ครอกฟี้ ครอกฟี้ นอนกรนอย่างนี้บอกทีจะแก้ยังไง?
ครอกฟี้ ครอกฟี้....เกิดเสียงนี้ขึ้นในยามนิทราครั้งใด เป็นอันสร้างความรำคาญแก่คนนอนข้างกายเป็นแน่ ก็แหม !! หลับสบายอยู่แท้ ๆ เสียงเจ้ากรรมดันมาปลุกเสียได้
ที่สำคัญการนอนกรนยังอันตรายถึง ขั้นทำให้เป็นอัมพาต ความดันสูง ความจำไม่ดี และเซ็กซ์เสื่อม !!!
รศ.น.พ.ชัยรัตน์ นิรันตรัตน์ แพทย์ทางด้านคุณภาพการนอนหลับ กล่าวว่า การนอนกรนแบ่งได้ 3 ระดับ...ระดับแรก จะเกิดการกรนเฉพาะท่านอนหงาย, ระดับ 2 เกิดได้ทุกท่านอน ซึ่งทั้ง 2 ระดับแรกนี้จะมีผลเสียทำให้เกิดความง่วงเหงาหาวนอนในช่วงกลางวัน หงุดหงิดง่าย หลับในบ่อย ส่วนระดับ 3 นั้นเป็นขั้นรุนแรงสุด กรนได้ทุกท่านอน และมีการหยุดหายใจเป็นระยะ ทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน เสี่ยงต่อการเป็นโรคความดัน หัวใจ อัมพาต โรคปอด ความจำเสื่อม ความต้องการทางเพศลดลง
"อาการนอนกรนนั้นพบได้ทุกเพศ ทุกวัย สาเหตุเกิดจากระบบทางเดินหายใจ ตั้งแต่จมูกจนถึงคอมีการอุดตันในขณะหลับ เนื่องจากจมูกอักเสบ เป็นภูมิแพ้ ไซนัส ริดสี ดวงจมูก หรือว่าเกิดจากความอ้วน ทำให้ผนังคอด้านในหย่อน ช่องคอตีบ ทางเดินลมหายใจแคบลง เลยเกิดเสียงกรนขึ้น"
จากการสำรวจพบด้วยว่า ผู้ชายสูงวัย รูปร่างเจ้าเนื้อ มีโอกาสกรนได้มากสุด ๆ นอก จากนี้ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนจะเริ่มกรนมากขึ้น ส่วนเด็กถ้าเป็นโรคภูมิแพ้ ทอนซิลอักเสบ ก็มีโอกาสสูง และอีกอย่างที่ช่างเป็นเรื่องของบุญทำกรรมแต่งเสียจริง ๆ ก็คือ คนเอเชียมีแนวโน้มนอนกรนได้ง่าย เนื่องจากมักจะมีฐานกะโหลกศีรษะแคบ คางสั้น มีผลต่อทางเดินหายใจ
นอกจากนี้การออกกำลังมาก ๆ ทำ งานหักโหม จนทำให้หลับสนิทหลับลึกเกินไป ก็ทำให้กรนได้ เพราะกล้ามเนื้อเพดานบนจะหย่อนลงมามากขณะที่หลับลึก เกิดเสียงดังเวลาหายใจ การสูบบุหรี่จัดก็เช่นกัน ทำให้เกิดการอักเสบในลำคอ เกิดเมือกเสมหะ หายใจไม่สะดวกกรนเอาได้
ใครที่เกิดอาการกรนขึ้นมาแล้วก็อย่าเพิ่งอับอาย หรือน้อยใจในโชคชะตาวาสนา เพราะปัญหาทุกอย่างย่อมมีทางแก้ไข ปัจจุบันมีสารพัดวิธีที่จะช่วยได้ แต่อันดับแรกที่ควรทำคือ ไปตรวจว่ามีอาการอยู่ในระดับใด
"การตรวจสอบการนอนหลับ หรือ Sleep Test นั้น จะทำให้รู้ว่ากรนรุนแรงขนาด ไหน และทำให้วินิจฉัยได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด ส่วนการรักษานั้นมีหลายวิธีแต่ในขั้นต้นสำหรับ คนที่อาการไม่รุนแรง แนะนำว่าให้ปรับการใช้ชีวิตประจำวัน ออกกำลังกายสมํ่าเสมอ ถ้ารู้ตัวว่าอ้วนก็ลดน้ำหนัก งดดื่มเหล้า งดกินยานอนหลับ เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อทั่วร่างกายหย่อนตัว มากกว่าปกติ พอหลับสนิทเพดานบนในปาก ที่มีส่วนปลายห้อยเป็นลิ้นไก่จะคลายตัวลงมามากจนไปกระทบกับพื้นคอ ทางเดินหายใจจึง แคบลงเกิดเสียงกรน นอกจากนี้การเปลี่ยนท่า นอนจากนอนหงายมาเป็นนอนตะแคงก็ช่วยได้เหมือนกัน"
แต่ถ้าอาการอยู่ขั้นหนักก็ต้องใช้การรักษาด้วยเครื่องบรรเทาการกรน ที่มีลักษณะเป็นเครื่องสวม ครอบจมูกใส่เวลานอนหลับ เป็นการปรับความดันอากาศ ช่วยพยุงไม่ให้ลิ้นตกไปด้านหลังมากเกินไปลดการกรนได้ หรือใช้การ รักษาด้วยเลเซอร์และศัลยกรรมผ่าตัด บริเวณคอหอย เพดานปาก และลิ้นไก่ ซึ่งเจ็บปวดน้อยมากหลังการรักษา สามารถกลับบ้านทำกิจวัตรได้ปกติ ส่วนวิธีสุดท้ายคือ รักษาด้วยคลื่นวิทยุ ทำให้บริเวณที่เกิดเสียงกรนตึงตัว อากาศสามารถผ่านบริเวณดังกล่าวได้สะดวกขึ้นไม่ทำให้เจ็บเลยสักนิดเดียว
ในหมู่ชาวไทยทั้งหลายนั้น หากคิดเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ จะพบว่ามีอยู่กว่า 5 ล้านคนที่นอนกรน แบ่งเป็นผู้ชายร้อยละ 25 ผู้หญิงร้อยละ 9 และเมื่ออายุมากขึ้นก็จะพบผู้มีอาการเพิ่มขึ้น เช่นว่าพออายุ 60 ปี จะมีผู้ชายนอนกรน ถึงร้อยละ 60 ส่วนผู้หญิงร้อยละ 40 นับว่าเป็นตัวเลขที่ไม่น้อยทีเดียว ส่วนในต่างประเทศนั้นก็มีจำนวนคนนอนกรนมากกว่าคนเป็นหอบหืดเสียอีก
หากไม่รีบแก้ไขแต่เนิ่น ๆ ปล่อยให้ เป็นหนักอาจอันตรายถึงขั้นเซ็กซ์เสื่อมเอาได้ !!!
สมาชิกชมรมคนนอนกรนทั้งหลาย ทราบแล้วเปลี่ยน....
## เด็กเล็ก ๆ ก็นอนกรนได้
ใครว่าผู้ใหญ่ตัวอ้วนเท่านั้นที่นอนกรน แม้แต่น้องหนูตัวน้อยก็กรนได้ และไม่จำกัดเฉพาะเด็กอ้วนเท่านั้นนะ เด็กผอมหรือน้ำหนักปกติก็มีสิทธิ เพราะการนอนกรนในเด็กมักเกิดจากต่อมทอนซิลโตจากคออักเสบ จมูกอักเสบบ่อย ๆ เป็นหวัด ส่วนสาเหตุอื่นก็เกิดจากเนื้อเยื่อหรือโครงกระดูกบริเวณหน้าและคอมีความผิดปกติแต่กำเนิด มีการวิจัยแล้วว่าการนอนกรนทำให้เด็กเรียนไม่เก่ง เติบโตไม่เต็มที่
การรักษานั้นในรายที่ทอนซิลโต เป็นภูมิแพ้ ก็ให้ออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงอาหาร หรือน้ำที่เย็นจนเกินไป พักผ่อนให้พอกินอาหารครบหมู่โดยเฉพาะที่มีวิตามินซีเยอะ ๆ ใช้ยารับประทานยาล้างจมูก หรือยาพ่นจมูกตามแพทย์สั่ง หากยังไม่ดีขึ้นการผ่าตัดต่อมทอนซิลออกจะช่วยให้อาการดี ขึ้นได้.
การดูแลตนเองชั้นต้นในคนนอนกรน
1. ปรับการใช้ชีวิตประจำวัน ออกกำลังกายสมํ่าเสมอ เพิ่มความตึง ตัวของกล้ามเนื้อ
2. ถ้าเป็นคนอ้วน ควรลดน้ำหนัก
3. งดดื่มสุรา
4. งดยากล่อมประสาท งดยาแก้แพ้ที่ทำให้ง่วง
5. นอนตะแคง
6. นอนยกศีรษะสูงประมาณ 4 นิ้ว เพื่อไม่ให้ศีรษะตกง่าย
7. ใส่ปลอกคอยกคาง ลักษณะคล้าย ๆ ฟันยางนักมวยใส่ขณะนอนหลับ จะทำให้ขากรรไกรเลื่อนมาด้านหน้าต้องใส่สัก 2-3 สัปดาห์ จึงเห็นผล
8. หลีกเลี่ยงการใช้หมอนสูงซึ่งคอจะพับได้ง่าย
9. เข้านอนทีหลังเพื่อน
