เว็บบอร์ดแต่ก่อน มีคนเข้ามา Post และตอบกระทู้กันมาก รวมทั้งมีพระอาจารย์ มาให้คำแนะนำด้วย
ภาพเหล่านี้ หายไปมาก อยากเห็นบรรยากาศนั้นกลับมาอีกครั้ง
มีข้อจำกัดในการใช้หรือเปล่าคะ ไม่เห็นมีพระอาจารย์ มาร่วมตอบคำถามเลย
โพสต์เมื่อ 21 July 2014 - 08:07 PM
เว็บบอร์ดแต่ก่อน มีคนเข้ามา Post และตอบกระทู้กันมาก รวมทั้งมีพระอาจารย์ มาให้คำแนะนำด้วย
ภาพเหล่านี้ หายไปมาก อยากเห็นบรรยากาศนั้นกลับมาอีกครั้ง
มีข้อจำกัดในการใช้หรือเปล่าคะ ไม่เห็นมีพระอาจารย์ มาร่วมตอบคำถามเลย
โพสต์เมื่อ 21 July 2014 - 10:27 PM
ถ้าจะบอกว่า ช่วงนี้วัดพระธรรมกายมีพระไม่พอกับงานเผยแพร่พระพุทธศาสนา ท่านจะเชื่อไหมครับ แต่เป็นเรื่องจริงครับ พระภิกษุและสามเณรที่จะได้รับอนุญาติให้ทำการพูดคุยธรรมกับบุคลภายนอก มีจำนวนไม่มากครับ ส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่างฝึกฝนตนเองเพื่อที่จะได้ทำการเผยแพร่งานพระศาสนาได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
อีกอย่าง ด้วยภาระกิจแห่งสงฆ์ของวัดพระธรรมกาย ทำให้พระ-เณรท่านไม่มีเวลาในการเข้าโลกโซเชียลกันมากนัก ไหนจะงานส่วนตัว คือ กิจสงฆ์ที่ทั้งสวดมนต์ ทำวัตร ปฏิบัติธรรม ฯลฯ เรียนหนังสือ ศึกษาหาความรู้ ไปจนงานส่วนรวม ภารกิจงานส่วนรวมต่างๆ ของวัด มีส่วนสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ วันๆ ก็แทบไม่มีเวลาว่างแล้ว ตอนผมบวช วันๆ นึง หมดไปเร็วมาก มีอะไรให้ทำตลอดเวลา เวลาส่วนตัวจริงๆ ก็ตอน บ่ายสีโมงกว่า ไปจนถึงหกโมงเย็น แค่นั้นเอง แต่ก็ทำธุระส่วนตัว ซักล้าง ปัดกวาดเช็ดถูที่จำวัด ก็หมดเวลาแล้ว
อีกทั้งคนส่วนใหญ่หันไปใช้ระบบอื่นๆ เช่น เฟสบุ๊ค หรือ ไลน์ในการติดต่อกันมากขึ้น เพราะรวดเร็วและง่ายกว่าที่นี่มาก คนที่เข้ามาที่นี่ก็มีจุดประสงค์ต่างจากการพูดคุยในโลกโซเชียล คือ ที่นี่ต้องการการอธิบายที่ชัดเจน และอ้างอืงได้ ไม่ได้เป็นการพูดคุยเพียงสั้นๆ เหมือนในกรณีอื่นๆ ครับ
และที่สำคัญ การพูดคุยของพวกเราค่อนข้างที่จะมีกรอบในการพูดคุยที่ชัดเจน ไม่มีสัพเพเหระ ทำให้มีเรื่องพูดคุยไม่มากนัก เพราะความรู้ทางตำรามีขีดจำกัด ความรู้ทางการปฏิบัติก็เป็นความรู้เฉพาะตน เราเลยมีเรื่องให้พูดคุยน้อยกว่าบอร์ดอื่นๆ ครับ
ไหนๆ ก็พูดแล้ว ขอกล่าวถึง กรณีที่มีการกล่าวหาว่า ห้ามคนที่มาบวชที่วัดพระธรรมกายใช้โซเชียล ขอชี้แจงว่า ด้วยวัตรปฏิบัติแบบสงฆ์ของวัดพระธรรมกาย ไม่เอื้ออำนวยให้พระธรรมทายาทมีของมีราคาติดตัวครับ เราไม่มีกุฎิส่วนตัว ไม่มีตู้เก็บของ แม้จะจัดพื้นที่เป็นสัดส่วน แต่ก็ไม่ได้มิดชิดเป็นส่วนตัว การมีสมบัติส่วนตัวเกินจากของจำเป็นจึงเป็นภาระในการดูแลรักษา ต้องคอยกังวล ทางพระอาจารย์จึงมักจะแนะนำให้ไม่ต้องนำติดตัวมาเข้าอบรม เพื่อเลี่ยงปัญหาต่างๆ ที่จะตามมา เพราะคนที่เข้ามาอบรมธรรมทายาทตามโครงการ มาจากทุกประเภทบุคคล ไม่สามารถคัดกรองได้ว่าใครมีเจตนาดี หรือไม่ดี การมีสมบัติติดตัวมากก็จะทำให้ความกังวลมากตามไปด้วยครับ นั่นคือ เหตุผลว่า ทำไมพระวัดพระธรรมกายจึงไม่เข้ามาในบอร์ดครับ
ถ้าดูจากตัวเลขแล้ว คนเข้ามาในบอ์ดนี้เยอะมากครับ ชั่วโมงละหลายพันคนเลย แต่มักจะเป็นผู้ที่เข้ามาดู มาค้นหาข้อมูลเฉยๆ ไม่ได้ถาม หรือ ตอบอะไร เลยทำให้ดูเหมือนว่าบอร์ดเราเงียบครับ เราต้องกระตุ้นให้คนมีส่วนร่วมมากขึ้น จะได้ดูมีคนมากขึ้นครับ
โพสต์เมื่อ 21 July 2014 - 11:36 PM
เข้ามาแล้วค่ะ เข้ามาอ่านแต่ละท่านมีคำตอบที่ชัดเจนดีค่ะ สาธุ
โพสต์เมื่อ 22 July 2014 - 05:45 PM
ภารกิจการงานที่รัดตัวยิ่งขึ้นด้วยล่ะครับ ยิ่งตำแหน่งสูงขึ้น หน้าที่ภารกิจรับผิดชอบก็ยิ่งมีมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
โพสต์เมื่อ 22 July 2014 - 06:07 PM
ก็อาจเริ่มที่ตัวเราเองก่อนค่ะ มาพูดคุย มาแบ่งปันเรื่องต่างๆ กัน ด้วยใจใสๆ กันนะคะ
โพสต์เมื่อ 23 July 2014 - 09:27 AM
เมื่อก่อนเข้า เว็ป DMC เห็นหัวข้อชัดเจน ว่าเป็นกระทู้ หรืออะไรทำนองนี้
เดี๋ยวนี้ เปลี่ยนเป็น Forum ไม่รู้ว่า แปลว่าอะไร ลองเลื่อกทุกรายการดู อ้อ เจอแล้ว ทางเข้ากระทู้แบบเก่า นี่เป็นสาเหตุหนื่งหรือเปล่า ที่มีคนเข้ามาใช้น้อย ชื่อนั้นสำคัญไฉน ก็สำคัญนะ
โพสต์เมื่อ 23 July 2014 - 09:49 AM
Board หมายถึง กระดานฝากข่าว
Forum หมายถึง สถานที่รวมกัน เพื่อการพูดคุยแลกเปลี่ยน แสดงความคิดเห็น
ซึ่งถูกต้องตามลักษณะการใช้งานแล้วครับ เป็นคำที่ใช้อยู่ปกติในวงการ ไม่ได้บัญญัติขึ้นมาใหม่แต่อย่างใด
และเห็นย้ำสองครั้งแล้วว่าคนเข้าใช้งานน้อย ขณะที่ผมตอบท่านอยู่นี่ มีคนอยู่ใน Forum 2494 ท่านครับ
โพสต์เมื่อ 23 July 2014 - 10:23 AM
ขอบคุณที่เป็นนายภาษาให้ ไม่ทราบจริงจริงค่ะ ว่า Forum หมายถึงอะไร
ถ้าเพิ่มเติมภาษาไทย ต่อจาก Forum ได้ไหมคะ เพื่่อให้คนได้รู้ว่า เรามาแสดงความคิดเห็น หรือสอบถามกันได้
คิดถึงสมาชิกเก่าที่เคยร่วมกระทู้ด้วยกัน เช่น คุณคนลาว แล้วก็อีกหลายคน รวมทั้งคนที่เคยปลูกดาวรวยเผื่่อตอนพระเดินธุดงค์ แถมถ่ายรูปให้ดูด้วย น้ำใจงามแต้แต้เจ้า ใครเอ่ย
โพสต์เมื่อ 23 July 2014 - 11:11 AM
ใช้คำว่าอะไรดีหล่ะครับ ช่วยคิดคำสวยๆ ให้หน่อย
โพสต์เมื่อ 27 July 2014 - 05:04 PM
ปัจจุบันการใช้โซเชียลเน็ทเวิร์กมีทางเลือก(App)มากขึ้น สมาชิก dmc ต่างมีกลุ่มสัมพันธ์หรือช่องทางอื่นที่ติดต่อสะดวกกว่า
โพสต์เมื่อ 27 July 2014 - 08:31 PM
ใครมาทันยุคนั้นโชคดีครับ
โพสต์เมื่อ 27 July 2014 - 11:48 PM
ถ้าจะบอกว่า ช่วงนี้วัดพระธรรมกายมีพระไม่พอกับงานเผยแพร่พระพุทธศาสนา ท่านจะเชื่อไหมครับ แต่เป็นเรื่องจริงครับ พระภิกษุและสามเณรที่จะได้รับอนุญาติให้ทำการพูดคุยธรรมกับบุคลภายนอก มีจำนวนไม่มากครับ ส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่างฝึกฝนตนเองเพื่อที่จะได้ทำการเผยแพร่งานพระศาสนาได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
อีกอย่าง ด้วยภาระกิจแห่งสงฆ์ของวัดพระธรรมกาย ทำให้พระ-เณรท่านไม่มีเวลาในการเข้าโลกโซเชียลกันมากนัก ไหนจะงานส่วนตัว คือ กิจสงฆ์ที่ทั้งสวดมนต์ ทำวัตร ปฏิบัติธรรม ฯลฯ เรียนหนังสือ ศึกษาหาความรู้ ไปจนงานส่วนรวม ภารกิจงานส่วนรวมต่างๆ ของวัด มีส่วนสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ วันๆ ก็แทบไม่มีเวลาว่างแล้ว ตอนผมบวช วันๆ นึง หมดไปเร็วมาก มีอะไรให้ทำตลอดเวลา เวลาส่วนตัวจริงๆ ก็ตอน บ่ายสีโมงกว่า ไปจนถึงหกโมงเย็น แค่นั้นเอง แต่ก็ทำธุระส่วนตัว ซักล้าง ปัดกวาดเช็ดถูที่จำวัด ก็หมดเวลาแล้ว
อีกทั้งคนส่วนใหญ่หันไปใช้ระบบอื่นๆ เช่น เฟสบุ๊ค หรือ ไลน์ในการติดต่อกันมากขึ้น เพราะรวดเร็วและง่ายกว่าที่นี่มาก คนที่เข้ามาที่นี่ก็มีจุดประสงค์ต่างจากการพูดคุยในโลกโซเชียล คือ ที่นี่ต้องการการอธิบายที่ชัดเจน และอ้างอืงได้ ไม่ได้เป็นการพูดคุยเพียงสั้นๆ เหมือนในกรณีอื่นๆ ครับ
และที่สำคัญ การพูดคุยของพวกเราค่อนข้างที่จะมีกรอบในการพูดคุยที่ชัดเจน ไม่มีสัพเพเหระ ทำให้มีเรื่องพูดคุยไม่มากนัก เพราะความรู้ทางตำรามีขีดจำกัด ความรู้ทางการปฏิบัติก็เป็นความรู้เฉพาะตน เราเลยมีเรื่องให้พูดคุยน้อยกว่าบอร์ดอื่นๆ ครับ
ไหนๆ ก็พูดแล้ว ขอกล่าวถึง กรณีที่มีการกล่าวหาว่า ห้ามคนที่มาบวชที่วัดพระธรรมกายใช้โซเชียล ขอชี้แจงว่า ด้วยวัตรปฏิบัติแบบสงฆ์ของวัดพระธรรมกาย ไม่เอื้ออำนวยให้พระธรรมทายาทมีของมีราคาติดตัวครับ เราไม่มีกุฎิส่วนตัว ไม่มีตู้เก็บของ แม้จะจัดพื้นที่เป็นสัดส่วน แต่ก็ไม่ได้มิดชิดเป็นส่วนตัว การมีสมบัติส่วนตัวเกินจากของจำเป็นจึงเป็นภาระในการดูแลรักษา ต้องคอยกังวล ทางพระอาจารย์จึงมักจะแนะนำให้ไม่ต้องนำติดตัวมาเข้าอบรม เพื่อเลี่ยงปัญหาต่างๆ ที่จะตามมา เพราะคนที่เข้ามาอบรมธรรมทายาทตามโครงการ มาจากทุกประเภทบุคคล ไม่สามารถคัดกรองได้ว่าใครมีเจตนาดี หรือไม่ดี การมีสมบัติติดตัวมากก็จะทำให้ความกังวลมากตามไปด้วยครับ นั่นคือ เหตุผลว่า ทำไมพระวัดพระธรรมกายจึงไม่เข้ามาในบอร์ดครับ
ถ้าดูจากตัวเลขแล้ว คนเข้ามาในบอ์ดนี้เยอะมากครับ ชั่วโมงละหลายพันคนเลย แต่มักจะเป็นผู้ที่เข้ามาดู มาค้นหาข้อมูลเฉยๆ ไม่ได้ถาม หรือ ตอบอะไร เลยทำให้ดูเหมือนว่าบอร์ดเราเงียบครับ เราต้องกระตุ้นให้คนมีส่วนร่วมมากขึ้น จะได้ดูมีคนมากขึ้นครับ
I totally agreed with K. Tuppe ka. I have found all Pra Ajans on Fb instead now.^____^
ขอบคุณที่เป็นนายภาษาให้ ไม่ทราบจริงจริงค่ะ ว่า Forum หมายถึงอะไร
ถ้าเพิ่มเติมภาษาไทย ต่อจาก Forum ได้ไหมคะ เพื่่อให้คนได้รู้ว่า เรามาแสดงความคิดเห็น หรือสอบถามกันได้
คิดถึงสมาชิกเก่าที่เคยร่วมกระทู้ด้วยกัน เช่น คุณคนลาว แล้วก็อีกหลายคน รวมทั้งคนที่เคยปลูกดาวรวยเผื่่อตอนพระเดินธุดงค์ แถมถ่ายรูปให้ดูด้วย น้ำใจงามแต้แต้เจ้า ใครเอ่ยWhat you private sent me,I don't think i understand it as I have just posted only 2 topics.