ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

บ้านใครหรือแถวบ้านใครมีงูเยอะบ้าง แล้วกลัวมันเข้าบ้าน แนะนำไปไหว้พระธาตุพญานาค


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 10 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 Meritorious Brother

Meritorious Brother
  • Members
  • 38 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 September 2006 - 07:45 PM

ขอก็อปปี้เนื้อหาอีกที่นะครับ

ไปที่วัดปทุมวนารามนะครับ ข้าง ๆ สยามพารากอน เดินเข้าไปข้างในลึก ๆ มีศาลาพระราชศรัทธา ดูในภาพด้านบน มีพระบรมสารีริกธาตุข้อพระหัตถ์เบื้องขวาของพระพุทธเจ้า ( ประดิษฐานอยู่ในซุ้มฐานสูง ๆ ที่เห็นในรูป ) และมีพระธาตุหลวงปู่ดุล หลวงปู่มั่น พระบรมสารีริกธาตุทั่วไปและมีพระบรมสารีริกธาตุที่พวกพญานาคนำมาถวาย และมี..... พระธาตุพญานาค ประดิษฐานอยู่ที่นั้น ( พระธาตุของพญานาคที่บำเพ็ญศีลภาวนาจนสำเร็จมรรคผล ประดิษฐานอยู่ในครอบโถแก้วที่ตั้งอยู่สูงหน่อยที่อยู่ตรงกลางระหว่างงาช้างทั้ง 2 งาน่ะเห็นไหม ) บ้านใครงูชุม งูมีโพรงอยู่แถวบ้าน ไปที่วัดนี้เลยครับ นำพวงมาลัยไปถวายพระธาตุพญานาค แล้วขออธิฐานว่าอย่าให้งูเข้ามาในบ้าน หรือทำอันตรายคนในบ้านหรืออะไรทำนองนี้พูดเอาเอง คือที่บ้านแม่ผม มันมีโพรงงูเห่าเจ้าที่อยู่หลังบ้านน่ะ มันเป็นโพรงอยู่ใต้ดิน ทางเข้าทางออกของมันจะอยู่ข้าง ๆ บ้านริมรั่ว ข้างบนโพรงก็เป็นส่วนของบ้านผมที่ลาดซีเมนท์และมีเตาถ่านที่แม่ผมทำกับข้าวตั้งอยู่ ผมไปอธิฐานขอกับพระธาตุพญานาค อย่าให้งูเห่านี้ เข้ามาในบ้าน ทุกวันนี้งูเห่าเจ้าที่นั้นก็ออกหากินข้างนอกเลื้อยออกไปนอกบ้านตลอด โดยไม่ได้เข้ามายุ่งในบ้านเลย แค่ไปหากินแล้วก็กลับ ต่างฝ่ายต่างอยู่ ใครกำลังปวดหัวเองงูไปได้เลยครับ

ไฟล์แนบ

  • แนบไฟล์  268924.jpg   62.01K   15 ดาวน์โหลด


#2 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 24 September 2006 - 08:44 PM

- -ล ที่โรงงานผมงูตรึม วันดีคืนดีเจองูเหลือมเลื้อยผ่านหน้าตอนเดินตรวจงาน แต่ผมใช้วิธีแผ่เมตตาเอาครับ นั่งสมาธิแผ่เมตตาเอา เวลาทำบุญที่วัดกลับมา ลงจากรถก็อธิฐานจิตแบ่งบุญกุศลให้เจ้าที่เจ้าทางและทุกชีวิตที่อาศียอยู่ในโรงงาน เชื่อไหมล่ะครับ ทั้งที่งูเยอะขนาดที่ว่าคนงานของผมเจอเกือบทุกวัน แต่เวลาที่ผมเดินลุยพงหญ้าเข้าไปตรวจงาน ไม่เคยเจอเลยสักตัว มีอยู่ครั้งนึงผมนั่งพักเหนื่อยใต้ต้นไม้ งูเขียวหัวจิ้งจกตกมาข้างหน้าผมห่างไม่เกิน5เมตร มันยังจะเลื้อยมาหาผม ผมแค่พูดกับมันว่า แค่มาขอนั่งพักเหนื่อยไม่ได้มาคิดทำร้ายอะไร แค่นี้เองอ่ะมันเปลี่ยนทิศเลื้อยเข้าพงหญ้าไป
หลายคงคิดว่าผมอาจจะเว่อร์ไปหน่อย แต่ขอยืนยันนั่งยันนอนยันตีลังกายันเลยครับ ว่าการนั่งแผ่เมตตาถือเป็นสุดยอดเกราะคุ้มกันภัยอย่างดีเยี่ยมกว่าสิ่งอื่นใดทั้งปวงครับ มีเหตุการณ์ระทึกอีกหลายเรื่องครับแต่ขอเงียบดีกว่า tongue.gif


1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#3 cheterk

cheterk
  • Members
  • 314 โพสต์
  • Interests:พระนิพพาน

โพสต์เมื่อ 24 September 2006 - 09:17 PM

คาถาพาหุง มีบทหนึ่งที่กล่าวถึงพญางู นะครับ ควรจะสวดมนต์นี้จะครับจะแก้ได้

๗. นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง
ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต
อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ


ในบทที่ ๗. เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้า ให้พระโมคคัลลาน์ อัครมหาสาวกไปต่อสู้เอาชนะพระยานาคชื่อ นันโทปนันทะ ผู้มีเล่ห์เหลี่ยมในการต่อสู้มากหลาย จึงถือเป็นบทที่ใช้เอาชนะเล่ห์เหลี่ยมกุศโลบาย คำแปล- องค์พระจอมมุนี ได้โปรดให้พระโมคคัลลาน์เถระ นิรมิตกายเป็นนาคราช ไปทรมานพระยานาคชื่อ นันโทปนันทะ ผู้มีฤทธิ์มากให้พ่ายแพ้ด้วยวิธีอันเป็นอุปเท่ห์แห่งฤทธิ์ ด้วยเดชะอันนี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่เรา


ส่วนบทเต็มคาถาบทนี้ หวังว่าคงมีแล้วนะครับ


มีอีกบทคาถา คาถาธุดงค์

(แผ่เมตตาให้เทวดา)

เมตตัญจะ สัพพะโลกัสมิง มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง

อุทธัง อะโธ จะ ติริยัญจะ อะสัมพาธัง อะเวรัง อะสะปัตตัง

ติฏฐัญจะรัง นิสินโน วา สะยาโน วา ยาวะตัสสะ วิคะตะมิทโธ

เอตัง สะติง อะธิฏเฐยยะ พรัหมะเมตัง วิหารัง อิธะมาหุ

ทิฏฐิญจะ อะนุปะคัมมะ สีละวา ทัสสะเนนะ สัมปันโน

กาเมสุ วิเนยยะ เคธัง นะ หิ ชาตุ คัพภะเสยยัง ปุนะเรตีติฯ



บทวิรูปักเข

(แผ่ให้สัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย เช่น งู เป็นต้น)

วิรูปักเขหิ เม เมตตัง เมตตัง เอราปะเถหิ เม

ฉัพยาปุตเตหิ เม เมตตัง เมตตัง กัณหาโคตะมะเกหิจะ

อะปาทะเกหิ เม เมตตัง เมตตัง ทิปาทะเกหิ เม

จะตุปปะเทหิ เม เมตตัง เมตตัง พะหุปะเทหิ เม

มา มัง อะปาทะโก หิงสิ มา มัง หิงสิ ทิปาทะโก

มา มัง จะตุปปะโท หิงสิ มา มัง หิงสิ พะหุปปะโท

สัพเพ สัตตา สัพเพ ปาณา สัพเพ ภูตา จะ เกวะลา

สัพเพ ภัทรานิ ปัสสันตุ มา กิญจิ ปาปะมาคะมา

อัปปะมาโณ พุทโธ อัปปะมาโณ ธัมโม อัปปะมาโณ สังโฆ

ปะมาณะวันตานิ สิริสะปานิ อะหิ วิจฉิกา สะตะปะที

อุณณานาภี สะระพู มูสิกา กะตา เม รักขา กะตา เม

ปะริตตา ปะฏิกกะมันตุ ภูตานิ โสหัง นะโม ภะคะวะโต

นะโม สัตตันนัง สัมมาสัมพุทธานังติฯ





#4 เป็นหนึ่ง

เป็นหนึ่ง
  • Members
  • 354 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 September 2006 - 10:12 PM

เรื่องพระธาตุที่เข้าใจกันว่า เป็นของพญานาคที่สำเร็จมรรคผลนั้น น่าจะเป็นการเข้าใจผิดนะครับ เพราะพญานาคถึงแม้จะอยู่ในสุคติภูมิและมีความเป็นทิพย์ แต่โดยกำเนิดแล้ว พญานาคถือเป็นกำเนิดของเดรัจฉานภูมิ ซึ่งหมายความว่า ไม่ว่าพญานาคจะทำความเพียรสักเท่าใด หากยังมีกำเนิดเป็นนาคอยู่ จะไม่สามารถบรรลุมรรคผลนิพพานได้ครับ นี่เป็นสาเหตุว่า ทำไมพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงไม่อนุญาตให้พญานาคออกบวช ในสมัยพุทธกาล เคยมีพญานาคแปลงตัวมาบวชเป็นพระภิกษุ แต่มาภายหลังความแตก พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทราบเรื่องเข้า จึงมีบัญญัติ ห้ามพญานาคบวชขึ้นมา เนื่องด้วยเหตุผลที่กล่าวไปข้างต้น คือ ไม่สามารถบรรลุมรรคผลนิพพานได้ครับ ดังนั้น เรื่องที่คุณMeritorious Brother โพสต์มา ผมคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด หรือเป็นเรื่องที่เล่าลือกันมาผิดเพี้ยนไปน่ะครับ
I just gotta get out of this prison cell.
Someday I'm gonna be free.

#5 Meritorious Brother

Meritorious Brother
  • Members
  • 38 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 12:11 AM

อย่างที่คุณ คห. 4 พูด คือผมไม่ค่อยรู้เรื่องนี้ครับ ผมก็อปเนื้อหามาอีกเวปน่ะหนึ่ง จริง ๆ ผมไปวัดนี้หลายครั้ง แต่ไม่ยักกะสังเกตุว่าเป็นพระธาตุอะไรบ้าง วันนี้ก็แวะไปวัดนี้มา เลยเพ่งมองแถมมุดไปดูนิดหน่อย ตัวหนังสือเขียนก็เล็กมาก ก็พออ่านได้ว่าอะไร ได้เห็นจริง ๆ มีเขียนป้ายใว้ว่า พระธาตุพญานาค แต่ผมไม่ได้ถามใครในนั้นว่าแปลว่าอะไร หรือเเปลว่ากระดูกพญานาค ถ้าเป็นกระดูกพญานาคน่าจะเป็นพญานาคที่บำเพ็ญเพียรพอสมควร เท่าที่ผมสังเกตุดูรวม ๆ มาตั้งบนชั้นแบบนี้ได้ ต้องไม่ใช่พระธาตุธรรมดา อันนี้เดาดู ถ้าไงใครไปลองถามดูนะครับ อย่าหาว่าผมโม้เลยนะครับ พระผู้ใหญ่ในวัดนี้เขาเชื่อเรื่องพญานาค เมืองลับแล เหล็กไหล เทวดาน่ะครับ

#6 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 12:11 AM

QUOTE(ถูกส่วน)
เรื่องพระธาตุที่เข้าใจกันว่า เป็นของพญานาคที่สำเร็จมรรคผลนั้น น่าจะเป็นการเข้าใจผิดนะครับ เพราะพญานาคถึงแม้จะอยู่ในสุคติภูมิและมีความเป็นทิพย์ แต่โดยกำเนิดแล้ว พญานาคถือเป็นกำเนิดของเดรัจฉานภูมิ ซึ่งหมายความว่า ไม่ว่าพญานาคจะทำความเพียรสักเท่าใด หากยังมีกำเนิดเป็นนาคอยู่ จะไม่สามารถบรรลุมรรคผลนิพพานได้ครับ

nerd_smile.gif ถูกต้องครับ และอีกหนึ่งเหตุผลสนับสนุนก็คือ เนื่องจากคำว่า "เดรัจฉาน หรือติรัจฉาน" นั้น แปลว่า สัตว์ผู้มีลำตัวไปตามขวาง โดยนัยนี้ขวางต่ออะไร? ขวางต่อหนทางมรรคผลนิพพานนั่นเอง ดังนั้น พญานาคจึงไม่สามารถบรรลุมรรคผลนิพพานได้ด้วยประการฉะนี้แล happy.gif

QUOTE
วิรูปักเขหิ เม เมตตัง เมตตัง เอราปะเถหิ เม

ฉัพยาปุตเตหิ เม เมตตัง เมตตัง กัณหาโคตะมะเกหิจะ

อะปาทะเกหิ เม เมตตัง เมตตัง ทิปาทะเกหิ เม

จะตุปปะเทหิ เม เมตตัง เมตตัง พะหุปะเทหิ เม

มา มัง อะปาทะโก หิงสิ มา มัง หิงสิ ทิปาทะโก

มา มัง จะตุปปะโท หิงสิ มา มัง หิงสิ พะหุปปะโท

สัพเพ สัตตา สัพเพ ปาณา สัพเพ ภูตา จะ เกวะลา

สัพเพ ภัทรานิ ปัสสันตุ มา กิญจิ ปาปะมาคะมา

อัปปะมาโณ พุทโธ อัปปะมาโณ ธัมโม อัปปะมาโณ สังโฆ

ปะมาณะวันตานิ สิริสะปานิ อะหิ วิจฉิกา สะตะปะที

อุณณานาภี สะระพู มูสิกา กะตา เม รักขา กะตา เม

ปะริตตา ปะฏิกกะมันตุ ภูตานิ โสหัง นะโม ภะคะวะโต

นะโม สัตตันนัง สัมมาสัมพุทธานังติฯ

nerd_smile.gif บทสวดมนต์บทนี้ จัดเป็นบทสวดพระปริตร อันมีนามว่า "ขันธปริตร" ซึ่งเป็นบทสาธยายสำหรับใช้ในการแผ่เมตตาจิตไปยังตระกูลพญานาคทั้ง ๔ อันประกอบด้วย ตระกูลวิรูปักษ์ (มีสีกายงามดั่งทอง) ตระกูลเอราบถ (มีกายสีเขียวดั่งมรกต) ตระกูลฉัพยาบุตร (มีกายดั่งสีรุ้ง) และตระกูลกัณหาโคตมกะ (มีกายดำประดุจนิล) ดังนี้ happy.gif

[attachmentid=7987]


สรณะอันเกษม คือ พระรัตนตรัย

พระพุทธภาษิต

พหุ เว สรณํ ยนฺติ ปพฺพตานิ วนานิ จ
อารามรุกขฺเจตฺยานิ มนุสฺสา ภยตชฺชิตา
เนตํ โข สรณํ เขมํ เนตํ สรณํมุตฺตมํ
เนตํ สรณมาคมฺม สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจติ
โย จ พุทธญฺจ ธมฺมญจ สงฺฆญฺจ สรณํ คโต
จตฺตาริ อริยสจฺจานิ สมฺมปฺปญฺญาย ปสฺสติ
ทุกฺขํ ทกฺขสมุปฺปาทํ ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ
อริยญฺจฏฐํคิกํ มคฺคํ ทุกฺขูปสมาคามินํ
เอตํ โข สรณํ เขมํ เอตํ สรณมุตฺตมํ
เอตํ สรณมาคมฺม สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจติ

คำแปล

มนุษย์เป็นอันมาก เมื่อถุกภัยคุกคามแล้ว
ย่อมยึดเอาภูเขาบ้าง ป่าบ้าง อารามบ้าง ต้นไม้ที่เป็นเจดีย์บ้าง
ว่าเป็นที่พึ่ง นั่นไม่ใช่สรณะอันเกษม นั่นไม่ใช่สรณะอันอุดม
เพราะบุคคลอาศัยสรณะนั้นแล้ว ไม่สามารถหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้
ส่วนผู้ใดยึดพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่ง
เห็นอริยสัจ ๔ ด้วยปัญญาอันชอบของตน
คือ เห็นทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ ความดับทุกข์ และมรรคมีองค์ ๘ อันประเสริฐ
ซึ่งยังบุคคลให้ถึงความสงบแห่งทุกข์
สรณะนั่นแลเกษม สรณะนั่นแลอุดม
เพราะบุคคลอาศัยสรณะนั่นแล้ว ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวง

***ท้ายที่สุดนี้ ขอให้ท่านทั้งหลายพึงอาศัยสรณะอันสูงสุดเกษมศานต์อย่างไม่มีอื่นใดยิ่งกว่า เป็นนิยยานิกธรรมนำพาตนเองและหมู่สัตว์ให้ล่วงพ้นจากบ่วงแห่งมาร อีกทั้งเครื่องร้อยรัดทั้งหลายในสังสาร และพึงเป็นผู้ถึงพร้อมบริบูรณ์ด้วยพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ ญาณรัตนะ อันขึ้นตรงต่อธรรมภาคขาวที่บริสุทธิ์สะอาดปราศจากมลทินโดยส่วนเดียว ทั้งในภพนี้และตลอดไปทุกภพทุกชาติ ตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรมเทอญฯ

ไฟล์แนบ


"ปญฺญา นรานํ รตนํ ปัญญาเป็นรัตนะของนรชน"
พระพุทธภาษิต


ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น

ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส

อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
พระอมตะวจนา แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


[/color]
"...พระพุทธศาสนา บริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระ และเป็นประโยชน์ในทุกระดับ
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."

พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒



"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"

"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"

[color="#990000"]ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

#7 cheterk

cheterk
  • Members
  • 314 โพสต์
  • Interests:พระนิพพาน

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 11:30 AM

คุณขุนศึกใน รู้ลึก นะครับ สงสัย จะจบนักธรรม มาแน่เลย

#8 light mint

light mint

    ขออนุโมทนาบุญค่ะ

  • Members
  • 1423 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:THAILAND
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 01:34 PM

อนุโมทนากับคุณขุนศึกค่ะ





(ใครเห็นงูแล้วอย่าเพิ่งไปตีนะ)
ขออนุโมทนาบุญนะคะ สาธุ


#9 นักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยว
  • Members
  • 2378 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:รู้สึกว่าจะไม่ค่อยได้อยู่กะที่อ่ะ มาดูอารายกานอ่ะ
  • Interests:มาสร้างบารมีตามติดหมู่คณะดีกว่า

โพสต์เมื่อ 25 September 2006 - 05:44 PM

น่าไปกราบ
กายธรรมควรเทิดไว้ ในใจ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ


เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี

#10 สูตรมิตร

สูตรมิตร
  • Members
  • 49 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 September 2006 - 06:14 PM

คนโบราณบอกไว้ว่าให้ฝานามะนาวไปวางไว้บริเวณบ้านงูจะไม่กล้าเข้ามา
ในแง่วิทยาศาสตร์น่าจะมีเหตุผลว่ามะนาวมีสภาพเป็นกรด
ถ้าถูกผิวหนังงูจะแสบร้อน..งูจึงกลัวมะนาว

#11 คนรักวัด

คนรักวัด
  • Members
  • 626 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 September 2006 - 04:01 PM

อนุโมทนา.....สาธุครับ
อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ
โก หิ นาโถ ปโร สิยา
อตฺตนา หิ สุทนฺเตน
นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ . . . ฯ ๑๖๐ ฯ

เราต้องพึ่งตัวเราเอง
คนอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้
บุคคลผู้ฝึกตนดีแล้ว
ย่อมได้ที่พึ่งที่ได้แสนยาก

Oneself indeed is master of oneself,
Who else could other master be?
With oneself perfectly trained,
One obtains a refuge hard to gain