ชีวประวัติโดยย่อของนอสตราดามุส

...นอสตราดามุสมีพื้นเพสืบเชื้อสายมาจากยิว เพราะเป็นที่แน่นอนว่าเขาได้รับอิทธิพลจากการที่ได้เคยอ่านตำรับตำราไสยศาสตร์ของพวกยิว ยิ่งไปกว่านั้น นักเขียนชีวประวัติหลายต่อหลายคนยังอ้างด้วยว่า ตระกูลของนอสตราดามุสสืบเชื้อสายมาจากยิวโบราณเผ่าอิสซาการ์ ซึ่งเป็นพวกที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านดาราศาสตร์มาก สามารถตีความปรากฏการณ์ ธรรมชาติต่าง ๆ ที่ปรากฏบนท้องฟ้าได้ โจเซฟุสนักประวัติศาสตร์ชาวยิวเคยกล่าวถึงยิวเผ่าอิสซาการ์นี้ว่า เป็นพวก “ที่สามารถหยั่งรู้สิ่งทั้งหลายซึ่งจะอุบัติขึ้นในอนาคตได้”...
...ด้วยเหตุที่ครอบครัวของนอสตราดามุสมีภูมิหลังเป็นยิว คณะกรรมการฝ่ายศาสนจักรจึงจับตามองเป็นพิเศษกว่าคนเผ่าอื่น ดังนั้น เพื่อป้องกันอันตรายให้แก่บุตร ซึ่งอาจถูกกล่าวหาจากฝ่ายศาสนจักรได้ บิดามารดาจึงตัดสินใจส่งนอสตราดามุสไปศึกษาวิชาการแพทย์ เขาใช้เวลาศึกษาอยู่เพียง 3 ปี ก็สามารถสำเร็จปริญญาตรีทางด้านการแพทย์อย่างง่ายดายเป็นประวัติการณ์ นอสตราดามุสมีชื่อเสียงโด่งดังและได้รับการยกย่องทั่วฝรั่งเศส ในฐานะที่เป็นแพทย์ผู้อุทิศตนเพื่อคนไข้อย่างแท้จริง เขาชอบสงเคราะห์คนไข้ผู้ยากไร้ในชนบทมากกว่าคนไข้ผู้ร่ำรวยในเมืองใหญ่ ๆ
นอสตราดามุสยังใช้เวลาว่างเข้าไปศึกษาอยู่ในสำนักของพวกนักเล่นแร่แปรธาตุชาวยิว ซึ่งสมัยนั้นเป็นสำนักเล่นแร่แปรธาตุที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก เขาเป็นคนที่มีนิสัยไม่ชอบอยู่ที่ใดเป็นหลักแห่งและน่าจะเริ่มสนใจไสยศาสตร์และศาสตร์ลี้ลับต่าง ๆ ในช่วงที่ไปอยู่ที่เมืองอาวิยองเมื่อครั้งได้เดินทางไปที่นั่นเพื่อศึกษาค้นคว้าวิธีรักษาโรคกาฬซึ่งระบาดหนักในขณะนั้น เพราะจากหลักฐานทางเอกสารปรากฏว่า ในสมัยนั้นเมืองนี้มีห้องสมุด ซึ่งมีหนังสือประเภทลึกลับมหัศจรรย์อยู่มากมายก่ายกอง
...ได้มีการสร้างทฤษฎีหลายทฤษฎีเพื่อนำมาศึกษาว่า นอสตราดามุสสามารถพยากรณ์เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ได้อย่างกว้างไกลและแม่นยำได้อย่างไร ในข้อนี้ นอสตราดามุสก็ไม่ได้พยายามปกปิดเทคนิคที่เขานำมาใช้ในการพยากรณ์แต่อย่างใด จะเห็นได้จากในสมัยที่นอสตราดามุสยังมีชีวิตอยู่นั้น วิชาโหราศาสตร์มีความเจริญก้าวหน้าถึงขีดสุด เมื่อเขาตีพิมพ์ประมวลคำโคลงพยากรณ์ของตัวเองชื่อ Les Vrayes Centuries เป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2098 นั้น เป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไปว่า เขาพยากรณ์เหตุการณ์ต่างๆได้โดยใช้วิธีการสังเกตบนท้องฟ้า ซึ่งก็เป็นทำนองเดียวกับที่พวกโหรชาวอัสซีเรียและชาวบาบิโลเนียสมัยโบราณเคยใช้ในเวลาศึกษาวิชาโหราศาสตร์นั่นเอง
นอสตราดามุสไม่เคยปฏิเสธว่าวิธีการมองตรวจสอบบนท้องฟ้าเป็นวิธีหนึ่งที่เขาใช้ประกอบในการพยากรณ์ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ยอมรับอีกด้วยว่าได้ใช้วิธีการอย่างอื่นๆอีกด้วยเช่นกัน เช่น โดยการเพ่งมองที่ผิวน้ำนิ่งในอ่างที่นำมาวางไว้บนขาหยั่งทองเหลืองชนิดสามขา ทำนองเดียวกันกับที่พวกหมอดูชาวยิปซีพยากรณ์เหตุการณ์โดยวิธีมองที่ลูกแก้ว แต่เราก็ยังไม่แน่ใจว่าเขาใช้วิธีการเหล่านี้อย่างเดียวหรืออาจจะมีวิธีการอย่างอื่นอยู่ด้วย เป็นต้นว่า การทรงเจ้าเข้าผี การใช้เวทมนตร์คาถา การเลี้ยงผี การใช้ไพ่หมอดู อย่างไรก็ตามก็พอจะหาข้อสรุปได้ว่าพลังความรู้ที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวเขาสามารถรอบรู้เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ได้อย่างลึกล้ำ ซึ่งบางทีความรู้ของเขานี้อาจจะมีพลังในการควบคุมหรืออย่างน้อยก็มีอิทธิพลต่อเหตุการณ์สำคัญๆในประวัติศาสตร์บางอย่างที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่นอสตราดามุสยังไม่เคยเปิดเผยหรือแม้แต่แย้มพรายให้เราได้ทราบเลยว่า พลังความรู้ที่เขามีอยู่นั้นมันคืออะไรกันแน่ หรือว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังที่ทำให้เขาได้พลังความรู้เช่นนั้น อาจจะเป็นไปได้ว่าแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าพลังอันลึกลับที่ควบคุมปรากฏการณ์ที่ทำให้เขาสามารถเห็นเหตุการณ์ในอนาคตได้นั้นคืออะไรกันแน่
นอสตราดามุสรู้ตัวเป็นอย่างดีว่าตัวเองกำลังเล่นเกมที่มีอันตรายรอบด้าน เพราะในสมัยนั้นเป็นยุคเฟื่องฟูของวิชาไสยศาสตร์และโหราศาสตร์ ประชาชนพากันลุ่มหลงงมงายในเรื่องเหล่านี้มาก จนฝ่ายศาสนจักรคาทอลิกทนนิ่งนอนใจอยู่ไม่ได้จึงหาทางกำจัดด้วยการตั้งศาลศาสนาขึ้นสอบสวนและชำระโทษผู้ที่คลั่งไคล้ในเรื่องเหล่านี้ และได้มีการลงโทษด้วยวิธีการรุนแรงมาก มีประชาชนหลายล้านคนถูกจับไปเผาทั้งเป็นที่หลักประหาร หรือมิฉะนั้นก็ถูกนำตัวไปทรมานโดยวิธีการต่าง ๆ ในข้อหาว่าเป็นพวกกระทำการนอกรีตนอกรอยศาสนาหรือคลั่งไคล้ในไสยศาสตร์ นอสตราดามุสได้หาทางป้องกันอันตรายจากการที่อาจถูกกล่าวหาในทำนองนั้นจากฝ่ายศาสนจักร โดยวิธีทำให้คำพยากรณ์ของเขาเกิดความสับสนด้วยการใช้ภาษาหรือสัญลักษณ์ต่างๆเขียนผสมผเสปนเปกันจนจับต้นชนปลายไม่ได้ เขาเขียนคำพยากรณ์โดยการใช้ภาษาฝรั่งเศสโบราณบ้าง ใช้วิธีสลับตัวอักษรบ้าง ใช้ภาษาละตินหรือภาษาเก่าๆอื่นๆ บ้าง ทั้งนี้โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อตบตาคณะกรรมการสอบสวนผู้กระทำผิดของฝ่ายศาสนจักรที่อาจจะมาเคาะประตูเพื่อขอตรวจค้นบ้านของเขาเมื่อใดก็ได้ และเท่าที่ทราบนอสตราดามุสไม่ได้มอบกุญแจที่จะใช้ไขคำพยากรณ์ของเขาไว้กับผู้ใด
นอสตราดามุสสามารถมองเห็นอนาคตและได้เขียนสิ่งที่เขาเห็นนั้น ๆ ลงในคำพยากรณ์บทละ 4 บรรทัด มีทั้งหมดถึง 1,000 บท แต่ละบทเป็นคำพยากรณ์เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับเหตุการณ์บางอย่าง ซึ่งได้ใช้คำที่เป็นสัญลักษณ์เข้ารหัสเอาไว้ จนคนอื่นยากที่จะเข้าใจความหมายของมันได้ ในระหว่าง 400 ปีที่ผ่านมามีบรรดาผู้ศึกษาค้นคว้าและตีความเป็นจำนวนมากได้ทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจในการศึกษาตำรับตำราเป็นร้อยๆเล่ม เพื่อนำมาถอดความจากรหัสและสัญลักษณ์ในคำพยากรณ์ของนอสตราดามุส การตีความของแต่ละคนมักจะแตกต่างกันออกไป และจะต้องสามารถถอดรหัสภาษาสัญลักษณ์ของนอสตราดามุสให้ได้ด้วย ไม่ว่าผู้วิเคราะห์จะใช้ความพยายามและวิเคราะห์ออกมาแบบใด คำพยากรณ์ที่ถูกตีความออกมานั้นจะมีความถูกต้องประมาณ 86-91 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งความถูกต้องจะมีมากน้อยเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับอคติของผู้วิเคราะห์แต่ละคน
...นอสตราดามุสใช่ว่าจะทำนายเหตุการณ์ถูกทุกครั้งเสมอไป บางครั้งก็เคยทำนายผิดพลาดไว้เหมือนกัน เช่นที่ได้ทำนายว่า พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 9 จะได้อภิเษกสมรสกับ พระราชินีเอลิซาเบธที่ 1 แห่งประเทศอังกฤษ เมื่อเห็นว่าคำทำนายของตนผิดพลาดเขาจึงกลับคำทำนายอีกครั้งหนี่งว่าพระอนุชาของพระชาร์ลส์ที่ 9 คือ เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดแห่งอังจู (ต่อมาคือพระเจ้าอังรีที่ 3) จะได้อภิเษกสมรสกับ พระราชินีอลิซาเบธที่ 1 เมื่อตอนที่พระนางมีพระชนมายุมากขึ้น แต่คำทำนายไม่ถูกต้องอีกเช่นเดิม เหตุที่นอสตราดามุสทำนายผิดพลาดในระยะหลัง ๆ นี้ เข้าใจว่าน่าจะเป็นเพราะความชราภาพ เพราะเกิดเจ็บป่วย หรือเพราะเขาต้องการประจบสอพลอราชสำนักฝรั่งเศส เพื่อผลประโยชน์แก่ตนอย่างใดอย่างหนึ่งจึงทำให้พรสวรรค์ในการทำนายทายทักของเขาเสื่อมประสิทธิภาพลงไป
อวสานแห่งชีวิตของนอสตราดามุสได้มาถึงเมื่อปลายเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1566 โรคเกาต์ได้แสดงอาการกำเริบหนักขึ้น ในฐานะที่เป็นแพทย์ นอสตราดามุสตระหนักแก่ใจเป็นอย่างดีว่า ความตายกำลังคืบคลานใกล้เขาเข้ามาทุกขณะ เมื่อ ดร.ชาวิญญี ซึ่งเป็นลูกศิษย์เข้ามากล่าวคำ “ราตรีสวัสดิ์” ในคืนนั้น นอสตราดามุสได้กล่าวกับศิษย์ว่า เขาคงจะไม่มีชีวิตอยู่เพื่อรับอรุณรุ่งของวันใหม่ได้อีกต่อไป และแล้วในเช้าวันรุ่งขึ้นคือเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม มีผู้พบนอสตราดามุสนอนฟุบตายอยู่บนตั่งที่เขาเคยใช้รองเหยียบขึ้นนอนเป็นประจำหลังจากโรคเก๊าท์ได้แสดงอาการกำเริบอย่างหนัก ลักษณะและอาการตายของนอสตราดามุสนี้ เป็นไปตามที่เขาเขียนทำนายไว้ในหนังสือ Prophecies ที่ว่า “trouve tout mort intre le lit et le banc.(จะนอนตายที่ตั่งขึ้นเตียงนอน)”
