มี 7 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[Nee-Sansanee 2]

เราจะเห็นอริยสัจจ์ได้จริงๆมิใช่คิดเอาเอง นึกเอาเอง หรือจินตนาการเอาเอง
แต่ต้องปฎิบัติให้เข้าถึงพระธรรมกายแล้วจะรู้แจ้ง เห็นแจ้ง แทงตลอดจริง ๆ

รู้แจ้ง เห็นแจ้ง แทงตลอดในเรื่องอะไร ?

รู้แจ้ง เห็นแจ้ง แทงตลอดเข็มทิศชีวิตของทุก ๆชีวิต นั่นเอง

คืออริยสัจสี่.....ที่เรามักจะลืม ๆ จนหลงทาง ลืมเข็มทิศ...ของชีวิตไป

เข็มทิศชีวิต:เห็นอริยสัจจ์ขจัดทุกข์

1. ทุกข์ เป็นโรคที่ทุกคนป่วย คือทุกข์ประจำ เกิด แก่ เจ็บ และตาย นอกนั้นก็เป็นทุกข์จร ที่ใจเสื่อมคุณภาพ

2. สมุทัย เหตุแห่งโรค(ทุกข์)...เพราะกิเลสที่ทำให้ติดอยู่ในภพสามคือ กามภพ รูปภพ และอรูปภพเป็นราชสีห์ติดบ่วงอยู่
(รากเง้าของกิเลส คือ โลภะ โทษะ และโมหะ-ความหลง แก้ได้โดยทาน ศีล และภาวนา-ปัญญาตามลำดับ)

3. นิโรธ หลุดพ้นจากทุกข์(โรค)....เออ สุขจริงหนอ สุขจริงหนอ ...ที่ไปคืออายตนนิพพานเท่านั้น (ไม่เกิด-ก็ไม่ทุกข์)

4. มรรค เหตุให้พ้นทุกข์(แก้โรค) เป็นข้อปฎิบัติให้ใจหยุด ใจนิ่ง โดยอาศัยการฝึกจิตให้หยุด ให้นิ่ง
เป็นหนทางการฆ่ากิเลส ปกติก็จะมีพระอริยมรรค 8 ประการ เป็นหนทางปฎิบัติตน ฝึกฝนตัว ไปสู่ที่สุดแห่งธรม

...................................................................................................................................

หมายเหตุ หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณที่นี้ด้วยเพราะไม่อาจอ้างอิงที่มาได้ เป็นบันทึกส่วนตัวที่คิดว่าน่าจะ

มีประโยชน์ร่วมกัน จึงเอามาแบ่งปันฉันพี่น้องร่วมท้อง(ฟ้า)เดียวกันค่ะ

[usr29799]

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ

[@--แสงตะวัน--@]

สำหรับผมในช่วงนี้ ในบางเรื่อง ฮิ ฮิ..

ทุกข์...... ใจของตัวเอง ที่ยอมแพ้ในกิเลสความต้องการของตัวเอง ความคิดถึง ผูกอารณ์ตัวเองไว้กับผู้ือื่น
สมุทัย..... ยังติดกับ ความสุขในกามคุณทั้งหลาย ทั้งตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ โดยเฉพาะทางใจ
นิโรธ..... ที่ไหนหนอที่มันไม่มีอารณ์เบืื่่อ เศร้า เซ็ง กลุ้ม มีแต่ความสุขล้วนๆ แต่เท่านั้นยังไม่พอ มันต้องพาคนอื่นไปด้วยกัน จะไปแค่คนเดียวก็มิใช่วิสัยของเราด้วยซิ ฮิ ฮิ
มรรค.... ตอนนี้เริ่มต้นด้วยการรักษาศีล 8 ในช่วงอบรม 49 วันนี้ครับ โคตรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร อยากบวชเลย ฮืม ฮืม รอให้จบก่อนเถอะ ดังนั้นตอนนี้ฝึกใจด้วยศีล 8 ไปก่อนแล้วกัน :-)

็Happy&Smile ขอบคุณบทความดีๆ พิมพ์ไปก็ทบทวนตัวเองไปด้วย

ปล. ไม่รู้ผมเข้าใจ อริสัจจ์สี่ถูกหรือเปล่านะครับ ฝากผู้รู้แนะนำด้วยนะครับ

[หัดฝัน]

เฉพาะเรื่อง "นิโรธ" นี่เท่าที่เคยฟังๆ ผู้รู้นะครับ จะมีการตีความเป็น 2 นัยครับ

นัยที่ 1 ความดับทุกข์ ดังเช่นที่เจ้าของกระทู้โพสมา ซึ่งจะเป็นการตีความของนักวิชาการศาสนาต่างๆ ส่วนใหญ่จะตีความเช่นนี้ ดังนั้น แนวคิดของนักวิชาการเรื่องอรัยสัจ 4 จะคล้ายๆ วิธีการทำงานตามหลักวิทยาศาสตร์ คือ มีปัญหา(ทุกข์) ค้นหาสาเหตุ(สมุทัย) ตั้งเป้าหมายลดปัญหา(นิโรธ) หาวิธีการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการต่างๆ (มรรค) เพื่อลดปัญหาให้น้อยลงกว่าเป้าหมาย (นิโรธ)

นัยที่ 2 หยุด(ใจ) ครับ ตรงนี้จะเป็นการให้ความหมายของนิโรธโดยคุณครูไม่ใหญ่ โดยท่านอธิบายว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค นั้นเรียงลำดับตรงตัวอยู่แล้ว ไม่ได้สลับลำดับไปมาน่ะครับ นั่นคือ ทุกข์ สมุทัย(เหตุแห่งทุกข์ คือ กิเลส) นิโรธ(คือ หยุดใจ) พอหยุดใจได้ คราวนี้ มรรค(หนทางดับกิเลส) ก็จะเกิดขึ้น สรุปคือ มีทุกข์ เพราะเหตุแห่งทุกข์คือ กิเลส จากนั้นให้หยุดใจ แล้วหนทางดับทุกข์ คือ มรรค จึงจะเกิดขึ้นนะครับ นี่คุณครูว่าไว้เช่นนี้

[@--แสงตะวัน--@]

ฮืม ขอบคุณมากครับ ๆ ผมก็่ว่ามันแปลก ๆอยู่ นัยที่ 2 น่าจะตรงกว่า :-)

นัยที่ 2 หยุด(ใจ) ครับ ตรงนี้จะเป็นการให้ความหมายของนิโรธโดยคุณครูไม่ใหญ่ โดยท่านอธิบายว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค นั้นเรียงลำดับตรงตัวอยู่แล้ว ไม่ได้สลับลำดับไปมาน่ะครับ นั่นคือ ทุกข์ สมุทัย(เหตุแห่งทุกข์ คือ กิเลส) นิโรธ(คือ หยุดใจ) พอหยุดใจได้ คราวนี้ มรรค(หนทางดับกิเลส) ก็จะเกิดขึ้น สรุปคือ มีทุกข์ เพราะเหตุแห่งทุกข์คือ กิเลส จากนั้นให้หยุดใจ แล้วหนทางดับทุกข์ คือ มรรค จึงจะเกิดขึ้นนะครับ นี่คุณครูว่าไว้เช่นนี้

ง้นในกรณีของผมก็ต้องปรับนิโรธกับมรรค เป็น ปล่อยว่างเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้มันเป็นไปตามเรื่องราวที่มันควรจะเป็น หยุดทุกอย่างวางทุกสิ่ง นิ่งอย่างเดียว หันมาฝึกตัวเองให้ยิ่งๆ ขึ้นไป ในทุกๆ ด้าน เน้นย้ำในด้านที่เคยเป็นข้อบกพร่อมของตัวเองให้มาก :-) ฮืม น่าจะประมาณนี่ยมั้ง

[จันทร์ยิ้ม]

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ

[Poti]

ใบไม้ในป่า น่ารู้และสนุกมาก จะรู้เกี่ยวกับชีวิตมากขึ้น

[ลูกหลานปูชนียาจารย์]

อนุโมทนาสาธุครับ กระผมอยากจะรู้ทั้งใบไม้ในกำมือ และใบไม้ในป่าเลยครับ

ต้องสั่งสมบารมีเยอะๆกันนะครับทุกท่าน