ขอถามสภาวะการนั่งสมาธิด้วยคนค่ะ
#1
โพสต์เมื่อ 13 September 2010 - 12:02 AM
แบบนี้ใช้ได้ไหมคะ
#2
โพสต์เมื่อ 13 September 2010 - 07:56 AM
#3
โพสต์เมื่อ 13 September 2010 - 10:13 AM
เดี๋ยวรักษาใจให้นิ่งต่อเนื่องนานขึ้น ก็จะเห็นเอง จะรู้ด้วยตัวเอง
#4
โพสต์เมื่อ 14 September 2010 - 12:44 AM
สาเหตุที่ทำให้คนเห็นดวงแก้ว, องค์พระ กับคนที่ไม่เห็น แต่พบแต่ความสว่างอย่างเดียวคืออะไรคะ?
เรียนถามคุณtung ค่ะว่า ถ้าเห็นแล้วควรทำอย่างไรต่อคะ กลัวทำไม่ถูกน่ะค่ะ
ขอบคุณและโมทนาบุญด้วยค่ะ
#5
โพสต์เมื่อ 14 September 2010 - 10:58 PM
ขอโอกาศแนะนำต่อดังนี้นะครับ
............................
นึกกำหนดจุดเล็กใสที่ 072 เลยครับ ตรงกลางของกลางแสงสว่างนั้น
(จุดเล็กใสสำคัญมากในวิชชาธรรมกาย พระเดชพระคุณหลวงปู่สดสอนเอาไว้เอง ไปฟังไฟล์เสียงท่านได้)
สักครู่จะเห็นจุดเล็กใสขึ้นมาเอง
แล้วจุดเล็กใสจะขยายกว้างออกไปเห็นเป็นดวงในดวงและกายในกายครับ
วิธีกำหนดจุดเล็กใสเบื้องต้น ให้นำลูกแก้วไปโดนแดด หรือโดนแสงไฟครับ จุดรวมแสงในดวงแก้วนั้นแล จดจำไว้ให้ติดตา
คลิ๊กดูที่นี่ ทันทีครับ
.............................
สาเหตุที่ทำให้คนเห็นดวงแก้ว, องค์พระ กับคนที่ไม่เห็น แต่พบแต่ความสว่างอย่างเดียวคืออะไรคะ?
เป็นสัมมาสมาธิสิครับ
ดวงและกาย และองค์พระธรรมกาย ก็คือสภาวะธรรมที่ปรากฎให้รู้ เห็น และเป็น ของจิตและกายตามภพและภูมิธรรม มีกายหลักๆคือ 18 กายครับ
...............................
สาเหตุเบื้องต้นคือ บุญในส่วนทิพย์จักษุ ธรรมจักษุ ได้ช่องส่งผลอย่างดี โดยไม่มีเหตุปัจจัยอื่นๆเข้ามาปกปิดจักษุไว้ครับ
บางท่านบุญไม่มาก แต่บุญในสวนทิพย์จักษุให้ผลได้ดี ก็เห็น บางท่านสร้างบุญมามากแต่มีเหตุให้ถูกปกปิดจักษุเอาไว้
และเกี่ยวกับการฝึกปฏิบัติที่สามารถวางใจวางอารมณ์ได้ถูกศูนย์ดีด้วย และหลักอินทรีย์ 5 คือ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา ต้องสมดุล ด้วยครับ
ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ
ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ
เราตถาคต คือธรรมกาย
#6
โพสต์เมื่อ 14 September 2010 - 11:34 PM
หมายถึงเราต้องกำหนดจุดรวมแสงที่ 072 ในขณะทีเราอยู่ในความสว่างนั้น เหรอคะ ?
#7
โพสต์เมื่อ 14 September 2010 - 11:48 PM
ถูกต้องแล้วครับ
ตามปกติ เรามองดูเฉยๆ ปล่อยวางตรงนั้น จะเห็นจุดเล็กใสขึ้นมาเอง
แต่ถ้าไม่เห็น ก็ต้องนึกเอา ตรงกลางแสงสว่างนั้น ที่ 072 ด้วยนะครับ
เมื่อเห็นแล้วจะขยายกว้างออกเอง หากไม่ขยาย ก็ควรอธิษฐานให้ขยายกว้างออก
แต่ถ้าชำนาญดีแล้ว ก็จะเห็นเองไม่มีการตรึกนึกใดๆ และอาจจะเห็นดวงผุดปรากฏขึ้นมามากมายเลยครับ
.....................
เห็นดวงในดวง เห็นกายในกาย เห็นองค์พระธรรมกายภายใน แล้วอาศัยญาณพระธรรมกายเจริญสมถะวิปัสสนาที่แท้จริง ถึงการบรรลุธรรม ถึงที่สุดแห่งธรรม
ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ
ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ
เราตถาคต คือธรรมกาย
#8
โพสต์เมื่อ 15 September 2010 - 03:30 AM
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#9 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 15 September 2010 - 09:07 AM
#10
โพสต์เมื่อ 15 September 2010 - 03:03 PM
คำว่า "ผุดเป็นสาย" ที่วัดเรากล่าวกันไว้บ่อยๆ หมายเอาการที่ใจหยุดนิ่ง ปล่อยวาง เข้าไป ย้ำ เข้าไป ในศูนย์กลางกาย จะปรากฎเห็นดวงในดวง เห็นกายในกาย ตามสภาวะธรรม ผุดปรากฎขึ้นต่อเนื่องกันเป็นสายไม่ขาดตอน
แต่บางท่านได้ยินคำนี้แล้วไม่เข้าใจก็นึกว่า คำว่า ผุดเป็นสายหมายถึงเอาใจออกนอก