การทำแท้ง
#1
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 02:34 PM
แล้วถ้ากรณีคุณหมอเป็นคนสั่งให้เอาบุตรออกเนื่องจากเป็นผลร้ายกับมารดานั้น ปาบนั้นจะไปตกกับคุณหมอหรือมารดาค่ะ
ขอบคุณค่ะ <_<
#2
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 02:37 PM
ข้อนี้น่าสนใจเหมือนกันนะคะ
แต่เรื่องทำแท้ง ผลบาปส่งหมดทั้งวงจร ทั้งหมอสั่ง หมอทำ คนทำ คนสนับสนุนให้ทำ
ผลกรรมพอๆกันคะ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#3
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 02:54 PM
#4
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 03:07 PM
2.ทำบุญรักษาศีล เจริญภาวนา แผ่เมตตา โดยให้เธอสมัครใจตั้งใจทำด้วยตัวเอง
ขอตอบอย่างตรงไปตรงมาตามพระธรรมวินัยซึ่งเป็นที่มาของพระพุทธศาสนาโดยมีพระพุทธเจ้าทรงตรัสความจริงในข้อนี้ไว้อย่างที่ใครก็ไม่สามารถที่จะหนีได้ แม้แต่พระพุทธเจ้าเองซึ่งคนพบความรู้นี้จากธรรมชาติก็ไม่สามารถช่วยใครได้ แม้แต่พระวรกายของพระองค์ยังต่อเป็นไปตามกฏแห่งกรรมอย่างหลีกหนีไม่พ้น
การทำแท้งเท่ากับฆ่าคนหนึ่งอย่างไม่ต้องตีความหรืออย่างสงสัยทีเดียว เพราะการกำเนิดของมนุษย์โดยทั่วไปนั้นมีเหตุ 3 ประการ คือ มารดา บิดา ร่วมกัน...........มีวิญญานมาเกิด...............แม่มีระดู..................ความเป็นคนเกิดขึ้นแล้ว ใครฆ่าก็บาปทั้งนั้น ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆทั้งสิ้น ไม่ว่าเด็กนั้นรู้ด้วยทางการแพทย์ว่าพิการก็ตาม ยิงการถูกข่มขืนก็ตาม ก็บาปทั้งสิ้น เพราะเหตุผลเหล่านี้ไม่สามารถขอลดหย่อนผ่อนโทษของกรรมได้เลย การที่เด็กเกิดมาในเวลาไม่เหมาะสม...........และ...................พิการ นั้นเป็นกรรมของทั้งแม่และเด็กเอง เมื่อทั้งสองกำลังรับกรรมอยู่...........คนเหล่านี้เลือกที่จะแก้ปัญหาด้วยการฆ่าเท่ากับว่าแก้กรรมชั่วด้วยกรรมชั่วมันก็หนักเข้าไปใหญ่ในที่สุดแล้วจะดึงผู้เป็นนายแพทย์ติดร่างแหไปด้วยอีกต่างหากในกรณีดังกล่าว
เมื่อถึงคราวต้องรับกรรมอยู่ที่ไหนก้หลบไม่พ้นทั้งสิ้น.........สร้างความทรมานแก่ผู้อื่นอย่างไรก็รับรสชาติความทรมานหวาดเสียวเท่ากันไม่ได้มีความผิดเพี้ยน แต่เมื่อทำแล้วมีทางแก้อยู่คือ ต้องเลิกทำ และ ทำกรรมดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆต้องมากจริงจึงจะพอทำให้รสชาติคความทรมานนั้นจืดจางด้วยอำนาจกรรมดี แต่มิใช่ทำให้กรรมชั่วที่ทำนั้นลดลงก็หาไม่แต่ความดีก็ให้ผลที่เป็นสุขก็รสชาติตรงกันข้ามซึ่งให้ผลในเวลาเดียวกันเท่านั้นเอง...............เหมือนเอายาพิษซึ่งมีขนาดหนึ่งขันใส่ในโอ่งแล้วเราตักน้ำกินเราตายแน่ แต่เอายาพิษ 1 ขันใส่ลงในน้ำทั้งทะเลเราตักน้ำทะเลกินไม่ตาย ทั้งที่ใส่ยาพิษ 1 ขันเท่ากันมิได้ลดลงเลย (น้ำทะเลคือความดี กรรมดี ยาพิษคือ กรรมชั่ว) ความรู้ความสามารถแพทย์คงเข้าใจในสิ่งที่ ต้องการสื่อสารแน่นอน
การทำบุญครั้งใดก็ต้องอุทิศให้เขาเสมอ เพราะอาจจะทำให้ความอาฆาตแค้นลดลงบ้างไม่มากก็น้อย แต่มิใช่ใส่ให้ 1-2 วันก็นึกว่าจบกัน
ตามลำดับการรับกรรม ที่ฆ่าสัตว์ คือ กรรมยังหนักก็ไปนรกก่อนเลย................หมดจากนรกแล้วมาที่เป็นสัตว์เดรัชฉาน.................มาเป็นมนุษย์อายุสั้น พิการ ..................ถ้าทำความดีมากอาจลัดวงจรเลวนี้ได้
#5
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 03:10 PM
หนูเจอใครทำอะไรก็คิด คิดไปคิดมา "เอ้อ เราในอดีตนี่ก็เลวเหมือนกันนะ"
555+
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#6
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 03:33 PM
....นู๋ไม่ค่อยเข้าใจค่ะ...รบกวนทำให้กระจ่างอีกนิดดดดดนึงค่ะ....
#7
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 03:38 PM
....นู๋ไม่ค่อยเข้าใจค่ะ...รบกวนทำให้กระจ่างอีกนิดดดดดนึงค่ะ....
ก็คือว่า เวลาเราไปเจอใครทำอะไรให้รำคาญใจ หงุดหงิดใจ หนูก็จะนึกถึงคำพูดของหลวงพ่อว่า "เป็นภาพในอดีตของเรา"
พอลองไปคิดดู ก็อดมาดูตัวเองไม่ได้ว่า ที่เราต้องไปพบกับคนไม่ดีนี่ก็เป็นเพราะว่าเราเคยไปทำแบบเดียวกันกับคนอื่นด้วยไงคะ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#8
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 03:59 PM
ผลกรรมน่ากลัวนะคะ อ่านแล้วดีจังเลยค่ะ ได้ความรู้....เข้าใจง่าย
สรุปแล้วก็คือ กรรมจากากรทำแท้งนั้นแก้กรรมได้...
แต่ถ้าทำดีมากๆ ก็ลดวงจรขั้นตอนต่างๆ ของกรรมนั้นได้
แล้วก็หลุดจากกรรมนั้นได้
#9
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 04:07 PM
เป็นกรรมเก่าของ บุตร ด้วย
#10
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 06:12 PM
ไปทำแท้ง ถ้าอ้างว่าหมอสั่งเพราะว่าเป็นอันตรายกับมารดานั้น ความก้าวหน้าในวงการแพทย์
นั้นน่าทำให้รักษาชีวิตทั้งแม่ทั้งลูกได้ ไม่น่าต้องทำแท้ง หรือมีกรณีอื่น ๆ ที่จำเป็นจริง ๆ อีก
#11
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 06:30 PM
ใจเป็นธาตุสำเร็จ นึกว่าดีมันก็ดี นึกว่าตกต่ำ ชีวิตก็จะตกต่ำนะคะ
วิธีแก้กรรมทำแท้งคือ
ไปปล่อยโค ปล่อยปลาให้ได้ทุกวันหรือทำบ่อยๆ เนืองๆ ตลอดชีวิต โดยเฉพาะสัตว์ใหญ่อย่างโค หรือโคท้อง ปลาไข่เป็นต้น และถือศีลห้าให้ได้เป็นอย่างน้อยตลอดชีวิต (โดยเฉพาะข้อ 1 บี้มด ตบยุง ด่าว่าใช้สายตามองทำให้คนอื่นเจ็บปวดก็รวมอยู่ในข้อนี้ด้วย) หรือศีลแปดและอุโบสถศีลในวันพระ อุทิศบุญเหล่านั้นไปให้กับผู้ที่เราเคยไปล่วงเกินชีวิตเขาเอาไว้
และทำบุญครั้งใดก็อย่าลืมอธิษฐานกำกับว่า "ขออย่าให้ข้าพเจ้าได้ไปทำร้ายเบียดเบียนใคร และใครอย่าได้มาทำ้ร้าย เบียดเบียนข้าพเจ้าและครอบครัวของข้าพเจ้าได้เลยแม้เพียงปลายเส้นผม แม้มาเป็นกองทัพ" อย่าลืมนะคะ สำคัญทีเดียว
จะทำให้เราหนีกรรมได้นะคะ และวิบากกรรมดังกล่าวก็จะเบาบางลงเรื่อยๆ จากหนักเป็นเบา เบาเป็นหายค่ะ
#12
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 07:38 PM
=> http://www.dmc.tv/fo...p?showtopic=770
#13
โพสต์เมื่อ 10 May 2006 - 09:10 PM
สำหรับมารดานั้นผิดเต็มๆ อยู่แล้ว แต่สำหรับคุณหมอ ก็จะมีวิบากกรรมต้องไปเกิดแล้วถูกเค้าทำแท้งมั่งแหละครับ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอันใดก็แล้วแต่ ทำแท้งก็คือการฆ่า ไม่มีมนุษย์คนใดมีสิทธิมาตัดสินการอยู่หรือตายของผู้อื่นครับ
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#14
โพสต์เมื่อ 15 May 2006 - 09:27 AM
ไม่ว่าเราจะเป็นคนเอาออกเอง หรือ หมอบอกให้เอาออก
แต่คนตัดสินใจก็คือเราอยู่ดีครับ
แม้ชีวิตนี้ก็ให้ได้
#15
โพสต์เมื่อ 04 March 2007 - 12:23 PM