ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

ลูกชายบวชพ่อแม่จะได้บุญอัตโนมัติจริงหรือ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 14 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 usr35692

usr35692
  • Members
  • 13 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 August 2010 - 06:41 PM

ตอนที่ผู้นำบุญลงพื้นที่ชวนบวชกัน มักจะพูดว่า ถ้าบวชให้พ่อแม่ ท่านจะได้บุญบวชกับเรา ถึงแม้ว่าพ่อแม่จะไม่รู้ว่าเราบวชก็ตาม พ่อแม่ก็ได้บุญ เพราะท่านให้ชีวิต ให้ร่างกาย ให้เราเกิดมาเป็นมนุษย์

คำพูดดังกล่าวผมเห็นด้วย แต่ผมสะดุดตรงคำว่า ถึงแม้ว่าพ่อแม่ไม่รู้ว่าเราบวช พ่อแม่ก็ได้บุญ เพราะพ่อแม่ให้ชีวิต ให้ร่างกาย ให้เราเกิดมาเป็นมนุษย์

ผมก็คิดแย้งในใจแต่ไม่กล้าพูด ถ้าอย่างนั้นในเมื่อเราบวช พ่อแม่จะได้บุญอัตโนมัติถึงแม้ว่าท่านไม่รู้ สมมุติถ้าเราเอาร่างกายที่พ่อแม่ให้มาเอาไปทำความชั่วละ เอาไปเสพอบายมุข ไปฆ่าคนตาย พ่อแม่ก็มีส่วนแห่บาป ในการเสพอบายมุข ในการฆ่าคนของลูกด้วยอ่ะสิ

ผมคิดว่าไม่ เป็นเหตุเป็นผล พระสัมมาสัมพุทธ สอนให้เราเชื่อในหลักเหตุและผล

ผมคิดว่า พ่อแม่ กับ ตัวผู้บวช ดวงบุญบาปคนละดวงบุญกัน การที่พ่อแม่จะได้บุญกับลูกชาย จะต้องอนุโมทนาบุญบวชของลูกชาย อย่างน้อยก็ต้องรู้ว่าลูกตัวเองจะบวช แล้วอนุโมทนาด้วย ไม่ว่าจะมีชีวิต หรือ ไม่มีชีวิต

ตรงกันข้ามผมคิดว่าถ้าคนที่ลูกทำไม่ดี เช่น เสพอบายมุข ฆ่าคนตาย พ่อแม่ผู้ให้ร่างกาย ให้ชีวิต ก็ไม่น่าจะไปมีส่วนแห่งบาปของลูก
ยกเว้น พ่อแม่จะอนุโมทนาบาป พ่อแม่ก็จะมีส่วนแห่บาป

สรุปความคิดส่วนบุคคล การที่พ่อแม่จะได้บุญบวชกับลูกชายพ่อแม่ต้องอนุโมธนาบุญกับลูกชาย การที่พ่อแม่จะได้ส่วนบาป พ่อแม่ต้องอนุโมทนาบาปเท่านั้น ผลบุญผลบาปไม่น่าจะเกิดขึ้นกับพ่อแม่อัตโนมัติ ถ้าพ่อแม่ไม่มีจิตยินดี


ท่านผู้รู้ช่วยบอกผมที ว่าข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร



#2 usr35692

usr35692
  • Members
  • 13 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 August 2010 - 06:47 PM

เเล้วแบบนี้ ลูกที่เกิดมาไม่เคยเห็นหน้าพ่อแม่ ไม่รู้ว่าท่านอยู่ไหน เวลาเราบวช ท่านจะได้บุญไหม
แล้วเวลาทำบาปล่ะ ท่าน จะมีส่วนแห่งบาปไหม น่าคิด


#3 *sky noi*

*sky noi*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 04 August 2010 - 07:15 PM

QUOTE
ตรงกันข้ามผมคิดว่าถ้าคนที่ลูกทำไม่ดี เช่น เสพอบายมุข ฆ่าคนตาย พ่อแม่ผู้ให้ร่างกาย ให้ชีวิต ก็ไม่น่าจะไปมีส่วนแห่งบาปของลูก
ยกเว้น พ่อแม่จะอนุโมทนาบาป พ่อแม่ก็จะมีส่วนแห่บาป

ผลแห่งบาปเบื้องต้นที่พ่อแม่จะได้รับเมื่อลูกของเขาทำบาป ก็คือ ความทุกข์ร้อนใจ ความไม่สบายกายไม่สบายใจ ความเดือนร้อนต่างๆ เป็นต้น

QUOTE
ลูกที่เกิดมาไม่เคยเห็นหน้าพ่อแม่ ไม่รู้ว่าท่านอยู่ไหน เวลาเราบวช ท่านจะได้บุญไหม
แล้วเวลาทำบาปล่ะ ท่าน จะมีส่วนแห่งบาปไหม น่าคิด

คิดเอาเองว่าถ้าไม่ได้อนุโมทนาบุญ บุญก็อาจไปรอส่งผลอยู่ก็ได้นะคะ

tongue.gif



#4 ดุสิตาเทวบุตร

ดุสิตาเทวบุตร
  • Members
  • 213 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 August 2010 - 07:35 PM

ในcase study เห็นลูกทำทานก็ยังต้องให้พ่อแม่อนุโมทนาน่ะครับ ทั้งๆที่หากไม่ได้กายจากพ่อแม่ก็มิอาจทำทานนั้นได้เช่นกัน การบวชก็เช่นกันน่ะ หากไม่ได้กายจากพ่อแม่ก็มิอาจกระทำเนกขัมมะบารมีได้เช่นกัน

#5 ณ ๐๗๒

ณ ๐๗๒
  • Members
  • 1340 โพสต์
  • Location:Ladkrabang

โพสต์เมื่อ 04 August 2010 - 07:36 PM

QUOTE
8.การ ที่สามีให้ปัจจัยลูกตามที่ลูกขอด้วยความเต็มใจ แต่ไม่ทราบว่าตัวลูกเอาเงินมาทำบุญนั้น สามีก็จะได้อานิสงส์โดยย่อ คือ จะได้เป็นเจ้าของทรัพย์ด้วยกัน แต่จะไม่ได้เป็นใหญ่ในทรัพย์ หมายความว่า เมื่อเวลาทรัพย์เกิดก็จะเป็นเจ้าของด้วย แต่ไม่มีสิทธิ์ใช้ทรัพย์ตามที่ตัวปรารถนาได้เหมือนตัวลูก
*ส่วนตัวลูกเป็น คนขอ และได้นำเงินนั้นไปทำบุญด้วยศรัทธาเต็มเปี่ยมนั้น ก็จะเป็นเจ้าของทรัพย์และ มีสิทธิ์ใช้ทรัพย์ได้อย่างเต็มที่ในอนาคต
*ต่อมา ถ้าลูกบอกเขาในภายหลัง เมื่อเขาพร้อมและเข้าใจเรื่องบุญดีนั้น เขาก็จะได้บุญในวาระที่สาม ภายหลัง จากทำไปแล้ว และเมื่อบุญส่งผลก็จะทำให้มารวยตอนอายุมาก
http://www.dmc.tv/?m...t...page&p=3689

กรณีบุญบวชพระลูกชายก็คงเช่นกัน ถึงไม่บอก พ่อแม่ก็ได้บุญ

ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)

ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี  ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ  ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป


#6 ดินสอแห่งธรรม

ดินสอแห่งธรรม

    สร้างบารมีเป็นหมู่คณะ = ฝึกตนให้เป็นผู้ใจกว้าง

  • Members
  • 1478 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ดุสิตบุรี
  • Interests:สร้างบารมีแบบเต็มกำลัง

โพสต์เมื่อ 04 August 2010 - 11:01 PM

...ถามได้ดีครับ แปลว่า คุณมีข้อมูลมามากพอดู

...ปกติ เรามีชีวิตนี้ เพราะใคร? ร่างกายนี้ของใคร? ลมหายใจนี้ของใคร? ใครเลี้ยงให้โต? ใครไม่ฆ่าเราไม่ทิ้งเราตอนเกิดมา? ใครประคับประคองให้เราไม่เปลี่ยนศาสนา? ใครสอนให้เราเป็นชายที่สมบูรณ์? ใครปกป้องเรา? ใครอภัยให้เราแม้เราจะทำให้เกลียดและเสียใจ? ใครเอาชีวิตเขามาแลกเพื่อเราได้? ฯลฯ

...ตัวเรามีแค่ จิตใจ+ความคิด ที่เป็นของเรา การคิด พูด ทำ ก็ยังใช้มันสมองเขาท่านที่ให้ร่างกายนี้มา เลือดเนื้อ กระดูก เส้นเอ็น ฯลฯ เป็นของผู้ช่วยกันสร้าง มีแค่ 2 ท่านในโลกนี้คือ 1 พ่อ และ 1 แม่เท่านั้น ...

...แน่นอน สมบัติที่เป็นความภูมิใจสูงสุดของผู้สร้าง คือ ร่างกายลูกที่สมประกอบ และจิตใจลูกที่เป็นคนดี ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร และมีชีวิตอยู่ได้ปกติเหมือนคนทั่วไป เป็นการตอบแทน

...แม้ท่านผู้สร้างจะหวังให้ลูกทดแทนคุณ แท้ๆก็เหมือนการตอกย้ำให้ลูกไม่ลืมตัว ไม่ลืมท่าน และทรัพย์ที่ได้จากลูกส่วนใหญ่ก็ไปเก็บ ไปออม ไปเลี้ยงน้องๆ ไปทำบุญ ไปซื้อบ้าน ซื้อรถ สุดท้ายมรดกตกอยู่กับใครเล่า? ตัวท่านผู้สร้างมีแต่จะแก่งอมลงไป จะกินอะไรก็เคี้ยวไม่ถนัด ฟันก็ปวด เดินก็เมื่อย เที่ยวที่ไหนก็ไปไม่ไหว ตาก็ไม่ดี มองก็ไม่ชัด พูดก็เหนื่อย นั่งก็โอย ลุกก็โอย เงินที่ลูกๆส่งมา เพื่ออะไร? ไม่ใช่เพื่อทำให้ท่านแข็งแรงหรอกหรือ แข็งแรงเพื่ออะไร? เพื่อจะอยู่ให้นานที่สุด ยอมทนลำบากครั้งสุดท้ายของชีวิต เพื่อดูลูกสำเร็จ ดูลูกเป็นคนดี ดูว่าลูกเอาตัวรอดในโลกใบนี้ได้ และอยู่ได้อย่างคนปกติ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ไม่โดนใครรังแก ...แล้วท่านก็จะได้นอนยาวอย่างหมดห่วง

...การนำร่างกายดังที่กล่าวมา มาเปลี่ยนกายใหม่เป็นส่วนหนึ่งของพระรัตนตรัย คือ เป็นภิกษุสงฆ์ เพื่อเป็นอายุของพระพุทธศาสนา เป็นต้นแห่งคุณความดี พรั่งพร้อมด้วยศีล สมาธิ และปัญญา เป็นผู้ถูกอบรมให้รักและกตัญญูผู้ให้กำเนิด เป็นผู้เผยแผ่ความรู้ในวิถีแห่งพุทธศาสตร์เพื่อให้คนเป็นคน ไม่ฆ่า ไม่ขโมย ไม่ล้ำสิทธิ์ ไม่โกหก ไม่ลุ่มหลงมัวเมา ฯลฯ และใช้กายนี้เพื่อดูแลเพื่อนมนุษย์ให้อยู่ในศ๊ลธรรมตามคำสอนของพระศาสนาสืบไป ความดีหรือสิ่งที่ทำเหล่านี้เรียกว่าบุญได้หรือไม่? แน่นอน บุญเกิดขึ้นได้เพราะใครเป็นต้นกำเนิดแห่งทุกสิ่ง คือร่างกายและสอนให้จิตใจเป็นคนดีได้จนถึงวันนี้เล่า? แล้วผลงานนี้ ก็คือสิ่งที่ทยอยตอบแทนเป็นบุญไปสู่ผู้สร้าง หรือผู้ให้กำเนิดนั่นเอง แม้ผู้สร้างจะรู้หรือไม่ จะยินยอมหรือไม่ก็ตาม เลือดเนื้อเดียวกัน ผลงานเดียวกันย่อมส่งผลเดียวกันแก่เจ้าของชีวิตนี้ หากลูกทำชั่ว ผู้สร้างก็ยังให้อภัยและรอคอยว่าจะกลัวตัวเป็นดี ไม่เชื่อว่าใครจะว่าลูกตนเองว่าชั่ว หรือเลวได้

...ความดีไม่เคยทอดทิ้งผู้กระทำ (บุญ) และต้นเหตุแห่งความดี (ร่างกาย) รากแห่งความดี รากแห่งปรารถนาดีย่อมสนองคืนแก่ผู้หวังดีและอยู่เบื้องหลัง (บิดามารดา)

..อันมือของฉันสองมือนี้ ดูเล็กนิดเดียวและไม่มั่นใจว่าฉันจะสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดแก่โลกใบนี้ได้.. แต่ฉันมั่นใจว่า ...หัวใจของฉันนี้ มอบไว้ให้แด่พระพุทธศาสน์....

#7 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 04 August 2010 - 11:56 PM

QUOTE
ลูกชายบวช พ่อแม่จะได้บุญอัตโนมัติจริงหรือ


ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นส่วนตัว นะครับ
เข้าใจว่า
การออกบวชเป็นบรรพชิต(นักบวช) เช่น
บรรพชาเป็นสามเณร ของกุลบุตร ,สิกขมานา สามเณรีของกุลธิดา
การอุปสมบท เป็นภิกษุ ของกุลบุตร ( ภิกษุณี ของกุลธิดา)

บุญจะส่งผล ถึงบุพการี มารดา บิดา หรือไม่นั้น
คล้ายกับกรณี การอุทิศกุศลผลบุญ นะครับ
http://dmc.tv/forum/...showtopic=15689

คือ ถ้าอยู่ในฐานะ ก็ได้(ทันที , อัตโนมัติ)
ฐานะ ก็ยังไม่ได้(ในทันที ,อัตโนมัติ)

ฐานะที่ทำให้ได้ และไม่ได้ เพื่อนกัลยาณมิตร มาตอบและเสนอข้อมุล และความคิดเห็นบ้างแล้ว
ไม่ตอบเพิ่มเติม

แต่ขอเสนอว่า
การบรรพชา อุปสมบท ของกุลบุตร กุลธิดา จะส่งผลถึงมารดา บิดา ให้ท่านได้มหากุศลด้วยนั้น ควรยกไว้ก่อน

ไม่งั้น ใครที่ สักแต่ว่า เข้าพิธีบรรพชา อุปสมบท อาจจะประมาท ดูเบาว่า ตอบแทนพระคุณ มารดา บิดาแล้ว
ผลานิสงส์อันไพบูลย์ ที่ตนเอง มารดา บิดาและผู้ร่วมอนุโมทนา
ควรจะได้ ก็จะพร่องไปนะครับ

สิ่งสำคัญ คือ
การบรรพชา อุปสมบท เพื่อการทำพระนิพพานให้แจ้ง
บวชแล้ว ต้องขยันฝึกฝน อบ-รม ขัดเกลา แก้ไขตนเอง ให้เป็นพระแท้ เพิ่มคุณธรรม กระทั่งบรรลุคุณวิเศษไปตามลำดับ ๆ
ย่อมเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง ยั่งยืน ได้ทั้งตนเอง และมารดา บิดา ผู้ยินดีร่วมอนุโมทนา และสรรพสัตว์รอบตัว
นะครับ
ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม

#8 ธาตุล้วนธรรมล้วน

ธาตุล้วนธรรมล้วน
  • Members
  • 255 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 August 2010 - 01:07 AM

ส่งผลสิครับ ส่งแน่นอน สมเหตุสมผลด้วย เพียงแต่ยังไม่เต็มส่วน แนวๆเดียวกับที่คุณ ณ 072 กล่าวไว้ใน #5

แม้พ่อแม่ท่าน........ช่างไม่รู้อะไรบ้างเล้ยยย cry_smile.gif

แต่เพราะอานิสงส์นั้น อาศัยบุญจากผู้บวชเอง แม้พ่อแม่ไม่รู้เรื่อง ก็ยังได้รับแรงบุญจากเรา พอเข้าใจไหมครับ (แต่ยังไม่เต็มส่วน)

เสมือเราเป็นเจ้าของกิจการรวยเป็นพันๆล้าน เราก้สามารถเลี้ยงดูพ่อแม่ ญาติพี่น้อง ลูกน้องบริวาร ให้สุขสบายไปด้วย ด้วยกำลังทรัพย์ของเรา

เมื่อพ่อแม่ท่านไม่รู้ว่าเราเอาเงินมาจากไหน พ่อแม่ก็ต้องถามว่า ไปรวยอะไรมา ถูกหวยมาหรือไง?


ยิ่งพ่อแม่รับรู้ อนุญาต biggrin.gif

ก็จะได้รับบุญในส่วนตนเองที่ได้ให้ลูกบวช อย่างหนึ่ง

และอนุโมทนาบุญ (ปัตตานุโมทนามัย) อีกหนึ่ง

ใน 3 กาละ คือก่อนลูกบวช ขณะบวช หลังบวช

(ถ้าแบบนี้ถึงจะเต็มส่วนนะครับ)


ยกตัวอย่าง ในตลอด 32 กัปป์ 64 กัปป์ เป็นต้น เราสามารถที่จะดึงให้มารดาบิดาอยู่ในเขตบุญพระพุทธศาสนาได้ด้วยกำลังบุญของเรา โดยอัตตโนมัติ

แต่ถ้าท่านรับรู้ อนุญาติและอนุโมทนาบุญเอง ท่านจะได้รับอานิสงส์ด้วยตัวท่านเองโดยการได้เป็นทายาทพระพุทธศาสนาตลอด 8 กัปป์ 16 กัปป์

ส่วนเรื่องการตอบแทนพระคุณ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เป็นการซ้อนวาระสำคัญอันเนื่องด้วยการบวชที่เป็นญัตติหลักนะครับ อิอิ

ต้องเข้าเกณฑ์ให้ท่านศรัทธาและปฏิบัติเข้าถึงพระรัตนะตรัย ตามหลักพระพุทธพจน์ หากการบวชทำให้ท่านเข้าถึงเกณฑ์นี้ ก็ถือว่าได้ตอบแทนพระคุณแล้วครับ แต่จะมากน้อยก็อีกเรื่องหนึ่ง เป็นรายละเอียดยิบย่อยตามๆกันมาครับ พี่น้องครับ happy.gif

หากคุณแม่คุณพ่อเอย...ไม่รู้ว่าท่านอยู่แห่งหนใด เพราะท่านทิ้งเราไว้ให้แม่กาฟัก หากท่านได้รับสิ่งดีๆขึ้นมาอย่างสมเหตุผล ก็นั่นแหละคือแรงบุญของเราเอง ที่แรงไปจนมีผลกระทบในทางดีให้แก่แม่นกกาเหว่าครับ nerd_smile.gif

กุศล นั้น ท่านต้องสร้างกันเอง ส่วน บุญนั้น จักอาจอาศัยบุญฤทธิ์จากท่านผู้อื่นได้บ้าง


ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ

ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ

เราตถาคต คือธรรมกาย

#9 ธาตุล้วนธรรมล้วน

ธาตุล้วนธรรมล้วน
  • Members
  • 255 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 August 2010 - 02:10 AM

QUOTE
เเล้วแบบนี้ ลูกที่เกิดมาไม่เคยเห็นหน้าพ่อแม่ ไม่รู้ว่าท่านอยู่ไหน เวลาเราบวช ท่านจะได้บุญไหม
แล้วเวลาทำบาปล่ะ ท่าน จะมีส่วนแห่งบาปไหม น่าคิด



คิดได้คิดีครับ พระพุทธศาสนามีคำตอบให้ท่่านแน่นอน dmc ช่องนี้ช่องเดียว

ตอบไปแล้วส่วนหนึ่งในโพสต์ก่อนนะครับ

QUOTE
หากคุณแม่คุณพ่อเอย...ไม่รู้ว่าท่านอยู่แห่งหนใด เพราะท่านทิ้งเราไว้ให้แม่กาฟัก หากท่านได้รับสิ่งดีๆขึ้นมาอย่างสมเหตุผล ก็นั่นแหละคือแรงบุญของเราเอง ที่แรงไปจนมีผลกระทบในทางดีให้แก่แม่นกกาเหว่าครับ


ขึ้นไปอ่านอีกทีนะครับ


...........ท่าน......มีส่วนบ้างครับ แต่ไม่เต็มๆส่วน

ในพระธรรมบทมีแสดงไว้ถึงเศรษฐีขี้เหนียว ตายไปแล้วไปเกิดอยู่ในท้องของหญิงขอทาน ปรากฎว่าหญิงขอทานไม่ได้เลยแทบอดตาย

พอคลอดลูกมา วันไหนที่ไม่ได้พาลูกไปด้วย ก็จะขอทานได้ สุดท้ายจำต้องทิ้งลูกไป

บุญฤทธิ์ บาปฤทธิ์ มีผลต่อสิ่งแว้ดล้อมเสมอนะครับ ที่จะได้รับผลกระทบครับ ตามเหตุปัจจัยนะครับ เสมือนโรงงานปล่อยมลพิษ ชาวบ้านรายรอบก็ได้รับความเดือดร้อนไปด้วยนะครับ

ทางวิชาการบริหาร ท่านว่า สิ่งแว้ดล้อมมีผลกระทบต่อองค์กรณ์ และองค์กรณ์ก็มีสิ่งแว้ดล้อมเป็นตัวแปร นะครับทั่น

เพียงแต่ว่าอย่าร้อนใจไป เป็นเพียงผลกระทบ แต่ตัวเราเองมิใช่ต้นเหตุ หากเกิดบาปฤทธิ์ขึ้น เราก็ต้องใช้บุญฤทธิ์เข้าแก้ไขได้ครับ

ผลกระทบ ก็คือ ผลกระทบ มิใช่ output ของเราโดยตรงนะครับ


ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ

ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ

เราตถาคต คือธรรมกาย

#10 ธาตุล้วนธรรมล้วน

ธาตุล้วนธรรมล้วน
  • Members
  • 255 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 August 2010 - 02:34 AM

อย่าเอาแต่เรียกร้อง "ผล" โดยไม่ทำ "เหตุ"

อย่ามัวแต่คาดหวัง Output โดยไม่มี Process

เปลี่ยนจากสังคมไทยที่ปล่อยให้ "ดีตามยถากรรม แต่เลวอย่างเป็นระบบ!"
ให้เป็นชุมชนหรือสังคมที่ "ดีอย่างเป็นระบบ" บ้างได้แล้ว

มุมมองใหม่ "กินปัญหาเป็นอาหาร"

"เห็นปัญหาเป็นขนมหวาน ที่รับประทานแล้วจะได้ปัญญา"


อิอิ จำมาจากพระท่านเทศน์ไว้ครับ ขอนอกเรื่องนิดนึง ไม่ว่ากันนะครับ laugh.gif


ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ

ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ

เราตถาคต คือธรรมกาย

#11 Nee-Sansanee 2

Nee-Sansanee 2
  • Members
  • 893 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 05 August 2010 - 02:46 AM

ท่าน ธาตุล้วนธรรมล้วน ข้อความ " กินปัญหาเป็นอาหาร" นั้นข่อยบ่เข้าใจ

โปรดชี้แจ้งแสดงธรรมขยายไปอีกหน่อยว่าพระท่านว่าจะได๋ ฤาท่านหมาย

ถึงอาหารใจ แม่นบ้อ ฤาว่าเป็นหยัง ?

ขอบคุณค่ะ

#12 ธาตุล้วนธรรมล้วน

ธาตุล้วนธรรมล้วน
  • Members
  • 255 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 August 2010 - 03:30 AM

แม่หญิง innerpeace เจ้า

เด๋วข้าน้อยจะแว๊ปเข้ามาตอบเด้อเจ้า ว่าตุ๊เจ้าท่านอู้เอาไว้ว่าอะหยัง คิคิ


ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ

ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ

เราตถาคต คือธรรมกาย

#13 ตำรวจรักบุญ

ตำรวจรักบุญ
  • Members
  • 985 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 August 2010 - 07:47 AM

ผมว่า เหมือนกับการสร้างวัดหรือถาวรวัตถุครับ
คือเมื่อสร้างถวายแล้ว เขาจะใช้ทำอะไรบ้าง
เราจะไปตามดูตลอดคงไม่ได้
แต่เมื่อวัดนั้นถูกใช้เป็นที่สร้างบุญกุศส
เราย่อมมีส่วนแห่งบุญนั้นด้วยทุกครั้ง จนกว่าวัด/วัตถุนั้น
จะพังหรือไม่สามารถใช้การต่อไปได้อีก
และถ้าเราได้รับรู้ และมีใจปิติยินดี มีอนุโมทนา
เราย่อมได้บุญเพิ่มมากขึ้นไปอีก

พ่อแม่ที่ให้ร่างกายลูกมาก็เช่นเดียวกัน
ครูบาอาจารย์ที่สอนวิชชา/วิชา
ให้เราเอาไว้ใช้สร้างบารมีก็เช่นกัน
คนที่บริจาคสิ่งต่างๆให้เราก็เช่นกัน
เมื่อเรานำสิ่งที่ได้รับไปสร้างบุญ บุญย่อมถึงผู้ให้โดยไม่ต้องอนุโมทนา
แต่ถ้าเอาไปทำบาป เป็นคนละกรณีไม่เหมือนกัน เดี๋ยวมาต่อ

#14 NooF ประตูน้ำ ภาค 7

NooF ประตูน้ำ ภาค 7
  • Members
  • 21 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 August 2010 - 08:51 PM

ขอแสดงความคิดเห็นนิดนึงครับ

"ผมคิดว่าไม่ เป็นเหตุเป็นผล พระสัมมาสัมพุทธ สอนให้เราเชื่อในหลักเหตุและผล"
ตอบ
บางเหตุผลที่เป็นเรื่องละเอียด จะใช้วิธีใดหาเหตุครับ พระพุทธเจ้าท่านเหาะได้ เอาเหตุอะไรพิสูจน์ วันๆเอาแต่สงสัย แล้วจะไปนิพพาน
บ้างก็ว่า ก็เพราะเหตุนักสงสัยทั้งหลายจึงเชื่อว่าคนเราไม่มีวิญญาณ มีเพียงสมองเป็นตัวสั่งการ ผ่าเข้าไปหนะร่างกาย เห็นบ้างมั้ยดวงจิตมันอยู่ไหน
ถ้าสงสัยมากก็ปฏิบัติเอาให้เห็นให้ได้ก่อนว่า ใน 1 วินาที จิตมันเกิดดับไปแล้วกี่ครั้ง ค่อยไปสงสัยเรื่องอื่นจองจิตต่อ


"ลูกที่เกิดมาไม่เคยเห็นหน้าพ่อแม่ ไม่รู้ว่าท่านอยู่ไหน
เวลาเราบวช ท่านจะได้บุญไหม แล้วเวลาทำบาปล่ะ ท่าน จะมีส่วนแห่งบาปไหม น่าคิด"

ตอบ
ผู้ถามบอกว่านี่คือเรื่องน่าคิด แต่ผู้ตอบอยากบอกว่าเป็นเรื่องเสียเวลาคิด
คิดไปก็ไม่เห็นความจริงถ้าไม่ปฏิบัติจริง เดียวจะกลายเป็นมนุษย์เจ้าปัญหา อยากรู้ว่า ถ้าพ่อแม่เป็นมนุษย์ต่างดาวจะรับบุญได้มั้ย
.... เออ มนุษย์ต่างดาวมีจริงนะ ไม่รู้จะเชื่ออีกมั้ยอีกเดี๋ยวหาว่าพูดประชด ยาวแน่ๆถ้าเจอคนเอาแต่สงสัย tongue.gif

ลูกเป็นทายาทแห่งกรรมของพ่อแม่ กรรมที่พ่อแม่ทำทำไมบางคนมาตกกับลูก
เอ้าไม่ลองคิดมั่งนะเรื่องที่มันน่าจะเป็นคำตอบ แล้วนิพระพุทธเจ้าท่านก็ตรัสไว้แล้ว

ถ้าคนมันใฝ่ดี รู้ว่าการบวชเป็นสิ่งดี ไม่ว่าบิดารมารดาจะได้บุญหรือไม่ นั่นก็ย่อมเป็นสิ่งดีไม่เปลี่ยนแปลงไม่ใช่หรอ
ถ้าแบบนี้ ไอการอุทิศบุญนี้ก็คงน่าคิดไปด้วย เห็นอุทิศกันจัง เจ้ากรรมนายเวร ยัน เทวดา ท่านอยู่ไหนก็ไม่รู้ จะได้บุญมั้ยนะ ^^


"ผมคิดว่า พ่อแม่ กับ ตัวผู้บวช ดวงบุญบาปคนละดวงบุญกัน การที่พ่อแม่จะได้บุญกับลูกชาย
จะต้องอนุโมทนาบุญบวชของลูกชาย อย่างน้อยก็ต้องรู้ว่าลูกตัวเองจะบวช แล้วอนุโมทนาด้วย ไม่ว่าจะมีชีวิต หรือ ไม่มีชีวิต
"
ตอบ
ดวงบุญคนละดวง ไม่ลองสงสัยดูหรอ ทำไมถึงได้เกิดมาเป็นแม่ลูก ทำไมคนๆนี้ต้องเป็นลูกของคนนี้
เพราะเหนือกว่านั้นคือเรื่องของกฏแห่งกรรม ในเรื่องของสัญญากรรม ว่าไปเดี๋ยวก็สงสัยอีก tongue.gif

ไอแค่วิญญาณไมมีขันธ์5 มันจะมีน้ำยาอะไรไปสร้างความดีมากมายเท่ากับมีกายเนื้อนี้
ถ้าสิ่งที่ผมบอกไม่จริงเราคงไม่ต้องอุทิศบุญ แต่เราคงต้องไปตามขอบุญจากชาวโลกทิพย์แล้วหละ
แล้วกายนี้ใครหละอดทนเบ่งออกมา ถ้าเราเห็นว่าอ่อไอสิ่งนี้ผู้ให้คือมารดาและบิดา
เหตุนี้เราจึงเป็นสิ่งที่เป็นของบิดามารดา เราจะขอนำกายนี้ที่เป็นของบิดามารดานำมันมาสร้างความดี แล้วเหตุนี้ทำไมบุญท่านจะไม่ได้
ในเมื่อท่านยินดีแล้วตั้งแต่เมื่อวันแรกที่เรามีขันธ์ 5 o'o'o

เอ้าช่วยคิดให้ พ่อแม่ไม่รู้ตอนเป็น ตอนท่านละโลกไปท่านรู้ เดี๋ยวท่านอนุโมทนาเอง แบบนี้คงได้บุญอัตโนมัติตอนตายแล้วสินะ
หายสงสัยแล้วก็ปฏิบัติได้แล้ว o'o'o


ถ้าข้อความไหนดูเหมือนไม่สมควรผมขออโหสิกรรมด้วยนะครับ ^^

ผมเองเคยเป็นนักคิด สมัยนี้ก็เป็นแต่นักคิดแต่ก็รู้ทันเมื่อมันหลงไปคิดในบางที
สมัยก่อนที่พี่ชายจะชวนมาเข้าวัดพระธรรมกายพระเกจิที่ไหนดังก็ไป ปฏิบัติมาเกือบครบทุกสาย เป็นนักแสวงผล
สุดท้ายกลับพบว่า สิ่งที่ได้จากท่านคือความรู้ของท่านที่เรานำมาเป็นต้นแบบจนจำได้จนขึ้นใจ
ผลที่ได้จากการจำความรู้ของครูบาอาจารย์คือ กลายผู้ฟังแล้วคิด ตราบใดที่เรายังไม่ปฏิบัติจริงเราก็คงไม่ได้เป็นผู้รู้

เจริญธรรมครับ o'o'o

#15 usr35692

usr35692
  • Members
  • 13 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 August 2010 - 06:34 PM

เเล้วแบบนี้ ลูกที่เกิดมาไม่เคยเห็นหน้าพ่อแม่ ไม่รู้ว่าท่านอยู่ไหน เวลาเราบวช ท่านจะได้บุญไหม
QUOTE


ขอบคุณ สำหรับทุกคำตอบ ทำให้ผมรู้ความจริง ว่า สรุป พ่อแม่ ให้่ร่างกายเรามาทำความดี เวลาที่เราทำความดี พ่อแม่ก็ได้บุญ กับเราไม่ว่า ท่าน จะ รู้หรือ ไม่รู้ก็ตาม ท่านก็ได้บุญ กับเรา

แล้วเวลาทำบาปล่ะ ท่าน จะมีส่วนแห่งบาปไหม น่าคิด
QUOTE


ถึงแม้ว่าเราเอาร่างกาย ที่ท่านให้ ไปทำความชั่ว ท่านก็ไม่ได้ ผลกับเรา บาปใครบาปมัน เพราะท่านต้องการให้ร่างกายเรามาทำความดี เป็นคนดี เหมือนซื้อชุดอุบาสกมาแล้ว เอาไปให้คนอื่น เพื่อให้เขา เอาไปใส่ทำบุญ เราก็ได้บุญ ถ้าเขาใส่ชุดอุบาสกที่เราให้ ไปไล่ยิงคนอื่น เราไม่ได้มีส่วนแห่งบาป เพราะว่าผิดวัตถุประสงค์ ของผู้ให้

ผมคิดว่าไม่ เป็นเหตุเป็นผล พระสัมมาสัมพุทธ สอนให้เราเชื่อในหลักเหตุและผล
QUOTE


คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นคำสอนที่ สอนให้รู้จักเหตุผล จริงอยู่ แต่บางคำสอนเป็นเรื่อง อจินไตย เหนือวิสัย การคิดของมนุษย์ ไม่สามารถนำมาเทียบ แบบ ตรรกะ ได้ ทางคณิตศาสตร์ ได้ อยาดรู้กว่านี้ต้องนั้งสมาธิมากๆ แล้วจะรู้เอง

ขอบคุุณ NooF ประตูน้ำ ภาค 7 ที่ได้เสนอความคิดเห็น ได้ เผ็ด มากๆ แต่ได้ความรู้ดี การที่ผมคิดแล้วถาม ก็ไม่ได้หมาย ความว่าผมไม่ได้ปฏิบัติธรรม ผมรักการนั้งสมาธิมาก ที่ถามเพราะเป็นคำถามที่ นักเรียนอนุบาลน่าจะตอบได้ จะได้เปลี่ยน ความคิดให้เห็นถูกเป็นชอบ และการคิดเป็นเรื่อง ดี ถ้าเราคิดเป็น คือ คิดในสิ่งที่ควรคิด และ ไม่คิดในสิ่งที่ไม่ควรคิด เหมือนท่าน ลิมินทปัญหา ที่ท่านได้ตั้งคำถามสงสัยในข้อธรรมกับพระนาคเสน จนพระเจ้าลิมิน หมดข้อสงสัย จนเป็น สัมมาฐิธิ จนกลายเป็นแผ่นดินแห่งธรรม ขอบคุณครับ