มี 14 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[coconutyoung]

สามีเป็นไม่ใช่เป็นคนเลวร้ายอะไร แต่เวลาชวนไปวัดหรือทำบุญต้องโยกโย้หรือมีปัญหาทุกครั้ง หรือบางทีต้องทะเลาะกันก่อนทุกทีไป แต่เค้าก็ยอมไปด้วยทุกครั้ง แต่เมื่อไปแล้วเค้าทำอะไรกันก็มักจะทำต่างไปจากพวก ดิฉันอยากให้เค้าได้บุญเพื่อจะได้คอยหนุนเวลาที่เราต้องการใช้บุญ ใครรู้ช่วยบอกหรือแนะนำทีค่ะ ว่าเกิดจากอะไรหรือเป็นเพราะกำอะไรแก้ได้อย่างไรบ้าง

[หัดฝัน]

บางทีความคุ้นเคยกันอาจทำให้ชักชวนกันลำบากน่ะครับ เพราะอาจจะมีมาดของเขาอยู่ ถ้าอย่างไรลองแนะนำให้สามีได้รู้จักกัลยาณมิตรท่านอื่นๆ ที่วัดด้วยสิครับ เผื่อบางทีอาจจะดีขึ้นอย่างไม่คาดฝันก็ได้ครับ

[nidnoi]

เราเพิ่งเข้าวัดตอนเดือนกรกฏาคมปี 2551 หลังจากดู DMC
เราชวนสามีเข้าวัด เขาไม่ยอมเข้า แบบว่า แอนตี้วัดมากๆ
แต่ดีอย่างคือ ยอมให้เรามาวัด
ทุกครั้งพอไปถึงกลับบ้านเราก็จะเอาบุญไปฝากเขา
บางทีก็เล่าเรื่องบุญกริยาวัตถุ 10 ให้เขาฟัง
หรืออ่านคำแปลสวดมนต์วัตรเช้า-เย็นให้ฟัง
บางทีก็เล่าเรื่องหลวงปู่ให้ฟังมั่ง
ส่วนใหญ่เล่าก่อนนอน หรือตอนไปทำงานตอนเช้า ตอนเย็น
ใหม่ๆ บางทีเขาไม่อยากฟังหรอกค่ะ

แต่เราก็จะพูดๆๆๆๆทุกวัน
จนเขาซึมซับความรู้ที่เราป้อนให้ ...
บางครั้งก็ถามในสิ่งที่เขาสนใจอยากรู้ เช่น เรื่อง ประวัติของหลวงปู่
ปณิธานของคุณครูไม่ใหญ่ เป็นต้น

ก็เหมือนน้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน..นั่นแหล่ะค่ะ

ตอนมีงานบุญใหญ่ก็ชวนทำบุญ ชวนมาวัด เขายังไม่มา
แต่ร่วมทำบุญค่ะ ...

ณ ปัจจุบันนี้ ตอนนี้เขาเข้าวัดแล้วค่ะ
เพิ่งเข้าตอนทำบุญปีใหม่ 2552
และมาร่วมบุญบูชาข้าวพระ 2 ครั้งแล้ว
สามีเรา จากคนไม่เคยนั่งสมาธิก็สามารถนั่งครั้งแรกได้ 15 นาที

ตอนนี้ไม่แอนตี้วัดแล้วค่ะ เพราะมาเห็นด้วยตาตัวเอง
เขาบอกว่าไม่เห็นเหมือนในข่าวหรือที่ใคร ๆ พูดกันเลย

เมื่อต้นเดือนมกราคม 2552 สามีชักชวนเราไปตามเส้นทางมหาปูชนียาจารย์ จนครบทุกที่
ได้ร่วมบุญกฐินหลวงปู่ที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ด้วยค่ะ

ตอนต้นเดือนกุมภาพันธ์เขาอยากมาเห็นโบสถ์วัดพระธรรมกายเราก็พาเขามาดู
เราปลื้มใจมาก ๆ ที่ชวนเขาเข้าวัดได้สำเร็จ

จขกท. ก็อย่าพึ่งหมดหวังนะค่ะ ขอให้ชักชวนเขาบ่อย ๆ พูดถึงความสำคัญของการทำบุญ การปฏิบัติธรรม ให้เขาฟังบ่อย ๆ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ

[tnawut]

ต้องให้เวลากะเขาบ้าง ใช้เวลาสักนิด ชักชวนบ่อยๆ เดี๋ยวเห็นหลวงพ่อนานๆไปบุญส่งผลก็จะมาวัดเอง

[ดอกอุบล]

ขอเป็นกำลังใจให้นะครับขอให้หายจากความท้อใจเร็วๆชวนเขาบ่อยๆเดี๋ยวเขาก็มากับคุณแน่ๆ

[100กะรัต]

โห... วิธีการของเราคล้ายกับคุณ nidnoi เลย ชอบเล่าธรรมมะเล่าเรื่องหลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย เรื่องที่วัดให้ฟัง
เล่า ๆๆๆๆๆๆ ให้ฟัง ฟังไม่ฟังเราก็เล่าให้ฟังบ่อย ๆ

เวลาจะมากรุงเทพฯ ก็หาเทปหรือCD ธรรมมะของที่วัดนั่งฟังในรถเกือบตลอดทาง แต่ต้องเลือกที่ฟังง่าย ๆ สนุก ๆให้ฟังก่อนเพราะเดี๋ยวเค้าจะเบื่อเอา

ไปวัดทีก็ร่วมบุญหนังสือที่วัดมาเยอะแยะเลยก็จะวางไว้ที่โต๊ะให้เค้าเห็น พอจังหวะดี ๆ เค้าก็จะหยิบขึ้นมาอ่าน

เปิด DMC ให้ดู ไม่ดูก็ไม่ต้องบังคับ ให้ฟังผ่าน ๆ ไปก็ได้ เดี๋ยวทุกอย่างจะค่อย ๆซึมซับเอง

เวลาทำบุญทุกครั้งก็ให้เค้าได้ร่วมบุญด้วยอธิฐานจิตกำกับตลอดแล้วจะค่อย ๆ ดีขึ้นเอง

ซักวันบุญก็จะส่งผลจนมาเป็นครอบครัวแก้ว ครอบครัวขวัญ ครอบครัวธรรมกายกันน๊ะจ๊ะ

[Lucky Girl]

มีเมียดี เหมื่อน ......ก็ มีภรรยาดี คุณผู้ชายผู้โชคดีกว่าบุรุษใดๆ ในโลกนี้ ที่มีศรีภรรยาเป็นกัลยาณมิตรแก้วให้

เอาใจช่วยค่ะ สาวๆ สู้ สู้

[Tree]

สำหรับผมตรงกันข้าม ..... แต่เดี่ยวนี้ดีขึันมากเลยละครับ
ต้องค่อยๆ ปรับ

[วัช]

ความเปลี่ยนแปลงในตัวของเรา จะเป็นจุดพลิกผลันในความคิดของเขาครับ เพราะฉนั้นต้องนั่งสมาธิมาก ๆ นะครับ
แล้วใจของเราจะนิ่งกว่าเขา พยายามอย่าทะเลาะกันเด็ดขาด โดยเฉพาะเกี่ยวกับการสร้างความดี เพราะเรากำลังชวนเขา
สร้างความดีอยู่ ยิ้ม และอธิฐานจิตเผื่อเขาด้วย ให้บุญของเขาเปิดรับทราบความเป็นจริง และมาร่วมสร้างบารมีร่วมกันครับ สาธุ จะเป็นกำลังใจให้ครับ เพราะการมีครอบครัวธรรมกายเป็นสุดยอดจริง ๆครับ

[เดือนฉายงามแสง]

ถ้าโดยส่วนตัวนะ
ไม่ว่าจะเป็นคุณสามี ญาติ หรือเพื่อนก็ตาม
จะพามาวัดโดยพามา "หอฉันคุณยาย"
พามาถวายภัตตาหารเพลก่อน
เพราะจะทำให้เขาประทับใจในบรรยากาศ
สถานที่และพระแท้
ร้อยทั้งร้อยก็ประทับใจ ใจก็เปิดแล้ว
แล้วค่อยพาไปทัวร์โบสถ์หลังงาม
และพาไปดูวิดิทัศน์ที่สำนักงานใหญ่
แวะซื้อสื่อที่เขาสนใจที่นั่นได้เลย

แต่ถ้าสะดวกแค่มาวันอาทิตย์
ก็หมู่คณะทำอย่างไร เราก็แนะนำให้ทำตามนั้น
ช่วงพักเที่ยงก็พาเที่ยว Booth ต่าง ๆ
จนจบโอวาทคุณครูไม่ใหญ่
ถ้ามีบุญพิเศษ แล้วเขาอยากร่วมด้วยก็ ok.
ก็จะประทับใจกับกิจกรรมของหมู่คณะ
จะรู้สึกว่ามาวัดเหมือนไม่ได้มาวัด
ได้อะไรกว่าที่คิดเยอะ

เวลาเล่าเรื่องมาวัด ถ้าเราเล่าด้วยความสนุกสนาน
และความสุขที่ได้รับ สีหน้า แววตา รอยยิ้ม
ความ Alert เบิกบาน ก็จะเป็นกระแสดึงดูด
ให้เขาค่อย ๆ อ่อนลง และอยากมาในที่สุดเองค่ะ

ช่วงนี้พาเขามางานบวชธรรมทายาทสิคะ
บอกเขาว่ามารับบุญ และอยากเห็นพิธีบวชของทางวัด
มาเป็นเพื่อนกันหน่อยนะ รับรองเขาจะเปิดใจได้อีกเยอะค่ะ
เพราะวัดเรามีพิธีบวชที่เรียบง่าย สง่างาม และมีคุณค่าอย่างยิ่ง

เป็นกำลังใจให้นะคะ ใจเย็น ๆ แล้วดีเองค่ะ

[Mas alla]

สามีของข้าพเจ้าก็เหมือนกัน ชวนมาทางบุญมากๆ ก็บอกให้ข้าพเจ้าไปเป็นกัลยาณมิตรกับคนอื่นให้เต็มตัวเลยแต่ก็บอกเขาไปว่าจะกล้าไปชวนคนอื่นได้ยังไงในเมื่อคนใกล้ตัวยังพูดให้เข้าใจไม่ได้เลย ก็พยายามเอาผลของบุญเชื่อมโยงกับความต้องการของเขา แต่ละคนมีความต้องการไม่เหมือนกันแต่ก็ต้องหาทางให้เชื่อมกับสิ่งที่เขาต้องการให้ได้เพื่อให้เขามาสัมผัสในทางบุญก่อนเมื่อเข้ามาได้ก็จะเกิดความเข้าใจตามลำดับไปเองนะคะ ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้วค่ะ ขอให้ทำให้สำเร็จนะคะเอาบุญช่วยด้วยค่ะ

[kasaporn]

ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ ต้องสำเร็จสิน่า อธิษฐานเข้าไว้ค่ะ เอาใจช่วยนะคะ

[Killy]

ในความคิดของผมนะครับ
ถ้าหากสามีแอนตี้แล้วจะไปบังคับเขาทำไม?
เราเจอกันครึ่งทางดีกว่าไหม? คืออยากให้สามีได้บุญ และไม่อยากขัดใจสามี
ดังนั้นทำไมถึงไม่ลองพาไปวัดอื่นๆที่ปฏิบัติดีๆบ้างล่ะครับ?

ลองให้โอกาสกับวัดอื่นๆ ที่มีคำสอนดีๆบ้างครับ
บางทีคุณอาจจะได้เริ่มคิดได้ว่าพระพุทธศาสนาจริงๆแล้วสอนอะไร?
ใช่การสะสมบุญหรือไม่?

หลังจากที่อ่านข้อความของคุณ coconutyoung แล้วทำให้ผมคิดว่า
คุณยังคงยึดติดอยู่กับบุญและผลของบุญที่ทำได้ แต่เนื้อหาของพุทธศาสนาจริงๆแล้ว
ไม่ได้อยู่ที่การทำบุญมากหรือน้อย ทำแล้วได้เยอะหรือไม่นะครับ
หลักการสูงสุดของพระพุทธศาสนาก็คือการที่เราสามารถดับทุกข์ทางใจได้
และสามารถใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้อย่างคนมีสติ ไม่เบียดเบียนใครครับ
การทำบุญนั้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งในเส้นทางที่ทำให้ดับทุกข์ทางใจได้เท่านั้นเอง
และการทำบุญก็ไม่ใช่จะต้องมาวัดเสมอไปนะครับ ลองดูได้ในบุญกิริยา 10
การให้อภัยก็เป็นบุญ การสอนสิ่งดีๆแก่คนอื่นก็เป็นบุญ การมีสติอยู่กับตัวเองตลอดเวลาก็เป็นบุญ
หากยังทำบุญแบบต้องการสิ่งตอบแทน คือ ต้องการเกิดในสวรรค์ ต้องการรวย หรือต้องการนิพพาน
ก็ยังหมายความว่าใจยังคงยึดติดกับบุญเหล่านั้น และจะก่อให้เกิดทุกข์ขึ้นมาได้นะครับ

เช่นตัวอย่างเหมือนกับที่คุณกำลังเจออยู่คือมมีตัณหา (ความอยาก) ที่จะให้สามีมาร่วมทำบุญด้วย
จึงต้องเป็นทุกข์ เพราะไม่สามารถชักชวนสามีมาได้เป็นต้น

ผมแนะนำวิธีพบกันครึ่งทางนะครับคือสอนธรรมะจริงๆให้กับสามี พาไปวัดอื่นๆที่สอนดีๆก่อน เพื่อให้เขาได้รู้ว่า
คำสอนของพุทธศาสนานั้นเป็นจริงทั้งนั้น ไม่ใช่สิ่งงมงาย และลองนำคำสอนของทาง
วัดธรรมกายไปให้เขาฟังดูครับ ซึ่งเขาจะคิดว่าวัดธรรมกายเป็นทางนิพพานหรือไม่ก็เป็นวิจารณญาณของเขา
เราไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงได้หรอกครับ