แนะนำให้คนอื่นกู้เงิน
#1
โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 10:52 AM
แล้วเพื่อนเราเดือนร้อนต้องการใช้เงิน
เราเป็นผู้แนะนำ...โดยไม่มีได้มีการรับค่านายหน้า ไม่มีส่วนร่วมกับดอกเบี้ยเลย
เราแค่แนะนำ...ส่วนเรื่องเงิน เรื่องดอกเบี้ยนั้นให้ไปตกลงกับเจ้าของเงินเอง
ซึ่งจากที่ทราบมา "การให้ยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยแม้แต่นิดนั้น...ถือว่าบาป"
อย่างนี้...เราเป็นแค่ผู้แนะนำ เราจะไม่ได้รับผลบาปเลยแม้แต่นิดใช่หรือไม่ค่ะ
#2
โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 11:54 AM
อืมมม..อันนี้ไม่เคยได้ยินค่ะ
การทำงานทุกคนก็ต้องการเงิน การขายของ ทุกคนก็ย่อมต้องการผลกำไร ไม่อย่างนั้นก็อยู่ไม่ได้ เพราะฉะนั้นการให้ยืมเงิน โดยคิดกำไรเป็นดอกเบี้ยนั้น ก็ถือว่าไม่ผิด เพราะเป็นการค้าขายชนิดหนึ่ง
แต่ขึ้นชื่อว่าการค้าแล้ว ถ้าทำโดยสุจริตใจ ไม่เอารัดเอาเปรียบลูกค้าจนเกินไป เช่นโกงตาชั่ง คิดดอกเบี้ยโหด ก็ถือว่าโอเค ไม่มีผล ไม่มีวิบาก เพราะถือว่าเป็นการประกอบสัมมาอาชีพ
แต่ที่บอกว่าบาป นั่นก็น่าจะเป็นเพราะ พอทำการค้าโดยหวังผลตอบแทนที่สูง จิตใจก็เริ่มครุ่นคิดแต่หนทางที่จะเอาแต่ได้กับได้เท่านั้น ด้วยการโก่งราคาเกินควร หรือคิดดอกเบี้ยโหด เป็นต้น
เพราะเรื่องการยืมเงินเนี่ย ถึงแม้ว่าระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ จะตกลงกันก่อน ที่จะยืมเงิน หรือทำทำสัญญาแล้วก็ตาม แต่ในแง่ปฎิบัติจริง คนเป็นลูกหนี้ เมื่อถึงเวลานัดชำระ ก็ต้องวิ่งเต้น หาเงินมาใช้คืน ซึ่งถ้าหากว่าดอกเบี้ยแพงมากๆ ในแต่ละเดือน อาจจะสามารถใช้หนี้คืนได้แค่ดอกเบี้ย ทำให้เงินต้นไม่ลด ก็ก่อให้เกิดห่วง เกิดกังวล หรือบางที หนี้ทบต้นไปเรื่อยๆ อย่างเช่น ผู้ถือบัตรเครดิต ที่ไม่สามารถใช้หนี้ได้ (ทำให้เกิดหนี้ทบต้นมากมาย บางรายถึงกับถูกบริษัทบัตรเครดิต ฟ้องล้มละลาย ก็มี) และผู้เป็นเจ้าหนี้เอง ก็นั่งนับเงินรอ หายไปซักบาท ซักสตางค์ก็ไม่ได้ ถ้าเขาไม่สามารถจ่ายได้ ก็ต้องฟ้องร้อง ยึดทรัพย์สินกันต่อไปยังงั้น มันเป็นอย่างนี้ค่ะ
นี่เอง ที่เป็นเหตุแห่งวิบากกรรม
ส่วนการแนะนำ โดยที่ไมได้ค่านายหน้า หรือมีส่วนได้เสียกับงานนี้
โดยส่วนตัวดิฉันไม่คิดว่าผิดค่ะ อย่างมาก เมื่อเราร้อนเงิน ก็อาจจะมีคนมาแนะนำให้เราไปกู้กับผู้ให้กู้ ในภพชาติต่อไปค่ะ
ทางที่ดี ชวนเขาทำบุญดีกว่านะคะ ชี้ขุมทรัพย์ให้เขา ถ้าหากเขาทำทานมากๆ จะได้ทำให้เขามีทรพัย์สมบัติอย่างชัวร์ๆ ไม่ต้องเดือดร้อนต้องไปหากู้หนี้ยืมสินอีกค่ะ
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#3
โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 12:25 PM
#4
โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 12:48 PM
อันนี้ผมว่าไม่น่าจะถูกทุกกรณีนะครับ ไม่งั้นธนาคารก็บาปตายสิครับ ผมว่าน่าจะเป็นเฉพาะกรณีที่คิดดอกเบี้ยจนเกินสมควร หรือยึดทรัพย์สิน ไร่นา จนทำให้ผู้กู้เดือนร้อนมากกว่านะครับ
#5
โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 01:41 PM
ขอโทษค่ะ...ดิฉันคงตีความเองและเข้าใจผิดมา...ต้องคิดดอกเบี้ยโหดใช่มั๊ยค่ะ ถึงจะเข้าขั้นบาป ...
รู้สึกว่าจะอ่าน...กฏแห่งกรรมที่ทำให้ต้องเป็นโรคไต...
#6
โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 04:25 PM
ก็บาบอีก ถ้าหากเราเป็นคนแนะนำไม่รู้จะบาปหรือเปล่า ถ้าแนะนำที่ดอกเบี้ยไม่แพง ลูกหนี้
ไม่เดือดร้อนมากก็ไม่น่าบาป
#7
โพสต์เมื่อ 21 June 2006 - 08:46 PM
ท่านแนะนำว่า ถ้าคิดดอกเบี้ยแบบสมเหตุสมผล ก็ไม่บาปนะครับ
ทว่า ท่านเล่าเรื่องท่านพ่อของท่านให้ฟัง คือ
มีเพื่อนมายืมเงินจำนวนมาก ท่านพ่อกลับให้เงินของท่านไปส่วนหนึ่งแบบให้เลย
และแนะนำให้เพื่อนท่านนี้ ไปหาเพื่อนอย่างท่านพ่ออีก 10 ท่าน
แล้วเพื่อนท่านนี้จะได้รับเงินครบตามจำนวนนะครับ
#8
โพสต์เมื่อ 22 June 2006 - 10:28 AM
#9
โพสต์เมื่อ 22 June 2006 - 03:10 PM
มีคนถามคุณครูไม่ใหญ่ไปแล้วนะคะ
**************************
ถ้า เรา ไม่ ได้ เอา ดอก เบี้ย โหด
ก็ ไม่ บาป ..
แต่..
อย่า ทำ ได้ ก็ ดี
***************************
แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป
แต่..
เ ป้ า ห ม า ย ไ ม่ เ ป ลี่ ย น แ ป ร
#10
โพสต์เมื่อ 22 June 2006 - 03:21 PM
ส่วนคนที่ไปแนะนำแหล่งกู้เงินให้คนอื่นนั้น ถ้าคนแนะนำไม่รู้เลยว่า แหล่งนี้ โหดหน้าเลือด แล้วไปแนะนำเพื่อนก็ไม่บาปครับ แต่ถ้ารู้แล้วว่า แหล่งนี้ดอกโหด แต่ก็ยังคงแนะนำเพื่อนไป รับความโหดนั้น ก็ถือเริ่มมีส่วนแห่งบาปแล้วล่ะครับ
#11
โพสต์เมื่อ 23 June 2006 - 05:23 PM
ลูกพระธรรม
#12
โพสต์เมื่อ 07 March 2007 - 02:05 PM
#13
โพสต์เมื่อ 06 December 2010 - 06:53 PM