ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ถามคนเคยบวช - บวชแล้วตัวคุณเองได้อะไร


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 12 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ฟ้ายังฟ้าอยู่

ฟ้ายังฟ้าอยู่
  • Members
  • 2511 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 January 2010 - 09:41 PM

เพราะอยากได้บุญติดตัวไปพบชาติเบื้องหน้า และคิดว่า ตัวเล็กๆ อย่างเรา ก็น่าจะสามารถช่วยสร้างคนดีให้เต็มประเทศไทยได้
ก็เลยตัดสินใจอย่างแน่วแน่เด็ดเดี่ยวแล้วค่ะ ว่าจะต้องไปชวนคนบวชให้ได้ อย่างน้อย 100 คน mad.gif

แต่ว่า..
ตอนนี้ได้ยินเพียงแต่ว่า บวชแล้วดี บวชแล้วพุทธศาสนาจะฟื้นฟู สังคมจะดีขึ้น

แต่ยังไม่ค่อยรู้ว่า บวชแล้ว คนบวชได้อะไร ที่ว่าดีน่ะ ดีอย่างไร


จึงอยากขอความรู้จาก ผู้ที่มีประสบการณ์ดีๆ ที่ตนเองได้จากการบวชน่ะค่ะ (บวชจากวัดไหนก้อได้ บวชพระหรือ เณร ก็ได้ค่ะ)
เพราะจะได้ไปชวนคนอื่นๆ ให้เขาเห็นประโยชน์จากการอบรมคุณธรรมครั้งนี้อย่างชัดเจนมากขึ้น

กราบขอความเมตตาด้วยนะคะ
ขอบคุณล่วงหน้า และขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานครั้งนี้ด้วยค่ะ จะได้นำความรู้ไปใช้ให้เต็มที่
แล้วจะมาส่งข่าวบุญให้ได้ร่วมอนุโมทนาบุญกันอย่างต่อเนื่องค่า ^^
"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)


#2 kissy

kissy
  • Members
  • 589 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 January 2010 - 09:56 PM

ผู้ชายที่เคยบวชอ่ะคะ

ตอบหน่อยซิคะ



#3 Daemusin

Daemusin
  • Members
  • 133 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 January 2010 - 10:24 PM

โดยส่วนตัวผมเองนั้น คงยังไม่มีประสบการณ์จากการบวชพระ เเต่จะขอเล่าจากประสบการณ์บวชเณร น่ะครับ

เราต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่าคำว่าบวชนั้นหมายความว่าอย่างไร .....

บวช แปลว่า งดเว้นจากการทำชั่วต่างๆ ด้วยการสละโลกีย์ทิ้งเหย้าเรือนไปถือเพศเป็นนักบวช เป็นสมณะ เป็นภิกษุสามเณร เป็นต้น เพื่อขัดเกลากิเลสและเพื่อความหลุดพ้นจากกองทุกข์ทั้งมวล

ย้อนไปในช่วงวัยที่ได้บวชสามเณรนั้นเเถวบ้านได้มีการจัดบรรพชาสามเณร 1 เดิือน(เเอบภูมิใจเล็กๆว่าสมเด็จวัดปากน้ำท่านมาบวชให้ด้วย อิอิ) ตอนนั้นเพียงคิดว่าบวชตามใจเเม่เพราะเเม่อยากให้บวช ไม่ได้คิดว่ามันจะสำคัญอะไร เเต่พอได้อยู่ในโครงการจากเด็กที่ ค่อนข้างดื้อ ชอบเถียงผู้ใหญ่ เเละคิดว่าตัวเองเก่งพอเเล้ว ต้องมาทำอะไรที่ตรงข้ามกัน ตื่นเช้ามา ทำวัตรเช้า บินทบาตร เห็นคนมากมายได้ใส่บาตร พระอาจารย์ได้อบรมเเละชี้โทษของเถียงพ่อเถียงเเม่ เป็นเด็กดื้อ จะมีผลอะไรบ้าง ได้เห็นผู้ใหญ่มากมายก้มกราบเรา ทำให้เราได้คิดว่าตัวเราเองทำตัวเองให้ควรกราบไหว้รึไม่ จากนั้นก็เริ่มคิดถึงจุดบกพร่องของตัวเอง เเละก็เริ่มปรับปรุงตัว จนครบโครงการคุณเเม่ก็เหมือนได้ลูกชายคนใหม่กลับไปอยุ่บ้าน

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ถ้าถามว่าการบวชนั้นดีอย่างไรผมก็อาจจะบอกได้ว่า ด้วยท่าทีที่สงบสำรวม จะทำให้เราได้คิด พิจารณาตัวเองถึงสิ่งที่เราได้ทำทั้งดีและไม่ดีตอนเป็นฆราวาส ตลอดจนได้ฝึกฝนได้ขัดเกลาจิตใจตนเอง เเละที่สำคัญได้ยกระดับจิตใจของเราให้สูงขึ้น ......
คนที่ไม่มีปัญหาคือคนที่ไม่ได้ทำ

#4 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 January 2010 - 10:30 PM

QUOTE
ตอนบวชได้อะไร
- ได้ยกระดับเป็นส่วนหนึ่งของพระรัตนตรัย เป็นทิศเบื้องบนในทิศ6
- ได้นำปิติโกลาหล นำกุศลมาสู่ครอบครัวและหมู่ญาติ เพราะบวชคนแรกในบ้าน(เขาเห่อกันน่ะ)
- ได้ครองผ้ากาสาวพักตร์ อันเป็นผ้าชุดสุดท้าย เป็นชุดแฟชั่นที่อมตะมากว่า 2พันปี
- ได้เกิดใหม่แบบโอปปาติกะ เกิดเป็นสมณะ(ในโบสถ์)แล้วโตทันที
- ได้ชื่อว่า ธรรมทายาท โอรสจากพระโอษฐ์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
- ได้เป็นศาสนทายาท เป็นอายุพระศาสนา
- ได้ทำหน้าที่เสมือนเป็นเนื้อนาบุญ
- ได้แปลงเพศ จากเพศฆราวาสสู่เพศบรรพชิต แล้วก็แปลงกลับมาเมื่อลาสิกขา
- ได้พบพ่อใหม่ คือ พระอุปัชฌาย์
- ได้บำเพ็ญสมณธรรม ทั้งคันธุระและวิปัสสนาธุระ
- ได้ความรู้จากพระอาจารย์ ผู้เป็นต้นแบบพระแท้
- ได้พบเพื่อนผู้ร่วมประพฤติพรหมจรรย์
- ได้ร่วมกันพัฒนาบุกเบิกธุดงคสถาน
- ได้ลงปาฏิโมกข์ทุกวันพระ
- ได้บิณฑบาตโปรดผู้ยากไร้
- ได้ใช้ชีวิตเรียบง่ายอันประเสริฐ
- ได้ฉันน้อย จำวัดน้อย พูดน้อย นั่งมาก
- ได้สำรวมอินทรีย์
- ได้ฝึกฝนอบรมใจ ฝึกอดทนต่อภัยต่างๆ
- ได้พบเสวนาธรรมกับพระป่า ผู้เป็นพระอคันตุกะของวัด
- ได้ฝึกธุดงควัตร(ทุ่งนา ฟ้าโล่ง เนสัชชิกังคัง)
- ได้ปัญญา รู้เป้าหมายชีวิตที่แท้จริง
- ได้รู้จักตนเองมากขึ้น
- ได้พบสุขอันแท้จริง
- ได้เป็นคนดีที่โลกต้องการ หลังลาสิกขา
- ได้อานิสงส์อันไม่มีประมาณ
ฯลฯ nerd_smile.gif
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#5 tong_tong_tong

tong_tong_tong
  • Members
  • 169 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 January 2010 - 10:56 PM

เอาแบบเห็นชัดเจนเลยนะ

เลิกเบียย์ได้ เลิกเที่ยวฟังเพลงตามผับ

เข้าวัดมากขึ้น ทำทานมากขึ้นื ตามตักบาตรแทบทุกงานที่จะไปได้ นั่งสมาธิก่อนนอนมา 3 ปีติดแล้ว

อันนี้แปลก หลังบวชแล้ว งานมาตรึม มาแบบเลือกแต่งานดีๆได้เลย ว่าจะเอางานไหน และเสร็จเป็นอัสจรรย์ คือ บางตัวไม่เคยทำ ก็ทำเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว (งานวิจัยทาง electronic)

และสุดท้าย เหมือนโลกเป็นของเรา มองไปทางไหน มีแต่ความสบายใจ


#6 @--แสงตะวัน--@

@--แสงตะวัน--@
  • Members
  • 723 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Thailand

โพสต์เมื่อ 06 January 2010 - 08:21 AM

จำตอนที่บวชแล้วเริ่มครองผ้าที่วัดเบญฯ รู้สึกเลยว่า "สายบุญเย็นๆ ที่ไหลผ่านศูนย์กลางกายเป็นอย่างไร" ฮืม
จำช่วงที่อบรมได้เลยว่า "ไม่เคยนั่งสมาธิครั้งไหนได้ดีเท่าตอนบวชเ็็ป็นสามเณชธรรมทายาทเลย" ฮืม
จำได้เลยว่าตอนลาสิกขา ได้บอกกับตัวเองไว้แล้วว่า "เป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ต้องกลับมาสวมผ้าผืนนี้อีกครั้ง" ฮืม

ลองดูซิครับครั้งหนึ่งในชีวิตลูกผู้ชาย ผมว่าถ้าใครเป็นชายแล้วไม่ได้บวช ฮืม ฮืม เสียดายโคตรๆ
ปล.นี่เฉพาะที่ได้ส่วนตัวแค่สั้นๆ นะครับ ไม่รวมส่วนอื่นๆ อีกมากมาย :-)

แนบไฟล์  IMG90001013343A.jpg   70.88K   67 ดาวน์โหลด
"ชีวิตนี้อุทิศเพื่อพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย"

#7 บ่าวอุบล

บ่าวอุบล
  • Members
  • 632 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 January 2010 - 09:46 AM

ได้เข้าใจคำว่า "เนื้อนาบุญ" คือยิ่งเราเป็นพระแท้ได้มากเท่าไหร่ ญาติโยมที่มาทำบุญด้วยยิ่งได้บุญมาก และได้สัมผัสความอิสระ ปลอดโปร่งทั้งกายใจ ซึ้งกับสภาวะที่ว่า ชีวิตนักบวช คือชีวิตที่ประเสริฐสุด

#8 บ่าวอุบล

บ่าวอุบล
  • Members
  • 632 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 January 2010 - 10:08 AM

อ้อ ลืมไปครับ ได้อุทิศบุญให้คู่กรรมคู่เวร ได้แบ่งบุญให้สรรพสัตว์ ที่ปลื้มสุดได้อุทิศบุญให้พ่อแม่ที่ล่วงลับ รู้สึกว่าเราได้ตอบแทนบุญคุณของท่านได้อย่างดีที่สุดแล้ว

#9 หยุด นิ่ง ใส

หยุด นิ่ง ใส
  • Members
  • 167 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 January 2010 - 10:08 AM

ผมคิดว่าสิ่งที่ธรรมทายาทได้ทุกคน คือ การปิด(ตอกตะปูเทคอนกรีตเสริมเหล็ก)ประตูอบายแน่นอนครับ
ได้ค้นพบความสุขที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์
ได้นั่งธรรมะแบบเต็มที่
ได้หลักธรรมในการนำชีวิตที่ยังหลงเหลืออยู่ประกอบแต่คุณงามความดี
ความรู้สึกที่ก้าวเท้าออกจากโบสถ์ ครั้งแรกหลังเกิดเป็นพระแล้ว
ด้วยความปิติที่มิอาจประมาณได้ชุ่มฉ่ำเย็นตลอดทั้งวัน

รู้ว่าฝนพันปีเป็นอย่างไร และความอัศจรรย์ใจหลายอย่าง

QUOTE
จำได้เลยว่าตอนลาสิกขา ได้บอกกับตัวเองไว้แล้วว่า เป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ต้องกลับมาสวมผ้าผืนนี้อีกครั้ง ฮืม


คุณแสงตะวันคิดเหมือนกันเลยครับ ผ้าผืนสุดท้าย

ได้รู้ว่าการบวชไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ประสบการตอนหนึ่งจากการบวชธรรมทายาทที่มิอาจลืมได้ไปจนวินาทีที่ละโลกไปแล้ว
ความตื้นตันใจที่ไม่มีประมาณตอนการเวียนประทักษิณ ก่อนเข้าโบส์และการกล่าวคำลาบวชกับบิดามาดา
ได้สร้างองค์พระบนยอดโดมร่วมกับพระธรรมทายาทให้พระอุปปัชฌาย์
เอาเป็นว่าการบวชมีแต่สิ่งที่ทำให้เกิดความตื้นตันใจบ่อยครั้งมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
รู้สึกถึงกระแสบุญที่หลั่งไหลว่าซาบซ่านชุ่มเย็น กว่าตอนที่ตนเองเป็นฆารวาส
ได้รู้ว่าเราเกิดมาทำไม
หน้าที่หลักคือมุ่งสู่พระนิพพาน
ชีวิตที่เหลืออยู่ให้ทำแต่ความดี ทางกาย ทางวาจาและทางใจ


กราบอนุโมทนบุญครับ



#10 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 06 January 2010 - 12:13 PM

ได้เืทคนิคการแก้ไขปัญหาชีวิตครับ ใช้เทคนิคนี้แก้ตั้งแต่ปัญหาเล็กๆ ไปจนปัญหาพ้นทุกข์ทั้งปวงด้วยครับ

เทคนิคที่ว่าคือ เมื่อมีปัญหา อย่าหันไปพึ่งยาเสพติด อย่าทำร้ายตัวเอง แต่ค่อยๆ หยุดใจ แล้วสติสตางค์ก็จะกลับคืนมาให้เราแก้ไขปัญหา
หมั่นพัฒนาใจให้แข็งแรง ขึ้นทุกวัน ด้วยทาน ศีล ภาวนา
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#11 Airy

Airy
  • Members
  • 162 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 January 2010 - 02:21 PM

เดือนแรกของการบวชก็คือการเรียนรู้และการปรับตัวเองใหม่ในเพศสมณะครับ
ได้แก่
การฝึกสำรวมกายและสำรวมใจ (เป็นการหักดิบพฤติกรรมเก่าในเพศคราวาส ซึ่งคิดว่าดีแล้ว แต่ยังต้องปรับเปลี่ยนอย่างอุกฤต ทั้งร่างกายและจิตใจใหม่ ซึ่งต้องดำรงชีวิตอยู่กับผ้าเพียง 3 ผืน กับปัจจัยการดำรงชีพส่วนตัวอื่นๆอีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คือ บาตร ผ้าห่ม เสื่อ มุ้ง รองเท้า ขัน สบู่ ยาสีฟัน แชมพู ส่วนหมอนวัดพระธรรมกายจะไม่มีให้ใช้ ยกเว้นไปจำที่วัดอื่น)
การถือศีลปฏิบัติและเรียนรู้เรื่องศีลของพระ (ซึ่งเป็นเรื่องกดดันกายมนุษย์ให้ต้องปฏิบัติดีอย่างเดียวทั้งต่อหน้าและลับหลัง ซึ่งต้องเปลี่ยนเป็นบุคคลที่มีแต่ด้านสว่างเพียงอย่างเดียว ไม่มีด้านมืดอีกต่อไป ซึ่งความกดดันจะค่อยลดลงตามลำดับเมื่อปรับตัวได้และมีความเคยชินในข้อวัตรปฏิบัติแล้ว หรือไม่ก็ถูกกดดันให้ต้องสึกลาเพศออกไปเป็นคราวาสเลย เพราะร้อนผ้าเหลือง)
การอยู่รวมกันเป็นหมู่คณะ แต่มีใจสันโดด (การเป็นสมณะเป็นการดำรงชีวิตแบบอยู่รวมหมู่คณะ อยู่ในสายตาซึ่งกันและกัน ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งจะดำรงตนอยู่ได้ต้องปรับตัว ปรับกายและปรับใจ ให้เป็นผู้ให้ความสำคัญของหมู่คณะก่อน มีความละอายเป็นที่ตั้ง และที่สำคัญเมื่ออยู่ไปนานใจจะถูกปรับให้รักสันโดด โดยการเอาใจมุ่งสู่ภายในเข้าไปหาความสงบภายในอย่างเดียว)

เมื่อเข้าเดือนที่ 2 ก็จะยกบุคคลธรรมดาให้น่านับถือ กราบไหว้ได้สนิทใจครับ
เพราะเป็นผู้ปฏิบัติในศีลของพระภิกษุได้อย่างคุ้นเคย มีความสำรวมกายและใจ รักสันโดด มีความเป็นระเบียบเสมอกันทั้งหมู่คณะ มีประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกัน
เมื่อปรับกายได้ ใจก็พร้อมสำหรับการฝึกอบรม และเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ได้อีกมากมาย โดยเฉพาะการฝึกปฏิบัติทางจิตให้ยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งก็จะกายเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพธรรมที่แท้จริง เป็นธาตุธรรมที่ฝ่ายมารเกรงกลัวมาก เป็นผู้กำจัดภัยในวัฏฏสงสาร หรือในยุกค์สมัยปัจจุบันนี้ แทนคราวาสได้อย่างดีทีเดียวครับ (ตอนท้ายนี้เป็นเป็นเรื่องลึกคงอธิบายมากไม่ได้ครับ)
แม้เป็นพระภิกษุใหม่ที่ฝึกมาน้อย แต่เป็นพระภิกษุที่ได้รับการบวชแบบที่เชื่อมต่อศีลโดยตรงจากพระพุทธเจ้าแล้ว มาอยู่รวมกันในสถานที่เดียวกัน หรือในประเทศเดียวกันเป็นจำนวนมาก ก็เหมือนเป็นฐานกำลังที่รองรับคุณความดีของพระพุทธเจ้าในอดีตมารวมกันเลยทีเดียวครับ เมื่อรวมพลังอำนาจฝ่ายดีได้เป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว สามารถเปลี่ยนแปลงโลกให้ผลิกกลับเข้าสู่เส้นทางแห่งคุณความดีอย่างที่ใจต้องการได้เลยครับ ความมหัศจรรย์จะบังเกิดได้ง่ายๆ ครับ...ขอให้ช่วยกันครับถ้าอยากเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่านที่มีส่วนร่วมในการสร้างสันติสุขให้กับโลกนี้ครับ

#12 Poti

Poti
  • Members
  • 254 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 January 2010 - 02:34 PM

ท่าน WISH ตอบซะเกือบหมด ขอแทรกด้วยหน่อย เคยบวชพระ ๓ ครั้ง วัดปากน้ำ ๑ วัด พระ ธรรมกาย ๒ ครั้ง
ที่ได้แน่นอน คือ ได้ฝึกฝนตนเอง ฝึกอย่างหนัก แต่ไม่สาหัส ทำทุกอย่างเพื่อตนเอง
ฉันอาหารของชาวบ้าน แต่ทำเพื่อตนเอง ยิ่งฝึกตนมากเท่าไหร่เจ้าของภัตต์ยิ่งได้บุญมากเท่านั้น
ได้โอกาสฝึกตนทั้งให้ทาน รักษาศีล นั่งสมาธิ มากจริง ๆ มีสติตลอด
เมื่อสึกออกมาแล้วได้ข้อวัตรปฏิบัติมาใช้ในการดำเนินชีวิต บวชเถอะครับ ไม่ผิดหวัง บุญล้วน ๆ
บ่าวอุบล ใช่พี่อุทิศ ไหมหนอ ?




#13 แก้วใสปิ๊ง

แก้วใสปิ๊ง
  • Members
  • 191 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 January 2010 - 10:49 PM

ตอบกันไปเยอะแยะแล้ว...พยายามไม่ให้ซ้ำนะครับ
...มาบวชแล้วได้เจอ"กัลยาณมิตร"ครับ happy.gif
ได้รู้ว่ากัลยาณมิตรเป็นทั้งหมดของพรหมจรรย์ ตราบใดที่ยัง
ไม่หมดกิเลส ศรัทธาของเรายังมีขึ้นมีลง การมีกัลยาณมิตร
มาช่วยประคับประคอง เตือนสติ ให้กำลังใจ ฯลฯ สำคัญมาก!
เหมือนตอนล่างสุดของคุณหัดฝันที่เขียนว่า "ได้ดี เพราะมีกัล
ยาณมิตร"

...อีกประการหนึ่งก็คือ ทำให้ผมได้มั่นใจว่า บุญแม้จะมองไม่เห็น
ด้วยตาเปล่า แต่สัมผัสได้จริงๆ ล่าสุดตอนบวชรุ่นกองพล7,000
ผมเข้าไปในโบสถ์ขณะทำพีธีอุปสมบท แม้จะบวชต่างวัดต่างอำเภอ
ต่างจังหวัดกัน แต่แค่นึกได้ว่ากำลังทำพิธีพร้อมๆกัน ผมสัมผัสได้ถึง
กระแสบุญเย็นๆที่ไหลเข้ามาที่ศูนย์กลางกาย! biggrin.gif
...ได้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ nerd_smile.gif
อนุโมทนาบุญร่วมกันนะคร้าบ....

ถ้าอยากได้"จริง"จะได้...แต่ตอนจะได้ไม่"อยาก"