โดนผีอำแต่ก็มีความสุข
#1
โพสต์เมื่อ 19 August 2008 - 10:07 AM
แต่กับทำให้นึกถึงบุญที่ได้ทำมาตั้งแต่เข้าวัดเลยปลื้มมากๆ แล้วแผ่เมตตาให้เขา แปปเดียวก็รู้สึกสบายตัวขึ้น ลุกขึ้นได้ตามปกติ เพื่อนๆเคยเจอแบบนี้บ้างไหมครับ
#2
โพสต์เมื่อ 19 August 2008 - 11:09 AM
#3
โพสต์เมื่อ 19 August 2008 - 11:40 AM
#4
โพสต์เมื่อ 19 August 2008 - 11:55 AM
#5
โพสต์เมื่อ 19 August 2008 - 12:44 PM
เคยนอนที่โซฟาที่บ้านตอนหัวค่ำ.. รู้สึกครึ่งหลับครึ่งตื่นเหมือนมีใครมาทับแล้วบีบคอหรือพยายามเข้าร่าง
ตอนนั้นลืมตาเห็นเป็นเหมือนผีผู้หญิงไม่ได้เละๆ แต่น่ากลัว ไม่น่ารักเลย.. พยายามขยับแขน-ขา
ก็ขยับไม่ได้อึดอัดมากและน่ากลัวมาก ไม่รู้จะทำยังไงเลย.. พยายามเค้นพลังฮึดค่อยๆฝืนแรงนั้น
เอามือมาพนมประกบกันได้แค่ปลายๆนิ้ว.. แล้วสวด อิติปิโส ภควา.. เท่านั้นแหละ.. ร่างนั้นก็กระจุยเลย..
หนีเตลิดเปิดเปิงไป.. รอดมาได้แต่น่ากลัวมาก..
แล้วก็มีที่หลานสาว(ลูกบุญธรรม)เจออีกหลายครั้ง.. แต่ไม่เล่า เดี๋ยวจะยาว..
หลังๆนี้ไม่เจออะไรอีกเลย.. เพราะทำทาน รักษาศีล นั่งสมาธิ ก็จะแผ่ผลบุญให้ทุกท่านทุกภพทุกภูมิตลอด..
ใครกลัวผีให้ท่องอิติปิโสภควา.. เคยได้ยินพระเทศน์ตอนเด็กๆว่า.. แค่ขึ้นอิติปิโส เท่านั้น.. พวกนี้ต้านไม่ไหว
เพราะพุทธธานุภาพนั้นมากมายเหลือประมาณ.. ไม่มีสิ่งใดทำอันตรายได้..
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..
#6
โพสต์เมื่อ 19 August 2008 - 01:08 PM
1. ลองสำรวจห้องนอนว่าอากาศถ่ายเทดีหรือไม่ (ควรเปิดประตูเปิดหน้าต่างห้องนอนเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก)
2. มีต้นไม้ใหญ่ๆ อยู่ใกล้ห้องนอนหรือเปล่า (เพราะตอนกลางคืนต้นไม้จะแย่งก๊าซออกซิเจนจากเรา ทำให้เราหายใจไม่สะดวก)
3. ก่อนนอนรับประทานมากเกินไปหรือเปล่า (เพราะเวลานอนหลับกระเพาะอาหารจะย่อยอาหารช้ากว่าตอนเราตื่น เลยทำให้เรารู้สึกอึดอัด)
#7
โพสต์เมื่อ 19 August 2008 - 01:58 PM
#8
โพสต์เมื่อ 19 August 2008 - 04:41 PM
#10
โพสต์เมื่อ 19 August 2008 - 09:35 PM
#11
โพสต์เมื่อ 20 August 2008 - 02:31 PM
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ
สุนทรพ่อ
#12
โพสต์เมื่อ 20 August 2008 - 03:55 PM
#13
โพสต์เมื่อ 20 August 2008 - 05:19 PM
เรื่องผีอำ มีทั้งจริงกับธาตุวิปริตครับ
จริง
ก็แก้ไขด้วย
รักษาศีล ให้บริสุทธิ์ , หมั่นสวดมนต์ นั่งธรรมะ แผ่บุญอุทิศกุศล, อธิษฐานคุ้มครอง ฯล
ธาตุวิปริต
ก็แก้ไขอย่างที่ คุณ nar แนะนำไว้
จัดสิ่งแวดล้อมในห้องนอนให้ดี ห้องนอนอุดอู้ไหม ?
ใกล้ต้นไม้ใหญ่ที่คายคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ตอนกลางคืนหรือไม่ ?
, หน้าต่างระบายอากาศดีไหม ทิศทางลมตามฤดูกาล ถูกต้องไหม ?
, ท่านอน ,
การทานอาหารใกล้เวลานอน รับบย่อยอาหารยังทำงานไม่เสร็จ
อารมณ์ ความกังวลใจก่อนเข้านอน
ฯล
เคยฟังเรื่องของ ลุงถาวร โดนผีอำ
ท่านใช้วิธีท้าทายกลับด้วยซ้ำ
ก็เหนื่อยทั้งมนุษย์และอมนุษย์
สุดท้ายอมนุษย์ก็เลิก กวนท่าน
ส่วนกรณีอื่น ๆ เช่น ไสยเวทย์
หากใคร ศีลยังไม่บริสุทธิ์ ความเลื่อมใสในพระรัตนตรัยยังไม่บริบูรณ์ จิตไม่เข้มแข็งมั่นคง
สภาวธรรมภายใน ยังไม่โอภาส สว่างไสว
ก็ไม่ควรท้าทาย หลบหลู่เขานะครับ
แค่ไม่เคารพ ต่างคน ต่าง[ไม่ใช่]คนอยู่ดีกว่า
ถ้าโดนกวนหนัก ก็อาศัยคุณพระรัตนตัยและกุศลกรรมของตนไว้พึ่งพา
ขยันนั่งธรรมะ เพราะคือ คุรุกุศล
ยิ่งใจอยู่ในบุญเสมอๆ สถานการณ์ก็จะดีขึ้นเองครับ
แม้มีเชื้อเศษกรรมผูกกันมาบ้าง ที่หนักก็เบา ที่เบาก็หาย
เหมือนภูมิต้านทานโรคดี แม้มีเชื้อโรคมารังควานบ้าง ก็ไม่มีอันตรายกับเรา ครับ
#14
โพสต์เมื่อ 21 August 2008 - 03:29 PM
#15
โพสต์เมื่อ 21 August 2008 - 09:28 PM
ที่สุดแห่งธรรมนั้นเป็นเป้าหมาย..
โลกจะสุขสันต์เมื่อท่านเข้าถึงธรรมกาย..
สว่างไสวทั่วทุกธาตุธรรม..
#16
โพสต์เมื่อ 21 August 2008 - 10:31 PM
เอาเรื่องจริงผ่านจอของผมเองมาเล่าบ้าง จะได้เป็นอุทาหรณ์สอนใจบ้างก็ดีน่ะ..
ของผมตอนสมัยเรียนมหาลัย (อย่าไปรู้เลยว่ามหา'ลัยไหน) มีอยู่คราหนึ่งไปออกค่ายอาสากะเค้า..
ก่อนนอนก็ไหว้พระ สวดมนต์ แถมท่องคาถาอิติปิโสด้วยน่ะ เพราะเป็นคนชมรมคนกลัวผีเหมือนกันนน (โถ..แล้วอยากไปออกอาสากะเค้า..)
ทีนี้พอตกดึก แบบว่าสงัดเงียบเชียบ แบบวิเวกวังเวงวิโหว๋เหว๋ ขณะกำลังเคลิ้มๆใกล้ๆจะหลับอยู่นั่นเอง..
ก็เหมือนมีใคร อะไรก็ไม่รู้ ตัวอะไรก็ไม่รู้ มาดึงผ้าห่มเค้าอ่ะ..เล่นดึงพรวดเดียว ผ้าห่มไปกองที่ปลายเท้าเลยอ่ะ..
โดนขนาดนี้ยังทำเป็นงง งง หลายงงอยู่ ยังทำเป็นไม่รู้ ไม่ชี้ ขอเซ้าซี้นอนต่อ (ดีกว่า) ซักพักก็เคลิ้มๆจะหลับอีกรอบ..
ทีนี้กระตุกไม่กระตุกเปล่า เล่นลากออกไปกองอยู่ข้างนอกเต้นท์เลย..เท่านั้นเอง ผมก็ลุกพรวด คิดว่าเพื่อนคงแกล้ง (มั้ง)..
หันซ้าย หันขวา ก็ไม่เห็นมีใคร เห็นแต่ความมืด ทีนี้ก็เลยรู้ว่าโดนเล่น (งาน) เสียแล้ว (เรา)..
เลยลุกขึ้นมานั่งพับเพียบ พนมมือ อธิษฐานในใจ (ดังๆ) ว่า พรุ่งนี้จะทำบุญตักบาตร และจะอุทิศส่วนกุศลไปให้..สัญญาน่ะ
แล้วล้มตัวนอนต่อ เพราะง่วงมาก..จากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกเลย ตราบกระทั่งเช้าวันใหม่ ก็ได้ไปใส่บาตรให้เค้าน่ะแหล่ะ..
#17
โพสต์เมื่อ 22 August 2008 - 08:33 PM
#18
โพสต์เมื่อ 23 August 2008 - 12:37 PM
ทางที่จะปลอดภัยจากรักก็ฉันนั้น มีอยู่ทางเดียวคืออย่ารัก
#19 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 28 November 2010 - 04:45 PM