ทีม & หุ่นเชิด
#1
โพสต์เมื่อ 21 September 2010 - 12:03 AM
เราก็ต้องทำกันเป็นทีม ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ มันไปไม่ได้
จะเอาความเห็นตัวเองอย่างเดียวเป็นหลักไม่ได้ จะทำงานเฉพาะจุดที่รับผิดชอบ
อย่างเดียวก็ไม่ได้ จะต้องดูว่าสิ่งที่เราทำอยู่นั้นมันเป็นผลดีต่อส่วนรวมหรือไม่
หรือทิศทางของส่วนรวมเขาไปในทิศไหน เราต่องพุ่งไปในทิศทางนั้นให้มันเป็นหนึ่งเดียว
ไม่ใช่กระจัดกระจายกันไปทำ มันจะไม่มีพลัง
นี่เป็นหลักที่เราจะต้องยึดเอาไว้ เพราะฉะนั้น " ศิลปินเดี่ยว" ไม่ควรจะมีในองค์กรนี้
เรามีความสามารถขนาดนี้ เราก็ทุ่มลงไปนงานนั้น แต่อย่าลืมดูภาพรวมขององค์กรด้วย
ถ้าทำได้อย่างนี้แล้ว จะได้ชื่อว่าทำกันเป็นทีม เดี๋ยวความสำเร็จของเราก็จะเกิดขึ้น
................................
หุ่นเชิด
อย่าขุ่นมัวกับมนุษย์ เพราะมนุษย์เป็นเพียงหุ่นเชิด ถ้าเรามีความเป็นเพื่อน
คำพูดที่ออกไปจะเป็นความรัก ความปรารถนาดี
สิ่งที่พูดแล้วใจห่อเหี่ยว ไม่เป็นประโยชน์ต่อกลางของกลาง อย่าพูด!
เพราะมันจะร้อนทั้งเราและเขา
อาชีพพระ ต้องทำหยุดในหยุด ลุยกันเลย
ทำบางวันไม่ได้ ทำเว้นวันไม่ได้ ต้องทำทุกวัน
..............................................................
ทั้งทีม และหุ่นเชิด
เป็นโอวาทหลวงพ่อธัมม์ ในหนังสือ:จดจำไว้ทุกถ้อยคำ
#3
โพสต์เมื่อ 21 September 2010 - 12:59 AM
#4
โพสต์เมื่อ 21 September 2010 - 12:59 AM
ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันค่ะ
หากรู้ตัวว่า กำลังเป็นหุ่นเชิดผิดฝ่าย คือโดนฝ่ายอกุศลกำลังเชิดอยู่ ก็ให้รีบวิ่งไปหาหลุมหลบภัย ด้วยการนั่งสมาธิ ทำใจหยุดนิ่ง ปล่อยวางจากทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นการด่วนค่ะ ถ้าให้ดีก็นั่งไปจนกว่าจะกลายเป็นหุ่นเชิดของฝ่ายกุศลค่ะ
สมาธิ เป็นหลุมหลบภัย และหนทางแก้ไขอย่างดี จากการเป็นหุ่นเชิดของฝ่ายอกุศล
เมื่อรู้ตัวว่ากำลังเป็นหุ่นเชิดของฝ่ายอกุศล ก็ต้องรีบแก้ไขอย่างเร่งด่วนค่ะ ก่อนที่จะไปสร้างวิบากกรรมให้ตัวเอง ....ด้วยอารมณ์ชั่ววูบ หรือวูบชั่วๆ ค่ะ
หากผิดพลาดประการใดโปรดท้วงติงด้วยค่ะ
อนุโมทนาบุญค่ะ
ปล. คุณ innerpeace มี ebook ของหนังสือเล่มนั้นไม๊คะ อยากได้ไว้อ่านบ้างค่ะ
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#5
โพสต์เมื่อ 21 September 2010 - 01:28 AM
TEAM: POSITIVE THINKING
ทีมทำงานกันร่วมกันต้องเข้าใจกันและคิดบวก ทำบวก และเป็นด้านดีกุศลธรรม ธรรมขาว ๆ ตั้งอยู่บน
ฐานความคิดสัมมาทิฏฐิ ทีมนี้จะรู้สึก Sharing is Great. ต้องทวนกระแสน้ำ เหมือนขึ้นเขาน้ำตก
ในทางตรงกันข้าม TEAM: NEGATIVE THINKING
กลุ่มนี้มักคิดลบทำลบ ตั้งอยู่บนมิจฉาทิฏฐิ เขาเรียกว่า GANG ตกเป็นหุ่นเชิดของมารอย่าง
อ่อน ๆ หรืออย่างแรง ๆก็ดูที่การกระทำนั่นเอง เป็นไปตามกระแสเหมือนน้ำที่ไหลลง ๆ ๆจากภูเขา
.............เป็นตวามเห็นส่วนตัวของinnerpeaceค่ะ
เราทุกคนตกอยู่ในทั้งสองด้าน = + และ -
คือไม่ดีทั้งหมดและไม่ชั่วทั้งหมด(มีทั้งบวกและลบอยู่ในตัวเราเอง) บางทีเป็นพระบางทีเป็นมาร
ตราบใดที่เรายังเข้าไม่ถึงพระธรรมกายภายในตัวเอง จึงจำต้องฝึกฝนตนเอง ฝึกฝน ฝึกฝน ๆ ๆ
เอามารออกจากตัวเราให้หมด ไปทุกภพทุกชาติ ตราบวันที่เราเข้าถึงพระธรรมกาย กายที่๑๗
๑๘ นั่นแหละ มารจะหมดฤทธิ์ หมดเดชมาแทรกแซงชีวิตเราไม่ได้อีกเด็ดขาด !
#6
โพสต์เมื่อ 21 September 2010 - 01:43 AM
innerpeace มีแต่หนังสือ ชื่อ: จดจำไว้ทุกถ้อยคำ พิมพ์เมื่อ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๔๓
ไม่มี e_book และทำไม่เป็นด้วย (ในช่วงนี้จะคัดมาให้อ่านก่อนนะคะ)
#7
โพสต์เมื่อ 21 September 2010 - 01:50 AM
นี่คือประสบการณ์แห่งการสร้างบารมีธรรมของคุณครูไม่ใหญ่ครับ อ่านแล้วลึกซึ้งครับ สาธุ
ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ
ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ
เราตถาคต คือธรรมกาย
#8
โพสต์เมื่อ 21 September 2010 - 02:26 AM
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#9
โพสต์เมื่อ 21 September 2010 - 08:29 AM
#10
โพสต์เมื่อ 21 September 2010 - 12:13 PM
สิ่งที่ไม่น่าเกิด คือ หุ่นเชิด รบกันเอง โดยเจตนา
ทั้งที่ทำงานเพื่อสันติสุขและสันติภาพของส่วนรวม เหมือนกัน
ดูอย่างชาวพุทธเถรวาท ในเมืองไทย มีกรณีนี้เยอะมาก
แม้ในหมู่คณะที่รู้เรื่องฉากหลัง
ก็ยังไม่วายโดนกัณหธรรมเชิด ให้ระแวง แกล้งกันเอง ไปจนถึง สกัดความก้าวหน้างานกันเอง จนงานส่วนรวมเสียหาย
#11
โพสต์เมื่อ 21 September 2010 - 12:58 PM
คุณพูดโดนใจ โดนจริง ๆ และคงโดนหลาย ๆๆๆ คนด้วย
ถึงเวลาแล้วถามตัวเอง รักของเราต่อครูบาอาจารย์นั้นจริงแท้แค่ไหน ? หากผิดพลาดพลั้งไปบ้างก็
ให้รีบสำรวจตัวเองและแก้ไขทันที อย่าเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อศีล ข้อลำเอียง
เพราะทะเลาะกันเพราะน้ำผึ้งหยดเดียวก็มี หิริ โอตัปปะหายไปไหน ? ไยไม่อายและเกรงกลัวต่อบาป
พระพ่อสอนว่า ทุกสิ่งที่ทำ ทุกคำที่พูด และคิดล้วนมีผลทั้งนั้น ...............
#12
โพสต์เมื่อ 22 September 2010 - 08:14 PM
ขออนุโมทนาบุญกับ นักเรียนอนุบาล innerpeace ที่นำบทความธรรมะดีๆของพระเดชพระคุณหลวงพ่อมามอบให้กับสมาชิกกันทุกคน ด้วย..สาธุ
ขอให้ขออนุโมทนาบุญกับ นักเรียนอนุบาล ตะกร้าอีกใบ , นักเรียนอนุบาล ดินสอแห่งธรรม , นักเรียนอนุบาล ณ ๐๗๒ , นักเรียนอนุบาล ธาตุล้วนธรรมล้วน , นักเรียนอนุบาล _Phoenix_ , นักเรียนอนุบาล Dd2683 ที่ได้เคยนำบทความดีๆมาลงไว้ในเวปบอร์ดนี้เช่นกัน...สาธุ
ขอให้ทุกท่านทุกคนเข้าถึงพระธรรมกาย และให้ได้ไปศึกษาวิชชาธรรมกายกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านโดยเร็วพลันเทอญ...
#13
โพสต์เมื่อ 29 June 2015 - 01:03 PM
ที่บรรลุธรรมไม่ได้ เพราะนาค หรือเดรัจฉาน มีกายขนานพื้น ไม่ตั้งฉากกับพื้น เหมือนมนุษย์ ที่ใจตกศูนย์กลางกาย และ หยุดนิ่งได้ค่ะ
หยุดในหยุด นิ่งในนิ่งค่ะ
#14
โพสต์เมื่อ 29 June 2015 - 05:33 PM
สาธุค่ะ อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ