ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * - 2 คะแนน

คิดและทำอย่างไรจึงจะมี "สัจจะบารมี"


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 15 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 พงษ์พันธ์

พงษ์พันธ์
  • Members
  • 55 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 October 2006 - 09:55 AM

วิธีการสร้างสัจจะบารมีให้กับตัวเอง ต้องทำอย่างไรครับ ?
cry_smile.gif

#2 ภสสรจิตโต

ภสสรจิตโต
  • Members
  • 140 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:บางบัวทอง นนทบุรี
  • Interests:ธรรมทายาท n21/590

โพสต์เมื่อ 27 October 2006 - 10:16 AM

สัจจะบารมี
ฝรั่งเรียก commitment หรือ พันธะสัญญา

มองง่ายๆ

เรื่องของหมากับแมว

หมา เวลาเห็นแมวชอบแหย่เล่น เห่าให้แมวตกใจ พอแมวตกใจ ขนพองฟู่ชูชัน พอได้ทีแมวก็วิ่งหนี หมานึกสนุก ก็วิ่งไล่ วิ่งเท่าไหร่ก็ไม่เคยทันแมวสักที

ทั้งที่ หมาร่างกายสรีระได้เปรียบแมวทุกอย่าง ตัวใหญ่ พลังเยอะ แต่ไหงวิ่งไม่ทันแมวสักที เจ้าแมวตัวน้อย ก็รอดตัวจากการถูกแกล้งไปได้ทุกครั้ง


หมามั่นวิ่งไล่ "เพื่อเล่นสนุก"

แมวมันวิ่งหนี "เพื่อชีวิตของมัน"

commitment หรือ พันธะสัญญา ของหมากับแมวต่างกัน

ฟังเขาเล่ามาอีกทีครับ

ผมว่าสัจจะบารมี

เหมือนความตั้งใจที่แลกด้วยชีวิตในการทำกิจการใดๆก็ตาม


#3 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 27 October 2006 - 10:17 AM

ต้องเป็นคนพูดจริงทำจริงไม่โลเล รับปากหรือตั้งใจในสิ่งใดแล้วต้องทำให้ได้ ไตร่ตรองในสิ่งที่จะรับปากหรือตั้งใจเสียก่อนว่าทำได้หรือไม่ และเมื่อรับปากมาแล้วต้องไม่พลัดวันประกันพรุ่ง รีบลงมือเสียตั้งแต่รับปากเขามา เร่งทำงานที่ได้รับให้สำเร็จโดยเร็ว ถ้าดูแล้วว่าทำไม่ได้เกินกำลังเราก็ไม่ควรไปรับปาก หรือหากรับปากไปแล้วพึ่งมารู้ทีหลังว่าเกินกำลังเรา หากไม่อยากเสียสัจจะก็ต้องทำให้ได้โดยเพิ่มความตั้งใจให้มากยิ่งขึ้น โดยเอาชีวิตตัวเองเป็นเดิมพัน "ทำไม่ได้ตายเถอะ" ถ้าทำได้ทำสำเร็จก็จะกลายเป็นสัจจะบารมีอย่างยิ่งยวดเลยทีเดียวครับ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#4 หยุดอะตอมใจ

หยุดอะตอมใจ
  • Members
  • 729 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 27 October 2006 - 10:55 AM

ทำทาน รักษาศีล นั่งสมาธิทุกวันไงครับ ได้ทั้งทานบารมี ศีลบารมี อุเบกขาบารมี และ สัจจะบารมี laugh.gif


แค่นี้ยังทำไม่ได้ แล้วจะไปปราบมารได้ไง


#5 อ้วน บ่อโยก

อ้วน บ่อโยก
  • Members
  • 646 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:rayong

โพสต์เมื่อ 27 October 2006 - 11:22 AM

ตั้งใจแล้วทำให้ได้นะครับ

แรก ๆ จะยากมาก

พอก้าวข้ามอุปสรรคไปแล้ว สักหน่อย

จะสบายขึ้นนะครับ


#6 panu

panu
  • Members
  • 530 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 October 2006 - 01:14 PM

พูดอย่างไร ทำอย่างนั้น

ทำอย่างไร พูดอย่างนั้น

ก็เป็นสัจจบารมีได้ครับ

#7 SmilingCat

SmilingCat
  • Members
  • 1209 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 October 2006 - 01:18 PM

ศึกษาทศชาติชาดก เรื่อง วิฑูรย์ บัณฑิต จะเห็นชัด
วิฑูรณ์บัณฑิต สามารถเลี่ยงไม่ไปกับปุณยักษ์ได้ แต่ว่าเพราะ
ความจริงความตรงในใจเท่านั้น ถึงต้องแลกด้วยชีวิตก็ต้องไป

และคงเหมือนเรื่องของพันท้ายนรสิงห์ สามารถจะเลี่ยง
ถูกประหารชีวิตได้ แต่ก็เลือกเอาถูกประหาร


หยุดคือตัวสำเร็จ

#8 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1368 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 October 2006 - 01:25 PM

รับปากกระทำสิ่งใด ก็ต้องทำสิ่งนั้นให้สำเร็จ

อย่างเหตุการณ์ที่กำลังจะถึง คือ การทำบุญกฐิน ถ้ารับกองไปแล้ว ก็ต้องปิดกองให้ได้ เพราะการรับกองนั้นเท่ากับเป็นการตั้งสัจจะว่าจะทำบุญกองนี้แล้ว ถ้าทำสำเร็จสัจจะบารมีก็เกิด ถ้าปิดกองไม่สำเร็จก็เท่ากับเสียสัจจะ

แต่ในกรณีที่ถึงแม้จะพยายามเต็มที่แล้ว แต่ก็ยังปิดกองไม่ได้ บุญส่วนอื่นก็ยังได้เช่น ทาน วิริยะ ยังได้อยู่ ยกเว้นแต่สัจจะเท่านั้นที่เสียไปครับ

อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผม
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา

*********************

รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว

เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล


คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

#9 เด็กน้อย

เด็กน้อย
  • Members
  • 45 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 October 2006 - 04:41 PM

คนที่มีสัจจะ
แปลว่าคนจริงครับ
เราตั้งเป้าหมายที่ดีไว้แล้วทำอย่างที่ตั้งไว้
นั้นเรียกว่าสัจจะ
แต่สิ่งที่เราพูดไปว่าจะทำนั่นทำนี่มารู้ในภายหลังว่ามันไม่ดี
อันนี้ไม่ได้เรียกว่าเสียสัจจะน่ะครับ
ฉะนั้น
ต้องเป็นคนจริง
ทำจริง
พูดจริง
คิดจริง
ในทางที่ดีน่ะครับ

#10 Defilement Destroyer

Defilement Destroyer
  • Members
  • 274 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 27 October 2006 - 06:04 PM

คัดมาส่วนหนึ่งจากมิลินทปัญหา การประกอบสัจจะอานุภาพของสัจจะครับ


ขอถวายพระพร พระเจ้าอโศกธรรมราชาในพระนครปาตลีบุตร
ห้อมล้อมด้วยชาวนิคม อำมาตย์ ข้าราชการ เสด็จไปเล่นน้ำที่
มหาคงคา ได้ทอดพระเนตรเห็นมหาคงคามีน้ำเต็มเปี่ยมกว้างยาวถึง
๕๐๐ โยชน์ กำลังไหลอยู่ จึงตรัสขึ้นว่า ผู้สามารถจะทำให้น้ำใน
มหาคงคานี้ไหลกลับมีอยู่หรือ ? ครั้งนั้น พวกอำมาตย์จึงกราบทูลว่า
ทำได้ยาก พระเจ้าข้า ฯ มีหญิงแพศยาชื่อว่านางพินทุมดี ยืนอยู่ที่ฝั่ง
คงคานั้น ได้ทราบพระราชประสงค์นี้ จึงกล่าวขึ้นว่า เราเป็นหญิงแพศยา
อาศัยรูปกายเลี้ยงชีวิตอยู่ในเมืองปาตลีบุตรนี้ ขอจงให้
พระราชาได้เห็นสัจจกิริยาของเรา แล้วก็ได้กระทำสัจจกิริยา พอสิ้น
สัจจกิริยาลง น้ำในมหาคงคาก็ไหลกลับทันที พระราชาก็ทรงฉงน
จึงตรัสขึ้นว่า เหตุไรน้ำในมหาคงคาจึงไหลกลับ ฯ พวกอำมาตย์จึง
กราบทูลว่า ได้ยินว่าหญิงแพศยาคนหนึ่งกระทำสัจจกิริยา ฯ
พระราชาจึงรีบเสด็จไปตรัสถามหญิงแพศยานั้นด้วยพระองค์เองว่า น้ำใน
มหาคงคานี้ไหลกลับเพราะสัจจกิริยาของเจ้าหรือ ? หญิงแพศยานั้น
กราบทูลว่า ถูกแล้วเพคะ ฯ จึงตรัสถามว่า เจ้ามีกำลังอย่างไร
ใครรับทำตามคำสั่งของเจ้าหรือ ? ยักษ์ นาค ได้ช่วยเจ้าทำให้น้ำใน
มหาคงคานี้ไหลกลับหรือ ? หญิงแพศยานั้นกราบทูลว่า หม่อมฉัน
ได้ทำให้น้ำในมหาคงคานี้ไหลกลับด้วยกำลังสัจจะของหม่อมฉัน ฯ จึง
ตรัสถามว่า กำลังสัจจะของเจ้ามีหรือ เจ้าเป็นหญิงนักเลง ไม่มีสติ
ปล้นทรัพย์ของประชาชน มีความประพฤติเลวทราม ไม่มียางอาย
มีแต่เล้าโลมมหาชน เจ้ายังจะมีกำลังสัจจะหรือ ? ข้าแต่มหาราช
เจ้า กิริยาของหม่อมฉันเช่นนั้นมีอยู่จริง เป็นกิริยาที่หม่อมฉันจะทำ
ให้โลกมนุษย์ โลกเทวดา เป็นไปได้ ฯ สัจจกิริยาของเจ้าเป็นอย่างไร
ว่าให้เราฟังดูที ฯ ข้าแต่มหาราชเจ้า บุรุษใดให้ทรัพย์แก่หม่อมฉัน
บุรุษนั้นจะเป็นกษัตริย์ หรือพราหมณ์ เวศย์ หรือศูทร อย่างไรก็ตาม
หม่อมฉันก็ทำให้เกิดความยินดี เอาอกเอาใจเหมือนกันสิ้น ไม่เลือก
ว่าสูงต่ำ เลว ดี กว่ากันอย่างไร สุดแท้แต่ว่าใครให้ทรัพย์แก่หม่อมฉัน
แล้ว หม่อมฉันก็บำเรอให้เป็นที่พอใจเสมอกันทุกคนไป หม่อมฉัน
ได้ยกเอาความจริงอย่างนี้ขึ้นประกาศ จึงทำให้น้ำในมหาคงคาไหลกลับได้ ฯ




ภูเขาศิลาล้วนย่อมตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวเพราะแรงลมฉันใด
ผู้ที่ทำนิพพานให้แจ้งแล้ว ก็ย่อมมีจิตตั้งมั่น
ไม่หวั่นไหวในโลกธรรมทั้งหลายฉันนั้น
(พุทธพจน์)

#11 niwat

niwat
  • Members
  • 1420 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 28 October 2006 - 10:00 AM

สัจจะ มิได้หมายความเพียงการกล่าววาจาเท่านั้น แต่โดยความหมายแล้วสัจจะนั้น
หมายถึง ความจริงใจ จริงจัง ความซื่อสัตย์ โดยสรุปก็คือความรับผิดชอบนั่นเอง
รับผิดชอบต่ออะไรบ้าง ก็รับผิดชอบต่อบุคคล คือคบใครก็คบด้วยความจริงใจ
ไม่คดในข้องอในกระดูก รับผิดชอบต่อคำพูดคือพูดจริงทำจริง พูดอย่างไรก็ทำ
อย่างนั้น ทำอย่างไรก็พูดอย่างนั้น รับผิดชอบต่อหน้าที่การงาน คือไม่ว่าจะทำงาน
อะไรก็ตามจะตั้งใจทำงานนั้นให้ดีที่สุด และประการสุดท้ายรับผิดชอบต่อความดี
คือไม่ว่าจะทำอะไรก็จะถือเอาธรรมเป็นใหญ่ไม่ยอมทำในสิ่งที่ผิดศีลธรรม.


วิธีการฝึกสัจจบารมีกระทำได้ดังต่อไปนี้
1. ศึกษาประวัติการสร้างบารมีของนักสร้างบารมีในทั้งในอดีต และในปัจจุบัน
ตัวอย่างเช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในคืนที่พระองค์พทรงปรารภความเพียรทรง
กระทำสัจจกิริยาว่า หากไม่บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณจะไม่ลุกจากที่ ที่สุดพระองค์
ก็ทรงบรรลุเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ หรือพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำ
ภาษีเจริญ ท่านก็ได้กระทำสัจจกิริยาในคืนวันเพ็ญเดือน ๑๐ หากไม่บรรลุธรรมของ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะไม่ยอมลุกจากที่ ที่สุดท่านก็สามารถค้นพบวิชชาธรรมกายได้
อย่างนี้เป็นต้น เมื่อเราได้ศึกษาประวัติการสร้างบารมีของท่านทั้งหลายเหล่านี้
เราจะมีกำลังใจในการสร้างสัจจบารมีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป
2. ฝึกทำทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น กิจวัตร กิจกรรม ภาระกิจที่ได้รับหมอบหมายอย่างดีที่สุด
ไม่ทำแบบขอไปที เพียงพอให้เสร็จ จะทำวัตร จะสวดมนต์ จะบริหารร่างกาย จะทำงาน
ทุกอย่างก็ต้องทำอย่างดีที่สุด ไม่ปล่อยผ่านแม้เรื่องเล็กน้อย ทำอย่างเต็มที่ เท่าที่
ความสามารถของเราจะทำได้ อย่างนี้แหละจะเป็นการฝึกสัจจบารมีของเรา
3. ประหยัดคำพูด คือพูดเท่าที่จำเป็น คำพูดนั้นพูดแต่คำที่เป็นประโยชน์
จริง ไพเราะ ถูกกาล เพราะการพูดมากก็ผิดมาก พูดน้อยก็ผิดน้อย แต่หากไม่พูดเลย
เดี๋ยวจะไม่รู้เรื่อง ฉะนั้นก่อนพูดทุกครั้งต้องพิจารณาก่อน ว่าสิ่งใดควรพูดสิ่งใด
ไม่ควรพูด แล้วสัจจบารมีของเราจะเพิ่มพูนขึ้น
4. ต้องยอมรับความจริงอย่างหนึ่งว่าเรายังไม่หมดกิเลส โอกาสที่จะกระทำ
ความผิดนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ แต่เมื่อกระทำไปแล้วต้องยอมรับผิด อย่ากลัวเสียหน้า
เพราะหากกลัวเสียหน้าแล้ว เราจะไม่สบายใจเอง ต้องตามจดจำความผิดที่กระทำไว้
เมื่อเรายอมรับผิด แล้วตั้งใจแก้ไขตนเอง ผู้อื่นก็พร้อมจะให้อภัยอยู่แล้ว เราเองก็สบายใจ
5. คบหากัลยาณมิตรที่เป็นคนทำจริง พูดจริง เพราะกัลยาณมิตรจะคอย
ตักเตือนเราไม่ให้กระทำสิ่งที่ไม่ดีได้ นอกจากนี้ การมีผู้ที่เราไว้ใจสามารถบอกกล่าว
ความผิดที่เรากระทำได้ นั่นจะเป็นการฝึกให้เราเป็นคนที่ไม่ปิดบังความชั่วของตนเอง
ไปได้อีกทาง และกัลยาณมิตรจะช่วยบอกหนทางแก้ไขให้กับเรา ไม่ให้เราต้องกระทำ
ผิดอีกครั้ง
6. ปฏิบัติธรรม หมั่นนั่งสมาธิอย่างสม่ำเสมอ เพราะการหมั่นทำสมาธิจะทำให้
เรามีสติสามารถควบคุมความประพฤติทางกายวาจา โดยเฉพาะทางวาจา เมื่อเรามีสติ
ก็จะกล่าวแต่เรื่องที่เป็นประโยชน์ สัจจบารมีก็จะเพิ่มพูนอยู่เรื่อยๆ และเป็นการสร้าง
สัจจบารมีอย่างดีที่สุดด้วย

อนุโมทนาบุญครับ smile.gif

#12 นักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยว
  • Members
  • 2378 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:รู้สึกว่าจะไม่ค่อยได้อยู่กะที่อ่ะ มาดูอารายกานอ่ะ
  • Interests:มาสร้างบารมีตามติดหมู่คณะดีกว่า

โพสต์เมื่อ 29 October 2006 - 12:54 PM

สุดยอดเลยทุกคนคือนักสร้างบารมีที่แท้จริง
กายธรรมควรเทิดไว้ ในใจ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ


เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี

#13 ธนกร สงขลา

ธนกร สงขลา
  • Members
  • 192 โพสต์

โพสต์เมื่อ 30 October 2006 - 02:42 PM

เวลาตั้งสัจจะก็ต้องทำให้ได้

#14 light mint

light mint

    ขออนุโมทนาบุญค่ะ

  • Members
  • 1423 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:THAILAND
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 30 October 2006 - 04:08 PM

คิดจริง พูดจริง ทำจริง
ไม่ล้อเล่นกับชีวิต

ลงตัดสินใจจะทำอะไรแล้ว ต้องทำให้ได้ อุปสรรคก็ไม่ใช่เป็นอุปสรรค

ขออนุโมทนาบุญนะคะ สาธุ


#15 พงษ์พันธ์

พงษ์พันธ์
  • Members
  • 55 โพสต์

โพสต์เมื่อ 31 October 2006 - 09:56 AM

ขอบคุณกับทุกๆ ความเห็นนะครับ ได้อะไรๆ ขึ้นเยอะเลย
happy.gif

#16 *น้องพี*

*น้องพี*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 11 September 2011 - 12:16 PM

จริงรึกับคำพูดที่ว่า
คนจนหวังหวย คนรวยหวังหุ้น
ลืมได้แล้วกับความหวังลมๆแล้งๆในการซื้อหวย

ถ้าวันนี้คุณมีเงิน 2,600 บาท นำไปฝากธนาคาร อีก 14 เดือน คุณคิดว่าคุณจะได้ดอกเบี้ยเท่าไร ผมบอกได้เลยว่า ไม่เกิน 20 บาท
แต่ ถ้าคุณร่วมลงทุนซื้อหุ้นกับบริษัท AutoIncomePlus ซึ่งระบบมีการปันผลตั้งแต่วันแรกที่ร่วมลงทุน (ปันผลทุกวันจันทร์-ศุกร์) เพียงแค่นี้ ภายใน 14 เดือน คุณก็จะมีรายได้เดือนละ 10,500 บาทเป็นอย่างต่ำ
14 เดือน สำหรับคุณนานรึเปล่า ถ้านาน ลองคิดดูสิว่า ชีวิตคุณที่ผ่านมา เคยมีรายได้ที่มั่นคงเดือนละไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นบาทรึยัง
แต่ ถ้าวันนี้คุณยังไม่ตัดสินใจ อีก 14 เดือนข้างหน้าผมรับรองได้เลยว่าคุณจะรู้สึกเสียดาย และนึกย้อนกลับไปว่า “เราน่าจะทำตั้งแต่ 14 เดือนที่แล้ว” ซึ่งความคิดนี้ก็ได้เกิดขึ้นกับผมเหมือนกัน เพราะตอนที่เพื่อนมาชวนตอนแรกไม่ยอมทำ พอผ่านไปหลายเดือนเพื่อนมีรายได้หลายหมื่นบาท เราค่อยมานึกอยากจะทำทีหลัง เลยบ่นกับตัวเองว่า “เราน่าจะทำตั้งแต่หลายเดือนที่แล้ว”
ยังไม่สายเกินไป สำหรับคุณ
รีบสมัครสมาชิกเพื่อซื้อหุ้นสิครับ
สมัครเร็ว รวยเร็ว สมัครก่อน รวยก่อน

(อย่าชวนคนอื่นนะ เพราะคุณจะได้รวยคนเดียว
แต่ถ้าใจบุญก็แอบๆชวนซักหน่อยก็ดี อิอิๆๆ)


อย่ารอช้า คลิก ที่ลิงค์ข้างล่างนี้เลยครับ

http://www.aipthai.com/?Ref=Pheeraphat

ศึกษาข้อมูลรายละเอียดในเว็บให้ดีก่อนนะครับ
หรือติดต่อสอบถามที่ คุณพี 08-0615-5379
[email protected]

ถ้าโทรไม่ติด ให้พิมพ์ข้อความฝากไว้นะครับ แล้วผมจะติดต่อกลับ


ไม่มีคุณสมบัติอะไรให้คุณหนักใจ
ไม่มีโฆษณาชวนเชื่อให้สมัคร
ไม่มีเอาของมาล่อให้สมัคร
ไม่เอาคำว่าเที่ยวฟรีมาล่อให้สมัคร
ไม่ต้องเอาคำว่ากองทุนมาล่อให้สมัคร
ไม่ต้องชวนใคร 100%
ไม่ต้องขายของ
ไม่ต้องเอาคำว่าสุขภาพดีมาอ้างให้สมัคร
เพราะว่านี่คือ AutoIncomePlus

เงินดี งานเดิน เงินเกิน งานวิ่ง
เงินนิ่ง งานหยุด เงินสะดุด งานชะงัก
เงินชัก งานถอย เงินน้อย งานรวน
เงินกวน งานเก เงินเก๊ งานกัง...?


http://www.worried479.blogspot.com/
หุ้นออนไลน์,ธุรกิจทำง่าย,งานสบายที่บ้าน