![รูปภาพ](http://www.gravatar.com/avatar/f376446fa52b874783aab7973d10197d?s=100&d=https%3A%2F%2Fwww.dmc.tv%2Fforum%2Fpublic%2Fstyle_images%2Fmaster%2Fprofile%2Fdefault_large.png)
รัก กับ เมตตา ต่างกันอย่างไร
#1
โพสต์เมื่อ 19 July 2006 - 09:53 PM
แต่
" เมตตา " มีลักษณะของการแผ่จากตัวเราขยายออกไป
" รัก " มีความเร่าร้อน ( ด้วยตัณหา) เป็นเบื้องต้น มีความยึดมั่นถือมั่นเป็นเบื้องกลาง และมีความโศกเป็นที่สุด
แต่
" เมตตา " มีความเยือกเย็นเป็นเบื้องต้น มีความปราถนาดีเป็นเบื้องกลาง และมีอุเบกขาเป็นที่สุด
" รัก " มีรัศมีวงจำกัดแคบ มุ่งเน้นเอาที่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
แต่
" เมตตา " มีรัศมีเป็นวงกว้าง ไม่เฉพาะเจาะจง
( ข้อมูลจากหนังสือ ของป้าใส ขออภัยที่จำชื่อไม่ได้ เพราะชอบก็จดเก็บเอาไว้ )
ทราบแบบนี้แล้ว คุณล่ะ อยากมีความรัก หรือ ความเมตตา
#2
โพสต์เมื่อ 19 July 2006 - 10:05 PM
#3
โพสต์เมื่อ 19 July 2006 - 10:30 PM
*********
ใ ค ร เ ชิ ด. . .ใ ค ร ชู. . .ช่ า ง เ ข า
ใ ค ร เ บื่ อ. . .ใ ค ร บ่ น. . .ท น เ อ า
ใ จ เ ร า. . .ร่ ม เ ย็ น. . .เ ป็ น พ อ
. . .|2@|<_|3( )( )|\| @ |-|()T/\/\@I|_.C()/\/\. . .
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
![](https://www.dmc.tv/forum/uploads/post-3837-1160106540.gif)
#4
โพสต์เมื่อ 19 July 2006 - 11:28 PM
![nerd_smile.gif](style_emoticons/default/nerd_smile.gif)
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#5
โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 08:57 AM
#6
โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 09:37 AM
โกรธมากๆ เข้า ก็กลายเป็นพยาบาท
...........................................
แต่ความเมตตา ไม่ก่อให้เกิดความโกรธ
...........................................
รักอะไร ให้เหมือนรักดอกไม้ที่อยู่บนต้น
ที่ไม่พยายามครอบครองดอกไม้ ตัดมาใส่แจกัน
ให้ผู้คนได้ชื่นชมสวน ดอกไม้ ประดับโลกอย่างงดงาม
#7
โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 10:03 AM
![nerd_smile.gif](style_emoticons/default/nerd_smile.gif)
![nerd_smile.gif](style_emoticons/default/nerd_smile.gif)
![nerd_smile.gif](style_emoticons/default/nerd_smile.gif)
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง ของแท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบไปด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตไม่ตรัสวาจานั้น
ตถาคตรู้วาจาใด แม้เป็นของจริง เป็นของแท้ และไม่ประกอบด้วยประโยชน์
แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ แม้วาจานั้นตถาคตก็ไม่ตรัส
อนึ่ง ตถาคตรู้วาจาใด เป็นของจริง เป็นของแท้ ประกอบด้วยประโยชน์
ทั้งวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่เจริญใจของคนอื่นๆ ตถาคตย่อมรู้กาลอันควรที่จะใช้วาจานั้น
[/color]
แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน
ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้..."
พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
"รู้ใดก็ไม่ประเสริฐ เท่ารู้แจ้งด้วยปัญญาธรรมอันเกิดมีในตน"
"อัศวินปฏิญาณตนเป็นคนกล้า
ดวงใจเปี่ยมคุณธรรม
ซื่อตรงยึดมั่นในวาจาสัตย์
อุทิศชีวิตพิชิตมาร"
#8
โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 01:45 PM
ความรักที่พระพุทธเจ้าทรงสอน หมายถึง ความรักแบบธรรมดาทั่วไป เช่น ความรักของหนุ่มสาว.. สามี-ภรรยา.. ความรักลูก.. รักข้าวของของเรา... สิ่งของเครื่องใช้ทุกอย่างก็จัดเป็นความรักในที่นี้ และยังมีรักในอะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย (รึปล่าว)...และความรักที่ว่านี้แหละ ที่เป็นสาเหตุแห่งความทุกข์ เพราะเมื่อมันพังไป สลายไป ผู้ที่รักในสิ่งนั้นอยู่ ก็ต้องโศกเศร้าเสียใจ .... ก็ถ้าไม่มีรัก ความทุกข์จะมีมาจากไหน
บุคคลไม่ควรทำสิ่งใดๆ ให้เป็นที่รัก เพราะว่าการพลัดพรากจากสิ่งที่รัก เป็นความทรมาน และการที่จะไม่ให้พลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักนั้น ก็เป็นเรื่องที่สุดวิสัย ทุกคนจะต้องพลัดพรากจากสิ่งที่รักอย่างแน่นอน ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
![cry_smile.gif](style_emoticons/default/cry_smile.gif)
ส่วนความเมตตาหมายถึง ความปรารถนาดี หรือจะเรียกว่าความรักก็ได้ แต่เป็นความรักอีกแบบหนึ่งที่ไม่มีความรู้สึกแหนหวง ความรู้สึกเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเข้ามาประกอบ มีแต่ความปรารถนาดีเพียงอย่างเดียว เมตตาจึงไม่นำมาซึ่งความทุกข์ใดๆ เลย นำมาให้แต่ความสุขเท่านั้น ...
![happy.gif](style_emoticons/default/happy.gif)
#9
โพสต์เมื่อ 20 July 2006 - 03:35 PM
เพราะรักที่บริสุทธิ์ รักที่ไม่เกี่ยวกับกามคุณนั้น ก็ยังมีอยู่ค่ะ
เช่น ความรักอันไม่มีประมาณของพระพุทธองค์ที่มีต่อสรรพสัตย์ในภพสาม
ความรักของพ่อ แม่ ที่มีต่อลูก , ความรักของคุณครูไม่ใหญ่ที่มีต่อนักเรียนอนุบาลฯลฯ
ขึ้นอยู่กับบุคคลมากกว่าที่จะให้นิยาม ระหว่าง รัก กับ เมตตา
รัก-ปรารถนดี อยากให้มีแต่ความสุข
เมตตา-อยากให้พ้นจากทุกข์ อยากให้ดีขึ้นกว่าเดิม
ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้งรักและเมตตา ก็จำเป็นต้องมีอุเบกขามากำกับค่ะ
ถึงจะถูกหลักวิชชา
#10
โพสต์เมื่อ 21 July 2006 - 11:06 AM
ถึงจะถูกหลักวิชชา
ถูกต้องแล้วครับ ความรักและเมตตาจึงจะไม่เกิดเป็นความทุกข์ขึ้นมาได้
#11
โพสต์เมื่อ 21 July 2006 - 09:44 PM
ภาษาทางธรรม เป็นภาษาบริสุทธิ์กว่านะครับ
#12
โพสต์เมื่อ 15 March 2007 - 03:05 PM
#13
โพสต์เมื่อ 15 March 2007 - 03:53 PM