โพสต์เมื่อ 29 January 2009 - 08:45 PM
กระผมขออรรถาธิบายในทรรศนะกระผม ตามที่ครูไม่ใหญ่ได้แนะนำมาให้กับ ผู้อยากหน้าตึง หน้าอ่อน ครับ แต่สำหรับกระผมแล้ว หน้าตึงหน้าอ่อน คงลำบากครับ เพราะผมชอบตีกอล์ฟ เดินตากแดดทั้งวัน หน้าตีงหน้าอ่อนใส คงลำบากสำหรับผม ครับ
ห้าสลึงตึงทั้งชาติ ตามที่ผมเข้าใจ คงจะเริ่มจาก ธาตุขันธ์ ของคน ผมขอเริ่มจาก ขันธ์ห้า(ห้าสลึง)
ทีนี้ขันธ์ห้า ประกอบด้วย รูปหนึ่ง นามสี่
รูปหนึ่งคือ ร่างกายเราครับ ตั้งแต่หน้าตา ผิวพรรณ
นามสี่คือ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
ทีนี้ อยากให้หน้าตึงหน้าอ่อน เราก็ต้องรู้วิธี หยุดไดนามิกส์ หยุดพลวัตรของการเปลี่ยนแปลงของร่างกายนั้น
คำว่าหยุดไม่ให้ร่างกายมันเคลื่อไปตามพลวัตรของมัน ก็ต้องเริ่มจาก การทำสมาธิ
ทีนี้สมาธิที่ดี ก็ต้องมีศิลห้า (เห็นไหมห้าสลืงอีกล่ะ) พอทำสมาธิหยุดได้ แค่หยุดแบบขณิกะสมาธินี่ก็ หน้าก็ผ่องใสในระดับหนึ่ง ถ้าอยากผ่องใสแบบคุณครูไม่ใหญ่ดวงใจของผม
ก็ต้องเข้าถึงขั้น เดินทาง
คมนาคมน์ เข้าสู่ โลกุตรธรรมเก้า คือ มรรคสี่ ผลสี่ นิพพานหนึ่งเลยทีเดียว ที่หลายๆท่านอาจเคยได้ยิน เข้าถึง
ไตรสรณคมน์ นั่นเองครับ
นี่คือบทสรุปถึงคำว่า ห้าสลึงตึงทั้งชาติ ในทรรศนะของกระผมครับ
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม