ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

องค์ประกอบของสิ่งมีชีวิต


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 8 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 xlmen

xlmen
  • Members
  • 978 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 April 2006 - 06:56 PM

องค์ประกอบของสิ่งมีชีวิต


นิยามของสิ่งมีชีวิตอย่างที่เรารู้จักบนโลก

สิ่งมีชีวิตคืออะไร สิ่งมีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวิตมีความแตกต่างกันอย่างไร สิ่งมีชีวิตบนโลกมีหลายรูปแบบ (life form) นับตั้งแต่ แบคทีเรีย ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวมีโครงสร้างอย่างง่ายๆ จนกระทั่งสิ่งมีชีวิตชั้นสูง เช่น มนุษย์ เป็นสัตว์หลายเซลล์มีโครงสร้างที่สลับซับซ้อน อย่างไรก็ดีสิ่งมีชีวิตทุกอย่างบนโลกย่อมมีคุณสมบัติที่แตกต่างไปจากสิ่งไม่มีชีวิต ดังนี้

ข้อจำกัดทางอายุขัย สิ่งมีชีวิตดำรงอยู่เป็นวัฏจักร มีวัย อายุขัย และวงรอบชีวิตที่แน่นอน เช่น ยุงมีอายุขัย 7 วัน มนุษย์มีอายุขัยประมาณ 80 ปี ส่วนสิ่งไม่มีชีวิต เช่น ก้อนหินจะสิ้นอายุขัยตราบเมื่อผุพังหรือสึกกร่อน เปลวไฟมีอายุตราบเท่าที่มีเชื้อเพลิงหล่อเลี้ยง สิ่งไม่มีชีวิตไม่มีกำหนดอายุขัยเป็นคาบเวลาที่แน่นอน

การสืบพันธุ์ เนื่องจากสิ่งมีชีวิตทุกชนิดมีอายุขัยจำกัดเป็นคาบเวลา ดังนั้นจึงจำเป็นต้องสืบพันธุ์เพื่อจะดำรงเผ่าพันธุ์ของตัวเองไว้ การสืบพันธุ์จำเป็นต้องมีความสามารถในการคัดลอกคุณสมบัติของตัวเอง เช่น ลูกคนก็ต้องเป็นคน ลูกสุนัขก็ต้องเป็นสุนัข


วิวัฒนาการ สิ่งมีชีวิตมีความประสงค์ที่จะคงเผ่าพันธุ์ของตัวเองไว้ ดังนั้นจึงต้องมีความสามารถในการปรับตัวเองให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป โดยที่การคัดลอกตัวเองในการสืบพันธุ์นั้น จะมีการกลายพันธุ์ทีละเล็กน้อยอย่างช้าๆ ในระยะเวลาที่ยาวนาน เช่น นกวิวัฒนาการมาจากไดโนเสาร์

โครงสร้างร่างกาย ในการดำรงชีวิตและสืบพันธุ์ สิ่งมีชีวิตจำเป็นจะต้องมี ร่างกาย พลังงาน และชุดคำสั่งทางพันธุกรรม เพื่อสั่งให้เซลล์แต่ละเซลล์ทำงาน นั่นหมายความว่า ชีวิตเป็นทั้งสสาร พลังงาน และข่าวสาร

กระบวนการเผาผลาญอาหาร สิ่งมีชีวิตไม่สามารถดำรงอยู่ได้โดยปราศจากการปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมภายนอก ร่างกายต้องการวัตถุดิบเพื่อสร้างโครงสร้างและพลังงาน โดยอาศัยกระบวนการเผาผลาญอาหาร (Metabolic process) ซึ่งปลดปล่อยผลผลิตและสิ่งเหลือใช้ กลับคืนสู่สิ่งแวดล้อม





ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.lesa.in.t...e_structure.htm




#2 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 21 April 2006 - 03:57 PM

สาธุกับข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ด้วยนะครับ ส่วนข้อมูลแท้ๆ ทางพุทธศาสตร์นั้น จะเหมือนหรือแตกต่างกับวิทยาศาสตร์หรือไม่อย่างไร เราก็คงต้องศึกษากันต่อไป
เช่น วิทยาศาสตร์บอกว่า นกวิวัฒนาการมาจากไดโนเสาร์ หรือ คนวิวัฒนาการมาจากลิง
แต่ พุทธศาสตร์ กลับบอกว่า นก ไดโนเสาร์ ลิง และสัตว์ทุกชนิดที่มีวิญญาณครอง ล้วนวิวัฒนาการมาจาก คน ทั้งสิ้น
แรกเริ่มในยุคต้นกัป เป็นคน แต่ต่อมา ด้วยวิบากกรรมทีทำ จึงทำให้ไปเกิดเป็นสัตว์ต่างๆ (น่าจะเรียก หายนาการ มากกว่า วิวัฒนาการ) ที่นี้ถามว่า อยู่ดีๆ จากคน ทำกรรม ตายไปชดใช้กรรมแล้ว จะมาเกิดเป็นสัตว์นั้นๆ ยกตัวอย่าง นก ได้อย่างไร ในเมื่อตอนต้นกัป ยังไม่มีพ่อแม่ของนก จะไปเข้าท้องคนคนไหน แล้วมากลายเป็นนกเหรอ
คำตอบคือ วิญญาณนั้นไม่ได้ไปเข้าท้องคน เพื่อให้มาเกิดเป็น นก ครับ แต่วิญญาณที่ทำบาปนั้น จะถูกโปรแกรมโดยแรงกรรมให้รอจังหวะที่เหมาะสม รอจังหวะอะไร ก็รอจังหวะที่สัตว์ในอบายภูมิของกัปอื่นๆ ที่ถูกทำลาย ถูกหอบมากัปใหม่กัปนี้ด้วยแรงกรรม ตอนแหละ นก (จากกัปอื่น) ก็จะมาเกิดแบบ โอปปาติกะ (ต่อให้วิทยาศาสตร์พัฒนาไปอีกหลายปี ก็ไม่มีวันเข้าใจว่า นก หรือ สัตว์ทุกชนิด ครั้งแรก เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ยังคงเดาต่อไปว่า วิวัฒนาการ) แล้วเมื่อเกิดแบบ โอปปาติกะ แล้ว ตอนนี้ ก็จะสืบพันธุ์ มีลูกมีหลาน แล้ว วิญญาณที่มีกรรม ก็จะถูกโปรแกรม ให้มาเกิดในท้อง เจ้านกพวกนี้นี่เอง

สัตว์อื่นๆ (ที่มีวิญญาณครอง) ก็เป็นไปแบบเดียวกัน
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#3 CEO

CEO
  • Members
  • 577 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:พระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกาย

โพสต์เมื่อ 29 April 2006 - 12:46 AM

โลก แบ่งเป็น 5 ยุค
1.ความดี 4 ส่วน ความชั่ว 0 ส่วน
2.ความดี 3 ส่วน ความชั่ว 1 ส่วน
3.ความดี 2 ส่วน ความชั่ว 2 ส่วน
4.ความดี 1 ส่วน ความชั่ว 3 ส่วน
5.ความดี 0 ส่วน ความชั่ว 4 ส่วน
สร้างบารมีทุกวินาที
แม้ชีวิตนี้ก็ให้ได้

#4 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 02 May 2006 - 08:18 PM

QUOTE
โลก แบ่งเป็น 5 ยุค
1.ความดี 4 ส่วน ความชั่ว 0 ส่วน
2.ความดี 3 ส่วน ความชั่ว 1 ส่วน
3.ความดี 2 ส่วน ความชั่ว 2 ส่วน
4.ความดี 1 ส่วน ความชั่ว 3 ส่วน
5.ความดี 0 ส่วน ความชั่ว 4 ส่วน

ผมขอช่วยขยายความดังนี้ครับ
หมายเลข ๑ คือ ยุคของพระกกุสันโธ ไม่มีใครไปบังเกิดในอบายภูมิเลย
หมายเลข ๒ คือ ยุคของพระโกนาคม ไปสุคติภูมิ ๓ ส่วน ไปอบายเสีย ๑ ส่วน
หมายเลข ๓ คือ ยุคของพระกัสสปะสัมมาสัมพุทธเจ้า ไปสุคติภูมิ = อบายภูมิ
หมายเลข ๔ คือ ยุคของพระสมณโคดม ไปสุคติภูมิ ๑ ส่วน ไปอบายเสีย ๓ ส่วน
หมายเลข ๕ คือ สุญญกัป หมายถึง กัปที่ไม่มีพระพุทธเจ้ามาบังเกิดขึ้น เมื่อนั้น โลกย่อมถึงแก่กาลพินาศฉิบหาย เพราะสรรพสัตว์ทั้งหลายพากันไปสู่อบายทั้งสิ้น


#5 xlmen

xlmen
  • Members
  • 978 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 May 2006 - 03:00 PM

QUOTE
หมายเลข ๕ คือ สุญญกัป หมายถึง กัปที่ไม่มีพระพุทธเจ้ามาบังเกิดขึ้น เมื่อนั้น โลกย่อมถึงแก่กาลพินาศฉิบหาย เพราะสรรพสัตว์ทั้งหลายพากันไปสู่อบายทั้งสิ้น

โอ้มหัศจรรย์มากครับ รบกวนถามน้องก้องฯเพิ่มหน่อยสิครับว่า
ในกัปนี้ชื่อว่าภัทรกัปหลังจากพระพุทธเจ้าพระโคดม จะต้องตามมาด้วยพระศรีอริยเมตรัยเหตุใดจึงปรากฎว่า
มีสุญญกัปตามมาด้วยหละครับ และการที่กัปไขลงแบบนี้ในขณะที่พระศรีอารย์ท่านจะต้องมาบังเกิดในช่วงเวลา
ที่มนุษย์อายุขัยถึง 80,000 ปี ซึ่งถือเป้นกัปไขขึ้นไม่สวนทางกันหรือครับ???
หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน

#6 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 03 May 2006 - 05:25 PM

QUOTE
ในกัปนี้ชื่อว่าภัทรกัปหลังจากพระพุทธเจ้าพระโคดม จะต้องตามมาด้วยพระศรีอริยเมตรัยเหตุใดจึงปรากฎว่า
มีสุญญกัปตามมาด้วยหละครับ และการที่กัปไขลงแบบนี้ในขณะที่พระศรีอารย์ท่านจะต้องมาบังเกิดในช่วงเวลา
ที่มนุษย์อายุขัยถึง 80,000 ปี ซึ่งถือเป้นกัปไขขึ้นไม่สวนทางกันหรือครับ???

ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับพี่อ๊อฟ ช่วงสุญญกัปที่ว่านี่ จะเป็นช่วงหลังยุคของพระศรีอาริยเมตตรัยไปแล้วครับ ไม่ใช่ช่วงรอยต่อระหว่างพระสมณโคดมกับยุคที่ท่านจะลงมาตรัสรู้นะครับ


#7 xlmen

xlmen
  • Members
  • 978 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 May 2006 - 12:40 PM

QUOTE
ช่วงสุญญกัปที่ว่านี่ จะเป็นช่วงหลังยุคของพระศรีอาริยเมตตรัยไปแล้วครับ ไม่ใช่ช่วงรอยต่อระหว่างพระสมณโคดมกับยุคที่ท่านจะลงมาตรัสรู้นะครับ

อ้อเข้าใจแล้วครับ ขอบใจน้องก้องฯ มากครับสา.....ธุครับ
หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน

#8 ป่าน072

ป่าน072
  • Members
  • 371 โพสต์
  • Location:โคราช
  • Interests:การศึกษาต่อในวิชา วิทยาศาสตร์<br />วิศวะปิโตรเคมี

โพสต์เมื่อ 22 August 2006 - 04:31 PM

เข้าใจละ
เมื่อดวงตาปิดสนิมอย่างละมุน
ไม่มีลุ้นเร่งจองมองที่หมาย
ก็จะพบผู้รู้อยู่กลางกาย
ธาตุอ่อนแก่มากมายถึงปลายทาง

#9 นักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยว
  • Members
  • 2378 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:รู้สึกว่าจะไม่ค่อยได้อยู่กะที่อ่ะ มาดูอารายกานอ่ะ
  • Interests:มาสร้างบารมีตามติดหมู่คณะดีกว่า

โพสต์เมื่อ 17 October 2006 - 09:11 PM

อ๋อ ที่เราได้เรียนตอนเด็กๆๆนิไม่แน่ใจ ขอบคุณนะครับที่เอามาให้ศึกษาครับอนุโมทนา
กายธรรมควรเทิดไว้ ในใจ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ


เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี