มีสิทธิ์เข้าถึงทุกครั้งที่นึก
พระธรรมเทศนาโดย พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)
เข้าพรรษา ปีพุทธศักราช 2546
เข้าพรรษา ปีพุทธศักราช 2546
วันนี้วันที่ 8 ของการเข้าพรรษาที่มีชื่อว่า พรรษาแห่งการบรรลุธรรม พระเห็นพระ เณรเห็นพระ โยมเห็นพระ จะนับกันไปเป็นวัน ๆ จะได้กระตุ้น เตือนจิตสำนึกของเราให้ตื่นตัวเกี่ยวกับเรื่องการแสวงหาสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดของการเกิดมาเป็นมนุษย์ในแต่ละครั้ง เผลอประเดี๋ยวเดียว 8 วันแล้ว เหลือเวลาอีกไม่กี่วันเท่านั้นก็จะออกพรรษาแล้ว
เรามีสิทธิ์เข้าถึงองค์พระ เห็นองค์พระได้ทุกวันวันหนึ่งมีสิทธิ์เข้าถึงได้หลายครั้งทุกครั้งที่เรานึกถึงพระ เรามีสิทธิ์เห็นพระเรามีสิทธิ์ทุกครั้ง...ที่เรานึกถึงบางทีตรงนี้เราไม่ค่อยได้คิดกัน จริง ๆ แล้วเรามีสิทธิ์นะ เราลองนึกถึงมหาธรรมกายเจดีย์ในกลางท้องสิ เราเห็นนะ แต่จะชัดหรือไม่ชัดอีกเรื่องหนึ่งแต่เราเห็น เพราะฉะนั้นเรามีสิทธิ์นึกถึงพระ แล้วก็เห็นพระได้วันหนึ่งหลายครั้งและได้ทุกวันเลย แต่ชัดหรือไม่ชัดอีกเรื่องหนึ่ง ขึ้นอยู่กับว่าใจเราละเอียดแค่ไหน ถ้าใจเราหยาบภาพก็จะไม่ค่อยชัด ใจละเอียดมันก็ชัดขึ้นความชัดก็มีหลายระดับ ตั้งแต่ชัดน้อยกว่าลืมตาเห็น ชัดเท่าลืมตาเห็นหรือชัดยิ่งกว่าลืมตาเห็นเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ ขึ้นอยู่กับหยุดกับนิ่ง
เพราะฉะนั้นมาถึงบรรทัดนี้ ประโยคนี้ เราจะมีความรู้สึกว่าไม่ยากเลยถ้านึกได้ก็เห็นได้ เห็นไม่ได้เพราะเราไม่ได้นึก ถ้าเราได้กินข้าวก็อิ่มได้ ถ้าเราไม่ได้กินก็ไม่อิ่ม ก็ง่าย ๆ แค่นั้น แต่เราก็นึกกันไม่ค่อยจะถึง
อิริยาบถนั่งสมาธิ
เป็นอิริยาบถหนึ่งที่พญามารกลัวนัก
เป็นอิริยาบถหนึ่งที่พญามารกลัวนัก
ทุ่มเททรัพยากรเพื่อความรู้ที่แท้จริง
มีอิริยาบถหนึ่งที่พญามารกลัวนัก สะดุ้งพรึ่บทั้งภพเลย คือ อิริยาบถนั่งสมาธิ เพราะกลัวใจคนหยุด คนใจหยุดนี่พญามารกลัวมาก ๆ เสียดายชาวโลกเขาไม่รู้เป้าหมายของชีวิต เพราะฉะนั้นจึงดำเนินชีวิตผิดพลาดบ้างไม่สมบูรณ์บ้าง และก็เสียเวลากันไปมากมาย ห่างไกลจากเป้าหมายชีวิตที่แท้จริง ถ้ามนุษย์ทั่วโลกเข้าใจว่า เกิดมาเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง หรืออย่างน้อยก็มาสร้างบารมี โลกจะหมุนไปในทางบวกเลย เสียดายว่าชาวโลกแสวงหาความรู้ที่ไม่ค่อยจะเกิดประโยชน์อย่างแท้จริงสักเท่าไรแล้วก็ทุ่มเททรัพยากรไปเพื่อสิ่งที่ไม่ค่อยจะเป็นประโยชน์ ถ้าหากเขาทุ่มเททรัพยากรมาเพื่อให้มวลมนุษยชาติค้นคว้าความรู้ที่แท้จริง เพื่อไปสู่จุดหมายปลายทางของชีวิตได้ ถ้าคิดอย่างนี้พร้อมกันเมื่อไร โลกก็เกิดสันติสุขในตอนนั้นเลยเอาทรัพยากรทุกอย่างมาทุ่มเทเพื่อที่จะให้มวลมนุษยชาติได้แสวงหาความรู้ที่แท้จริง ที่จะเป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น ต่อเราและโลก
ตอนนี้ก็ทุ่มเททรัพยากรเพื่ออย่างอื่น การค้นคว้าเทคโนโลยีแม้สูงขึ้นไปเรื่อย ๆ มันก็ได้แค่ให้ความความสะดวกสบายแก่การทำมาหากิน สะดวกขึ้น สบายขึ้น แต่ถึงจะสะดวกสบายแค่ไหนก็ยังเมื่อย ยังแก่ ยังเจ็บ และก็ยังตาย เดี๋ยวนี้มีมนุษย์พลาสติกเกิดขึ้นมาก เขาไปทำศัลยกรรมทุกส่วนของร่างกายด้วยไฮเทค แต่มันก็ปกปิดความจริงไม่ได้ ถึงจะทำอย่างไรก็แล้วแต่ ในที่สุดก็ต้องแก่ ต้องเจ็บ แล้วก็ต้องตาย เทคโนโลยีที่เกิดขึ้นมาก็เพื่อทำมาหากินใครมีอะไรมาใหม่ ๆ คนก็สนใจ ก็ขายดี คนที่สู้เขาไม่ได้ก็ต้องพัฒนาตัวเองค้นเทคโนโลยีให้เท่าเขาหรือเหนือกว่าเขาเพื่อทำมาหากิน เรียกว่าก็ต้องแข่งขันกันเรื่องเทคโนโลยี
สมมติว่ารวย มีบ้านร้อยหลังก็ใช้ได้ทีละหลัง มีรถพันคันก็ใช้ได้ทีละคัน มีสร้อยหมื่นเส้น อาจจะใช้ทีละหลายเส้นได้ แต่ถ้าใส่หมดเขาเรียกว่าโซ่อาหารอร่อยก็ได้ทีละคำเท่านั้น เตียงทองมีร้อยเตียงก็ใช้ได้ทีละเตียง จะรวยแค่ไหนก็ได้แค่นี้แหละ ยุ้งข้าวเราก็แค่นี้ อร่อยแค่ไหนมันก็ได้แค่นี้ เพราะฉะนั้นทรัพยากรที่มีอยู่ ถ้าเอามารวมกันและทุ่มไปให้มนุษย์ได้ศึกษาความรู้ที่แท้จริง คือความรู้ที่จะทำพระนิพพานให้แจ้ง มวลมนุษยชาติก็จะเข้าถึงสันติสุขภายในพ้นทุกข์เลย ทั้ง ๆ ที่มันง่าย ๆ อย่างนี้ แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะมีสิ่งที่อยู่ฉากหลังบังคับอยู่ บังคับว่าอย่าไปเชื่ออย่างนั้น อย่าไปทำอย่างนั้น อย่าไปคิดอย่างนั้น ฉากหลังก็คือกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง ซึ่งเป็นกระแสเป็นพลังงานชนิดหนึ่งของพญามาร เขาเอาไว้บังคับมนุษย์ให้คิด ให้พูด ให้ทำ เรื่องโลภ โกรธ หลง แล้วก็วน ๆ กันอยู่อย่างนี้ จนหมดเวลาในโลกมนุษย์ แล้วก็ไปไหน ๆ กันเยอะแยะเลย
กว่าจะกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกก็ยาก พอมาใหม่ก็คิดเหมือนเดิม พูดเหมือนเดิม ทำเหมือนเดิม วนกันไปอยู่อย่างนี้ตลอดเวลาเลย นี่เขาบังคับกันอยู่ข้างหลังบุญ ก็เป็นกระแสหรือพลังงานแห่งความดี ที่บังคับมนุษย์ให้คิดพูดทำแต่สิ่งที่ดี ๆ แล้วก็มีวิบาก คือมีผลที่ดี ๆ เกิดขึ้น พระกับมารก็ยังปะทะกันอยู่อยากเห็นไหมล่ะ จะเห็นมารได้ต้องเห็นพระก่อนมรรคผลนิพพานอยู่ในตัวเรา เริ่มต้นที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ด้วยวิธีการหยุดนิ่งเฉยที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ซึ่งเป็นปากทางที่จะเข้าไปถึงพระในตัว พอถึงพระในตัวแล้ว เดี๋ยวเราก็จะเปลี่ยนแปลงจากผู้ไม่รู้ก็มาเป็นผู้รู้คนโง่กลายเป็นคนฉลาด สิ่งที่ปกปิดก็จะเปิดเผยเมื่อไปถึงพระในตัว
21 กรกฎาคม พ.ศ. 2546
จากหนังสือบางสิ่งที่แสวงหา
โดย พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)
โดย พระเทพญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)