมทายาท ตลอดทั้งวัน ตกบ่าย มีพี่ผ้หญิงท่านหนึ่งโทรมา ไม่ร้จักกันมาก่อน
ไม่เคยเห็นกันมาก่อน คุยกันทางโทร ชวนไปช่วยงานและ นั่งสมาธิ บ่ายเดินทางกัน ก็ตอบตกลง ไปทันที
โอ๊ย ตัดสินใจไม่ผิด สวยจังที่นั่น ขออุบ ไม่บอกน่ะที่ไหน มาเดากันดีกว่าว่าที่ไหน ภูเขาล้อมรอบ ต้นไม้ร่มรื่น มีสระน้ำขนาดใหญ่
วันไหนช่วยงานเสร็จเร็ว ก็มาแอบนั่งสมาธิ ริมสระน้ำ สบายกาย สบายใจ จนร้สึกโลกทั้งใบคือ เราคนเดียว สุขจนยิ้มแก้มป่อง
วันที่ 24 กรกฏาคม น้องชมรมพุทธเดินทางพาน้อง ๆ มาค่ายปฏิบัติธรรม และ จะไปตักบาตรต่อที่สระบุรี ขอน้องติดรถไปด้วย
พอดีร้จักกับน้องประธานชมรมพุทธ จึงคุยกันได้ งานนี้เจอคนร้จัก
วันที่ 25 กรกฏาคม ไปตักบาตรกับน้องที่จังหวัดสระบุรี และ ไปเที่ยวน้ำตกเจ็ดสาวน้อย เดินทางกลับถึงวัดพระธรรมกาย
วันที่ 26 กรกฏาคม ไปทำบุญที่วัดพระธรรมกาย วันอาสาฬหบูชา ตลอดทั้งวัน ก็ยังสุข สุขจนต้องยิ้มบ่อย ๆ ยิ้มจนแก้มใส
เอาบุญมาฝากทุกคนค่ะ เอาความสุขมาแจกให้ทุกคนค่ะ
สนุก และ ปลื้ม จนลืมไม่ลง กับ การทัวร์ ครั้งนี้ ครั้งแรกของชีวิต ที่ไปคนเดียว ไปแบบไม่ร้จักใครเลย ไปเพียงอยากเก็บบุญ
ไม่ร้ว่าจะได้มีโอกาสแสวงบุญอย่างนี้อีกไหมน่ะ ออกเดินทางแบบไม่มีจุดหมาย ไม่ร้ว่าจะเจออะไร เออ ต้องกลับไปใช้ชีวิตทำงาน
จะมีเวลาอีกไหมน่ะ
อยากบอกเพื่อน ๆ ชาว dmc ทุกคนค่ะว่า อย่ากลัวกับข้างหน้า ทางข้างหน้าจะเป็นยังไง ก็ช่าง ขอให้มั่นใจที่จะก้าวเดินต่อไป
บางที่อาจจะมีสิ่งดี ๆ ที่รอเราอย่ เหมือนครั้งนี้ ที่เราได้เพื่อนเพิ่มขึ้น ได้พบสิ่งแปลกใหม่ ได้เห็นบ้านเมืองต่างจังหวัด ได้เห็น
ขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่น และ ได้ความสุขกลับมาค่ะ
ถ้าเพื่อน ๆ มีเวลา ลองดูน่ะค่ะ ตระเวนเก็บบุญ สนุกค่ะ ลองเดินทางคนเดียวดูน่ะค่ะ แล้วเราจะไปเจอหม่คณะใหม่เองค่ะ
ถ้าไปเป็นทีม ก็ได้แค่ทีมเดิม ๆ เพื่อนคนเดิม ที่ไม่มีอะไรแปลกใหม่ กับ ชีวิต รสชาติเหมือนเดิม
ลองสิ่งใหม่ แล้วจะได้สิ่งใหม่ ๆ กับชีวิต ความสุขที่ยิ้มจนแก้มป่อง หุบไม่ลง คงไม่ลืม ไปจนชั่วชีวิต
เอาบุญมาฝากทุกคนค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ
เป็นช่วงเวลาที่ประทับใจ ที่ต้องเก็บความทรงจำไว้ กับ การเดินทางในครั้งนี้ ที่เริ่มต้นเดินทาง เพียง คนเดียว โดยที่ไม่ร้จักใครเลย
ไม่ร้จักพระอาจารย์ หรือ ผ้นำบุญ มาก่อนเลย เรียกว่า ทุกคนต่างแปลกใจกันว่า มาได้ยังไงเนี่ยะ มาทำไมเนี่ยะ
จุดเริ่มต้น ที่แรกคือ จังหวัด ร้อยเอ็ด ไปร้จัก พระอาจารย์ ผ้นำบุญที่นั่น และ ขอติดรถน้องไปต่อที่อุดร เลย สระบุรี
ด้วยความที่ อยากเก็บบุญ อยากได้ช่วงเวลาเก็บเกี่ยวความปลื้มปิติในบุญ อยากช่วยงานบุญ ไม่ร้ว่าจะไปกับใคร และ
ไม่มีเพื่อนเดินทางไปด้วย จึงตัดสินใจว่า ทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไรก็ช่างแต่จะขอเดินทางไปให้ถึงฝันที่อยากจะไป
และ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เดินทางตามลำพัง ไม่มีโปรแกรม ไม่ร้จักใคร 55555 ช่างกล้าอะไรขนาดนี้ ผ้หญิงคนเดียวนิ
วันที่ 14 กรกฏาคม ออกเดินทางถึงร้อยเอ็ด แหมเกือบไม่ถึง ระหว่างทางจะไปต่อรถที่ขอนแก่น ยางรถแตก เกือบไม่ทันแล้วหล่ะ
วันที่ 16 กรกฏาคม เสร็จงานพิธีปลงผมที่ร้อยเอ็ด ขอน้องชมรมพุทธ ติดรถไปช่วยงานที่จังหวัด อุดร และ จังหวัดเลย ต่อ
วันที่ 17 กรกฏาคม พิธีกราบขอขมาที่จังหวัด อุดร
วันที่ 18 กรกฏาคม พิธีกราบขอขมาที่จังหวัด เลย
วันที่ 19 กรกฏาคม เดินทางถึงวัดพระธรรมกาย ตอนตี 4 ช่วยงานที่วัด หาข้าว น้ำ ให้นาคที่มาวัด
วันที่ 20 กรกฏาคม ช่วยงานแจกน้ำ ดื่มให้ นาคธรรมทายาท ตลอดทั้งวัน ตกบ่าย มีพี่ผ้หญิงท่านหนึ่งโทรมา ไม่ร้จักกันมาก่อน
ไม่เคยเห็นกันมาก่อน คุยกันทางโทร ชวนไปช่วยงานและ นั่งสมาธิ บ่ายเดินทางกัน ก็ตอบตกลง ไปทันที
โอ๊ย ตัดสินใจไม่ผิด สวยจังที่นั่น ขออุบ ไม่บอกน่ะที่ไหน มาเดากันดีกว่าว่าที่ไหน ภูเขาล้อมรอบ ต้นไม้ร่มรื่น มีสระน้ำขนาดใหญ่
วันไหนช่วยงานเสร็จเร็ว ก็มาแอบนั่งสมาธิ ริมสระน้ำ สบายกาย สบายใจ จนร้สึกโลกทั้งใบคือ เราคนเดียว สุขจนยิ้มแก้มป่อง
วันที่ 24 กรกฏาคม น้องชมรมพุทธเดินทางพาน้อง ๆ มาค่ายปฏิบัติธรรม และ จะไปตักบาตรต่อที่สระบุรี ขอน้องติดรถไปด้วย
พอดีร้จักกับน้องประธานชมรมพุทธ จึงคุยกันได้ งานนี้เจอคนร้จัก
วันที่ 25 กรกฏาคม ไปตักบาตรกับน้องที่จังหวัดสระบุรี และ ไปเที่ยวน้ำตกเจ็ดสาวน้อย เดินทางกลับถึงวัดพระธรรมกาย
วันที่ 26 กรกฏาคม ไปทำบุญที่วัดพระธรรมกาย วันอาสาฬหบูชา ตลอดทั้งวัน ก็ยังสุข สุขจนต้องยิ้มบ่อย ๆ ยิ้มจนแก้มใส
เอาบุญมาฝากทุกคนค่ะ เอาความสุขมาแจกให้ทุกคนค่ะ
สนุก และ ปลื้ม จนลืมไม่ลง กับ การทัวร์ ครั้งนี้ ครั้งแรกของชีวิต ที่ไปคนเดียว ไปแบบไม่ร้จักใครเลย ไปเพียงอยากเก็บบุญ
ไม่ร้ว่าจะได้มีโอกาสแสวงบุญอย่างนี้อีกไหมน่ะ ออกเดินทางแบบไม่มีจุดหมาย ไม่ร้ว่าจะเจออะไร เออ ต้องกลับไปใช้ชีวิตทำงาน
จะมีเวลาอีกไหมน่ะ
อยากบอกเพื่อน ๆ ชาว dmc ทุกคนค่ะว่า อย่ากลัวกับข้างหน้า ทางข้างหน้าจะเป็นยังไง ก็ช่าง ขอให้มั่นใจที่จะก้าวเดินต่อไป
บางที่อาจจะมีสิ่งดี ๆ ที่รอเราอย่ เหมือนครั้งนี้ ที่เราได้เพื่อนเพิ่มขึ้น ได้พบสิ่งแปลกใหม่ ได้เห็นบ้านเมืองต่างจังหวัด ได้เห็น
ขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่น และ ได้ความสุขกลับมาค่ะ
ถ้าเพื่อน ๆ มีเวลา ลองดูน่ะค่ะ ตระเวนเก็บบุญ สนุกค่ะ ลองเดินทางคนเดียวดูน่ะค่ะ แล้วเราจะไปเจอหม่คณะใหม่เองค่ะ
ถ้าไปเป็นทีม ก็ได้แค่ทีมเดิม ๆ เพื่อนคนเดิม ที่ไม่มีอะไรแปลกใหม่ กับ ชีวิต รสชาติเหมือนเดิม
ลองสิ่งใหม่ แล้วจะได้สิ่งใหม่ ๆ กับชีวิต ความสุขที่ยิ้มจนแก้มป่อง หุบไม่ลง คงไม่ลืม ไปจนชั่วชีวิต
เอาบุญมาฝากทุกคนค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ
ประโยชน์ของโครงการบวชพระแสนรูปทุกหม่บ้านทั่วไทย
21 June 2010 - 06:20 PM
ขอเล่าสักนิดน่ะค่ะ บางท่านที่อย่ทุกจังหวัดทั่วไทยคงรับทราบเรื่องที่จะเล่านี้กันอย่แล้วค่ะ
แต่บางท่านที่อย่ในเมืองหลวง และต่างประเทศอาจจะไม่ทราบเรื่องนี้ ขอโม้สักนิดน่ะค่ะ
ในหัวใจคนไทยยังมีศาสนาพุทธค่ะ
ทุกวันจะมีคนมาถวายภัตตาหารพระเช้า เพล และ ตักบาตรกันหน้าบ้านเกือบทุกบ้าน
พอถึงวันพระใหญ่ คุณตายายแม่ลูก จูงหลาน มาวัดกันเต็มศาลา เห็นแล้วปลื้ม ปลื้มมากค่ะ
ถามว่าแล้วโครงการบวชพระแสนรูปมีประโยชน์กับชาวบ้านมากแค่ไหน
ตอบ มากค่ะ มากขนาดจะทำให้ประเทศไทยเจริญร่งเรื่องฟื้นฟูคนไทยได้ทั้งชาติ
ถ้าคนมาบวช สามารถเลิกเหล้าได้ เมื่อลาสิกขาแล้ว ครอบครัวอย่เย็นเป็นสุข หม่บ้านเจริญร่งเรือง
สังคมสงบสุขขโมย คนติดเหล้ายาก็น้อย ประเทศเจริญร่งเรือง และที่สำคัญ
เมื่อพระยังไม่สึก ยังคงจำวัดอย่ต่อไป ในหม่บ้านนั้น ๆ ท่านก็ช่วยกันพัฒนาวัดให้เจริญ ญาติโยม
ก็จะมาวัดกันได้มากขึ้น มีการพัฒนาหม่บ้าน ในอำเภอนั้น ๆ ประโยชน์ก็ตกอย่กับคนในท้องถิ่นนั้น ๆ
เป็นการ ฟื้นฟูศีลธรรมทั่วประเทศ
คนที่ไม่เห็นความสำคัญของโครงการนี้ ขอเถอะหยุดคิดสักนิดก่อนค่ะ
ประโยชน์ก็ลูกหลานไทยกันทั่วประเทศ ไม่ได้เป็นประโยชน์กับบุคคลใดบุคคลหนึ่งเลย
อยากให้มีคนมาบวชเยอะ ๆ จังค่ะ เพื่อคนไทยด้วยกันค่ะ สังคมอย่ดีมีสุขค่ะ
อนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ทำหน้าที่ชวนคนบวชน่ะค่ะ สาธุ
แต่บางท่านที่อย่ในเมืองหลวง และต่างประเทศอาจจะไม่ทราบเรื่องนี้ ขอโม้สักนิดน่ะค่ะ
ในหัวใจคนไทยยังมีศาสนาพุทธค่ะ
ทุกวันจะมีคนมาถวายภัตตาหารพระเช้า เพล และ ตักบาตรกันหน้าบ้านเกือบทุกบ้าน
พอถึงวันพระใหญ่ คุณตายายแม่ลูก จูงหลาน มาวัดกันเต็มศาลา เห็นแล้วปลื้ม ปลื้มมากค่ะ
ถามว่าแล้วโครงการบวชพระแสนรูปมีประโยชน์กับชาวบ้านมากแค่ไหน
ตอบ มากค่ะ มากขนาดจะทำให้ประเทศไทยเจริญร่งเรื่องฟื้นฟูคนไทยได้ทั้งชาติ
ถ้าคนมาบวช สามารถเลิกเหล้าได้ เมื่อลาสิกขาแล้ว ครอบครัวอย่เย็นเป็นสุข หม่บ้านเจริญร่งเรือง
สังคมสงบสุขขโมย คนติดเหล้ายาก็น้อย ประเทศเจริญร่งเรือง และที่สำคัญ
เมื่อพระยังไม่สึก ยังคงจำวัดอย่ต่อไป ในหม่บ้านนั้น ๆ ท่านก็ช่วยกันพัฒนาวัดให้เจริญ ญาติโยม
ก็จะมาวัดกันได้มากขึ้น มีการพัฒนาหม่บ้าน ในอำเภอนั้น ๆ ประโยชน์ก็ตกอย่กับคนในท้องถิ่นนั้น ๆ
เป็นการ ฟื้นฟูศีลธรรมทั่วประเทศ
คนที่ไม่เห็นความสำคัญของโครงการนี้ ขอเถอะหยุดคิดสักนิดก่อนค่ะ
ประโยชน์ก็ลูกหลานไทยกันทั่วประเทศ ไม่ได้เป็นประโยชน์กับบุคคลใดบุคคลหนึ่งเลย
อยากให้มีคนมาบวชเยอะ ๆ จังค่ะ เพื่อคนไทยด้วยกันค่ะ สังคมอย่ดีมีสุขค่ะ
อนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ทำหน้าที่ชวนคนบวชน่ะค่ะ สาธุ
ความซื่อสัตย์
27 May 2010 - 04:01 AM
คนมีหลายแบบ หลายนิสัย หลากหลายที่มาจากครอบครัวที่แตกต่างกัน มาจากพื้นฐานการศึกษาที่แตกต่างกัน
แต่ ทุกคนต่างก็ต้องการคนซื่อสัตย์ ทุกคนคาดหวังที่จะได้คนที่ไว้ใจได้ ซื่อสัตย์ต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นแฟนกัน คนลงทุนร่วมกัน คนงาน
แต่ ในสังคมทุกวันนี้ สังคมเปลี่ยนแปลงไปจากอดีต ผู้คนไม่ได้ให้ความสำคัญกับการรักษาศีล ความซื่อสัตย์ที่ควรมีให้กันและกัน
ในสังคมปัจจุบัน ชายหญิง ต่างเห็นเป็นเรื่องธรรมดา ที่จะคบที่เดียวหลาย ๆ คน แบบเผื่อเลือกว่าจะรักใครดี โดยไม่สนใจว่าเป็นการ
ผิดศีลหรือไม่ เพราะเห็นคนในสังคมกระทำต่อกันจนเหมือนเป็นเรื่องปรกติ คนหลายคนในสังคมบอกว่าไม่เป็นไรหรอก ก็แค่คบกันอยู่
ยังไม่ได้แต่งงานเลย คบหลายคนน่ะดี จะได้เลือกได้ว่าใครดีที่สุด
แต่ ความซื่อสัตย์ที่จะมีต่อกันนั้นต้องเริ่มต้นตั้งแต่คบกันดูใจกัน เมื่อแต่งงานแล้วความซื่อสัตย์นั้นก็จะยั่งยืน เพราะมีความรักความไว้ใจต่อกัน ชีวิตคู่ก็จะยั่งยืนไม่แตกร้าวได้ง่าย เหมือนคนที่คบเผื่อเลือกเพราะเมื่อแต่งงานแล้วก็พร้อมที่จะออกนอกทางได้ตลอดเวลา
เพราะเห็นเป็นเรื่องปรกติกับเขาซะแล้ว ความแตกร้าวก็จะมาเยือนได้ง่ายมาก
=============================================
โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า ความซื่อสัตย์ควรเริ่มตั้งแต่ใจที่ไม่วอกแวกต่อใคร ๆ ควรมั่นคงกับอารมณ์และความรู้สึกของตนเองต่อคนที่เราชอบ
การมีเพื่อนมาก ไม่ใช่หมายความว่าจะเป็นการคบแบบเผือเลือก แต่การมีเพื่อนนั้นเป็นสังคมที่เราต้องอยู่กับความจริงที่เรายังต้องมีเพื่อน
เพียงแต่จะต้องรู้จักระวังคำพูด การกระทำ และ ใจ ของตัวเองที่จะไม่นอกใจต่อกัน
เราเองเป็นคนหนึ่งที่เกลียดการคบแบบเผื่อเลือก ถ้าคนเราไม่มีความซื่อสัตย์ต่อกัน ก็แสดงว่าคบกันไม่ได้แล้ว
ความซื่อสัตย์ต่อใครสักคนจึงไม่ใช่เป็นความโง่ แต่ เป็นความถูกต้อง และ ความสุขที่ได้เริ่มต้นวางรากฐานความมั่นคงของชีวิตคู่
ลักษณะการมีเพื่อนมาก จึงแตกต่างกันกับ การคบแบบเผื่อเลือก
การต้อนรับเพื่อน ถือเป็นการปฏิสันถารอย่างหนึ่ง เพียงแต่เราต้องรู้จักการวางตัวให้ถูกต้อง
การคบแบบเผื่อเลือก นั้นเป็นการวางตัวที่ไม่เหมาะสมทั้งต่อสาธารณะ และ ลับหลัง และโดยเฉพาะใจที่มีให้หลายคนแสดงให้เห็นว่าไม่มีความซื่อสัตย์กับตนเองและคนอื่น คนอย่างนี้คบไม่ได้
===============================================
การที่คิดจะสร้างบารมี จึงต้องเริ่มต้นที่ใจของตัวเองก่อน เพียงแค่ความซื่อสัตย์ต่อใจตนเองยังทำไม่ได้ แล้วจะซื่อสัตย์และมั่นคงกับ
การสร้างบารมีได้อย่างไร ศีลบารมีจึงเป็นเบื้องต้นของการสร้างบารมีอื่น ๆ ที่สำคัญที่สุดของการสร้างบารมี
อยากให้คนทั้งหลายมารณรงค์กันสร้างความซื่อสัตย์ ก็จะเป็นการสร้างสังคมให้สงบสันติสุขกันได้ ปัญหาในสังคมที่บ้านแตก หรือ
เด็กมีปัญหา ทั้ง การขายยาบ้า การขายบริการ ก็จะน้อยลง เพราะคนเริ่มเห็นความสำคัญกับการซื่อสัตย์ต่อกันและกัน
หากเราเริ่มต้นที่ตัวเราเองที่จะมีความซื่อสัตย์ ขยายความคิดนี้สู่คนอื่น ๆ ในสังคม อีกหน่อยสังคมก็จะสงบสุขมากยิ่งขึ้นและสันติสุขของ
โลกก็จะบังเกิดขึ้น เพียงแค่เราเริ่มต้นที่ตัวเราเองก่อนให้มีความซื่อสัตย์
เพื่อน ๆ ชาว DMC มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างค่ะ แลกเปลี่ยนทัศนคติ ความรู้ ให้กันก็จะได้ช่วยให้สังคมสงบสุขมากขึ้นค่ะ
ไม่ว่าท่านใดจะปราถนาแต่งงานหรือไม่แต่งงานก็ตาม ก็อยากให้ทุกคนมีความซื่อสัตย์ต่อกัน กับ เพื่อน กับเจ้านาย กับคนในครอบครัว
ขอให้ทุกคน ทุกบ้าน มีความสุขค่ะ
แต่ ทุกคนต่างก็ต้องการคนซื่อสัตย์ ทุกคนคาดหวังที่จะได้คนที่ไว้ใจได้ ซื่อสัตย์ต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นแฟนกัน คนลงทุนร่วมกัน คนงาน
แต่ ในสังคมทุกวันนี้ สังคมเปลี่ยนแปลงไปจากอดีต ผู้คนไม่ได้ให้ความสำคัญกับการรักษาศีล ความซื่อสัตย์ที่ควรมีให้กันและกัน
ในสังคมปัจจุบัน ชายหญิง ต่างเห็นเป็นเรื่องธรรมดา ที่จะคบที่เดียวหลาย ๆ คน แบบเผื่อเลือกว่าจะรักใครดี โดยไม่สนใจว่าเป็นการ
ผิดศีลหรือไม่ เพราะเห็นคนในสังคมกระทำต่อกันจนเหมือนเป็นเรื่องปรกติ คนหลายคนในสังคมบอกว่าไม่เป็นไรหรอก ก็แค่คบกันอยู่
ยังไม่ได้แต่งงานเลย คบหลายคนน่ะดี จะได้เลือกได้ว่าใครดีที่สุด
แต่ ความซื่อสัตย์ที่จะมีต่อกันนั้นต้องเริ่มต้นตั้งแต่คบกันดูใจกัน เมื่อแต่งงานแล้วความซื่อสัตย์นั้นก็จะยั่งยืน เพราะมีความรักความไว้ใจต่อกัน ชีวิตคู่ก็จะยั่งยืนไม่แตกร้าวได้ง่าย เหมือนคนที่คบเผื่อเลือกเพราะเมื่อแต่งงานแล้วก็พร้อมที่จะออกนอกทางได้ตลอดเวลา
เพราะเห็นเป็นเรื่องปรกติกับเขาซะแล้ว ความแตกร้าวก็จะมาเยือนได้ง่ายมาก
=============================================
โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า ความซื่อสัตย์ควรเริ่มตั้งแต่ใจที่ไม่วอกแวกต่อใคร ๆ ควรมั่นคงกับอารมณ์และความรู้สึกของตนเองต่อคนที่เราชอบ
การมีเพื่อนมาก ไม่ใช่หมายความว่าจะเป็นการคบแบบเผือเลือก แต่การมีเพื่อนนั้นเป็นสังคมที่เราต้องอยู่กับความจริงที่เรายังต้องมีเพื่อน
เพียงแต่จะต้องรู้จักระวังคำพูด การกระทำ และ ใจ ของตัวเองที่จะไม่นอกใจต่อกัน
เราเองเป็นคนหนึ่งที่เกลียดการคบแบบเผื่อเลือก ถ้าคนเราไม่มีความซื่อสัตย์ต่อกัน ก็แสดงว่าคบกันไม่ได้แล้ว
ความซื่อสัตย์ต่อใครสักคนจึงไม่ใช่เป็นความโง่ แต่ เป็นความถูกต้อง และ ความสุขที่ได้เริ่มต้นวางรากฐานความมั่นคงของชีวิตคู่
ลักษณะการมีเพื่อนมาก จึงแตกต่างกันกับ การคบแบบเผื่อเลือก
การต้อนรับเพื่อน ถือเป็นการปฏิสันถารอย่างหนึ่ง เพียงแต่เราต้องรู้จักการวางตัวให้ถูกต้อง
การคบแบบเผื่อเลือก นั้นเป็นการวางตัวที่ไม่เหมาะสมทั้งต่อสาธารณะ และ ลับหลัง และโดยเฉพาะใจที่มีให้หลายคนแสดงให้เห็นว่าไม่มีความซื่อสัตย์กับตนเองและคนอื่น คนอย่างนี้คบไม่ได้
===============================================
การที่คิดจะสร้างบารมี จึงต้องเริ่มต้นที่ใจของตัวเองก่อน เพียงแค่ความซื่อสัตย์ต่อใจตนเองยังทำไม่ได้ แล้วจะซื่อสัตย์และมั่นคงกับ
การสร้างบารมีได้อย่างไร ศีลบารมีจึงเป็นเบื้องต้นของการสร้างบารมีอื่น ๆ ที่สำคัญที่สุดของการสร้างบารมี
อยากให้คนทั้งหลายมารณรงค์กันสร้างความซื่อสัตย์ ก็จะเป็นการสร้างสังคมให้สงบสันติสุขกันได้ ปัญหาในสังคมที่บ้านแตก หรือ
เด็กมีปัญหา ทั้ง การขายยาบ้า การขายบริการ ก็จะน้อยลง เพราะคนเริ่มเห็นความสำคัญกับการซื่อสัตย์ต่อกันและกัน
หากเราเริ่มต้นที่ตัวเราเองที่จะมีความซื่อสัตย์ ขยายความคิดนี้สู่คนอื่น ๆ ในสังคม อีกหน่อยสังคมก็จะสงบสุขมากยิ่งขึ้นและสันติสุขของ
โลกก็จะบังเกิดขึ้น เพียงแค่เราเริ่มต้นที่ตัวเราเองก่อนให้มีความซื่อสัตย์
เพื่อน ๆ ชาว DMC มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างค่ะ แลกเปลี่ยนทัศนคติ ความรู้ ให้กันก็จะได้ช่วยให้สังคมสงบสุขมากขึ้นค่ะ
ไม่ว่าท่านใดจะปราถนาแต่งงานหรือไม่แต่งงานก็ตาม ก็อยากให้ทุกคนมีความซื่อสัตย์ต่อกัน กับ เพื่อน กับเจ้านาย กับคนในครอบครัว
ขอให้ทุกคน ทุกบ้าน มีความสุขค่ะ
มะหมา 4 ขาครับ
23 May 2010 - 10:42 PM
เรื่อง มะหมา 4 ขาครับ ได้ฉายเป็นภาพยนต์
มีฉากหนึ่ง ที่ประทับใจมาก จนต้องยิ้ม ทั้ง น้ำตาคลอ โอ โอ้ สุดยอดของทีมมะหมา 4 ขา
หมาทั้ง 6 ตัว เป็นหมาจรจัด 1 ตัว เป็นหมาที่อายุมาก และ ยังขาพิการ เดินไม่ได้ ต้องคลานอย่างเดียว ได้รับการยกย่องให้เป็นอาวุโส
หมาทุกตัวให้เกียรติ และ ถือเป็นหัวหน้าหมา ทุกตัวจะเรียกอย่างนอบน้อมว่า ลุงครับ ลุงค่ะ
วันหนึ่ง เนื่องจากหมาแทบจะไม่มีอาหารตกถึงท้องกันเลย ทุกตัวต่างก็หิว จึงตกลงกันว่า จะออกเดินทางไปที่สถานเลี้ยงหมา แต่
ทุกตัวก็ติดขัดว่า ลุงหมาจะไปอย่างไร
ลุงบอกว่า " ไม่ต้องห่วงฉัน พวกเธอไปกันเถอะ พวกเธอจะได้มีอาหารกิน ไมต้องอดอยาก ทิ้งฉันไว้ที่นี่แหละ "
หมาทุกตัว กลับพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า " ไม่ไป ถ้าไม่มีลุงหมาไปด้วย พวกเราก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น "
หมาทุกตัว ได้ช่วยกันคิดหาทางพาลุงหมาไปด้วยกัน จนได้รถลากของเด็กเล่นหนึ่งคัน ซึ่งสามารถให้ลุงหมาขึ้นไปนอนได้ 1 ตัว
หมา 2 ตัว ลากเชือกข้างหน้า 2 ตัว เดินข้างกระบะลุงหมา คอยดู คอยประคอง 1 ตัว 2ขาหน้ายืนเหยียบกระบะ เพื่อประคองเดิน 2 ขา
หมาทุกตัวร่วมใจกัน ทำงานกันเป็นทีม เพื่อจะพากันเดินทางทั้งกลุ่มไปให้ถึงจุดหมาย คือ สถานเลี้ยงหมา ให้สำเร็จ
ระหว่างทางมีอุปสรรค แต่หมาทุกตัวก็ไม่หวั่น สะพานที่ต้องข้าม ไม้กระดานไม่ราบเรียบ ล้อรถสะดุด หมา 2 ตัวหน้าพยายามดึงสาย
ลากไปข้างหน้า แต่แรงหมาไม่สามารถฉุดให้พ้นได้ รถกระบะพลิกคว่ำตกข้างทาง ลุงหมากระเด็นตกจากกระบะ หมาทุกตัวต่างตกใจ
วิ่งลงไปดู แล้วก็ต้องเศร้าไม่รู้จะช่วยลุงหมาอย่างไร ต่างก็คอตกกัน
ลุงหมา " พวกเธอไปกันเถอะ ไม่ต้องห่วงฉัน ทิ้งฉันไว้ที่นี่ ฉันไม่อยากเป็นภาระให้พวกเธอ "
หมาทุกตัวต่างส่ายหน้า และ บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า " ไม่ไปไหนทั้งนั้น ถ้าลุงหมาไม่ไปด้วยกัน "
ลุงหมาเห็นสายตาของหมาทุกตัว ที่มองตนอย่างห่วงใย และ ตั้งใจจริงที่จะไม่ทิ้งลุงหมากัน ลุงหมาจึงตัดสินใจลองคลานที่ละนิด
แม้จะคลานได้อย่างยากลำบาก ใช้เวลาที่เนินนาน แต่หมาทุกตัวกับยืนมองอย่างให้กำลังใจ ไม่มีหมาตัวไหนก้าวเดินจากไปเลยแม้ตัวเดียว
และในที่สุดความพยายามของลุงหมาก็ได้ผล คลานถึงกระบะสักทีน่ะ ลุงหมาใช้กำลังแรงครั้งสุดท้ายพยายามเอาหัวขึ้นกระบะ และ
ดันตัวเองขึ้นกระบะที่ละนิด จนในที่สุดก็ขึ้นไปอยู่บนกระบะได้สำเร็จ หมาทุกตัวต่างถอนหายใจอย่างดีใจอีกครั้ง ทุกตัวเข้าประจำตำแหน่ง ข้างหน้าลาก ข้างหลังดัน ทุกตัวพยายามลากและดันเพื่อขึ้นให้ถึงฟุตบาทถนนให้ได้ แต่เจ้ากรรมอีกครั้ง
ล้อรถติดหลุ่มอีกครั้ง แต่ ไม่มีเสียงถอนหายใจ มีแต่ ความมุ่งมั่นที่ต้องทำได้ และ สำเร็จ เท่านั้น ข้างหนัาลาก ข้างหลังทั้งหัวทั้งตัวดัน
ท้ายรถกระบะ และในที่สุด ก็พ้นจากหล่ม ขึ้นถึงถนน หมาทุกตัวต่างดีใจ แต่ไม่ใช่เวลาหยุดเดิน หยุดพัก พวกมันต่างพากันรีบเดิน
ข้ามถนน รถที่วิ่งมา ต่างต้องหยุดจอด และ ลงมาดูกับภาพที่ทุกคนเห็น ต่างชี้ให้กันดู ภาพของหมา 6 ตัว ที่ต่างพยายามเดินไปข้างหน้า
ด้วยกัน ทุกคนต่างยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ กับ ภาพที่หมาทุกตัวเดินผ่านหน้ารถไป มันเป็นภาพที่ประทับใจที่สุด พลังแห่งทีมมะหมา 4 ขา
และในที่สุด พวกมันก็เดินทางพาลุงหมา เดินทางมาถึง สถานรับเลี้ยงหมา พวกมันต่างดีใจกันมาก ที่ต่อไปนี้พวกมันจะไม่ต้องอดอีก
ต่อไป จะมีอาหารให้กินเต็มท้องทุกวัน ไม่ต้องหาเศษอาหารอีกต่อไปแล้ว
ความเป็นเพื่อนกัน ที่ไม่ทอดทิ้งกัน แม้จะลำบากสักเท่าไหร่ ก็จะรวมพลัง รวมใจกัน บุกบั่นไปข้างหน้าให้สำเร็จ แล้วชัยชนะก็เป็น
ของพวกมันทุกตัว
==================================================================
มารวมกันเป็นทีม รวมพลังกันเพื่อทำงานให้สำเร็จ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเดียวกัน
เพื่อน ๆ ค่ะ ถึงเวลาแล้วค่ะ ที่พวกเราต้องรวมใจ รวมพลัง เพื่อกอบกู้ประเทศชาติไทย เพื่อกอบกู้พระพุทธศาสนา เพื่อฟื้นฟูศีลธรรม
เพื่อลูกหลานให้รู้จักการทำความดี เพื่อเยาวชนจะได้เป็นคนดีของสังคมต่อไป และ เพื่อวัด เพื่อหลวงพ่อของพวกเราค่ะ
ถึงเวลาแล้วค่ะ ที่พวกเราต้องร่วมแรงกันชวนคนบวชโครงการ 100000 รูป เข้าพรรษา ให้สำเร็จเป็นอัศจรรย์
พลังของกลุ่มเพื่อนในทีมเล็ก ที่จะต้องสมัครสมานสามัคคีกัน ก็จะเป็นพลัง พวกเราต้องรวมใจกันเป็นหนึ่ง เรื่องที่ไม่ถูกใจกันให้ทิ้งไปก่อน จาก 1 กลุ่ม เป็น หลาย ๆ กลุ่มทั่วประเทศ พวกเราต้องสำเร็จค่ะ
เพื่อน ๆ ชาว DMC ค่ะ ถึงเวลาแล้วค่ะ ที่เราจะรวมพลังสู้ สู้ สู้ และ ลุยให้ถึงเป้าหมาย สำเร็จทั่วไทย
ปล. เรื่องเก่าทิ้งไป มารวมพลังกันดีกว่าค่ะ พวกเราคือ ลูกพ่อเดียวกันค่ะ ลุยเพื่อพ่อกันน่ะค่ะ
มีฉากหนึ่ง ที่ประทับใจมาก จนต้องยิ้ม ทั้ง น้ำตาคลอ โอ โอ้ สุดยอดของทีมมะหมา 4 ขา
หมาทั้ง 6 ตัว เป็นหมาจรจัด 1 ตัว เป็นหมาที่อายุมาก และ ยังขาพิการ เดินไม่ได้ ต้องคลานอย่างเดียว ได้รับการยกย่องให้เป็นอาวุโส
หมาทุกตัวให้เกียรติ และ ถือเป็นหัวหน้าหมา ทุกตัวจะเรียกอย่างนอบน้อมว่า ลุงครับ ลุงค่ะ
วันหนึ่ง เนื่องจากหมาแทบจะไม่มีอาหารตกถึงท้องกันเลย ทุกตัวต่างก็หิว จึงตกลงกันว่า จะออกเดินทางไปที่สถานเลี้ยงหมา แต่
ทุกตัวก็ติดขัดว่า ลุงหมาจะไปอย่างไร
ลุงบอกว่า " ไม่ต้องห่วงฉัน พวกเธอไปกันเถอะ พวกเธอจะได้มีอาหารกิน ไมต้องอดอยาก ทิ้งฉันไว้ที่นี่แหละ "
หมาทุกตัว กลับพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า " ไม่ไป ถ้าไม่มีลุงหมาไปด้วย พวกเราก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น "
หมาทุกตัว ได้ช่วยกันคิดหาทางพาลุงหมาไปด้วยกัน จนได้รถลากของเด็กเล่นหนึ่งคัน ซึ่งสามารถให้ลุงหมาขึ้นไปนอนได้ 1 ตัว
หมา 2 ตัว ลากเชือกข้างหน้า 2 ตัว เดินข้างกระบะลุงหมา คอยดู คอยประคอง 1 ตัว 2ขาหน้ายืนเหยียบกระบะ เพื่อประคองเดิน 2 ขา
หมาทุกตัวร่วมใจกัน ทำงานกันเป็นทีม เพื่อจะพากันเดินทางทั้งกลุ่มไปให้ถึงจุดหมาย คือ สถานเลี้ยงหมา ให้สำเร็จ
ระหว่างทางมีอุปสรรค แต่หมาทุกตัวก็ไม่หวั่น สะพานที่ต้องข้าม ไม้กระดานไม่ราบเรียบ ล้อรถสะดุด หมา 2 ตัวหน้าพยายามดึงสาย
ลากไปข้างหน้า แต่แรงหมาไม่สามารถฉุดให้พ้นได้ รถกระบะพลิกคว่ำตกข้างทาง ลุงหมากระเด็นตกจากกระบะ หมาทุกตัวต่างตกใจ
วิ่งลงไปดู แล้วก็ต้องเศร้าไม่รู้จะช่วยลุงหมาอย่างไร ต่างก็คอตกกัน
ลุงหมา " พวกเธอไปกันเถอะ ไม่ต้องห่วงฉัน ทิ้งฉันไว้ที่นี่ ฉันไม่อยากเป็นภาระให้พวกเธอ "
หมาทุกตัวต่างส่ายหน้า และ บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า " ไม่ไปไหนทั้งนั้น ถ้าลุงหมาไม่ไปด้วยกัน "
ลุงหมาเห็นสายตาของหมาทุกตัว ที่มองตนอย่างห่วงใย และ ตั้งใจจริงที่จะไม่ทิ้งลุงหมากัน ลุงหมาจึงตัดสินใจลองคลานที่ละนิด
แม้จะคลานได้อย่างยากลำบาก ใช้เวลาที่เนินนาน แต่หมาทุกตัวกับยืนมองอย่างให้กำลังใจ ไม่มีหมาตัวไหนก้าวเดินจากไปเลยแม้ตัวเดียว
และในที่สุดความพยายามของลุงหมาก็ได้ผล คลานถึงกระบะสักทีน่ะ ลุงหมาใช้กำลังแรงครั้งสุดท้ายพยายามเอาหัวขึ้นกระบะ และ
ดันตัวเองขึ้นกระบะที่ละนิด จนในที่สุดก็ขึ้นไปอยู่บนกระบะได้สำเร็จ หมาทุกตัวต่างถอนหายใจอย่างดีใจอีกครั้ง ทุกตัวเข้าประจำตำแหน่ง ข้างหน้าลาก ข้างหลังดัน ทุกตัวพยายามลากและดันเพื่อขึ้นให้ถึงฟุตบาทถนนให้ได้ แต่เจ้ากรรมอีกครั้ง
ล้อรถติดหลุ่มอีกครั้ง แต่ ไม่มีเสียงถอนหายใจ มีแต่ ความมุ่งมั่นที่ต้องทำได้ และ สำเร็จ เท่านั้น ข้างหนัาลาก ข้างหลังทั้งหัวทั้งตัวดัน
ท้ายรถกระบะ และในที่สุด ก็พ้นจากหล่ม ขึ้นถึงถนน หมาทุกตัวต่างดีใจ แต่ไม่ใช่เวลาหยุดเดิน หยุดพัก พวกมันต่างพากันรีบเดิน
ข้ามถนน รถที่วิ่งมา ต่างต้องหยุดจอด และ ลงมาดูกับภาพที่ทุกคนเห็น ต่างชี้ให้กันดู ภาพของหมา 6 ตัว ที่ต่างพยายามเดินไปข้างหน้า
ด้วยกัน ทุกคนต่างยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ กับ ภาพที่หมาทุกตัวเดินผ่านหน้ารถไป มันเป็นภาพที่ประทับใจที่สุด พลังแห่งทีมมะหมา 4 ขา
และในที่สุด พวกมันก็เดินทางพาลุงหมา เดินทางมาถึง สถานรับเลี้ยงหมา พวกมันต่างดีใจกันมาก ที่ต่อไปนี้พวกมันจะไม่ต้องอดอีก
ต่อไป จะมีอาหารให้กินเต็มท้องทุกวัน ไม่ต้องหาเศษอาหารอีกต่อไปแล้ว
ความเป็นเพื่อนกัน ที่ไม่ทอดทิ้งกัน แม้จะลำบากสักเท่าไหร่ ก็จะรวมพลัง รวมใจกัน บุกบั่นไปข้างหน้าให้สำเร็จ แล้วชัยชนะก็เป็น
ของพวกมันทุกตัว
==================================================================
มารวมกันเป็นทีม รวมพลังกันเพื่อทำงานให้สำเร็จ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเดียวกัน
เพื่อน ๆ ค่ะ ถึงเวลาแล้วค่ะ ที่พวกเราต้องรวมใจ รวมพลัง เพื่อกอบกู้ประเทศชาติไทย เพื่อกอบกู้พระพุทธศาสนา เพื่อฟื้นฟูศีลธรรม
เพื่อลูกหลานให้รู้จักการทำความดี เพื่อเยาวชนจะได้เป็นคนดีของสังคมต่อไป และ เพื่อวัด เพื่อหลวงพ่อของพวกเราค่ะ
ถึงเวลาแล้วค่ะ ที่พวกเราต้องร่วมแรงกันชวนคนบวชโครงการ 100000 รูป เข้าพรรษา ให้สำเร็จเป็นอัศจรรย์
พลังของกลุ่มเพื่อนในทีมเล็ก ที่จะต้องสมัครสมานสามัคคีกัน ก็จะเป็นพลัง พวกเราต้องรวมใจกันเป็นหนึ่ง เรื่องที่ไม่ถูกใจกันให้ทิ้งไปก่อน จาก 1 กลุ่ม เป็น หลาย ๆ กลุ่มทั่วประเทศ พวกเราต้องสำเร็จค่ะ
เพื่อน ๆ ชาว DMC ค่ะ ถึงเวลาแล้วค่ะ ที่เราจะรวมพลังสู้ สู้ สู้ และ ลุยให้ถึงเป้าหมาย สำเร็จทั่วไทย
ปล. เรื่องเก่าทิ้งไป มารวมพลังกันดีกว่าค่ะ พวกเราคือ ลูกพ่อเดียวกันค่ะ ลุยเพื่อพ่อกันน่ะค่ะ
- ธรรมะสร้างกำลังใจ ทำให้คุณเป็นสุขใจได้ตลอดเวลา
- → ดูโปรไฟล์: กระทู้: usr23182
- Privacy Policy
- เงื่อนไข ข้อตกลง และกฏระเบียบของเว็บไซต์ DMC ·