ใ
กรรมมีทางตัดได้จริงไหม
เริ่มโดย usr28973, May 09 2009 07:22 AM
มี 7 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 09 May 2009 - 07:22 AM
#2
โพสต์เมื่อ 09 May 2009 - 10:32 AM
สิ่งที่ผิดพลาด ลืมให้หมด
บาปและอกุศล ทุกชนิดไม่ทำ ไม่นึก อีกเด็ดขาด
บุญกุศลทำให้เพิ่มเข้มข้นทับทวี
ดีที่สุดเห็นพระข้างใน
จะได้หนีกรรมที่ทำได้ครับ อันนี้เป็นหลักวิชาครับ ใจจะค่อยยกระดับขึ้น
อาการจิตที่มีอกุศลเข้าแทรกอยู่ จะค่อยๆลดลงๆ
สุขภาพใจเราก็จะดีขึ้น มีความสุขขึ้น ฉลาดขึ้น
และต้องทำสมำเสมอนะครับ ขอบอกทำให้ดีขึ้นได้
ขึ้นอยู่กับอาการถ้า เป็นมากต้องใช้เวลา และต้องมีกัลยณมิตร หมั่นเข้าหาบัณทิต ฟังธรรม
และต้องปฏิบัติตาม เหมือนองคุลีมาล ฆ่าคนเกือบ 1000 คนแต่บรรลุธรรมได้เพราะพบพระพุทธเจ้า
เชื่อฟังคำที่ท่านสอน แต่ถ้าทำอนันตริยกรรม ปิดหนทางสวรรค
และนิพพานครับ ชาตินี้ไปอบายแน่นอนเหมือนพระ เจ้าอชาติศัตรู
บาปและอกุศล ทุกชนิดไม่ทำ ไม่นึก อีกเด็ดขาด
บุญกุศลทำให้เพิ่มเข้มข้นทับทวี
ดีที่สุดเห็นพระข้างใน
จะได้หนีกรรมที่ทำได้ครับ อันนี้เป็นหลักวิชาครับ ใจจะค่อยยกระดับขึ้น
อาการจิตที่มีอกุศลเข้าแทรกอยู่ จะค่อยๆลดลงๆ
สุขภาพใจเราก็จะดีขึ้น มีความสุขขึ้น ฉลาดขึ้น
และต้องทำสมำเสมอนะครับ ขอบอกทำให้ดีขึ้นได้
ขึ้นอยู่กับอาการถ้า เป็นมากต้องใช้เวลา และต้องมีกัลยณมิตร หมั่นเข้าหาบัณทิต ฟังธรรม
และต้องปฏิบัติตาม เหมือนองคุลีมาล ฆ่าคนเกือบ 1000 คนแต่บรรลุธรรมได้เพราะพบพระพุทธเจ้า
เชื่อฟังคำที่ท่านสอน แต่ถ้าทำอนันตริยกรรม ปิดหนทางสวรรค
และนิพพานครับ ชาตินี้ไปอบายแน่นอนเหมือนพระ เจ้าอชาติศัตรู
#3
โพสต์เมื่อ 09 May 2009 - 11:15 PM
กรรมสามารถตัดรอนได้ครับ ตัดรอนได้ด้วยบุญที่เราหมั่นทำทุกวัน ทำบ่อยๆ
กรรมที่มากก็จะไม่ส่งผล จะเป็นอโหสิกรรม ทางที่ดีทำบุญแล้ว
อย่าลืมอธิษฐานจิตไปตัดรอนด้วยนะครับ ^ ^
กรรมที่มากก็จะไม่ส่งผล จะเป็นอโหสิกรรม ทางที่ดีทำบุญแล้ว
อย่าลืมอธิษฐานจิตไปตัดรอนด้วยนะครับ ^ ^
#4
โพสต์เมื่อ 12 May 2009 - 04:37 AM
หลวงพ่อท่านเคยบอกเอาใว้นะครับ ว่าบาปมันก็เหมือนเกลือ ถ้าเราเอาเกลือ 1 ช้อนไปใส่ในแก้วที่มีน้ำ 1ใบ ยอมรับรู้ได้ถึงรสเค็ม แต่ถ้าน้ำเป็นโอ่ง เราก็ไม่สามารถรับรู้ได้ถึงรสเค็ม
....... การที่เราทำความดีมากๆ ก็เปรียบเสมือนกับเรามีน้ำ 1 โอ่งครับ ......
....... การที่เราทำความดีมากๆ ก็เปรียบเสมือนกับเรามีน้ำ 1 โอ่งครับ ......
#5
โพสต์เมื่อ 13 May 2009 - 07:37 PM
เป็นกำลังใจให้นะคะ
#6
โพสต์เมื่อ 09 June 2009 - 06:24 PM
ในทางพุทธ ไม่มีคำว่า ล้างบาป สารภาพบาป หรือว่า สะเดาะเคราะห์
บุญ กับ บาป จะชิงช่วงกัน ส่งผล ตลอดเวลา
ดังนั้น
1. บาปอกุศลแม้เพียงนิด อย่าคิดทำ ( บาปใหม่ อย่าคิดทำ )
2. บาปอกุศลที่เคยทำไว้ อย่านึกถึง ( บาปเก่า อย่าคิดถึง )
3. บุญกุศล ควรทำเพิ่มทับทวี ( บุญใหม่ ทำเพิ่ม )
4. ระลึกนึกถึง บุญที่เคยทำไปแล้ว บ่อย ๆ ( บุญเก่า นึกบ่อย ๆ )
สาธุ ค่ะ
บุญ กับ บาป จะชิงช่วงกัน ส่งผล ตลอดเวลา
ดังนั้น
1. บาปอกุศลแม้เพียงนิด อย่าคิดทำ ( บาปใหม่ อย่าคิดทำ )
2. บาปอกุศลที่เคยทำไว้ อย่านึกถึง ( บาปเก่า อย่าคิดถึง )
3. บุญกุศล ควรทำเพิ่มทับทวี ( บุญใหม่ ทำเพิ่ม )
4. ระลึกนึกถึง บุญที่เคยทำไปแล้ว บ่อย ๆ ( บุญเก่า นึกบ่อย ๆ )
สาธุ ค่ะ
#7
โพสต์เมื่อ 12 June 2009 - 03:05 PM
สา..ธุ ค่ะ
"ใครเชื่อเหตุผล คนนั้นเชื่อกฎแห่งกรรม"
#8 *Chak*
โพสต์เมื่อ 31 January 2011 - 11:09 AM
นิพพาน เรื่องง่ายถ้าเข้าใจ บาปบุญ จะเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเช่นนั้นเอง แม้พุทธองค์ยังต้องฉันท์ยาพิษ แม้จะรู้ว่าในอาหารมียาพิษ ไม่ต้องไปให้ความสำคัญกับบาปบุญ เราทำดีแล้วยังมีผลให้ไม่ดี เราก็จะวิ่งหาว่าทำไม ๆ ทำดีแล้ว บุญยังไม่ส่งผล ธรรมดากับมัน ดีก็ช่าง ไม่ดีก็ช่าง ทำบุญแบบไม่คาดหวังว่า จะมีสิ่งใดเกิด ถ้าเราหวังกับบุญ เราก็จะเสวยบุญที่ทำ คือไปเกิดในภพภูมต่าง ๆ 31 ภูมิ เพื่อเสวยผลกรรม(บุญ-บาป)ที่เราสั่งสมมา แต่ถ้าจะออกจาก 31ภูมิ ก็ไม่ไปเกิดในภพใด ๆ อีก (นิพพาน) นิพพาน คือการไม่เกาะเกี่ยวกับสิ่งใด ๆ แม้ตัญหา ที่จับต้องไม่ได้ ก้ไม่มี เมื่อ 5 นาทีก่อนตาย จิตไม่เกาะเกี่ยวสิ่งใด ก็ไม่มีอะไรให้ไปเสวยผลอีก (จิต คลายจนว่าง ว่างจากความเป็นจิต ไม่มีการภาวนา แ้ล้วว่าง เมื่อได้หลัก ก็นิพพานได้ อนุภาพแห่งว่าง จะอัตโนมัติ ไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องถอดจิต ไปด้วยได้ภาพทิพย์ แค่มอง ฟัง ก็ไปได้ ไม่ต้องบำเพ็ญ การบำเพ็ญ ถ้าลด ละ จะเสื่อมเอง ตามธรรมชาิต เวลาเสื่อมก็ทุกข์กับความไม่เทียง ถ้าคลายให้เสือมเอง จนว่าง ภาคทิพย์ก็จะทำงานแทนเอง อัตโนมัติ)