ผมสงสัยว่าการที่นักลงทุนรายใหญ่ในตลาดห้นรวมหัวกันสร้างราคาห้นให้สูงเกินจริงแล้วขายทำกำไร จะผิดศีลข้อไหนครับและจะมีวิบากกรรมอะไร
ปั่นหุ้น ผิดศีลข้อไหน
เริ่มโดย เด็กดอย, Mar 01 2006 04:59 PM
มี 6 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 01 March 2006 - 04:59 PM
#2
โพสต์เมื่อ 01 March 2006 - 05:41 PM
คำถามดีมากเลยครับ
ปกติการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ปกตินักลงทุนทุกคนก็ย่อมหวังผลกำไรจากการลงทุนเป็นธรรมดาครับ การซื้อหุ้นจึงเป็นเหมือนการซื้อกิจการหรือการเป็นเจ้าของกิจการอย่างหนึ่ง
กรณีที่นักลงทุนรายใหญ่ปั่นหุ้นเพื่อให้ราคาพุ่งขึ้นสูงโดยมุ่งหวังให้แมงเม่าเข้ามาติดกับ แล้วค่อยปล่อยขายทำกำไร หลังจากแมงเม่าเข้าซื้อแล้วก็มีการโยกเงินออกจากระบบเพื่อให้หุ้นตก เมื่อหุ้นตกมากๆ แมงเม่าจะตกใจทำการเทขาย นักลงทุนก็จะฉวยโอกาสนี้เข้าซื้อหุ้นราคาถูกต่อเพื่อเก็งกำไรต่อไป
ถามว่าผิดศีลไหมตอบว่า ถ้าเจตนามุ่งปรารถนาให้คนอื่นหรือแมงเม่าเสียทรัพย์ขาดทุน หวังให้ตนเองได้กำไรร่ำรวย โดยไม่สนใจว่าคนอื่นเขาจะเดือดร้อน ก็เท่ากับผิดศีลข้อ 2 คือ เจตนาละโมภโลภมาก หวังได้ในทรัพย์สินของผู้อื่นครับ และผิดศีลข้อ 4 ควบด้วยเพราะเจตนาหลอกผู้อื่นให้หลงเข้าใจผิดเป็นการหลอกเพื่อให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ครับ
วิบากกรรมคือ แม้จะรวยมีสมบัติจากการค้าหุ้นมากมาย ก็จะไม่สามารถรักษาทรัพย์นั้นไว้ได้ยั่งยืนครับ โอกาสเสียทรัพย์เพราะเกิดภัยต่างๆ ย่อมมีในอนาคตเช่น ภัยจากธรรมชาติ ภัยจากขโมย-โจร ภัยจากการลงทุนเป็นหนี้ล้มละลาย ถ้าใช้ปัญญาในการหลอกคนอื่นให้เสียทรัพย์ ชาติต่อไปก็จะกลายเป็นคนโง่เขลา หรือไม่ก็จะถูกคนที่ฉลาดกว่าหลอกให้เสียทรัพย์ครับ
วิบากกรรมที่เห็นผลชัดที่สุดในปัจจุบันก็คือ แม้เงินเพียงบาทเดียวเขาก็จะอมไปในปรโลกไม่ได้ครับ สมบัติที่เหลือมากมายตนเองก็ใช้ไม่หมดสุดท้ายลูกหลานหรือคนอื่นก็จะได้สมบัตินั้นไปใช้สบายครับ
ปกติการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ปกตินักลงทุนทุกคนก็ย่อมหวังผลกำไรจากการลงทุนเป็นธรรมดาครับ การซื้อหุ้นจึงเป็นเหมือนการซื้อกิจการหรือการเป็นเจ้าของกิจการอย่างหนึ่ง
กรณีที่นักลงทุนรายใหญ่ปั่นหุ้นเพื่อให้ราคาพุ่งขึ้นสูงโดยมุ่งหวังให้แมงเม่าเข้ามาติดกับ แล้วค่อยปล่อยขายทำกำไร หลังจากแมงเม่าเข้าซื้อแล้วก็มีการโยกเงินออกจากระบบเพื่อให้หุ้นตก เมื่อหุ้นตกมากๆ แมงเม่าจะตกใจทำการเทขาย นักลงทุนก็จะฉวยโอกาสนี้เข้าซื้อหุ้นราคาถูกต่อเพื่อเก็งกำไรต่อไป
ถามว่าผิดศีลไหมตอบว่า ถ้าเจตนามุ่งปรารถนาให้คนอื่นหรือแมงเม่าเสียทรัพย์ขาดทุน หวังให้ตนเองได้กำไรร่ำรวย โดยไม่สนใจว่าคนอื่นเขาจะเดือดร้อน ก็เท่ากับผิดศีลข้อ 2 คือ เจตนาละโมภโลภมาก หวังได้ในทรัพย์สินของผู้อื่นครับ และผิดศีลข้อ 4 ควบด้วยเพราะเจตนาหลอกผู้อื่นให้หลงเข้าใจผิดเป็นการหลอกเพื่อให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ครับ
วิบากกรรมคือ แม้จะรวยมีสมบัติจากการค้าหุ้นมากมาย ก็จะไม่สามารถรักษาทรัพย์นั้นไว้ได้ยั่งยืนครับ โอกาสเสียทรัพย์เพราะเกิดภัยต่างๆ ย่อมมีในอนาคตเช่น ภัยจากธรรมชาติ ภัยจากขโมย-โจร ภัยจากการลงทุนเป็นหนี้ล้มละลาย ถ้าใช้ปัญญาในการหลอกคนอื่นให้เสียทรัพย์ ชาติต่อไปก็จะกลายเป็นคนโง่เขลา หรือไม่ก็จะถูกคนที่ฉลาดกว่าหลอกให้เสียทรัพย์ครับ
วิบากกรรมที่เห็นผลชัดที่สุดในปัจจุบันก็คือ แม้เงินเพียงบาทเดียวเขาก็จะอมไปในปรโลกไม่ได้ครับ สมบัติที่เหลือมากมายตนเองก็ใช้ไม่หมดสุดท้ายลูกหลานหรือคนอื่นก็จะได้สมบัตินั้นไปใช้สบายครับ
หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#3
โพสต์เมื่อ 01 March 2006 - 06:00 PM
ข้อ 4 ไม่ผิด ค่ะ ศีลข้อ 4 นี่เฉพาะวาจาค่ะ
แค่เล่นหุ้นก็ขุม 6 แล้ว จะมากลัวอะไรอีกล่ะ
แค่เล่นหุ้นก็ขุม 6 แล้ว จะมากลัวอะไรอีกล่ะ
QUOTE
และผิดศีลข้อ 4 ควบด้วยเพราะเจตนาหลอกผู้อื่นให้หลงเข้าใจผิดเป็นการหลอกเพื่อให้ผู้อื่นเสียทรัพย์ครับ
เมื่อไหร่หนอจะได้พบทหารหาญ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
สุนทรพ่อ
muralath2@hotmail
#4
โพสต์เมื่อ 01 March 2006 - 06:28 PM
มีนิทานมาเล่าให้ฟังเสริมความรู้ครับ
ครั้งหนึ่งเสี่ยจิ้งหรีดได้คิดจะซื้อหุ้น กับโบร๊กเกอร์คนหนึ่ง เขาจึงคิดว่าเอทำยังงัยถึงจะมีแมงเม่าเข้ามาติดกับเยอะๆ ดีนะ ทันใดนั้นเขาก็คิดได้เอางี้ดีกว่าถ้างัยเราจะโทรไปคุยกับเสี่ยจิงโจ้ และเพื่อนๆ คนอื่นๆ ให้ร่วมมือกันเข้าซื้อหุ้น และเทขายพร้อมๆ กัน
หลังจากนั้นเสี่ยจิ้งหรีดกับเพื่อนๆ ก็โทรไปสั่งโบร๊กเกอร์ให้ทำการเข้าซื้อและเทขายตามใจเขา ในขณะนั้นโบร๊กเกอร์มีความเห็นว่าเสี่ยกับเพื่อนๆ กำลังจะตัดสินใจทำให้คนอื่นเดือดร้อนจึงเตือนว่าเสี่ยการที่เสี่ยทำแบบนี้มันไม่ดีนะมันบาป ผิดศีลด้วย เข้าข่ายเจตนาฉ้อโกง เสี่ยจิ้งหรีดสวนกลับทันควัน
บ้ะ..มันจะผิดอะไรกันนักหนาฟะ...ในเมื่ออั้วไม่ได้ไปจี้ปล้นเขาซะหน่อย อั้วแค่พูดให้ลื้อเข้าซื้อเข้าขาย อั้วสั่งให้ลื้อขายแค่พูดมันจะบาปได้ยังงัย ลื้อตะหากที่ตัดสินใจเขียนคำสั่งซื้อขายเพราะฉะนั้นลื้อนั่นแหละบาป 5555
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คนขี้โกงมักมองไม่เห็นความผิดของตนเองครับ 555
ครั้งหนึ่งเสี่ยจิ้งหรีดได้คิดจะซื้อหุ้น กับโบร๊กเกอร์คนหนึ่ง เขาจึงคิดว่าเอทำยังงัยถึงจะมีแมงเม่าเข้ามาติดกับเยอะๆ ดีนะ ทันใดนั้นเขาก็คิดได้เอางี้ดีกว่าถ้างัยเราจะโทรไปคุยกับเสี่ยจิงโจ้ และเพื่อนๆ คนอื่นๆ ให้ร่วมมือกันเข้าซื้อหุ้น และเทขายพร้อมๆ กัน
หลังจากนั้นเสี่ยจิ้งหรีดกับเพื่อนๆ ก็โทรไปสั่งโบร๊กเกอร์ให้ทำการเข้าซื้อและเทขายตามใจเขา ในขณะนั้นโบร๊กเกอร์มีความเห็นว่าเสี่ยกับเพื่อนๆ กำลังจะตัดสินใจทำให้คนอื่นเดือดร้อนจึงเตือนว่าเสี่ยการที่เสี่ยทำแบบนี้มันไม่ดีนะมันบาป ผิดศีลด้วย เข้าข่ายเจตนาฉ้อโกง เสี่ยจิ้งหรีดสวนกลับทันควัน
บ้ะ..มันจะผิดอะไรกันนักหนาฟะ...ในเมื่ออั้วไม่ได้ไปจี้ปล้นเขาซะหน่อย อั้วแค่พูดให้ลื้อเข้าซื้อเข้าขาย อั้วสั่งให้ลื้อขายแค่พูดมันจะบาปได้ยังงัย ลื้อตะหากที่ตัดสินใจเขียนคำสั่งซื้อขายเพราะฉะนั้นลื้อนั่นแหละบาป 5555
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คนขี้โกงมักมองไม่เห็นความผิดของตนเองครับ 555
หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#5 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 03 March 2006 - 08:35 AM
เป็นคำถามที่น่าสนใจมากครับ ถูกกม. แต่ไม่รู้ถูกกฎแห่งกรรมหรือไม่ ผมมีคำถาม ถามต่อนะครับ
- เล่นหุ้นนี่ เป็นการอบายมุขอย่างหนึ่งหรือเปล่าครับ
- เล่นหุ้น แบบนักลงทุน(ลงทุนระยะยาว) กับเล่นหุ้นแบบหวังกำไร เล่นเร็ว(เข้าเร็วออกเร็วราคา
ขยับขึ้นก็ขาย) เป็นการผิดศีลหรือเปล่าครับ แต่ทั้งสองแบบก็หวังกำไรกันทั้งนั้น ได้กำไรก็
ดีใจ ขาดทุนก็เสีย
- การนำทรัพย์สินของตนเองเข้าตลาดหุ้น เพื่อให้คนอื่นมาร่วมลงทุนล่ะครับผิดศีลไหม
- การเสียภาษีกับการไม่เสียภาษีให้กับประเทศมันผิดกฎแห่งกรรมหรือไม่ อย่างกรณีท่านผู้นำ
ประเทศขายกิจการออกไป ได้เงินมามากมาย ทำตามกม. ไม่ต้องเสีย ภาษี เพราะไม่มีกม. ที่
ต้องไปเรียกเก็บ ถ้าเจตนาเพื่อหลีกเลี่ยงโดยการใช้วิธีการที่จะขายทั้งกิจการ โดยไม่ต้องเสีย
ภาษี กับขายแยกกิจการที่ต้องเสียภาษีล่ะ แต่ท่านเลือกที่จะไม่เสียเงิน แต่ก็เป็นทรัพย์สินของ
ท่านนี่ ที่ท่านมีสิทธิของท่านที่จะเลือกงัย ความจริงแล้วที่มีคนผูดกันมากเรื่องที่ท่านผิด
จริยธรรม ช่วยตอบข้อที่ว่าแล้วท่านผิด "ศีลธรรม" ด้วยหรือไม่
ขออภัยครับ ที่ถามไปถามมาเข้าเรื่องการเมืองไปซะได้ แต่ก็เป็นกรณีศึกษาเท่านั้นนะครับ ช่วยตอบตามหลักของธรรม ของพระพุทธเจ้านะครับ
- เล่นหุ้นนี่ เป็นการอบายมุขอย่างหนึ่งหรือเปล่าครับ
- เล่นหุ้น แบบนักลงทุน(ลงทุนระยะยาว) กับเล่นหุ้นแบบหวังกำไร เล่นเร็ว(เข้าเร็วออกเร็วราคา
ขยับขึ้นก็ขาย) เป็นการผิดศีลหรือเปล่าครับ แต่ทั้งสองแบบก็หวังกำไรกันทั้งนั้น ได้กำไรก็
ดีใจ ขาดทุนก็เสีย
- การนำทรัพย์สินของตนเองเข้าตลาดหุ้น เพื่อให้คนอื่นมาร่วมลงทุนล่ะครับผิดศีลไหม
- การเสียภาษีกับการไม่เสียภาษีให้กับประเทศมันผิดกฎแห่งกรรมหรือไม่ อย่างกรณีท่านผู้นำ
ประเทศขายกิจการออกไป ได้เงินมามากมาย ทำตามกม. ไม่ต้องเสีย ภาษี เพราะไม่มีกม. ที่
ต้องไปเรียกเก็บ ถ้าเจตนาเพื่อหลีกเลี่ยงโดยการใช้วิธีการที่จะขายทั้งกิจการ โดยไม่ต้องเสีย
ภาษี กับขายแยกกิจการที่ต้องเสียภาษีล่ะ แต่ท่านเลือกที่จะไม่เสียเงิน แต่ก็เป็นทรัพย์สินของ
ท่านนี่ ที่ท่านมีสิทธิของท่านที่จะเลือกงัย ความจริงแล้วที่มีคนผูดกันมากเรื่องที่ท่านผิด
จริยธรรม ช่วยตอบข้อที่ว่าแล้วท่านผิด "ศีลธรรม" ด้วยหรือไม่
ขออภัยครับ ที่ถามไปถามมาเข้าเรื่องการเมืองไปซะได้ แต่ก็เป็นกรณีศึกษาเท่านั้นนะครับ ช่วยตอบตามหลักของธรรม ของพระพุทธเจ้านะครับ
#6
โพสต์เมื่อ 03 March 2006 - 01:39 PM
QUOTE
เล่นหุ้นนี่ เป็นการอบายมุขอย่างหนึ่งหรือเปล่าครับ
ตอบ จะอบายมุขหรือไม่มันขึ้นอยู่กับใจของคนที่เล่นหุ้นว่าจิตเขามีความโลภมากเจือปนอยู่มากน้อยขนาดไหนครับ ถ้าโลภมากอยากให้ตนเองได้เยอะๆ นั่นแสดงว่าคนอื่นเขาจะต้องเสียมาก เพราะถ้าคนอื่นไม่เสียตังส์แล้วเราจะได้ตังส์ได้อย่างไรครับ กรณีปั่นหุ้นทำให้หุ้นพุ่งสูง แล้วเทขายจัดเป็นอบายมุขมีโทษแน่นอนครับ
QUOTE
เล่นหุ้น แบบนักลงทุน(ลงทุนระยะยาว) กับเล่นหุ้นแบบหวังกำไร เล่นเร็ว(เข้าเร็วออกเร็วราคาขยับขึ้นก็ขาย) เป็นการผิดศีลหรือเปล่าครับ แต่ทั้งสองแบบก็หวังกำไรกันทั้งนั้น ได้กำไรก็ดีใจ ขาดทุนก็เสีย
ตอบ การลงทุนในหุ้นก็คือการซื้อกิจการหรือเข้าร่วมเป็นเจ้าของกิจการ ถ้ากิจการที่เราเข้าซื้อหุ้นไม่ใช่กิจการที่เป็นมิจฉาอาชีวก็ไม่ผิดศีลไม่บาปครับ กรณีเป็นนักลงทุนระยะยาว จะมุ่งเน้นการค้าขายและผลประกอบการของกิจการ โดยจะมีผลตอบแทนในรูปของเงินปันผล จึงไม่ถือเป็นการโกงหรือหลอกลวงใครเพื่อให้เสียตังส์ครับ ดังนั้นการปั่นหุ้นจึงมีผลน้อยมากกับกิจการที่มีการเติบโตดีมีผลประกอบการเป็นไปตามกลไกตลาดจริง
ส่วนการเล่นหุ้นแบบหวังกำไร เล่นเร็วนั้น ถ้าเป็นการเข้าซื้อขายแบบปกติ เช่น ซื้อมาถูกแล้วขายแพงเพราะผู้ที่ซื้อเล็งเห็นผลประกอบการของกิจการนั้นอนาคตไปได้สวยแน่ ถึงเราจะขายแพงเขาก็ยอมซื้อ เพราะคนซื้อก็ย่อมมองเห็นว่าผลตอบแทนหรือเงินปันผลจะต้องดีแน่ ก็ไม่ถือว่าผิดศีล หรือยักยอกครับ ยกเว้นกรณีที่มีการไม่ประสงค์ดีของกลุ่ม hard fun หรือ investor fun บางคนหรือบางกลุ่มที่มีเจตนาปั่นให้หุ้นหรือกิจการนั้นดูดีเกินจากผลประกอบการที่ควรจะเป็นมากๆ ครับ คือ เข้าข่ายหลอกลวงให้คนซื้อเล็งเห็นว่าหุ้นนีดีมีอนาคตได้กำไรแน่เพราะกิจการดี ซึ่งความจริงแล้วไม่ดีดังที่คาด ก็เท่ากับผิดศีล ผิดธรรมเพราะมีเจตนาหลอกผู้อื่นเพื่อหวังทรัพย์สินคนอื่นครับ
QUOTE
การนำทรัพย์สินของตนเองเข้าตลาดหุ้น เพื่อให้คนอื่นมาร่วมลงทุนล่ะครับผิดศีลไหม
ตอบ ไม่ผิดศีลครับ เพราะเป็นการระดมเงินทุนเพื่อใช้ในการขยายกิจการซึ่งแบงส์ไม่สามารถปล่อยกู้ให้ได้เพราะเม็ดเงินมหาศาล หรือ เพราะแบงส์จะเก็บดอกแพง การหาคนเข้าถือหุ้นจึงเป็นการกู้ยืมเงินเพื่อการลงทุนอย่างหนึ่ง ที่ผู้รับร้องขอ(กิจการเปิดเสนอขายหุ้น) และผู้ให้(ผู้ซื้อหุ้น)เต็มใจให้โดยไม่มีการหลอกลวงถึงจะไม่ผิดศีลครับ
แต่ถ้าบริษัทหรือกิจการใดมีผลประกอบการล้มละลายที่ผิดวิสัย เช่น เจ้าของกิจการโกงเงินเชิดเงินไปต่างประเทศแล้วอ้างว่าผลประกอบการไม่ดีต้องเทขายหุ้น หรือขายกิจการ ก็เท่ากับผิดศีลได้เหมือนกันครับ ผู้เข้าซื้อหุ้นก็จะขาดทุนหมดตัวไปตามๆ กัน
QUOTE
การเสียภาษีกับการไม่เสียภาษีให้กับประเทศมันผิดกฎแห่งกรรมหรือไม่
ตอบ ผิดครับถ้าเจตนาหลีกเลี่ยงโดยรู้อยู่เต็มอกว่าต้องเสียภาษีแต่หลีกเลี่ยงไม่เสียก็เท่ากับเจตนาโกงชาติบ้านเมืองครับ เพราะถ้ากล้าโกงชาติได้ก็ต้องโกงตัวเอง และโกงคนอื่นได้เช่นกันครับ
QUOTE
อย่างกรณีท่านผู้นำประเทศขายกิจการออกไป ได้เงินมามากมาย ทำตามกม. ไม่ต้องเสีย ภาษี เพราะไม่มีกม. ที่ต้องไปเรียกเก็บ
ตอบ ถูกต้องตามกฎหมายครับ เพราะระเบียบการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้รับการยกเว้นสิทธิให้กับนักลงทุนไม่ต้องเสียภาษีจริง และเป็นกฎหมายที่มีมานานแล้วครับ เนื่องจากการลงทุนในหุ้นมีความเสี่ยงสูงมาก ถ้าพลาดก็คือหมดตัวเลย ดังนั้นจึงได้รับการยกเว้นภาษีเพื่อจูงใจให้นักลงทุนต่างชาติกล้าเข้ามาลงทุนในประเทศมากยิ่งขึ้นครับ
QUOTE
ถ้าเจตนาเพื่อหลีกเลี่ยงโดยการใช้วิธีการที่จะขายทั้งกิจการ โดยไม่ต้องเสีย
ภาษี กับขายแยกกิจการที่ต้องเสียภาษีล่ะ แต่ท่านเลือกที่จะไม่เสียเงิน แต่ก็เป็นทรัพย์สินของ
ท่านนี่ ที่ท่านมีสิทธิของท่านที่จะเลือกงัย ความจริงแล้วที่มีคนพูดกันมากเรื่องที่ท่านผิด
จริยธรรม ช่วยตอบข้อที่ว่าแล้วท่านผิด "ศีลธรรม" ด้วยหรือไม่
ภาษี กับขายแยกกิจการที่ต้องเสียภาษีล่ะ แต่ท่านเลือกที่จะไม่เสียเงิน แต่ก็เป็นทรัพย์สินของ
ท่านนี่ ที่ท่านมีสิทธิของท่านที่จะเลือกงัย ความจริงแล้วที่มีคนพูดกันมากเรื่องที่ท่านผิด
จริยธรรม ช่วยตอบข้อที่ว่าแล้วท่านผิด "ศีลธรรม" ด้วยหรือไม่
ตอบ เป็นคำถามที่ตอบยากมากครับ ผมขอยกอุปมาดีกว่าครับ สมมุตินาย ท. เป็นเจ้าของร้านลูกชิ้นแห่งหนึ่ง เขาบอกว่า ถ้าซื้อ 1 ถุงขายปลีก 50บาท ถ้าซื้อ 10 ถุงขึ้นไปขายส่งเหลือถุงละ 40 บาท นาย ส. จึงตัดสินใจซื้อทีเดียว 10 ถุงราคาส่งเพื่อจะได้ประหยัดทุนในการซื้อลูกชิ้นอีก 100 บาท ถามว่านาย ส. ตัดสินใจผิดหรือไม่ที่ซื้อทีเดียวหมด 10 ถุงไม่ซื้อแยกทีละถุง??
ดังนั้นกรณีนายกก็เช่นกันครับ ถ้ากฎหมายเปิดช่องให้และทำตามกลไกตลาดตามหลักก็ไม่น่าผิดศีลครับ เพราะไม่ใช่เจตนาโกงชาติ เนื่องจากเป็นทรัพย์สินส่วนตัว ที่เข้าซื้อขายปกติที่กลไกตลาดยอมรับได้อยู่แล้วครับ ยกเว้นเจตนาถ่ายโอนหรือฟอกเงินข้ามประเทศนะครับ อย่างกรณีที่บริติสเวอร์จิ้น ซึ่งเป็นเจตนาชัดเจนเพื่อจะหนีภาษีหลีกเลี่ยงภาษีชัดเจน ก็ถือว่าผิดศีล ผิดธรรมโดยอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายครับ
สรุปคือ ข้อนี้ตอบยากครับโปรดใช้วิจารณญาณเอาเองละกันครับ 555
#7
โพสต์เมื่อ 29 June 2007 - 11:56 AM
ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะครับ...สาธุ