บุญบารมี
#1
โพสต์เมื่อ 14 November 2008 - 10:31 AM
#2
โพสต์เมื่อ 14 November 2008 - 10:48 AM
#3
โพสต์เมื่อ 14 November 2008 - 11:11 AM
ก็เมื่อคุณ เดินไปหาที่วิเวก นั่งขัดสมาธิคู้บัลลังแล้วตั้งสัตยาทิษฐานว่า หากแม้เลือดเนื้อจะเหือดแห้ง หากยังไม่หมดสรรพกิเลสจะขอยอมตาย
#5
โพสต์เมื่อ 14 November 2008 - 01:01 PM
ตอบได้โดนจัยครับ
#6
โพสต์เมื่อ 14 November 2008 - 01:25 PM
แต่ชีวิตก็จะพบแต่ ความสุข ความสำเร็จ ...สู้ต่อไปครับ ...สู้จึงจะชนะ
#7
โพสต์เมื่อ 14 November 2008 - 03:01 PM
พระอรหันต์..ก็ภาชนะขนาดหนึ่ง...หากปรารถนาเป็นอสีติสาวกก็ต้องเพิ่มขนาดขึ้น
พระปัจเจกพุทธเจ้า...ก็ขนาดใหญ่ขึ้นอีก
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า...ก็ขยายขนาด อย่างน้อย 4อสงไขยกับอีกแสนมหากัป หลังพุทธพยากรณ์ครั้งแรก
คุณโก้ตั้งเป้าหมายอันสูงสุดไว้เท่าใด?
#8
โพสต์เมื่อ 14 November 2008 - 03:14 PM
#9
โพสต์เมื่อ 14 November 2008 - 03:45 PM
#10
โพสต์เมื่อ 14 November 2008 - 04:06 PM
#11
โพสต์เมื่อ 14 November 2008 - 04:53 PM
#12
โพสต์เมื่อ 14 November 2008 - 08:13 PM
#13
โพสต์เมื่อ 14 November 2008 - 09:02 PM
เต็มแบบ พระอรหันต์สาวก ก็ต้องมีบุญในระดับหนึ่ง
เต็มแบบ พระปัจเจกพุทธเจ้า ก็ต้องมีบุญมากในระดับหนึ่ง
เต็มแบบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ต้องมีบุญมากกว่ามากในระดับหนึ่ง
เอาให้เข้าใจง่ายๆว่า ถ้าตราบใดที่เรายังเป็นปุถุชนคนเดินดินธรรมดาๆ กระโดดได้ไม่ถึงสิบวาแล้วละก็ 555ก็ให้แน่ใจเถิดว่า บุญและบารมีของเรามันยังไม่ถึงไหนหรอกครับ คือยังไม่เต็มนั่นเอง แถมบางทีก็ต้องมาเสียไปกับการสร้างบาปอีกด้วย ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้บารมีมันเต็มยากครับ
ดังนั้นก็ให้คุณโก้ตั้งใจสั่งสมบุญสั่งสมบารมี ละบาปละกรรมไปเลื่อยๆครับ เต็มเมื่อไหร่ เราก็จะเห็นผลสัมฤทธิ์นั้น ด้วยตัวของเราเองแหละครับ โดยที่ไม่ต้องมานั่งสงสัยอย่างนี้ครับ O.ไหมครับ ไปละ
#14
โพสต์เมื่อ 14 November 2008 - 10:36 PM
#15
โพสต์เมื่อ 14 November 2008 - 11:02 PM
เป็นอัครสาวกแบบพระสารีบุตร พระมหาโมคคัลลานะ ต้องสร้างบารมีเพื่อปราถนาจะเป็น 1อสงไขย กับอีกแสนกัปครับ
เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ตร้สรู้ได้เอง แต่แน่ะนำผู้อื่นให้ตร้สรู้ตามไม่ได้ สร้างบารมี2 อสงไขยกับอีกแสนกัป
เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ก็มีสามระดับครับ
1.สร้างบารมีแบบ ปัญญาธิกพุทธเจ้า ต้องสร้างบารมี 20อสงไขย กับ แสนมหากัป
2.สร้างบารมีแบบ สัทธาธิกพุทธเจ้า ต้องสร้างบารมี 40อสงไขย กับ แสนมหากัป
3.สร้างบารมีแบบ วิริยาธิกพุทธเจ้า ต้องสร้างบารมี 80อสงไขย กับ แสนมหากัป
#16
โพสต์เมื่อ 15 November 2008 - 07:47 AM
#17
โพสต์เมื่อ 16 November 2008 - 07:16 AM
#18
โพสต์เมื่อ 18 November 2008 - 12:10 AM
เมื่อพูดคุยกัน จะไกลหรือใกล้ อยู่ที่ความรู้สึก
ถ้าเรามีกำลังใจมากๆ เป้าหมายแม้อยู่ไกล ก็จะเหมือนอยู่ใกล้
ถ้าใครมีกำลังน้อยๆ เป้าหมายแม้อยู่ใกล้ ก็จะเหมือนอยู่ไกล
ตัวอย่างเช่น เมื่อบอกให้คนเดินไปกินข้าว ที่ร้านอาหาร ที่ห่างออกไป 1 กิโลเมตร มีหลายคนจะร้องว่า โอ๊ยไกล
ลองดูสิว่า คนที่วิ่งมาราธอน นักวิ่งที่วิ่งกันทุกวัน ซ้อมกันอย่างนี้ สี่สิบกว่ากิโลเมตร เขาอาจรู้สึกว่าไกลนิดหน่อย แต่ก็ไม่ไกลเกินไปที่จะวิ่งจนถึง เพราะเมื่อลงแข่ง เขาก็จะวิ่งจนถึงเส้นชัยทุกครั้ง
จะไกลใกล้ จะเร็วช้า ถ้าได้เดิน ก็จะมีวันหนึ่งที่ถึงแน่นอน
อยู่ที่ว่า ได้เริ่มเดินทางเดินกันหรือยัง หรือเดินๆหยุดๆ นั่งพัก นอนพักบ้าง ที่แย่กว่านั้น เดินถอยหลังซะนี่ หรืออาจเดินเล่นวนไปวนมา หรือว่าอาจเดินหลงทาง ก็แล้วแต่
ถ้ามองเห็นจุดหมายเหมือนแสงรำไร ว่าตรงนั้นคือเป้าหมายให้ไปทางนี้ ก็เดินไปมุ่งไปทางนั้น ก็จะเข้าใกล้ไปยังเป้าหมายเรื่อยๆ แสงแห่งจุดหมายก็ย่อมแจ่มชัดขึ้นได้เองมากขึ้นๆ ซึ่งหากมีใครเดินวนเลี้ยวเข้าซอยบ้างก็คงแล้วแต่จะเลือกเดิน แต่เดินมุ่งไปจุดหมายก็ไม่ยอมให้คลาดไปจากเส้นทางที่มุ่งหวัง
ทางที่ดีที่สุดคือไปทางลัด ที่ตรง ที่ไม่ต้องคดเคี้ยวเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาไปไหน ก็จะถึงได้เร็วที่สุด ก็คือการดำรงตนอยู่ในศีลอันสูงสุด ประพฤติพรหมจรรย์ในขั้นสุดที่เพศภาวะของตนจะทำได้ และงดการคิดพูดทำชั่วทุกอย่าง มีสติ ประกอบสมาธิให้มั่นไว้ตลอด ก็คือจะได้ไม่หลงทาง และสร้างบารมีทุกด้านให้เต็มที่ เป็นการเสริมกำลังให้ไม่พร่องสักจุด
เมื่อหากรู้สึกย่อท้อ ก็จะรู้สึกเหนื่อยอย่างมาก ทั้งๆที่กายไม่เหนื่อยเท่าใดก็เหมือนเหนื่อยมาก
แต่ตรงข้ามแม้กายใจอาจเหนื่อยล้า แต่ถ้าไม่ท้อ ก็จะมีความสุขอยู่ได้อย่างสบายๆ และความเหนื่อยก็จะปลดทิ้งไปได้เมื่อได้นอนพัก หรือได้นั่งสมาธิสักครู่