วิธีอยู่กับคนที่เราเกลียด
#1
โพสต์เมื่อ 10 August 2008 - 04:10 PM
ท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ เขียนบทกวีไว้ว่า "น้ำไหลอายุขัยก็ไหลล่วง ใบไม้ร่วงชีพก็ร้างอย่างความฝัน ฆ่าชีวาคือพร่าค่าคืนวัน จะกำนัลโลกนี้มีงานใด" คนเราไม่ควรพร่าเวลาอันสูงค่าด้วยการปล่อยตัวปล่อยใจ ให้ตกเป็นทาสของความชอบ ความชัง มากนัก เพราะถ้าเราวิ่งตามกิเลส กิเลสก็จะพาเราวิ่งทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ต่อไปไม่รู้จบ กิเลสไม่เคยเหนื่อย แต่ใจคนเราสิจะเหนื่อยหนักหนาสาหัสไม่รู้กี่เท่า
ควรคิดเสียใหม่ว่า เราไม่ได้เกิดมาเพื่อที่จะชอบหรือไม่ชอบใคร หรือเพื่อที่จะให้ใครมาชอบหรือมาชัง แต่เราเกิดมาสู่โลกนี้เพื่อทำในสิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษย์คนหนึ่งควรจะทำ เอาเวลาที่รู้สึกแย่ๆ กับคนอื่นนั้นหันกลับมามองตัวเองดีกว่า ชีวิตนี้เรามีอะไรบ้างที่เป็นแก่นสาร มีงานอะไรบ้างที่เราควรทำ
นอกจากนั้นก็ควรมองกว้างออกไปอีกว่า เราได้ทำอะไรไว้ให้แก่โลกบ้างแล้วหรือยัง คนทุกคนนั้นต่างก็มีดีมีเสียอยู่ในตัวเอง ถ้าเราเลือกมองแต่ด้านเสียของเขา จิตใจของเราก็เร่าร้อน หม่นไหม้ เวลาที่เสียไปเพราะมัวแต่สนใจด้านไม่ดีของคนอื่นก็เป็นเวลาที่ถูกใช้ไปอย่างไร้ค่า บางทีคนที่เราลอบมอง ลอบรู้สึกไม่ดีกับเขานั้น เขาไม่เคยรู้สึกอะไรไปด้วยกันกับเราเลย เราเผาตัวเราเองอยู่ฝ่ายเดียวด้วยความหงุดหงิด ขัดเคืองและอารมณ์เสีย วันแล้ววันเล่า สภาพจิตใจแบบนี้ไม่เคยทำให้ใครมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นมาได้เลย
ลองเปลี่ยนวิธีคิด วิธีมองโลกเสียใหม่ดีกว่า คิดเสียว่าคนเราไม่มีใครดีพร้อมหรือ เลวไม่มีที่ติไปเสียทั้งหมดหรอก เราอยู่ในโลกกันคนละไม่กี่ปี ประเดี๋ยวเดียวก็จะล้มหายตายจากกันไปหมดแล้ว มาเสียเวลากับเรื่องไร้สาระทำไม อะไรที่ควรทำก็รีบทำเถิดปล่อยวางเสียบ้าง ความโกรธ ความเกลียดนั้นไม่มีคุณค่าอะไรต่อชีวิตอันแสนน้อยนิดนี้เลย มุ่งไปข้างหน้า ไปหาสิ่งที่มีคุณค่าให้ชีวิตดีงามดีกว่า
วิธีที่แนะนำทั้งหมดนั้น นักภาวนาเรียกว่า "การกลับมาอยู่กับตัวเอง" กล่าวคือ ถ้าเราเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องอยู่กับคนที่ไม่ถูกโฉลก แทนที่จะปล่อยใจให้อยู่กับความรู้สึกแย่ๆ ไปตลอด ก็ควรหันกลับเข้ามา ''มองด้านใน'' แก้ไขที่ตัวเอง อย่ามุ่งแก้ไขที่คนอื่น เพราะยิ่งพยายามแก้ไขคนอื่น ก็ยิ่งยุ่งเหมือนลิงทอดแห ยิ่งเราให้ความสำคัญกับคนที่เราเกลียดมากเท่าใด สภาพจิตใจก็ยิ่งแย่ลงมากเท่านั้น
วิธีที่ดีที่สุดในการอยู่กับคนที่เรารู้สึกไม่ดีหรือเป็นปฏิปักษ์ก็คือ การดึงความรู้สึกจากเขามาอยู่เราทุกขณะ หรือถ้าเช่นนั้นก็ย้ายตัวเองออกไปเสียจากสภาพแวดล้อมเช่นนั้นให้เร็วที่สุด อย่าอยู่นานจนทุกข์นั้นกลัดหนองเป็นมะเร็งร้ายในอารมณ์
ปราชญ์จีนบอกว่า "ถ้ามีขุนเขาขวางท่านอยู่ข้างหน้า อย่าเสียเวลาย้ายขุนเขาแต่จงย้ายตัวเอง" ดังนั้นเราควรจะย้ายภูเขาที่อยู่ข้างในหรือจะย้ายภูเขาที่อยู่ข้างนอก?
#2
โพสต์เมื่อ 11 August 2008 - 08:48 PM
#3
โพสต์เมื่อ 13 August 2008 - 11:24 PM
#4
โพสต์เมื่อ 14 August 2008 - 08:52 AM
#5
โพสต์เมื่อ 15 August 2008 - 04:04 PM
ได้เจ้านายสูงสุดคนใหม่วุ่นวายหมดเลย 555
ก็เลยเกิดอาการเกลียดในใจนิดๆ
โชคดีนะที่มีหลวงพ่อคอยสอนสั่งในการนั่งสมาธิ
เราก็ยังตัดกิเลสไม่ได้มันก็มีบ้างเนอะ
ได้กำลังใจดีๆ เวลาเข้ามาอ่านในเว็บไซต์ DMC
ขอบคุณที่เป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อชาวโลกตลอดมา
ขอบคุณจริงๆ ค่ะ
ก็จะขอสร้างบารมีร่วมกับวัดธรรมกายตลอดไปค่ะ
ขอให้ทุกคนมีสันติสุขภายในค่ะ
ไฟล์แนบ
#6
โพสต์เมื่อ 16 August 2008 - 09:30 AM
สาธุค่ะ
#7
โพสต์เมื่อ 18 August 2008 - 06:47 PM
#8
โพสต์เมื่อ 18 August 2008 - 08:17 PM
คือ พี่น้องท้องเดียวกัน......
....................................
#9
โพสต์เมื่อ 19 August 2008 - 02:12 PM
#10
โพสต์เมื่อ 21 August 2008 - 07:16 AM
#11
โพสต์เมื่อ 21 August 2008 - 02:51 PM
#12
โพสต์เมื่อ 23 August 2008 - 11:21 AM
#13
โพสต์เมื่อ 24 August 2008 - 06:17 AM
#14
โพสต์เมื่อ 29 August 2008 - 04:07 PM
#15
โพสต์เมื่อ 03 September 2008 - 02:20 PM
ขอบคุณจริง ๆ จะนำไปบอกกับคนที่บ้านด้วยครับ
ขอบคุณ ๆ จริง ๆ เลยครับ
#16
โพสต์เมื่อ 04 September 2008 - 09:19 PM
#17
โพสต์เมื่อ 07 November 2008 - 10:09 PM
#18
โพสต์เมื่อ 16 March 2009 - 06:21 PM
#19
โพสต์เมื่อ 05 November 2010 - 11:23 PM
ย้ายขุนเขา ? ไม่ง่ายใช่เลย ล่าย ๆง่าย ๆ ย้ายตัวเองดีกว่า
โอ ใช่เลย! "กลับมามองด้านในของตัวเอง" ด้วยดีสุด
#20
โพสต์เมื่อ 30 June 2014 - 12:06 AM
เป็นบทความ ข้อคิดที่ดีมาก ๆ ค่ะ ขอกราบอนุโมทนาบุญ และขออนุญาตนำไปเผยแพร่ต่อนะค่ะ