สงสัยเหมือนกันค่ะ
#1
โพสต์เมื่อ 10 August 2008 - 10:24 PM
#2
โพสต์เมื่อ 10 August 2008 - 11:58 PM
ถ้าทำทุกๆ วัน กิจวัตรนั้น บุญนั้นๆ จะฝังแน่น ติดอยู่ที่ศูนย์กลางกาย เหมือนสร้างเป็นผังสำเร็จเลยทีเดียว คือปลื้มทุกๆ วัน สามารถนึกถึงบุญได้อย่างง่ายดายมาก คือใจเกาะเกี่ยวอยู่กับบุญอย่างแน่นแฟ้น
จำได้ว่ามีเคสนึงที่ ทำหน้าบ้านให้เป็นโรงทานทุกเช้า ตายไปได้ไปสวรรค์ชั้นนิมิตปรดี(ไม่รู้งี้ป่าวนะ) ถ้าหาเคสได้แล้วจะเอามาโพสต์ให้อ่าน
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#3
โพสต์เมื่อ 10 August 2008 - 11:59 PM
แบบแรก ทำบุญครั้งใหญ่ นาน ๆ ทำสักที พอบุญส่งผล ก็นาน ๆ ส่งที บางคนทำการค้า นาน ๆ จะได้กำไรก้อนโต ๆ ที หรือ เป็นพนักงานบริษัท นาน ๆ จะได้รับโบนัสสักที
ถ้าทำได้อย่างสม่ำเสมอ ใจก็ผูกพัน ติดในการทำบุญระยะยาว ระยะเวลาก็ส่งผลยาว คล้ายกับว่าแทนที่จะได้กำไรเป็นก้อนโต ๆ ทีเดียว ก็มาเป็นงวด ๆ
ถ้าทำก้อนเล็ก ๆ ก็จะได้เป็นงวด เล็ก ๆ ตามแต่บุญแต่ละงวดจะส่งผล
อันนี้ก็แล้วแต่อุปนิสัยของแต่ละคน ว่า จะชอบอย่างไร
#4
โพสต์เมื่อ 11 August 2008 - 06:29 AM
#5
โพสต์เมื่อ 11 August 2008 - 12:30 PM
๒ อย่างไหนจะได้บุญมากกว่ากัน
ลองพิจารณาสำหรับข้อที่ ๑
การทำทานก็เป็นการสั่งสมบุญ เพื่อเป็นสะเบียงเอาไว้ใช้ในโลกนี้และโลกหน้า บุญที่สั่งสมไว้จะถูกใช้ไปบางส่วนเพื่อตัดลอนวิบากกรรมที่จะเข้ามาหาเรา เราจึงไม่มีอุปสรรค หรือเจ็บไข้ได้ป่วย หรือบุญจะทำให้เราได้ทรัพย์สมบัติ การค้าดีขึ้น
บุญที่เราสั่งสมมาก็จะลดน้อยลงไปจนหมด ถ้าไม่ทำทานเพิ่มอีก
ถ้านานๆทำทาน บุญอาจส่งผลไม่ทันกับวิบากกรรมนั้นๆ เราก็จะพบกับอุปสรรคก่อนเสมอ แล้วถึงจะดีภายหลังเมื่อบุญส่งผล หรือขณะรอทำทาน เกิดเสียชีวิตเพราะกรรมเก่าตามมาทัน ก็จะหมดโอกาสทำบุญ
ลองพิจารณาสำหรับข้อที่ ๒
การทำทานด้วยปัจจัย จะได้บุญมากน้อย ขึ้นอยู่กับ:
๑ ปัจจัยต้องบริสุทธิ์
๒ ทำทานกับเนื้อนาบุญที่บริสุทธิ์ เช่น พระสงฆ์องค์เจ้า ก็จะได้บุญมากกว่า ทำทานกับคนพาล
๓ จิตบริสุทธิ์ ก่อนทำ ขณะทำ และหลังทำ
ฯลฯ
ถ้าการทำทานมาก แต่ไม่เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ก็จะได้บุญน้อยครับ
ลองพิจารณาดูนะครับ
#6
โพสต์เมื่อ 11 August 2008 - 01:51 PM
ขอตอบว่า ทำทุกวันค่ะ ทำอย่างเต็มที่ และเต็มกำลังค่ะ
เพราะ
1. เอาแบบเข้าใจง่ายๆนะคะ คุณไม่รู้หรอกว่า นาทีต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับคุณบ้าง
เพราะฉะนั้น พร้อมทำ ทำเลยค่ะ ไม่ต้องรอ
เพราะหลายๆครั้ง ที่เราได้ยินว่า กำลังจะไปทำบุญ กำลังจะไปวัด แต่เกิดนั่น เกิดนี่ เสียก่อน เลยไม่ได้ทำ
น่าเสียดายค่ะ
2. เคยค่ะ คิดว่า จะสะสมปัจจัยเอาไว้ก่อนแล้วค่อยไปทำทีเดียว เลยกลายเป็นขี้เหนียวบุญ คือ
พอมีคนมาบอกบุญ ก็ปฏิเสธไป หลายๆบุญ เพราะคิดแต่ว่า จะรอสะสมให้เป็นก้อนใหญ่ เลยไม่ได้ทำ
เดี๋ยวนี้คิดได้แล้วค่ะ ทำทุกบุญค่ะ ไม่อย่างนั้น ถ้ารอพรุ่งนี้ พรุ่งนี้ เกิดพรุ่งนี้ไม่ตื่นขึ้นมา เลยจะไม่ได้ทำสักบุญ
ขอตอบเท่านี้ก่อนนะคะ พอดีต้องไปธุระ เดี๋ยวมาตอบต่อค่ะ
อ้อ...อย่าลืมนะคะ บุญ ทำได้ตลอดเวลา ไม่ต้องรอแต่บุญที่ต้องใช้ปัจจัย
ถือศีล 5 เข้าไว้ ไม่ต้องใช้เงิน ก็ได้บุญแล้ว ได้เยอะด้วยค่ะ
ทำกับข้าวให้ คุณพ่อ คุณแม่ นั่นก็บุญค่ะ
แถมบุญใหญ่ เลยนะคะ เพราะเรามีโอกาสได้ทำบุญกับพระอรหันต์ในบ้านของเรา
พ่อ - แม่ คือพระอรหันต์ของลูก
บุญรักษาทุกท่านค่ะ
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ
#7
โพสต์เมื่อ 11 August 2008 - 03:42 PM
แต่คนรอเก็บก้อนโต คิดเหรอว่า จะไม่โดนแซกแซง ชีวิตคนเราไม่แน่นอน เงินที่เก็บเพื่อจะทำบุญก้อนโต ๆ เป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ไม่ควรละเว้นบุญอื่น ๆ ด้วย หากไม่ทำเลยระหว่างเก็บเงินก้อนโตนั่น มันมีความเสี่ยงอยู่เหมือนกัน ซึ่งอาจไม่มีโอกาสได้ทำอย่างตั้งใจก็ได้ เพราะฉะนั้น มีทำก็ควรทำไปเรือยๆ แม้มันจะเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้บุญสั่งสมไปเรื่อยๆ เต็มทีเต็มกำลังเต็มใจแล้วจะทำบุญก้อนโตๆ ตามทีหลังก็ไม่ว่ากัน แล้วแต่ตัดสินใจกันเองค๊า ว่าเลือกออกแบบชีวิตแบบไหน ดีหมดทั้งสองอย่าง ขอให้ได้ทำเถอะค๊า
#8
โพสต์เมื่อ 11 August 2008 - 04:30 PM
พูดตามหลักวิชชา คือ ชีวิตจะได้อยู่ในบุญตลอดเวลา ทุกนาทีมีแต่บุญๆๆๆๆ บาปจะช่องแทรกไมไ่ด้เลย เพราะเราไม่รู้หรอกว่า วิบากกรรมเก่า ที่เคยทำไว้ในอดีตจะหาช่องเสียบได้เมื่อไหร่ ศูนย์กลางกายเราเหมือนเก้าอี้ดนตรี ถ้าบุญจองอยู่ บาปก็เข้าไมไ่ด้ครับ
แต่ถ้านานๆทำที แน่ใจหรือว่า ถึงวันนั้นจะมีชีวิตอยู่ไปถึง วันนั้นจะยังคงรักษาศรัทธาเอาไว้ได้ และทรัพย์จะไม่ถูกทำลายไป ด้วยทางใดทางหนึ่ง
ด้วยความเคารพครับ
#9
โพสต์เมื่อ 12 August 2008 - 10:59 AM
สาธุ สาธุ สาธุ..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..
#10
โพสต์เมื่อ 13 August 2008 - 09:39 AM
#11
โพสต์เมื่อ 14 August 2008 - 11:45 PM
สาธุ