ผมเคยอ่านหนังสือการ์ตูนที่มีภาพวาดประกอบ แบบเล่มเดียวจบ ราคาสัก 2 บาท
จำชื่อเรื่องไม่ได้แล้ว แต่ยังพอจำเค้าโครงเรื่องได้
อ่านจบแล้วก็ตั้งคำถามว่า
เรื่องแบบนี้ก็มีด้วยหรือ คือ
บางครั้งคนเราต้องทำความชั่วเพื่อรักษาความดี ?
เนื้อเรื่องโดยย่อมีว่า
ในปัจจันตชนบทแห่งหนึ่ง มีพระครูเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง ยังหนุ่มแน่น
พระครูรูปนี้ออกบวชเรียน บรรพชาเป็นสามเณรตั้งแต่เด็ก ด้วยสาเหตุใดก็จำไม่ได้ว่า
ท่านบวชเพราะศรัทธาในพระศาสนา หรือ
โยมทางบ้านฐานะไม่ร่ำรวย ทำให้ท่านรู้สึกด้อยโอกาสทางการศึกษาทางโลก
จึงทำให้หันมาศึกษาทางธรรม กันแน่
แต่ด้วยขยันหมั่นพากเพียร ศึกษาทางธรรม ได้เปรียญธรรมชั้นเอกเมื่ออุปสมบทได้ไม่กี่พรรษานัก
ชื่อเสียงดีงามของท่านข้ามไปหลายหมู่บ้าน เหตุเพราะว่า รูปก็งาม เสียงเทศนาก็เสนาะเพราะพริ้ง
และด้วยความขยันในกิจสงฆ์ และรักการปฏิบัติธรรม รักสันโดษ
ท่านจึงเป็นที่รักและยอมรับของสหธรรมิกและพระผู้ปกครองสงฆ์ รวมถึงญาติโยมด้วย
และได้เป็นเจ้าอาวาสในที่สุด
และด้วยความมีชื่อเสียงอันดีงามของท่านนี้เอง ต่อมาทำให้ชีวิตสมณะของท่านต้องผันแปร
เรื่องมีอยู่ว่า บรรดาสาวงามประจำหมู่บ้านและหมู่บ้านใกล้เคียง ให้ความสนใจท่านมาก
จนถึงขั้นเกิดการแข่งขัน ความงามของสาวแต่ละหมู่บ้าน ในทางที่ผิด คือ
เกิดค่านิยมผิดๆในสังคมของบรรดาสาวงาม รวมไปถึงหมู่ญาติว่า
สาวงามคนใด สามารถพิชิตใจ พระครูได้ ก็จะได้การยอมรับว่า สาวนั้นงามหลายเด้อ
และถือเป็นเกียรติแก่งวงศ์ตระกูล ถ้าได้พระครูท่านนี้มาเป็นลูกเขย ของตระกูล
จากนั้นกลอุบาย และมารยาแห่งสตรีแต่ละหมู่บ้าน ก็เข็นออกมาคนละหลายเล่มเกวียน
ตั้งแต่ปรุงแต่ง
รูป สรีระกาย ด้วยอาภรณ์ และเครื่องประดับนานาชนิด
เสียง ประดิดประดอยคำพูดและน้ำเสียงหลายระดับหลายอารมณ์
กลิ่น น้ำอบ น้ำปรุง อะไรที่ว่าหอม สรรหากันมาได้
รส ภัตตาหาร อุตส่าห์ซื้อใจ เดินหิ้วปิ่นโตหลายเถา ข้ามคันนา ข้ามหมู่บ้าน
ฝ่าป่าช้า ป่าชัฏ กว่าจะถึงกุฏิพระครู
สรรหาเรื่องแวะเวียนมาวัด มากุฏิพระครู
อ้างว่า มาร่วมสร้างเสนาสนะ สร้างกุฏิ ศาลา เป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่า ทอดกฐินบ้าง
อ้างว่า มาฟังธรรมอันวิจิตรตระการจากพระครูบ้าง
รวบรัดตัดตอนว่า สาวงามต่างหมู่บ้านนางหนึ่ง ทำให้พระครู สละสังฆะภาวะ มาอยู่กะบังอร
ช่วงปีแรกของการครองเรือน ชีวิตของท่าน รื่นรมย์ สมปรารถนา
ลูกสาวบ้านนี้รวมถึงวงศ์ตระกูล พลอยมีชื่อเสียงไปไกลหลายละแวก
ทั้งภรรยาและหมู่ญาติให้เกียรติท่านมาก
ท่านต้องช่วยทำนา แบกไถ เทียมควายไปไถนา กรำงานหนักว่าเป็นพระครูซะอีก
แต่ภรรยาและพ่อตา แม่ยายก็ดูแลท่านอย่างดี
ยังไม่ทันผ่านชีวิตครองเรือนขั้นนวกะ ( 5 ปี ) วิถีชีวีท่านก็ไม่จีรัง
จากที่เคยได้รับเกียรติและปิยวาจา จากเมียและหมู่ญาติ ก็มาเป็นคำผรุสวาจา
ด่าทอ จิกใช้ทำงานบ้านสารพัด
เพราะ
1 ) เมียและครอบครัว ไม่ได้รักท่านด้วยน้ำใสใจจริง แต่เป็นการแข่งขัน แย่งชิง ท่านเพื่อ
ให้ชาวบ้านยอมรับว่าลูกสาวบ้านนี้งามเลิศ ที่สามารถพรากท่าน จากผ้ากาสายะ ไม่มีสาวบ้านใดทำได้
และรู้สึกรู้สาไปเองว่า เป็นชื่อเสียงและเกียรติของวงศ์ตระกูล
2 ) ความเห่อมันคลายตัว อุปมาเหมือนลูกสาวบ้านนี้ ได้สามีเป็น ดารานักแสดงชื่อดัง
ปีแรกๆ ชาวบ้านอาจมองด้วยความยกย่อง ปนอิจฉา ต่อๆมาก็คุ้น – เคยชิน เป็นธรรมดา
และเลิกเห่อไปเอง
3 ) ไม่น่าเชื่อนะว่า สายตาของชาวบ้านที่เปลี่ยนไป ทำให้เมียและแม่ยาย
ขัดเคืองใจที่ไร้สายตาชื่นชมปนอิจฉา
สุดท้ายเมียและแม่ยายก็แสดงนิสัยไม่ดีที่แท้จริงออกมา ทั้งด่าทอ จิกใช้ทำงานบ้านสารพัด
ชีวิตของท่านช่วงนี้ กายทุกข์ระทม ขมขื่นใจยิ่งนัก
ภาพมายากลายมาเป็นภาพจริง
ท่านรู้สึกว่า ถูกเมียรักหลอกให้หลงสละผ้ากาสายะ มาอยู่กะนงคราญ
เมื่อพิจารณาถ้วนถี่ถึง อดีตที่มีความสุข สงบ สันโดษในสมณะเพศ และรสแห่งธรรมปฏิบัติ
จึงเบื่อหน่าย คลายกำหนัด เห็นทุกข์โทษการครองเรือน เห็นภัยในสังสาร
ประกอบด้วยความเป็นผู้สั่งสมปัญญาทางธรรมมามาก ท่านจึงคิดปฏิวัติตนเองแบบฉับพลัน
โดยใช้กุศโลบาย
ทำความชั่ว เพื่อรักษาความดี ( อันนี้ตั้งเอง )
ท่านตื่นสาย ไม่ไปทำนา ไม่ทำงานบ้าน พูดจาหยาบคาย ด่าทอเมียและหมู่ญาติ
อย่างที่ใครๆไม่อาจคาดคิด
อีกทั้งแสดงละครเป็นนักเลงสุรา เมาหยำเปในตลาด พูดจาหยาบคาย กับทุกคน
เป็นที่น่ารังเกียจของชาวบ้านยิ่งนัก
จากภาพเทพบุตรของท่านในสายตาของชาวบ้าน มาเป็นภาพผีห่า ซาตานเข้าสิง อย่างที่ไม่มีใครเคยเห็น
จากเสียงชื่นชมคนบ้านเมีย มาเป็นเสียงด่าทอ ให้เมียและหมู่ญาติอับอาย ไม่กล้าไปตลาด
สุดท้ายเมียก็ไล่ท่านออกจากบ้าน แบบตายก็ไม่ต้องเผาศพกันอีก
555 .. 555 ชิตังเม
ผ่านไปไม่กี่เดือน มีข่าวว่า .....
ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นในหนังสือ คือ พระธุดงค์หนุ่ม แบกกลด สะพายบาตรเดินในป่า
มีคำบรรยายเกี่ยวกับข้อคิดธรรมะที่ ทำให้ผม ซึม รู้สึกปลงอะไรบางอย่างที่ตอนนั้นผมก็ไม่รู้ว่าปลงอะไร
และรู้สึกชอบ อ่านหนังสือที่ให้ข้อคิด คติธรรม มากขึ้นกว่าเดิม
.......
ปุจฉา
1 ) เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ สมาชิก MDC คิดว่า การทำความชั่ว(บางอย่าง) เพื่อรักษาความดี มีในโลกหรือไม่ ?
2 ) นิทานเรื่องนี้ ได้ข้อคิดอย่างไร บ้างครับ ?